ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตอบรับท่วมท้น! “Music For Our City” คอนเสิร์ตเพื่อพี่น้องผองเพื่อนชาวดนตรีโคราช ฝ่าวิกฤตโควิด-19 กลุ่มศิลปินกว่า 50 วงได้โชว์พลังทางดนตรีเต็มที่ เผยเริ่มมีความหวังและพลังใจ หลังชีวิตสุดลำบากไม่มีเวทีไร้รายได้ ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงชีพ ชี้เป็นสัญญาณที่ดีหลังนายกฯ ตู่ประกาศเปิดประเทศ คาดชีวิตคนดนตรีจะหวนกลับมาอีกครั้ง
วันนี้ (15 ต.ค.) นายวีรพล จงเจริญใจ ประธานกรรมาธิการสถาปนิกอีสาน ในฐานะแกนนำการจัดงาน Music for our city เปิดเผยว่า การจัดงานแสดงคอนเสิร์ตเพื่อพี่น้องผองเพื่อนชาวดนตรีโคราช หรือ Music For Our City ที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวของกลุ่มพันธมิตรองค์กรและหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงสื่อมวลชนภายใต้สมาคมสมาพันธ์สื่อมวลชนพันธมิตรนครราชสีมาเพื่อช่วยเหลือกลุ่มศิลปินชาวโคราชที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 วันนี้เดินทางมาไกลมาก มีกลุ่มศิลปินชาวโคราชตอบรับเข้าร่วมโครงการดังกล่าวรวมกว่า 50 วง ถือว่าเกินความคาดหมาย เราบันทึกเทปการแสดงมาถึง EP.8 ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากได้รับความร่วมมือจากกลุ่มศิลปิน และการตอบรับจากประชาชนชาวโคราชรวมถึงผู้ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี
ต้องขอบคุณทุกคนที่ทำให้งานดังกล่าวเดินทางมาได้ไกลเกินกว่าที่คาดคิดไว้ และล่าสุดทางรัฐบาลมีการประกาศเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ทำให้บรรยากาศดีขึ้น รวมถึงกลุ่มศิลปินก็มีความหวังมากยิ่งขึ้น ล่าสุดเทปบันทึกการแสดงสดของกลุ่มศิลปินได้ออนแอร์มาถึง EP.4 ในวันเสาร์ที่ 16 ต.ค.นี้ มีศิลปินรับเชิญที่มีชื่อเสียงมาร่วมแสดงคอนเสิร์ตในทุก EP.
ด้านศิลปินรุ่นใหญ่อย่างวง “The finix” นำโดย อาจารย์ต้น นอกจากจะมีอาชีพครู สอนประจำที่วิทยาลัยนาฏศิลป์นครราชสีมา แล้วยังเป็นนักร้องนำของวงด้วย กล่าวว่า ที่ผ่านมามีรายได้หลักจากการเป็นนักร้องที่เล่นประจำอยู่ ร้านฮอปเบียร์เฮ้าส์ มีสมาชิกวงจำนวน 4 คน หลังจากโควิด-19 ระบาดต่างคนต่างไปใช้ชีวิตของตัวเอง แต่ตนยังโชคดีที่มีอาชีพเป็นข้าราชการครู แต่รายได้ก็หายไปเกือบ 60-70% เพราะแค่เงินเดือนครูก็ไม่พอใช้จ่าย ทุกคนลำบากกันหมดแต่ก็ต้องดิ้นรนกันไป เพราะงานแสดงหายไปโดยสิ้นเชิง เรียกว่าชีวิตนี้ถูกปิดตายไปเลย
เมื่อมีงานคอนเสิร์ต Music For Our City ขึ้นมาก็ทำให้เรากลับมาจับเครื่องดนตรี และร้องเพลงอีกครั้ง ได้มารวมตัวกันอีกครั้ง เป็นคอนเสิร์ตที่ดีต่อใจคนดนตรีมากๆ อย่างน้อยเราก็ได้เจอหน้ากัน หวนคิดถึงชีวิตที่เราเคยแสดงดนตรีและรวมงานกันถือเป็นโครงการที่ดีมาก
สิ่งที่อยากฝากไปยังรัฐบาลเข้ามาช่วยดูแลกลุ่มนักดนตรี คือ เรื่องสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ควรมีมาตรการในการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ลำบากอย่างจริงใจ ไม่ใช่การชะลอการจ่ายชำระหนี้เท่านั้น แต่ควรมีมาตรการที่ลูกหนี้ได้ประโยชน์ด้วย เช่น การพักหนี้ 1 ปี โดยไม่คิดดอกเบี้ย เป็นต้น
ขณะที่วงดนตรีวัยทีนอย่าง วง “จั๊กนิด” ซึ่งมีสมาชิกในวงตั้งแต่วัยเรียนชั้นมัธยมศึกษาถึงมหาวิทยาลัย นำโดย “สไปรส์” หนุ่มน้อยวัย 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา กล่าวว่า วันนี้ดีใจที่ได้เจอกับเพื่อนๆ และน้องๆ ที่ร่วมวงกันอีกครั้ง หลังจากโควิด-19 ทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันไปเรียนออนไลน์ จากเดิมที่เราเคยใช้เวลาว่างจากการเรียนไปเล่นดนตรีตามร้านอาหารแถวหน้ามหาวิทยาลัย แต่หลังโควิด-19 ระบาดงานทุกอย่างหายไปทั้งหมด รายได้ที่ไม่ต้องพึ่งพาพ่อแม่ก็หายไปเช่นกัน เคยคุยกันที่จะทำช่อง You Tube แต่ก็ยังไม่ได้ลงมือทำเพราะเราต้องหาคอนเทนต์ที่แตกต่างจากคนอื่นถึงจะมีความน่าสนใจ การได้มาร่วมงานแสดงดนตรี Music For Our City ครั้งนี้ถือเป็นการกลับมาเล่นดนตรีกันเต็มวงอีกครั้ง และยังได้เจอกับนักดนตรีรุ่นพี่ที่มาแสดงในงานนี้เป็นโครงการที่ดีและได้ประสบการณ์เพิ่มเติมด้วย
ด้านนักร้องนำอย่าง “เหิรฟ้า” จากวง “เหิรฟ้า” ที่ยึดอาชีพนักดนตรีมา 7-8 ปีกับเพื่อนๆ รวม 3 ชีวิต ร้องเพลงสไตล์เพื่อชีวิต เร็กเก้ ปกติร้องประจำอยู่ที่บ้าน “บัวบาร์” ในซอย 30 กันยา เขตเทศบาลนครราชสีมา กล่าวว่า ทุกคนในวงลำบากกันทั้งหมด เพราะรายได้ที่เคยมีหายไปทั้งหมด ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตไม่ได้เจอกัน บางคนมีงานประจำก็โชคดีหน่อย แต่ถือว่าลำบากเพราะรายได้หลักจริงๆ มาจากการเล่นดนตรี บางคนไปยึดอาชีพไรเดอร์ กระทั่งมีโครงการคอนเสิร์ตดีๆ แบบนี้ช่วยให้นักดนตรีซึ่งเป็นกลุ่มอาชีพที่ได้รับผลกระทบก่อนกลุ่มอื่นและมักถูกให้เปิดดำเนินกิจการได้ท้ายสุด วันนี้อยากให้ภาครัฐเห็นใจกลุ่มศิลปิน หากกิจการใดที่สามารถเปิดได้ภายใต้มาตรการของกระทรวงสาธารณสุขก็ควรเปิดให้ดำเนินการได้เพื่อให้ทุกอาชีพเดินหน้าต่อไป
ปิดท้ายด้วย “น้องเกรซ” สาวน้อยวัย 18 ปีแห่งวง “B Mind” กล่าวว่า ต้องขอบคุณผู้จัดกิจกรรมดีๆ แบบนี้ขึ้น ขอบคุณสปอนเซอร์ทุกท่านที่ทำให้กิจกรรมนี้เกิดขึ้นมาได้ ทำให้คนดนตรีไม่ถูกลืม ถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์ที่เป็นรูปธรรมขึ้นมาได้จริง ทำให้คนดนตรีมีกำลังใจ มีพลังที่จะไปต่อ เพราะทุกคนลำบากมากในช่วงการระบาดของโรคนี้ แม้แต่ครอบครัวของตนที่ทำอาชีพนักดนตรีเป็นหลักตั้งแต่คุณพ่อ งานทุกอย่างก็หยุดชะงักต้องหันไปทำอาหารขาย แต่ขายไม่ดีเพราะทุกคนหันมาขายของกันหมด บางวันขายได้ บางวันก็ขายไม่ได้
วันนี้อยากให้รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญของสายอาชีพคนกลางคืนที่ต้องหาเลี้ยงครอบครัวด้วยการแสดงดนตรี การเปิดสถานบันเทิงควรหามาตรการหรือแนวทางในการช่วยเหลือเพื่อให้กิจการเปิดได้ ทุกคนจะได้เดินหน้าใช้ชีวิตต่อไปได้ มีเงินมาจุนเจือครอบครัว และอำนวยความสะดวกในการทำกิจกรรม ซึ่งเราเข้าใจว่าทุกอย่างจะต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ แต่เราก็ต้องหามาตรการที่จะให้ทุกอย่างเดินหน้าแบบ New normal