ผู้จัดการรายวัน 360 องศา - "ดร.มารวย ผดุงสิทธิ์" อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง-ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ถึงแก่กรรมอย่างสงบ ด้วยวัย 92 ปี
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น ของวันที่ 12 ต.ค.64 ดร.มารวย ผดุงสิทธิ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และอดีตกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ถึงแก่กรรมอย่างสงบ ด้วยวัย 92 ปี
โดย ดร.มารวย ผดุงสิทธิ์ เกิดเมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ.2472 ที่ตำบลห้วยสัก อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นบุตรของนายมา กับนางถนอม ผดุงสิทธิ์ เข้าศึกษาที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ก่อนจะย้ายตามบิดาที่รับราชการในกรมรถไฟ เข้ามาศึกษาต่อที่โรงเรียนเทเวศน์ศึกษา และย้ายตามบิดาไปอยู่ในจังหวัดต่างๆ ในเขตภาคเหนือ และเข้าเรียนจนจบชั้นมัธยมปีที่ 4 จากโรงเรียนประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ และเข้าไปเรียนต่อที่โรงเรียนวัดบวรนิเวศ จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ในช่วงเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง ดร.มารวย หยุดเรียน และกลับไปอาศัยอยู่ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ต่อมา บิดาของเขาล้มป่วยและต้องลาออกจากราชการ จึงต้องทำงานเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว โดยสอบเข้ารับราชการได้ที่กรมรถไฟ และย้ายไปอยู่กรมชลประทาน กรมบัญชีกลาง ตามลำดับ
ต่อมา ดร.มารวย สอบเทียบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 8 และเข้าเรียนต่อจนจบปริญญาตรี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสอบชิงทุนไปเรียนต่อปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยซีราคิวส์ สหรัฐฯ จากนั้นได้รับการติดต่อให้สอบชิงทุนของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน
ดร.มารวย ผดุงสิทธิ์ ได้รับปริญญาพาณิชยศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในปี พ.ศ.2532 และพัฒนบริหารศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ในปี พ.ศ.2533
สำหรับประวัติการทำงาน ดร.มารวย ผดุงสิทธิ์ เคยรับราชการในสังกัดกรมรถไฟ ต่อมาโอนย้ายไปอยู่กรมชลประทาน และกรมบัญชีกลาง จนกระทั่งสอบชิงทุนได้ จึงย้ายมาเป็นอาจารย์ประจำสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ต่อมา เขาได้รับตำแหน่งเป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คนที่ 5 ระหว่างปี พ.ศ.2528-2535 และเป็นผู้นำระบบคอมพิวเตอร์มาใช้ในการการซื้อขายหุ้นไทยเป็นครั้งแรก
ดร.มารวย ได้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาลของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย พ.ศ.2540 หรือที่รู้จักกันในชื่อ "วิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง" ทำให้รัฐบาลต้องประกาศลดค่าเงินบาท แต่ดำรงตำแหน่งได้ไม่นานก็ต้องพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีทั้งคณะ เนื่องจาก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี ประกาศลาออกจากตำแหน่ง