xs
xsm
sm
md
lg

ย้อนเส้นทางบินนกน้อยแห่งเสียงดนตรี “อ๊อด คีรีบูน”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"มีดวงใจหนึ่งดวง จะมอบให้เธอไว้ครอง เมื่อยามสองเรา..ต้องจากไกล พาดวงใจเลื่อนลอย ฝากบทเพลง บรรเลงให้ไว้ เธอโปรดเก็บใจ..เอาไว้เพื่อรอ..."

หลายคนอาจจะคุ้นในเสียงหวานๆ นุ่มลึก และลูกคอละมุนของ "อ๊อด รณชัย ถมยาปริวัฒน์" นักร้องนำวง "คีรีบูน" แต่ใครจะรู้บ้างว่าจริงๆ แล้วเจ้าตัวนั้นมีฉายาในวงว่า "กิ้งก่าทะเลทราย"

หลายคนอาจจะมีภาพจำของเขาเป็นชายที่ดูนิ่งๆ แต่งเพลงธรรมะ แต่รู้มั้ยว่าเมื่อครั้งยังเป็นวัยรุ่นนี่คือนักร้องที่กล้าอาจหาญงัดเรื่องสัญญากับค่ายเพลงกระทั่งถูกศาลตัดสินจำคุก 4 ปีมาแล้ว
...
กิ้งก่าทะเลทราย, แจ็คผู้ฆ่ายักษ์
หลังรวมตัวกับเพื่อนๆ มัธยมโรงเรียนศรีลาจารพิพัฒน์ในนามของวง "อัญชา" ไปประกวดตามรายการวิทยุต่างๆ ไม่นานนักวงดนตรีวงนี้ที่มีนักร้องนำของวงอย่าง "อ๊อด รณชัย ถมยาปริวัฒน์" ก็ไปเข้าหูแมวมองกระทั่งถูกชักชวนให้มาทำงานเพลงกับค่าย “อาร์.เอส.ซาวด์” ที่ก่อตั้งโดย "เฮียจั๊ว เกรียงไกร เชษฐโชติศักดิ์"

"อัญชา" ที่ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "คีรีบูน" เพราะชื่อเดิมเรียกยากปล่อยอัลบั้มชุดแรก "หากรัก" ออกมาในปี 2526 ก็ได้รับความนิยมทันทีพร้อมส่งให้ชื่อของ "อ๊อด รณชัย ถมยาปริวัฒน์" กับ "คีรีบูน" โด่งดังเป็นพลุแตก

ครั้นพอปล่อยงานเพลงชุดที่สอง "รอวันฉันรักเธอ" ในปีพ.ศ. 2527 "คีรีบูน" ก็ได้รับฉายาว่า "แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์" อย่างแท้จริง หลังทำเอาตลาดเพลงวัยรุ่นยุค 80 ที่ในก่อนนั้นครอบครองโดยวงสตริงคอมโบรุ่นพี่ อย่าง ดิอิมพอสซิเบิล, ชาตรี, อีสซึ่น, แกรนด์เอ็กซ์ ต้องปั่นป่วนไม่น้อย

ว่ากันว่าในตอนนั้นบรรดายี่ปั๊วต้องมารอที่หน้าบริษัทตั้งแต่ตี 4 เพื่อที่จะมาแย่งกันซื้อเทปชุด "รอวันฉันรักเธอ" ไปขายเพราะถ้ารอบริษัทไปส่งก็อาจจะถูกเจ้าอื่นตัดหน้าไปก่อนนั่นเอง

ระหว่างปี 2526 – 2530 วงคีรีบูนมีผลงานเพลงกับอาร์.เอส.ฯ 5 ชุด คือ หากรัก (2526), รอวันฉันรักเธอ (2527), เพื่อน (2528), เพียงก่อนนั้น (2529) และ อ๊อด In USA (2529) และมีเพลงฮิตมากมาย อาทิ หากรัก, รอวันฉันรักเธอ, ลาสาวแม่กลอง, อดีตรักยามเย็น, ปลูกรัก ฯลฯ

นอกจากในนามของ "คีรีบูน" แล้ว "อ๊อด รณชัย" ที่เพื่อนๆ ในวงเรียกว่า “กิ้งก่าทะเลทราย” ยังมีผลงานในนามของศิลปิน "รวมดาว 1-2" (ปี 2527-2528) นพเก้า 1 – 2 (ปี 2528-2529), พบดาว (ปี 2527) และมรดกไทย (ปี 2529) โดยมีเพลงพิเศษ เช่น ดอกฟ้าที่รัก (ชุด มรดกไทย), อ้อยใจ, มนต์รักอสูร, ดำเนินทราย, ปองใจรัก, ใต้ร่มมลุลี (ชุด รวมดาว 1- 2 ร้องคู่กับอัจฉรพรรณี หาญณรงค์), แต่ปางก่อน, อายุไม่สำคัญ, รักยังคอย (ชุด นพเก้า ร้องคู่กับ อัจฉรพรรณี หาญณรงค์) เป็นต้น


แตกหักค่ายเพลง
หลังสร้างความสุขทางเสียงให้แก่ผู้ฟังจนถึงปี 2531 "อ๊อด คีรีบูน" ก็ตัดสินใจฉีกสัญญาต่อหน้าผู้บริหารของอาร์.เอส.ซาวด์ ส่งผลให้มี “คดีความ” กับต้นสังกัดติดตัว ซึ่งในขณะที่สมาชิกแต่ละคนที่ต่างเรียนจบมหาวิทยาลัยหมดแล้วต่างแยกย้ายไปตามเส้นทางของแต่ละคน เขาเองต้องถูกศาลพิพากษาจำคุก 4 ปี แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี เพราะไม่เคยทำผิดมาก่อน

เหตุการณ์นี้ได้กลายเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของวงการเพลงบ้านเรา ซึ่งหากย้อนกลับไปอันที่จริงสมาชิกของ "คีรีบูน" เอง โดยเฉพาะตัว "อ๊อด" ต่างก็คิดลาวงการเพื่อไปประกอบอาชีพตามที่ได้ร่ำเรียนมาพักหนึ่งแล้ว เพราะแม้ยอดเทปจะขายได้ถล่มทลายเป็นหลักล้าน ทว่ารายได้ที่เข้ามาดูเหมือนจะสวนทางไม่น้อย

โดย "อ๊อด รณชัย" เคยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ไว้ว่า..."กล้าพูดเลยว่าตอนนั้นเราดังแต่รายได้เราไม่ดี เรียกว่ารายได้สวนทางกับความดัง ผมเลยตัดสินใจเดินเข้าไปบอกบริษัทตั้งแต่อัลบั้มชุดที่ 2 ซึ่งเป็นชุดที่ผมดังที่สุดว่า ขอเลิกจากการใช้ชีวิตเป็นนักร้อง เพราะในอดีตเราเองก็ไม่ได้มีความตั้งใจอยากจะเป็นดารา หรืออยากเป็นคนดังอยู่แล้ว"

คนส่วนใหญ่คงคิดว่า "อ๊อด รณชัย" บันดาลโทสะจึงฉีกสัญญาต่อหน้าผู้บริหารของอาร์.เอส.ซาวด์ แต่เขายืนยันว่าเป็นการฉีกอย่างมีสติ!! ผ่านการนั่งสมาธิ ไตร่ตรอง ทบทวน และถามตัวเองถึง 2 วัน

"นั่งเพื่อถามตัวเองว่า สิ่งที่เราจะทำนี้ เราทำด้วยเหตุผลใด เรามีความละโมบเกิดขึ้นในใจมั้ย เช่นไปที่อื่นซึ่งให้เปอร์เซ็นต์ดีกว่าหรือไม่ ตอนนั้นผมยังไม่ได้คุยกับใคร ถามต่อไปว่าหลังฉีกสัญญาหากมีปัญหาอย่างหนัก ถ้าอย่างนั้น เราก็จะไปตายเอาดาบหน้า ถามตัวเองเพื่อให้มีความบริสุทธิ์ใจในการกระทำ ทุกอย่างที่เราจะดำเนินการนี้ ล้วนแต่เป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงทั้งสิ้น ผมเป็นคนที่ระมัดระวังในเรื่องความเห็นแก่ตัวมาก"

หลังเหตุการณ์ดังกล่าว หลายปีต่อมา "อ๊อด รณชัย" มีโอกาสพบกับเฮียจั๊ว เกรียงไกร เชษฐ์โชติศักดิ์อีก 1 ครั้ง โดยคืนนั้นนักร้องหนุ่มวงคีรีบูนไปร่วมงานศพพ่อของอีกฝ่าย..."เฮียจั๊วอ้าแขนกอดผม บอกว่า อ๊อด...เฮียขอบใจมาก – เฮีย ผมเสียใจด้วยครับ"

"ผมไปงานศพวันนั้นเพราะผู้ใหญ่คนนี้ พ่อเฮียจั๊ว ผมเคยยกมือไหว้เรียกเตี่ยเวลาที่ผมไปที่บริษัทฯ เรื่องระหว่างผมกับบริษัท ผู้ใหญ่ท่านนี้ไม่ได้รับรู้เรื่องอะไรด้วย ดังนั้น ผมจึงต้องไปคารวะศพเตี่ย เรื่องของผมมันผ่านมาพอสมควรแล้ว ไม่ได้คิดเรื่องเผื่อจะได้เคลียร์กันด้วย หลังจากวันนั้น ผมก็อยู่ของผมตามปกติ"


ภาษา “รัก” ในบทเพลงที่เปลี่ยนไป
ภายหลังจากฉีกสัญญา "อ๊อด รณชัย" ได้ตระเวนร้องเพลงตามไนต์คลับ บาร์ต่างๆ อยู่นานถึง 10 ปี โดยเจ้าตัวบอกกล่าวถึงความรู้สึกในในห้วงเวลาดังกล่าวว่า..."จากที่ผมเป็นเด็กเรียน ผมไม่เคยร้องเพลงในคลับ บาร์มาก่อน ผมต้องทำ ไม่อย่างนั้น ผมอดตาย ขณะที่ผมร้องเพลงอยู่มีคนเมาประคองผู้หญิงมานั่งฟัง"

"เพลงของผมอาจจะไม่ถูกใจเขา มันไม่เย้ว ผมต้องเจอกับอารมณ์สารพัด ทรมานเกับการร้องเพลงในบาร์นานถึง 10 ปีเต็ม ผมไปร้องที่พัทยาค่อนข้างประจำ จากนั้นตระเวนไปตามจังหวัดโน้นจังหวัดนี้ ไปเรื่อยๆ แต่ผมจะร้องเพลงตามความจำเป็นนะครับ คือไม่มีจะกินแล้วผมถึงจะหาและรับงานใหม่ เพราะจริงๆ แล้ว ในส่วนลึกของเราไม่อยากทำเลย ที่ทำเพราะว่าจำเป็น"

นอกจากบทเพลงแล้ว "อ๊อด รณชัย" ยังเป็นคนที่เรียกได้ว่า "ติดในธรรม" คนหนึ่ง โดยเป็นลูกศิษย์ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก วัดธรรมสถิต จ. ระยอง มาตั้งแต่ก่อนที่จะเข้าวงการเพลงเสียด้วยซ้ำ

ในสมัยที่เขากำลังโด่งดังในฐานะนักร้องนำวงคีรีบูน และเมื่อมีโอกาสขับรถและร่วมเดินทางไปส่งเสบียงให้พระภิกษุสงฆ์ที่จำพรรษาในถ้ำแห่งหนึ่งในป่าละอู (ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี) คำพูดประโยคหนึ่งของครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งทำให้เขาอึ้ง และต้องฉุกคิด

"ท่านบอก อ๊อดก็ดีเนอะ ในด้านหนึ่งคือ ทำให้คนมีความสุข แต่อีกด้านหนึ่งก็ทำให้คนหลงนะ”

ประโยคดังกล่าวเหมือนมีดที่พุ่งเข้ามาปักที่หัวใจ และตั้งแต่นั้นมาภาษา “รัก” ในบทเพลงที่เขาเขียนขึ้นในช่วงนั้นเริ่มเปลี่ยนไป จากเพลงรัก สนุกสนานมีความโลดโผนอยู่ในเส้นดนตรี แปรเปลี่ยนเป็นเหงา เศร้าและซึม

“ตอนนั้นผมยังเด็ก ยังคิดแยกแยะไม่เป็น ท่านพูดแบบที่ยังไม่ได้ขยายมิติ จนเมื่อเราโตขึ้น เราเรียนรู้และค้นพบว่า ถ้าปลี่ยนภาษาและเนื้อเพลง เพลงก็ยังสามารถรับใช้และเป็นประโยชน์อื่นได้ ถ้าเราไม่จงใจเขียนเพลงในทำนองหลอกล่อให้คนหลงในความรัก”

ในช่วงหลัง "อ๊อด รณชัย" ได้ใช้ความสามารถของตนเองสร้างสรรค์บทเพลงเพื่อสังคม ศาสนา อย่าง หลวงตามหาบัวกู้ชาติ , ทำเพื่อใคร, แผ่นดินไทย ฯ พร้อมทำ “หลักสูตรดนตรีคีรีบูน” ในนาม “บริษัท คีรีบูน จีเนียส มิวสิค

สำหรับอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งที่สมองนั้นมีเพียงคนในครอบครัวและเพื่อนสนิทของเขาตัวเท่านั้นที่รับรู้กระทั่งทำให้ข่าวการเสียชีวิตของเจ้าตัวได้สร้างความตกใจให้กับแฟนเพลงเป็นอย่างมาก...
...
อหังการแห่งดนตรี เปิดชีวิต คิดแบบธรรมะ “อ๊อด-คีรีบูน”


คีรีบูน – นกเสียงไพเราะแห่งโลกดนตรี

'ธรรม' นำชีวิตอ๊อด คีรีบูน



กำลังโหลดความคิดเห็น