เคยรู้สึกไหมว่าทำไมลูกเราถึง อ่อนเพลียง่วงเป็นประจำเวลาเรียนทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้นอนดึก การเรียนไม่ได้มาตรฐาน แถมหงุดหงิดง่าย ขี้อารมณ์เสีย 3 วันดี 4 วันไข้
นั้นก็เพราะ "น้ำตาลในเลือดลดต่ำลง" สมองได้รับน้ำตาลกลูโคสไม่เพียงพอ เนื่องจากร่างกายไม่ได้รับสารอาหารในมื้อเช้าอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งในวันที่สังคมเร่งรัด รีบตื่น รีบทำ รีบแข่งขัน ไม่เว้นกระทั่งการเรียนของเหล่า บรรดาเด็กๆ อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองบางท่านพะว้าพะวงกับสิ่งอื่นๆ ที่คิดว่าสำคัญก่อน จนลืมฉุกคิดถึง "อาหารเช้า" อาหารมื้อหลักที่เป็นพื้นฐานของการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
แต่ทั้งนี้สิ่งที่ควรรู้สำหรับอาหารเช้าของเด็กวัยเรียน คือควรได้รับอาหารในหมู่ "โปรตีน" จำพวก ไข่ ปลา เนื้อหมู เนื้อไก่ ที่สูงพอเพื่อให้สภาวะน้ำตาลในเลือดของเด็กคงในระดับที่เหมาะสม จะได้มีสมาธิและความสามารถในการพร้อมเรียนรู้และประกอบกิจกรรมสิ่งต่างๆ แทน "คาร์โบไฮเดรต" หมู่พลังงานจากแป้ง ที่ไม่ควรรับประทานปริมาณมาก เพราะแป้งถูกดูดซึมได้ง่ายและเร็ว และเมื่อแป้งถูกดูดซึมเร็ว อินซูลิน จะควบคุมไม่ให้น้ำตาลในกระแสเลือดสูง น้ำตาลในเลือดเราก็จะต่ำก่อให้เกิดการการหิวที่มีผลต่อสมาธิและอารมณ์ จึงควรเลือกรับประทาน ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ หรือธัญพืชที่มีใยอาหารสูง เพื่อให้มีพลังงานอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญควรเลือกรับประทาน "ผัก" และ "ผลไม้" ควบคู่ทุกครั้ง เพราะเป็นแหล่งวิตามิน แร่ธาตุต่างๆ สำคัญหลากหลาย ที่ช่วยเสริมสร้างในเรื่องสมาธิ การเรียนและความจำ ช่วยบำรุงทั้งร่างกาย สมอง แถมยังช่วยให้ไม่ง่วงหรือเซื่องซึมอีกด้วย
ซึ่งเมนูที่แนะนำและทำไม่ยากสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะเลือกมาให้ลูกได้รับประทานก็มีอาทิ
เมนูประเภทต้ม ได้แก่ ต้มจืดตำลึง ต้มจืดแตงกวาสอดไส้ ข้าวต้ม หรือ "ต้มเลือดหมู" ที่ถูกยกให้เป็นเมนูที่เรียกว่า "Perfect Combination" กับร่างกายอย่างไม่มีที่ติ เพราะในเลือดหมูมีธาตุเหล็ก ตัวการสำคัญที่เกี่ยวกับสติปัญญา กล้ามเนื้อตลอดจนพฤติกรรม โดยธาตุเหล็กจะจำเป็นต่อการสร้างฮีโมโกลบิน ซึ่งจะนำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายโดยเฉพาะสมอง และธาตุเหล็กยังสามารถทำหน้าที่ได้ดีหากมีวิตามินซีคอยช่วยเหลือ และในเมนูนี้ก็จะพบวิตามินซีได้ในใบตำลึงนั้นเอง
เมนูประเภทผัด จำพวก ข้าวผัดหมู ข้าวผัดไก่ ข้าวผัดผัก สลัดผักรวมต่างๆ เพราะนอกจากโปรตีนจากเนื้อสัตว์ คาร์โบไฮเดรต ในผักใบเขียวที่มีวิตามินที่สำคัญต่อการพัฒนาสมองโดยเฉพาะวัยเรียนรู้หลายชนิดเสร็จสัพ เรายังได้ วิตามินบี 12 ธาตุเหล็ก และสำคัญเลยคือ "โคลีน" จากไข่ ซึ่งเป็นวิตามินที่สำคัญช่วยในเรื่องการเชื่อมโยงสัญญาณประสาทในสมองระหว่างเซลล์ประสาทการเรียนรู้และการจดจำให้มีประสิทธิภาพในการเรียนรู้และทำงานได้ดียิ่งขึ้น
เมนูทอด อาทิ ออมเล็ตปลาทูน่า นอกจากถูกลิ้นเพราะความอร่อย ยังมีทั้ง ARA และ DHA สารอาหารอันดับหนึ่งที่สมองต้องการ "โอเมก้า 3" กรดไขมันที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างการเจริญเติบโตของสมอง ซ่อมแซมและเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่เซลล์ และยังเป็นแหล่งอาหารโปรตีนชั้นเยี่ยม
โจ๊กหมูสับ เมนูง่ายๆ แถมราคาประหยัด แต่รู้หรือไม่ว่าโจ๊กนั้นไม่ใช่อาหารที่ให้คุณค่าหมูๆ อย่างชื่อ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องเป็นโจ๊กที่ทำจากข้าวกล้องที่มีกากใยสูงหรือข้าวกล้องงอก เพราะจะมี กาบา ที่ทำให้สมองสดชื่นร่าเริง หรือใช้ข้าวจากปลายข้าวแท้ๆ ผสมจมูกข้าว ก็จะได้ วิตามินอี และ แกมมา ออริซานอล จากรำข้าว สารธรรมชาติที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง นี้ยังไม่นับรวม "ไข่ไก่" ธาตุเหล็กจากตับ หรือเครื่องเคียงผักเห็ดอื่นๆ ที่เราสามารถคัดสรรใส่บำรุงได้ไม่จำกัดอีกด้วย
และเมนูสุดท้ายที่อยากจะแนะนำคือ "แซนวิชสลัด" คุณค่าจากธัญพืชต่างๆ แมกนีเซียม โปแตสเซียมและแคลเซียม วิตามินบี ที่มีความจำเป็นในการทำงานของระบบประสาทและสมอง มีวิตามินบี5 ช่วยในการเสริมสร้างโคเอนไซม์ระบบประสาทบำรุงสมองจาก เนื้อไก่ เนื้อปลา วิตามินบี6 สารอาหารที่เกี่ยวกับอารมณ์และความนึกคิดจากถั่วต่างๆ รับประทานควบคู่กับนม ร่างกายก็ได้รับสารอาหารเพียงพอครบถ้วนไม่แพ้เมนูไหน หรือจะมิกซ์แอนด์แมทช์ เพื่อให้ทันเวลาเร่งด่วน ทันเวลาช่วง 07.00-09.00 น ที่ร่างกายต้องการสารอาหารบำรุงสมอง
ข้อมูลบางส่วนจาก นพ.กฤษดา ศิรามพุช และ www.muslimthaipost.com
นั้นก็เพราะ "น้ำตาลในเลือดลดต่ำลง" สมองได้รับน้ำตาลกลูโคสไม่เพียงพอ เนื่องจากร่างกายไม่ได้รับสารอาหารในมื้อเช้าอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งในวันที่สังคมเร่งรัด รีบตื่น รีบทำ รีบแข่งขัน ไม่เว้นกระทั่งการเรียนของเหล่า บรรดาเด็กๆ อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองบางท่านพะว้าพะวงกับสิ่งอื่นๆ ที่คิดว่าสำคัญก่อน จนลืมฉุกคิดถึง "อาหารเช้า" อาหารมื้อหลักที่เป็นพื้นฐานของการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
แต่ทั้งนี้สิ่งที่ควรรู้สำหรับอาหารเช้าของเด็กวัยเรียน คือควรได้รับอาหารในหมู่ "โปรตีน" จำพวก ไข่ ปลา เนื้อหมู เนื้อไก่ ที่สูงพอเพื่อให้สภาวะน้ำตาลในเลือดของเด็กคงในระดับที่เหมาะสม จะได้มีสมาธิและความสามารถในการพร้อมเรียนรู้และประกอบกิจกรรมสิ่งต่างๆ แทน "คาร์โบไฮเดรต" หมู่พลังงานจากแป้ง ที่ไม่ควรรับประทานปริมาณมาก เพราะแป้งถูกดูดซึมได้ง่ายและเร็ว และเมื่อแป้งถูกดูดซึมเร็ว อินซูลิน จะควบคุมไม่ให้น้ำตาลในกระแสเลือดสูง น้ำตาลในเลือดเราก็จะต่ำก่อให้เกิดการการหิวที่มีผลต่อสมาธิและอารมณ์ จึงควรเลือกรับประทาน ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ หรือธัญพืชที่มีใยอาหารสูง เพื่อให้มีพลังงานอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญควรเลือกรับประทาน "ผัก" และ "ผลไม้" ควบคู่ทุกครั้ง เพราะเป็นแหล่งวิตามิน แร่ธาตุต่างๆ สำคัญหลากหลาย ที่ช่วยเสริมสร้างในเรื่องสมาธิ การเรียนและความจำ ช่วยบำรุงทั้งร่างกาย สมอง แถมยังช่วยให้ไม่ง่วงหรือเซื่องซึมอีกด้วย
ซึ่งเมนูที่แนะนำและทำไม่ยากสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะเลือกมาให้ลูกได้รับประทานก็มีอาทิ
เมนูประเภทต้ม ได้แก่ ต้มจืดตำลึง ต้มจืดแตงกวาสอดไส้ ข้าวต้ม หรือ "ต้มเลือดหมู" ที่ถูกยกให้เป็นเมนูที่เรียกว่า "Perfect Combination" กับร่างกายอย่างไม่มีที่ติ เพราะในเลือดหมูมีธาตุเหล็ก ตัวการสำคัญที่เกี่ยวกับสติปัญญา กล้ามเนื้อตลอดจนพฤติกรรม โดยธาตุเหล็กจะจำเป็นต่อการสร้างฮีโมโกลบิน ซึ่งจะนำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายโดยเฉพาะสมอง และธาตุเหล็กยังสามารถทำหน้าที่ได้ดีหากมีวิตามินซีคอยช่วยเหลือ และในเมนูนี้ก็จะพบวิตามินซีได้ในใบตำลึงนั้นเอง
เมนูประเภทผัด จำพวก ข้าวผัดหมู ข้าวผัดไก่ ข้าวผัดผัก สลัดผักรวมต่างๆ เพราะนอกจากโปรตีนจากเนื้อสัตว์ คาร์โบไฮเดรต ในผักใบเขียวที่มีวิตามินที่สำคัญต่อการพัฒนาสมองโดยเฉพาะวัยเรียนรู้หลายชนิดเสร็จสัพ เรายังได้ วิตามินบี 12 ธาตุเหล็ก และสำคัญเลยคือ "โคลีน" จากไข่ ซึ่งเป็นวิตามินที่สำคัญช่วยในเรื่องการเชื่อมโยงสัญญาณประสาทในสมองระหว่างเซลล์ประสาทการเรียนรู้และการจดจำให้มีประสิทธิภาพในการเรียนรู้และทำงานได้ดียิ่งขึ้น
เมนูทอด อาทิ ออมเล็ตปลาทูน่า นอกจากถูกลิ้นเพราะความอร่อย ยังมีทั้ง ARA และ DHA สารอาหารอันดับหนึ่งที่สมองต้องการ "โอเมก้า 3" กรดไขมันที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างการเจริญเติบโตของสมอง ซ่อมแซมและเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่เซลล์ และยังเป็นแหล่งอาหารโปรตีนชั้นเยี่ยม
โจ๊กหมูสับ เมนูง่ายๆ แถมราคาประหยัด แต่รู้หรือไม่ว่าโจ๊กนั้นไม่ใช่อาหารที่ให้คุณค่าหมูๆ อย่างชื่อ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องเป็นโจ๊กที่ทำจากข้าวกล้องที่มีกากใยสูงหรือข้าวกล้องงอก เพราะจะมี กาบา ที่ทำให้สมองสดชื่นร่าเริง หรือใช้ข้าวจากปลายข้าวแท้ๆ ผสมจมูกข้าว ก็จะได้ วิตามินอี และ แกมมา ออริซานอล จากรำข้าว สารธรรมชาติที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง นี้ยังไม่นับรวม "ไข่ไก่" ธาตุเหล็กจากตับ หรือเครื่องเคียงผักเห็ดอื่นๆ ที่เราสามารถคัดสรรใส่บำรุงได้ไม่จำกัดอีกด้วย
และเมนูสุดท้ายที่อยากจะแนะนำคือ "แซนวิชสลัด" คุณค่าจากธัญพืชต่างๆ แมกนีเซียม โปแตสเซียมและแคลเซียม วิตามินบี ที่มีความจำเป็นในการทำงานของระบบประสาทและสมอง มีวิตามินบี5 ช่วยในการเสริมสร้างโคเอนไซม์ระบบประสาทบำรุงสมองจาก เนื้อไก่ เนื้อปลา วิตามินบี6 สารอาหารที่เกี่ยวกับอารมณ์และความนึกคิดจากถั่วต่างๆ รับประทานควบคู่กับนม ร่างกายก็ได้รับสารอาหารเพียงพอครบถ้วนไม่แพ้เมนูไหน หรือจะมิกซ์แอนด์แมทช์ เพื่อให้ทันเวลาเร่งด่วน ทันเวลาช่วง 07.00-09.00 น ที่ร่างกายต้องการสารอาหารบำรุงสมอง
ข้อมูลบางส่วนจาก นพ.กฤษดา ศิรามพุช และ www.muslimthaipost.com