ผัวชั่วคราว ตอนที่ 28 อวสาน
ลำเพาภากลับมาที่รถ ร้องไห้น้ำตาไหลออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่ เธอขับรถออกไปน้ำตาไหลไปด้วย คตกริชทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างหมดเรี่ยวแรง เขาหลับตาลงทำใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เสียงกริ่งดังขึ้น คตกริชลืมตา คิดว่าเป็นลำเพาภา
คตกริชผลุนผลันออกมา
"ถ้าคุณจะกลับมาเอาชีวิตผมก็เชิญ"
แต่แล้วคตกริชชะงัก เมื่อเห็นว่าใครมา
"ลิปดา"
วิลิปดาหน้าตาหมองช้ำ เหมือนคนอดนอนมาทั้งคืน
"ฉันเอามือถือมาคืนคุณค่ะ"
คตกริชมองวิลิปดาอย่างแปลกใจยิ่งขึ้น
คตกริชถือมือถือมาวางไว้ที่โต๊ะ วิลิปดาตามมา
"ขอบคุณครับลิปดา เมื่อคืนผมก็นึกได้ว่าคงลืมไว้ที่บ้านคุณ กะว่าวันนี้จะโทร.เข้าไปถามอยู่เหมือนกัน คุณก็อุตส่าห์เอามาให้"
"ฉันรู้ว่าคุณคงกำลังยุ่ง ก็เลยเอามาให้เอง อีกอย่าง...ฉันมีเรื่องอยากจะถามคุณด้วย"
"เรื่องอะไรครับ"
วิลิปดาจ้องหน้าคตกริชอย่างจริงจัง
"ฉันได้ยิน...เรื่องที่คุณคุยกับแม่ตรงถนน...เมื่อวาน"
คตกริชตกใจนึกไม่ถึง
"ลิปดา...ได้ยินว่ายังไง"
เธอน้ำตาคลอ พูดไม่ออก เขาจับมือไว้
"ลิปดาได้ยินว่ายังไง บอกผมมาสิครับ"
เธอเสียงเครือ
"คุณต้องพูดความจริงกับฉัน"
"ลิปดาอยากรู้อะไร ผมจะเล่าให้คุณฟังทุกอย่าง"
วิลิปดาน้ำตาไหล พยายามรวบรวมสติพูดออกมา
"คุณบอกว่า...แม่...เป็นคนสั่งฆ่าคุณ แต่ไปโดนพิมพ์สนมแทน เพราะอะไร"
"เรื่องนั้นคุณควรไปถามแม่ของคุณมากกว่า ว่าทำไม...ถึงคิดจะฆ่าผม"
"ฉันต้องถามคุณ เพราะคุณเป็นคนพูดว่าแม่พยายามเอาคุณไปเป็น...ไปเป็น...ผัวชั่วคราว"
วิลิปดาร้องไห้โฮออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ คตกริชตะลึงหนัก
"ลิปดา."
"คำว่า ผัวชั่วคราว มันหมายความว่ายังไง"
"เอ่อ...แม่ของคุณ กับผมเคยรู้จักกันมาก่อน"
วิลิปดาอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน
"ก่อนที่คุณจะรู้จักกับฉันงั้นเหรอ"
"คุณเพาเคยไปเที่ยวบาร์ที่ผมทำงานอยู่เราคุยกันถูกคอ ผมดูแลเธอในฐานะเด็กเสิร์ฟคนนึง แต่เธอ...สนใจผมมากกว่านั้น เรามีโอกาสเจอกันบ่อยจนเริ่มสนิทสนมกัน คุณเพาเลยชวนผมไปเป็นผู้จัดการที่ผับของเธอด้วย"
"ที่แท้...งานกลางคืนที่คุณทำอยู่คือผับของแม่ฉัน"
"ใช่ครับ"
"แล้วพิมพ์สนมล่ะ"
"พิมพ์สนมเป็นเลขาของคุณเพา และมาช่วยงานที่ผับด้วย คุณเพาหึงผมกับพิมพ์ ทั้งที่เราเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกัน พอรู้ความจริงว่าผมกับคุณคบกัน เขาก็เกลียดผมมาก สร้างเรื่องใส่ร้ายว่า ผมนอกใจคุณไปคบกับพิมพ์สนม แล้วจ้างมือปืนมา..."
วิลิปดาขยะแขยง ปิดหูตัวเองผละออกมา
"พอแล้ว หยุดเล่าได้แล้ว ฉันไม่อยากฟัง"
"คุณอยากรู้ความจริงไม่ใช่เหรอลิปดา"
"ฉันไม่อยากรู้แล้ว"
วิลิปดาผลุนผลันออกไป คตกริชรีบตามไปดึงมือไว้
"ฟังผมก่อนลิปดา"
"พอแล้ว ฉันฟังมามากเกินพอแล้ว ฉันไม่อยากฟังเรื่องทุเรศๆ แบบนี้อีก"
"ลิปดาฟังผมเถอะครับ คุณมาที่นี่เพื่อจะฟังความจริงไม่ใช่เหรอ"
"แต่ความจริงมันโหดร้ายเกินไป ฉันไม่อยากเชื่อว่าแม่จะทำอย่างนั้น"
"เชื่อเถอะครับลิปดา"
คตกริชหยิบมือถือออกมา เปิดคลิปที่อัดเสียงระหว่างเขากับลำเพาภาให้วิลิปดาฟัง
"คุณเพาจ้างนักสืบแอบตามผมไปใช่ไหม"
"คนที่ไม่ได้ทำผิด มันย่อมไม่มีชะนักติดหลัง"
"คุณเพาจะทำให้ผมกับลิปดาเลิกกันให้ได้"
"ใช่"
วิลิปดาน้ำตาไหลออกมาอีกอย่างรู้สึกสะเทือนใจ
"แต่ผมจะทำทุกทาง เพื่อให้ได้แต่งงานกับลิปดา"
"ก็ลองดูสิ ว่าลิปดาจะเชื่อใครมากกว่ากัน ระหว่างแม่กับ...ผู้ชาย"
ลำเพาภานั่งอยู่ในบ้าน โทร.หาน้องสาวอย่างร้อนใจ
"พรรณ...ลิปดาอยู่ที่บ้านหรือเปล่า"
"ไม่อยู่ค่ะ ออกไปข้างนอกแต่เช้า"
"ไปไหนรู้ไหม"
"เอ...ไม่รู้สิคะ ท่าทางแกแปลกๆ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ออกไปเงียบๆ ไม่ได้บอกพรรณด้วย นี่พรรณก็ออกมาข้างนอก พี่เพาลองโทร.ถามลิปดาสิคะ"
"พี่โทร.แล้ว แต่ลิปดาไม่รับสาย ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ลองโทร.หาอีกที"
วิลิปดาฟังคลิปเสียงต่อมาด้วยอารมณ์เจ็บปวดกับสิ่งที่ได้ยิน
"ถ้าผมสกปรกคุณเพาก็ไม่ต่างจากผมหรอก ผมจะใช้คืนให้ทุกอย่าง ผมจะไม่เอาของคุณเพาแม้แต่สตางค์แดงเดียว"
"ฉันไม่อยากได้เงินของแก ไม่อยากได้อะไรจากแกทั้งนั้น นอกจากลิปดา"
"ความตายเท่านั้นที่จะเอาลิปดาไปจากผมได้"
คตกริชกดปิดคลิปไว้เท่านั้น
วิลิปดาฟังจบถึงกับอึ้ง เซไปอย่างหมดแรง คตกริชประคองไหล่ของเธอไว้
"รถคันนั้น...มันเป็นรถที่แม่เคยจะซื้อให้ฉัน"
"แม่คุณบอกว่าจะซื้อให้หลาน"
เธอยิ่งเสียใจ
"แม่บอกคนอื่นเสมอว่าฉันเป็นหลาน...แม่ไม่เคยยอมรับว่าฉันเป็นลูกแท้ๆ แล้วแม่ยังจะมาแย่งชีวิตที่เหลือของฉันไปอีก เพราะคุณเลือกฉัน แม่ก็เลยเกลียดคุณจนถึงขนาดจะฆ่าให้ตาย"
"ไม่มีใครแย่งชีวิตของเราไปได้หรอกครับลิปดา ถ้าเราไม่ยอม ผมไม่เคยให้การกับตำรวจเลยว่าแม่ของคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของพิมพ์สนม"
"คุณเกลียดแม่ฉันบ้างหรือเปล่า"
"ผมไม่เคยเกลียด ถึงแม้เขาจะคิดยังไงก้บผม ผมไม่เคยสนใจว่าใครจะรู้สึกยังไง เพราะคนที่ผมแคร์คือลิปดาเพียงคนเดียว"
"กริชคะ"
"ผมรักลิปดามากยิ่งกว่าชีวิตของผม ไม่มีผู้หญิงคนไหนในโลกแทนที่ลิปดาได้ เราจะหวั่นไหวอะไรกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แค่นั้นล่ะในเมื่อเรารักกัน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันแค่อุบัติเหตุเท่านั้น"
วิลิปดามองลึกเข้าไปในดวงตา เห็นแต่ความจริงใจของเขา
"แล้วถ้าแม่ยังไม่เลิกคิดจะฆ่าคุณ คุณยังจะรักฉันอยู่อีกเหรอ"
"ทางเดียวที่ทำให้แม่ของคุณเลิกคิดจะฆ่าผม คือเราต้องแต่งงานกัน"
วิลิปดานึกไม่ถึง
"กริชคะ...แต่...มันเป็นเรื่องใหญ่มาก"
คตกริชจับมือวิลิปดาไว้
"ทุกอย่างจะเป็นเรื่องเล็กถ้าเราสู้ไปด้วยกัน ลิปดาพร้อมจะสู้ไปกับผมหรือเปล่าล่ะครับ"
"ที่ผ่านมาเราก็สู้ด้วยกันมาตลอด...ไม่ใช่เหรอคะ คงไม่ยากถ้าเราจะสู้ต่อไปอีก"
"ขอบคุณครับลิปดา"
คตกริชคว้าตัวเธอมากอดไว้แน่น
"ลิปดา... ผมรู้ว่าลิปดารักผม ลิปดาจะไม่เสียใจเลย เมื่อแต่งงานกันไปแล้ว ผมจะเคยเป็นคนยังไงมาก่อน แต่ต่อไปนี้ผมจะเป็นสามีที่ดีของลิปดาตลอดไป"
"ฉันก็หวังไว้อย่างนั้น"
วิลิปดากอดคตกริชกลับ สีหน้ามุ่งมั่นอย่างคนตัดสินใจแล้ว
สายวันใหม่ ภายในบริษัทโฆษณา มีเสียงเฮและกรีดร้องด้วยความดีใจดังลั่นออกมา แป๋มเข้ามาจับมือวิลิปดาเขย่าด้วยความตื่นเต้น คตกริชอยู่ข้างๆ
"ว้าว... ดีใจด้วยลิปดาโรแมนติกอ่ะ อยากเป็นเจ้าสาวบ้างจัง"
"หาแฟนให้ได้ก่อนเถอะ" อี๊ดบอก
"ว้าย...แรงอ่ะ"
"พูดความจริงย่ะ แรงที่ไหนกัน หรือหล่อนจะแต่งคนเดียวยะ"
แป๋มค้อนอี๊ดปะหลับปะเหลือก
"ฉันไม่ใช่ไส้เดือนอย่างแกนี่" แล้วแป๋มก็ถามลิปดา "แล้วลิปดาจะแต่งเมื่อไร"
"เดือนหน้าจ้ะ"
"หา...เดือนหน้า ทำไมเร็วจัง"
วิลิปดาหันไปมองคตกริช
"ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นมา ผมก็ไม่อยากรออะไรอีก เพราะรู้สึกว่าอะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ผมเลยตัดสินใจทำสิ่งที่ผมอยากทำมากที่สุด คือขอลิปดาแต่งงาน"
"โอ๊ย...โรแมนติกที่สุด นี่แหละรักแท้ที่ฉันใฝ่ฝัน แล้วลิปดาหาเพื่อนเจ้าสาวได้หรือยังจ๊ะ"
พีรนันท์เดินเข้ามาได้ยินพอดี
วิลิปดาเหล่มองแป๋ม
"ก็หาเอาแถวๆ นี้แหละจ้ะ"
"แอร๊ย"
อี๊ดแกล้งดันตัวแป๋ม อยากเป็นเพื่อนเจ้าสาวบ้าง
อี๊ดบอกกริช
"งานนี้ขอเพื่อนเจ้าบ่าวหล่อๆ ด้วยนะ"
พีรนันท์รู้สึกปวดใจจนต้องเดินออกไป วิลิปดามองตาม
พีรนันท์มานั่งเหม่อลอยอยู่คนเดียวในสวน วิลิปดาเดินเข้ามา พีรนันท์หันไปมองหน้าเศร้า
"ลิปดาจะแต่งงานจริงๆเหรอครับ"
"ค่ะพี่พี"
"ทั้งที่เหตุการณ์นั้นเพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ"
น้ำเสียงของวิลิปดาเยือกเย็นแต่แฝงความขมขื่น
"ลิปดายิ่งต้องรีบแต่งค่ะ เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกเมื่อไร"
พีรนันท์เจ็บปวด
"ลิปดาคงรักเขามากสินะ"
"ค่ะ"
พีรนันท์ยิ่งเจ็บแปลบยอกเข้าไปในอก
"พี่ไม่น่าถามเลย ถ้าลิปดาไม่รักเขา ก็คงไม่แต่งกับเขาหรอก"
"ลิปดาอยากให้พี่พียินดีกับลิปดาด้วย"
"พี่ไม่อยากเสแสร้ง บอกตามตรงว่าพี่ไม่ยินดี แต่พี่จะไปแสดงความยินดีด้วยในวันที่ลิปดาแต่งงาน"
"ขอบคุณค่ะพี่พี"
พีรนันท์เดินจากไปเศร้าๆ ลิปดามองตามสงสารพีรนันท์
ค่ำวันเดียวกัน วิลิปดาเขี่ยข้าวในจานไปมา ลำเพยพรรณมองอย่างเป็นห่วง
"มีอะไรเหรอลิปดา"
"เปล่าค่ะ...น้าพรรณ"
"ถ้ากินข้าวกินปลาไม่ลง ก็หมายความว่าต้องมีเรื่องอะไรในใจ อยากจะพูดให้น้าฟังไหมล่ะ"
ลิปดามองหน้าลำเพยพรรณ ตัดสินใจพูดออกมา
"เดือนหน้าหนูจะแต่งงานนะคะน้าพรรณ"
"ลิปดา"
"แม่จะว่าอะไรไหมคะ ถ้าหนูจะแต่งงานกับกริช เราตกลงกันแล้วละค่ะ ว่าเราจะไม่รอเก็บเงิน มีงานทำ มีรถใช้ แค่นี้ก็พอแล้ว"
ลำเพยพรรณนิ่งเงียบ
"ลิปดาเชื่อว่าเราต้องอยู่ได้"
"น้าว่าลิปดาใจร้อนเกินไป เหมือนกลัวว่าจะไม่ได้แต่งงานกับเขา"
"กลัวค่ะ ยิ่งมีเรื่องเกิดขึ้นยิ่งกลัว"
"แต่งงานแล้ว จะไปอยู่ที่บ้านกริชหลังนั้นเหรอ"
"ค่ะ กริชซื้อไว้เป็นเรือนหอนี่คะ"
"แล้วไม่กลัวจะเหมือนผู้หญิงคนนั้นเหรอ"
"ไม่กลัวหรอกค่ะ ลิปดาจะตายกับเขาด้วย"
ลำเพยพรรณร้องเสียงหลงส่ายหน้า
"ลิปดา นี่มันชีวิตจริงๆ นะหลาน"
"ลิปดาถึงต้องแต่งงานกับเขาให้เร็วที่สุดยังไงละคะ ถ้ากริชตาย ลิปดาจะได้ภาคภูมิใจว่าได้แต่งงานกับคนที่ลิปดารัก ถึงแม้ว่าจะต้องเป็นหม้ายก็เถอะ"
พูดจบน้ำตาของลิปดาก็ไหลออกมา ลำเพยพรรณเข้ามากอดหลานไว้ แล้วร้องไห้ไปด้วย
"เอาเถอะ น้าจะพูดกับแม่หนูเอง ถ้าหนูต้องการอย่างนั้น"
"บอกแม่นะคะ ถ้าแม่ไม่ยอมให้ลิปดาแต่งงาน ลิปดาจะยอมตาย"
ลำเพยพรรณอึ้ง ตกใจไปกับความคิดของหลานสาว
อ่านต่อหน้า 2
ผัวชั่วคราว ตอนที่ 28 อวสาน (ต่อ)
เสียงสะท้อนของวิลิปดาดังอยู่ในหัวของลำเพาภาหลังจากได้ยินน้องสาวเล่าให้ฟัง เธอนิ่งงัน นัยน์ตาฉายความร้าวราน เสียงเครือ เจ็บปวดใจ
"ลิปดาถึงกับยอมตายเลยเหรอ"
ลำเพยพรรณค่อยๆพูดโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงปลอบโยน
"ปล่อยเถอะค่ะพี่เพา ในเมื่อมันเป็นชีวิตของลิปดาเอง"
ลำเพาภาตัวสั่นเทา รู้สึกถึงความพ่ายแพ้ที่คืบคลานเข้ามา เจ็บร้าวและแยกสยองไปทั้งทรวงอก เธอจะไม่มีวันชนะคตกริชเชียวหรือ
"แล้วจะปล่อยให้เขาเลือกชีวิตที่ผิดเหรอ ฉันเคยผิดมาแล้ว ไม่อยากให้ลูกต้องมาผิดซ้ำรอยกับฉันอีก"
"ในเมื่อพี่เพาเคยสนับสนุนสุดตัวให้ลิปดาแต่งงาน แล้วมาเบรกตัวโก่งตอนนี้ มันจะทันเหรอคะ"
"ทำไมจะไม่ทัน เขาสองคนยังไม่แต่งงานกันสักหน่อย ฉันเป็นแม่ จะไม่มีสิทธิ์ห้ามเลยหรือไง"
"แต่ลิปดาเอาเป็นเอาตายเรื่องนี้มากนะคะพี่เพา บอกว่าจะแต่งงานกับกริชให้ได้"
"ถึงยังไงฉันก็ทนเห็นลิปดาแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ไม่ได้ ตราบใดที่ฉันยังมีชีวิตอยู่"
ลำเพยพรรณตัดสินใจถาม
"พี่เพาคะ พี่เพาอธิบายเหตุผลมาหน่อยสิคะ ว่าทำไมถึงจะไม่ยอมให้ลิปดาแต่งงานกับกริช บางทีพรรณอาจจะช่วยพูดกับลิปดาได้"
ลำเพาภาถอนใจเฮือก
"ผู้หญิงที่ตายแทนกริชเคยเป็นเลขาพี่"
"อะไรนะคะพี่เพา"
"เธอได้ยินไม่ผิดหรอก เขาสองคนรู้จักกันก่อนที่กริชจะมารู้จักลิปดาเสียอีก"
"เป็นเพราะเรื่องนี้หรือเปล่าที่ทำให้พี่เพาจงเกลียดจงชังกริช"
"คิดว่าใช่หรือเปล่าล่ะ เขาสองคนอยู่ด้วยกันตอนที่ผู้หญิงโดนยิง ที่หน้าคอนโดของผู้หญิงเองเสียด้วย"
"กริชกับผู้หญิงคนนั้นคบกันเกินเพื่อนเหรอคะ"
"มันยิ่งกว่านั้นอีกนะ แต่พี่พูดไม่ได้ เอาเถอะ...ถ้าลิปดายังอยากแต่งงานกับเขาให้ได้ คนเป็นแม่ก็ต้องทำใจยอมรับให้ได้ใช่ไหมล่ะ"
ลำเพยพรรณตอบไม่เต็มเสียง
"ค่ะพี่เพา"
"พี่จะคุยกับลิปดาเอง เธอช่วยนัดลิปดามาเจอพี่หน่อย"
ลำเพยพรรณพยักหน้าอย่างยอมรับ
คตกริชพาอำไพเข้ามาในบ้าน
"แม่...เข้ามาก่อนแม่"
"แม่ได้ข่าวแกโดนยิงก็ตกใจแทบเป็นลม เลยโทรถามอุ๋ย อุ๋ยมันบอกว่าเอ็งไม่เป็นไรมาก แค่โดนกระสุนถากไป แม่ก็ค่อยเบาใจ"
"แม่ก็มีเบอร์ฉันนี่"
"แม่ไม่กล้าโทรหาแก กลัวจะโกรธแม่อยู่"
"ไม่โกรธหรอก แต่ฉันก็ติดต่อแม่ไม่ได้เลย"
อำไพท่าทางตื่นเต้น มองไปรอบๆ บ้าน จับเฟอร์นิเจอร์ลูบไปมา
"โอ้โห...เดี๋ยวนี้เอ็งอยู่บ้านหรูหราเลยเหรอกริช น่าอยู่นี่หว่า"
"ไม่ใหญ่หรอกแม่ แค่ถือนี้ถือว่าเล็กสำหรับพวกเศรษฐี"
"จะไปเทียบกับเขาทำไม มันก็สวยกว่าบ้านที่เราเคยอยู่กันตั้งเยอะ"
อำไพนั่งลงบนโซฟา หัวเราะชอบใจ
"อ๊าย...โซฟานิ้มนิ่ม นั่งสบาย เอ็งเลือกเก่งนี่หว่า"
"แม่เป็นยังไงบ้าง"
"ก็...ดีบ้างไม่ดีบ้าง"
"แล้ว...แฟนแม่ล่ะ"
"อย่าถามถึงมัน มันจะไปตายที่ไหนก็ช่าง"
"อีกแล้วเหรอแม่ ไหนว่าคนนี้รักจริงไงล่ะ"
อำไพเลิ่กลั่ก รีบเปลี่ยนท่าที
"โอ๊ย..ใครจะรักจริง รักจริงก็คือรักลูกนี่แหละ ว่าแต่แกเถอะกริช เป็นยังไงบ้าง"
"ฉันกำลังจะแต่งงาน"
"หา...แกจะแต่งงานกับคุณนายลำเพาน่ะเหรอ"
"ไม่ใช่หรอกแม่ แฟนผมชื่อวิลิปดา"
"อะ...อะไรนะ ชื่ออะไรลิปๆ นะ ลิปอะไร"
"ลิปดาจ้ะ"
"ลิปดา ชื่อก็บอกว่าต้องรวย เป็นลูกเศรษฐีแน่ๆ ไว้พาว่าที่ลูกสะใภ้มารู้จักกับแม่หน่อยสิ"
"ไว้ฉันพาไปแน่จ้ะ เราจะแต่งงานกันเดือนหน้าแล้ว"
"หา...เดือนหน้า ทำไมกะทันหันอย่างนั้น ท้องเหรอ"
"เปล่าจ้ะ เราเตรียมกันมานานแล้ว"
"งั้นแม่ก็ต้องเตรียมตัดชุดไปงานแกด้วยสิ โอ๊ย...ตื่นเต้นจริงๆ เลย ลูกแม่จะเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว ลูกชายฉัน"
อำไพลูบหน้าลูบตาลูกชายอย่างดีใจ คตกริชพลอยอารมณ์ดีไปด้วย
ในเว็ดดิ้งสตูดิโอ วิลิปดากำลังลองชุดเจ้าสาว โดยมีลำเพยพรรณคอยดูแลอยู่ด้วย
"แม่อยากจะเจอลิปดาเหรอคะ"
"ใช่จ้ะ เขามีเรื่องสำคัญอยากคุยด้วย"
"หวังว่าคงจะไม่พูดเรื่องเดิมๆ อีก"
"ฟังแม่เขาหน่อยเถอะลิปดา ถึงยังไงแม่ก็รักเรามากกว่าใคร เขาหวังดีกับเรานะ"
"หวังดีเหรอคะ ถ้าหวังดีจริง ก็คงไม่..." เธอเกือบจะหลุดปากว่า คิดฆ่ากริช
"ไม่อะไร"
"ไม่ขัดขวางการแต่งงานของลิปดาสิคะ"
"เอาน่าลิปดา ถ้าเราไปคุยกับแม่ตรงๆ บางทีอาจจะไม่แย่อย่างที่คิดก็ได้"
"ก็ได้ค่ะ ลิปดาจะไปพบแม่"
ลำเพยพรรณโล่งใจ แต่ลิปดาสีหน้าครุ่นคิดเหมือนจะทำอะไรบางอย่าง
ลำเพาภานั่งรออยู่ในร้านอาหารอย่างมีความหวัง เธอมองไปที่หน้าร้านอย่างดีใจเมื่อเห็นวิลิปดา เธอดีใจเพียงชั่วครู่ เมื่อเห็นคตกริชตามหลังมาด้วย ฝ่ายคตกริชก็เหวอไปเหมือนกันที่มาเจอลำเพาภา
วิลิปดาจูงมือคตกริชเข้ามาหาลำเพาภา
"เข้ามาสิคะกริช"
คตกริชยกมือไหว้ลำเพาภา ลำเพาภาทำเมิน ไม่รับไหว้
วิลิปดาหันไปพูดกับเขาอย่างอ่อนหวาน
"นั่งสิคะกริช"
คตกริชกับวิลิปดานั่งลง ลำเพาภาหันไปคุยกับลิปดาเหมือนไม่มีกริชอยู่ด้วย
"ทำไมลิปดาไม่มาคนเดียว"
"พอดีกริชพาลิปดาไปเลือกชุดที่เว็ดดิ้ง ก็เลยแวะมาส่งค่ะ"
"แม่อยากคุยกับลิปดาแค่สองคน"
วิลิปดาเกาะแขนอย่างหวานชื่น
"แต่อีกหน่อย...กริชกับลิปดาก็จะเป็นคนคนเดียวกันแล้วนะคะ เราคุยกันต่อหน้ากริชได้ทุกเรื่อง ไม่มีความลับระหว่างเราสองคนค่ะ ... จริงไหมคะกริช"
คตกริชยิ้มรับ กุมมือวิลิปดาไว้อย่างอ่อนหวานเพื่อเย้ยว่าที่แม่ยาย
ลิปดาซบกับไหล่ เขาโอบไว้ ลำเพาภาโกรธมาก กราดเกรี้ยวใส่วิลิปดา
"ลิปดา!ถึงยังไงลูกก็ยังไม่ได้แต่งงาน ทำไมถึงทำตัวหน้าไม่อาย เหมือนผู้หญิงที่หิวผู้ชายจนหน้ามืด"
"คนที่หิวไม่ใช่ลิปดามั้งคะ"
"ลิปดา!"
วิลิปดานิ่งอั้น รู้สึกผิดที่ตอบโต้ออกไป
"ขอโทษนะคะแม่ ไว้ค่อยคุยกันวันหลังดีกว่าค่ะ"
วิลิปดาดึงคตกริชออกไป ลำเพาภามองตามทั้งโกรธทั้งเสียใจ
คตกริชตามวิลิปดาออกมาที่หน้าร้านอาหาร
"ลิปดาทำไมไม่บอกผมก่อน ว่าจะมาเจอคุณแม่คุณ"
"ถ้าบอกก่อน คุณกับแม่จะยอมเจอกันเหรอคะ"
"แล้วทำไมต้องให้เรามาเจอกันด้วยล่ะลิปดา"
"ฉันอยากรู้ค่ะ...ว่าเรื่องที่คุณเล่าเกี่ยวกับแม่ฉัน มันจริงหรือเปล่า พอฉันเห็นแววตาของแม่แล้ว ก็รู้ว่าจริง แม่เกลียดคุณมาก... มากจนคงไม่มีวันให้อภัย และไม่มีวันยอมให้ฉันแต่งงานกับคุณแน่"
"แล้วลิปดาจะยังแต่งงานกับผมอยู่หรือเปล่า"
วิลิปดาจับมือคตกริชไว้แทนคำตอบ ลำเพาภามองผ่านกระจกใสออกมา เจ็บปวดแสนสาหัส
เวลาต่อมา ลำเพาภาเดินซึมเข้ามาในบ้าน แปลกในเมื่อเห็นคนที่นั่งรออยู่
"พรรณ"
ลำเพยพรรณหันมาหาลำเพาภาอย่างเป็นห่วง
"พี่เพา พรรณเป็นห่วงพี่เพา โทร.หาพี่ก็ไม่รับสาย เลยมารอที่นี่ ไปคุยกับลิปดามาเป็นยังไงบ้างคะ"
ลำเพาภานั่งลงอย่างหมดอาลัยตายอยาก
"เขาพากริชมาด้วย"
"ทำไมถึงทำอย่างนั้นนะ"
"พี่ก็เลยพูดอะไรมากไม่ได้ เราคุยกันไม่ถึงสิบนาทีเลยด้วยซ้ำ"
"ให้พรรณช่วยพูดไหมคะ"
"ไม่ต้อง พี่ควรจะเป็นคนบอกลิปดาเอง ยังไงพี่จะหาทางพูดกับลูกให้ได้"
ลำเพยพรรณจับมือลำเพาภาอย่างให้กำลังใจ
บริเวณหน้าโรงแรมที่จัดงานแต่งงาน ลำเพยพรรณเปรยกับวิลิปดา ขณะที่กำลังช่วยดูแลการตกแต่งสถานที่จัดงาน
"เมื่อไรลิปดาจะคุยกับแม่เขาดีๆ ซะที เรื่องการแต่งงานไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะ"
"ลิปดาก็ไม่ได้แต่งเล่นๆ นี่คะ"
"นั่นแหละ แม่เขาถึงอยากจะเตือนอะไรบางอย่าง"
"เค้าก็ต้องห้ามลิปดาแต่งอีกตามเคย แต่ถึงยังไงลิปดาก็ถอยไม่ได้แล้วละค่ะ"
ลำเพยพรรณถอนใจ แป๋มเข้ามาหาวิลิปดา
"ลิปดาจ๋า มาดูตรงนี้หน่อยสิ ว่าจะวางดอกไม้ไว้ตรงไหน"
วิลิปดาตามแป๋มไป ลำเพยพรรณมองตามอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี แต่แล้วสายตาก็ไปสะดุดกับใครบางคนที่กำลังเข้ามา คตกริชพาอำไพเข้ามา
"สวย...สวยจริงๆ เลยลูก ตายแล้ว เคยเห็นแต่ในหนังในละคร ไม่นึกว่าจะเป็นงานแต่งลูกชายตัวเอง"
"แม่ครับ ทางนี้ครับ"
คตกริชพาอำไพเดินมาถึงที่วิลิปดาดูการตกแต่งอยู่
คตกริชพาอำไพเข้ามาหาวิลิปดา
"ลิปดาครับ นี่แม่ผม"
วิลิปดาหันมา ยกมือไหว้ อำไพมองอย่างชื่นชม เข้าไปจับไม้จับมือ
"เนี่ยเหรอว่าที่ลูกสะใภ้ สวย...น่ารัก สมกับกริชมันจริงๆ"
วิลิปดายิ้มเขิน
"ขอบคุณค่ะ"
"๒เสียดายเราไม่เคยเจอกันมาก่อนนะหนูลิปดา แม่ล่ะได้ยินกริชพูดถึงหนูแล้ว ก็รู้ว่าต้องเป็นคนทั้งดีทั้งสวยน่ารักมากแน่ๆ"
คตกริชกระแอมไอ
"แหม...ขอชื่นชมว่าที่ลูกสะใภ้หน่อยสิ"
คตกริชพาอำไพไปหาลำเพยพรรณ
"ส่วนคนนี้"
"พี่สาวหนูลิปดาเหรอ"
"คุณน้าลิปดาต่างหากละคะ" วิลิปดาบอกแล้วแนะนำกับลำเพยพรรณ "นี่คุณแม่ของกริชค่ะ"
ลำเพยพรรณยกมือไหว้อำไพ อำไพรับไหว้
"อุ๊ยตาย...นึกว่าพี่สาวซะอีก เป็นน้าหรอกเหรอเนี่ย"
"ขอบคุณค่ะคุณแม่"
อำไพหัวเราะร่วน แต่แล้วทุกคนก็ชะงักแปลกใจ เมื่อเห็นลำเพาภาเดินตรงเข้ามา
"ว้าย...คุณนายบุกมาถึงนี่เลย"
คตกริชปรามอำไพไม่ให้พูด เขาและแป๋มยกมือไหว้ลำเพาภา แต่ลำเพาภาไม่รับไหว้ใคร
"พี่เพา"
"จัดงานซะสวยเลยนะ จะแต่งกันโดยที่แม่ไม่ยินยอมงั้นเหรอ"
"หา...มะ...แม่...เหรอ"
คตกริชปรามอำไพอีกครั้ง
"แล้วทำยังไงแม่ถึงจะยินยอมละคะ"
"แม่ขอคุยกับลิปดาสองคนจะได้ไหม ขอคุย...เป็นครั้งสุดท้าย"
"คุยกันต่อหน้าทุกคนเลยก็ได้นี่คะ ลิปดาไม่มีอะไรต้องปิดบังอยู่แล้ว"
"จะคุยกันตรงนี้เหรอ ได้..."
ลำเพาภาบันดาลโทสะ ตรงเข้าไปดึงโครงอุปกรณ์ตกแต่งและทุกอย่างลงมา
"แม่คะ"
ลำเพยพรรณเข้ามาดึงลำเพาภาไว้
"พี่เพาคะ... อย่าทำอย่างนี้เลยค่ะ พี่เพา ใจเย็นๆนะคะ"
"ลูกมันไม่เห็นว่าฉันเป็นแม่ ดันทุรังจะแต่งงานโดยที่ฉันไม่ยินยอม แล้วจะให้ฉันใจเย็นอยู่ได้ยังไง"
"ผมผิดเองครับ ผมขอโทษที่ทำให้คุณเพา เอ่อ...คุณแม่ไม่สบายใจ แต่ผมรับรองว่าจะดูแลลิปดาให้ดีที่สุด"
"แกไม่ต้องมาสร้างภาพ! แกหลอกลูกสาวฉันยังไงทำไมฉันจะไม่รู้"
"แม่คะ มีอะไรเราออกไปคุยกันสองคนเถอะค่ะ"
"พร้อมจะฟังแม่แล้วเหรอลิปดา"
"พร้อมค่ะ"
แม่ลูกมองหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมแพ้ใคร
วิลิปดารับรู้ด้วยสีหน้าเฉยเมย หลังจากลำเพาภาพูดเรื่องพิมพ์สนมให้ฟัง
"เรื่องพิมพ์สนมเคยเป็นลูกน้องของแม่...กริชเคยเล่าให้ลิปดาฟังแล้วค่ะ"
"แล้วไม่สงสัยเหรอ ว่าทำไมพิมพ์สนมไปอยู่ในรถของกริชตอนที่ถูกยิง"
"เขาสองคนเป็นเพื่อนร่วมงานกัน มันก็เหมือนลิปดากับพี่พี หรือใครๆ ในออฟฟิศที่อาจจะไปไหนมาไหนด้วยกันบ้าง ลิปดาไม่สงสัยเรื่องนั้นหรอกค่ะ แต่สิ่งที่ลิปดาสงสัย...คือใครเป็นคนที่คิดจะฆ่ากริชมากกว่า"
ลำเพาภาหลบตานิดหนึ่ง แล้วส่ายหน้า
"นี่รักเขามากจนเชื่อเขาทุกอย่าง"
"ลิปดาเชื่อในเหตุผลและการกระทำค่ะ ปล่อยเราไปเถอะค่ะ ถึงแม่จะขัดขวางยังไงเราก็จะไม่ยกเลิกงานแต่งเด็ดขาด"
"แม่จะบอกให้นะ การแต่งงานมันก็เหมือนบ่วงกรรมเวรอย่างนึงที่ผู้หญิงต้องชดใช้... แม่รู้ว่าพูดไปก็เปล่าประโยชน์ เราไม่มีวันเชื่อ ทำไมไม่ทำความรู้จักเขาให้นานกว่านี้ล่ะ เขาอาจจะคายกากเดนของนิสัยเดิมออกมาให้ลูกเห็นเองว่าเป็นคนยังไง จะทนแต่งกับเขาได้หรือเปล่า"
"แต่ลิปดารักกริชนะคะ ที่พยายามอยู่นี่เพราะไม่ต้องการจะเสียเขาไป เขาจะเคยเป็นยังไงมาก่อนก็ตาม หนูรักเขา"
ลำเพาภาเจ็บปวด เสียงเยือกเย็น
"เขามีค่าเพียงนั้นเชียวเหรอ"
"แม่เคยมีความรักมาก่อนหรือเปล่าคะ ถ้าแม่มี แม่จะรู้คำตอบโดยไม่จำเป็นต้องถามหนู"
ลำเพาภาผงะไปนิดหนึ่ง มองหน้าลูกสาวอย่างร้าวรานใจ ทั้งสองมองหน้ากันอย่างเจ็บปวดขมขื่น
อ่านต่อหน้า 3
ผัวชั่วคราว ตอนที่ 28 อวสาน (ต่อ)
ทุกคนนั่งรออย่างร้อนใจ คตกริชเดินไปเดินมา อำไพบ่น
"สองแม่ลูกคุยอะไรกันนานเชียว เหมือนไม่ค่อยได้เจอกัน"
ลำเพาภาเดินออกมา โดยมีวิลิปดาตามมาด้วย ทุกคนโล่งใจ ยกเว้นคตกริช
ลำเพาภาผ่านหน้าคตกริช พูดนิ่งๆกับเขาให้ได้ยินแค่สองคน
"เธอได้ลิปดาของขวัญที่มีค่าที่สุดในชีวิตฉันไปแล้ว ในวันแต่งงาน ฉันจะมอบของขวัญอีกชิ้นนึงที่มีค่ามากเท่ากับชีวิตฉันให้เธอเอง"
พูดจบลำเพาภาก็เดินจากไป คตกริชมองตามอย่างสงสัยในคำพูดของลำเพาภา
มุมหนึ่งในโรงแรม คตกริชนั่งเครียดอยู่คนเดียว อำไพเข้ามาถามด้วยความงุนงง
"อะไรกันน่ะกริช นี่แม่งงไปหมดแล้ว ตกลงคุณนายลำเพานั่นเป็นแม่ของหนูลิปดาเหรอ"
คตกริชกุมขมับอย่างเครียดกว่าเดิม
"โอ๊ย...จริงเหรอกริช ทำไมโลกมันกลมอย่างนี้ จะบ้าตาย แล้วนี่ หนูลิปดารู้เรื่องหรือเปล่า"
"รู้แล้วครับ"
"หา! รู้แล้วเขารับได้เหรอ ท่าทางจะไม่ปกติทั้งแม่ทั้งลูก"
"ผมพูดความจริงกับลิปดาไม่หมด ผมบอกแค่ว่าคุณเพาหึงผม ก็เลยไม่อยากให้ลิปดาแต่งงานกับผม"
"ยังดีนะที่เขาเชื่อแก ไม่เชื่อแม่ของเขา โอ๊ย...ฉันจะบ้าตาย ดวงแกนี่มันแจ๊คพ็อตจริงๆ เลย ทำไมซื้อหวยไม่ถูกเผงอย่างนี้บ้างวะ แล้วยัยคุณนาย คุยอะไรกับแกก่อนไป แม่ได้ยินไม่ถนัด"
"คุณเพาพูดเหมือนจะเลิกขวางผมกับลิปดาแล้ว แต่ผมว่า...มันไม่น่าง่ายอย่างนั้น มีบางอย่างแปลกๆ ในคำพูดของเขา"
"เขาพูดว่ายังไง"
"เขาบอกว่าจะให้ของขวัญที่มีค่ากับผมในวันแต่งงาน"
"เขาอาจจะประชดแกไปอย่างนั้นเองก็ได้ อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิดละวะกริช แกรักใครก็ทำตามใจแกเถอะ แม่ทำได้แค่เอาใจช่วย"
อำไพกอดพลางลูบผมปลอบ คตกริชซบอิงกับแม่เหมือนเด็กๆ โหยหาที่พึ่ง
ในห้องนอน ลำเพาภาเช็ดและทำความสะอาดปืนอย่างดี ก่อนจะบรรจุกระสุนลงไปจนเต็มแม็ก ลำเพาภามองปืนด้วยแววตาเจ็บปวดและเคียดแค้นในเวลาเดียวกัน ก่อนจะเปิดลิ้นชักข้างเตียง แล้วเก็บปืนไว้ที่นั่น
"เธอจะต้องจำของขวัญชิ้นนี้ไปตลอดชีวิต คตกริช"
ลำเพาภายิ้มเหี้ยมกับตัวเองอย่างน่ากลัว
ก่อนวันแต่งงาน วิลิปดากับคตกริชแต่งชุดเจ้าสาวเจ้าบ่าว ถ่ายรูปด้วยกัน ส่วนลำเพยพรรณดูแลการตกแต่งสถานที่จัดงาน ช่วยจัดดอกไม้และการวางสิ่งของต่างๆ ในพิธี
ข้อความบนการ์ดแต่งงาน
“ขอเชิญท่านผู้มีเกียรติร่วมงานพิธีมงคลสมรสระหว่าง นางสาววิลิปดา เลิศอริยาภา และ นายคตกริช ละอออำไพ”
พีรนันท์ดูการ์ดนั้นอย่างเจ็บช้ำ
วันใหม่ บรรยากาศภายในสวนของโรงแรม ถูกจัดเป็นงานแต่งงานจนเสร็จสมบูรณ์ เห็นป้ายงานมงคลสมรสของ คตกริช-วิลิปดา
แขกทยอยเข้ามาในงาน อำไพกำลังต้อนรับแขกอย่างมีความสุขและภาคภูมิใจอยู่ด้านหน้างาน
"สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่มางานลูกชายดิฉันนะคะ... ลูกชายฉันค่ะ ลูกชายฉันเอง"
แป๋มซึ่งเป็นเพื่อนเจ้าสาวคุยกับเพื่อนๆ อย่างตื่นเต้น
"คอยดูนะ วันนี้ฉันจะรับช่อดอกไม้ของเจ้าสาวให้ได้"
"หล่อนนี่ชอบข้ามขั้นนะยะ ยังไม่มีแฟนอยากจะมีผัวเลย" อี๊ดบอก
"สมัยนี้ช้าอดสิยะ"
"เออ...แต่แปลกนะ คุณแม่ของลิปดาไม่มางานด้วย" ตุ้ยบอก
"ได้ยินว่าคุณแม่ลิปดาไม่ค่อยชอบกริชเท่าไรนี่" อี๊ดบอก
"แล้วคุณแม่ลิปดาชอบใครอ่ะ"ออมว่า
ทุกคนมองไปทางพีรนันท์ที่เดินเข้ามา
"ว้าย...วันนี้คุณพีหล่อจังเลย" แป๋มว่า
"ออกนอกหน้าไปหน่อยนะยะ" อี๊ดบอก
"หล่อแต่ดูเศร้าจัง" ตุ้ยว่า
"น่าสงสารคุณพี อยากไปดามหัวใจให้" แป๋มบอก
"ข้ามศพฉันไปก่อนเถอะ" อี๊ดว่า
"ตอนนี้ก็เหมือนศพอยู่แล้ว" แป๋มบอก
"หล่อนสวยตายละ" อี๊ดว่า
"สวยกว่าหล่อนก็แล้วกัน" แป๋มบอก
"แหวะ!"
"ยี้!"
แป๋มกับอี๊ดเบ้หน้าใส่กัน แล้วสะบัดหน้าไปคนละทาง
ช่างแต่งหน้ากำลังปัดขนตา ปัดแก้ม และทาลิปสติกให้เจ้าสาว ลำเพยพรรณจัดชุดเจ้าสาวที่วิลิปดาสวมอยู่ให้เรียบร้อย
"วันนี้หลานน้าเป็นเจ้าสาวที่สวยมากจ้ะ"
วิลิปดายิ้มอย่างไม่สดใสนัก ลำเพยพรรณประคองหน้าหลานสาวไว้
"ทำใจให้สบายนะ วันนี้หนูต้องมีความสุขที่สุด"
แป๋มวิ่งเข้ามาอย่างตื่นเต้น
"ลิปดาจ๋า เสร็จหรือยังจ๊ะ ใกล้ถึงเวลาแล้วนะ ทุกอย่างพร้อมแล้ว"
ลำเพยพรรณสวมหมวกเจ้าสาวให้วิลิปดา
"เรียบร้อยแล้วจ้ะ"
เวลาเดียวกัน ลำเพาภาที่ยืนอยู่หน้ากระจก มองตัวเองที่แต่งตัวสวยงาม แต่แววตากลับเยือกเย็นเศร้าสร้อย
บริเวณโถงบันไดบ้านลำเพาภา ลิลลี่ทำความสะอาดบ้านพร้อมกับเต้นไปด้วย แต่ก็ชะงักกึกเมื่อเห็นลำเพาภาที่ลงบันไดมา
"โอ๊วมายก๊อด...วันนี้คุณเพาสวยจังเลยค่ะ เอ๊ะ...แต่ไม่ใช่วันเกิดคุณเพานี่คะ อ๋อ...คุณเพาจะไปงานแต่งคุณลิปดาใช่ไหมคะ"
ลำเพาภายื่นซองเอกสารบางอย่างให้ลิลลี่
"นี่เป็นเอกสารสำคัญของฉัน เก็บไว้ให้กับลิปดาด้วย"
ลิลลี่รับเอกสารมางงๆ
"อ้าว...คุณเพาไม่ได้ไปงานคุณลิปดาเหรอคะ"
"เดี๋ยวเขาก็คงจะมาที่นี่เอง ก่อนลิปดาจะมา ห้ามขึ้นไปรบกวนฉันเด็ดขาด"
พูดจบลำเพาก็กลับขึ้นห้องไป ลิลลี่มองตามอย่างงงหนัก
ดูฟองคว้ากระเป๋าออกมา แล้วหยิบเสื้อผ้าในตู้ยัดๆ ใส่กระเป๋าอย่างรีบร้อน เพื่อเตรียมตัวจะหนี
"ไอ้บ้าเอ๊ย... หนียังไงถึงโดนจับได้วะ กูไม่อยากซวยไปด้วยนะโว้ย"
ดูฟองอารามรีบร้อน ทำให้ข้าวของหล่นกระจัดกระจาย จึงต้องตามเก็บ
"โอ๊ย...ยิ่งรีบยิ่งช้า"
ดูฟองเก็บข้าวของใส่กระเป๋าจนหมด แล้วรีบรูดซิปปิด พอจะเปิดประตูออกไป ก็มีเสียงกริ่งดังขึ้น ดูฟองผวา รีบไปเลิกม่านดูที่หน้าต่าง เธอตกใจมาก
"ตายห่า..."
ดูฟองเห็นตำรวจ 3 นายมารออยู่หน้าบ้าน เธอเลิ่กลัก หาทางหนีทีไล่
"ทำไมมันมาเร็วนักวะ"
ดูฟองรีบไปทางด้านหลัง
ดูฟองหิ้วกระเป๋ามาถึงหลังบ้าน เจอกำแพง เธอโยนกระเป๋าข้ามกำแพงไปก่อน แล้วเธอก็เอาเก้าอี้มาวาง เพื่อปีนข้ามกำแพงขึ้นไป ขณะกำลังจะปีนข้ามไปได้ แต่ถูกตำรวจดึงขาไว้
"ปล่อยสิวะ กูจะรีบหนี บอกให้ปล่อย"
ตำรวจ 1 ถาม
"จะหนีไปไหนครับคุณผู้หญิง"
ดูฟองตกใจรีบสะบัดขา
"ว้าย...ปล่อย ปล่อยฉัน"
ตำรวจ 2 บอก
"ยอมให้จับซะดีๆ คุณดูฟอง"
"มาจับฉันทำไม"
ตำรวจ 1ว่า
"นายแจ๊ครับสารภาพแล้ว ว่าคุณเป็นคนสั่งฆ่าคุณพิมพ์สนม"
ดูฟองถีบตำรวจ แต่พลาด ทำให้เธอตกลงมาบนพื้น
ตำรวจทั้งสามเข้าจับกุมตัวดูฟองไว้ แล้วใส่กุญแจมือ เธอร้องโวยวาย
"ฉันไม่ได้เป็นคนสั่ง คนที่อยู่เบื้องหลังคือไอ้เชิดศักดิ์กับนังลำเพาภาต่างหาก ฉันไม่เกี่ยว..."
พีรนันท์กับลำเพยพรรณช่วยกันจุดเทียนเพื่อเริ่มพิธี
ลำเพาภาเริ่มจุดเทียนในห้องนอนของเธอ เหมือนกำลังจะทำพิธีอะไรบางอย่าง
พีรนันท์และลำเพยพรรณจุดเทียนเสร็จ ลมพัดมาวูบหนึ่ง ทำให้เทียนดับ ทั้งสองมองหน้ากัน
"จู่ๆ เทียนก็ดับ"
"ลมแรงน่ะครับ ไม่เป็นไรดับก็จุดใหม่ได้ครับ"
พีรนันท์จุดเทียนที่ดับไปใหม่ เสียงเปียโนทำนองเพลงแต่งงานดังขึ้น
ลำเพาภาคุกเข่าลงบนพื้น หลับตานิ่ง
เสียงเปียโนเพลงแต่งงานดังต่อเนื่องมา เด็กผู้หญิงถือดอกไม้เข้ามาในงาน พร้อมกับโปรยดอกไม้ไปตามทาง เด็กผู้ชายถือพานใส่แหวนเข้ามา
คตกริชยืนรออยู่ที่หน้าแท่นพิธี อำไพยิ้มปลื้มสุดๆ หันไปบอกคนอื่นในงานอย่างภาคภูมิใจ
"ลูกชายฉัน... ลูกชายฉัน"
วิลิปดาในชุดเจ้าสาวถือช่อดอกไม้เดินเข้ามาในงาน อำไพถึงกับน้ำตาคลอ
"ลูกสะใภ้ฉัน"
คตกริช เข้าไปรับเธอมาที่แท่นพิธี ซึ่งบาทหลวงยืนอยู่ เขาค่อยๆเปิดผ้าคลุมหน้าวิลิปดาขึ้น ทั้งสองมองตากันหวานชื่น
ลำเพาภาสวดมนต์เสร็จ น้ำตาเธอไหลออกมาเป็นทาง เธอหันไปหยิบปืนออกมาจากในลิ้นชัก
คตกริชพาลิปดา มาถึงแท่นพิธี ยืนต่อหน้าบาทหลวง แป๋มรับช่อดอกไม้ไปจากลิปดา วิลิปดายืนเคียงคู่กับเจ้าบ่าว บาทหลวงเริ่มทำพิธี
"ในวันนี้ เราเป็นน้ำหนึ่งในเดียวกัน เรามาเป็นพยานยืนยันในความรักของคู่ บ่าวสาวในโอกาสอันเป็นมงคลนี้ ที่เขาทั้งสองจะให้คำมั่นสัญญา ว่าจะถือซื่อสัตย์ต่อกันและกัน จนกว่าชีวิตจะหาไม่"
ลำเพาภา กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง เอามือลูบปืนไปมา
พิธีแต่งงาน ดำเนินต่อไป คู่บ่าวสาวจับมือกัน บาทหลวงกล่าวต่อไป
"คตกริชละอออำไพ/ วิลิปดา เลิศอริยาภา เธอทั้งสองมาที่นี่โดยไม่ถูกบังคับ แต่มาด้วยความสมัครใจอย่างแท้จริงเพื่อเข้าพิธีสมรสหรือ"
"ครับ / ค่ะ"
"เมื่อเข้าสู่ชีวิตเช่นนี้แล้ว ลูกทั้งสองพร้อมที่จะรัก เอาใจใส่ ยกย่อง และให้เกียรติกันและกันจนตลอดชีวิตหรือ"
"ครับ/ค่ะ"
ลำเพาภาวางปืนลง หยิบมือถือออกมากดข้อความ
"ข้าพเจ้า คตกริชละอออำไพ ขอรับคุณวิลิปดา เลิศอริยาภา เป็นภรรยา และขอสัญญาว่าจะถือซื่อสัตย์ต่อคุณ ทั้งในยามสุขและในยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วย และในเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณจนกว่าชีวิตจะหาไม่" คตกริชกล่าววาจาต่อหน้าบาทหลวง
ลำเพาภากดส่งข้อความไป
"ขอให้วิลิปดา เลิศอริยาภา รับแหวนวงนี้ เพื่อแสดงความรักและความซื่อสัตย์ต่อผม"
คตกริชกำลังจะสวมแหวนให้วิลิปดา เสียงข้อความในมือถือดังขึ้น ทุกคนในงานชะงักว่าใครลืมปิดมือถือ เขารู้สึกตัว จะหยิบมือถือขึ้นมาปิด ข้อความนั้น ทำให้เขาหน้าถอดสี ทำแหวนหล่นลงพื้น
แหวนกระทบกับพื้นดังสนั่น และกระเด็นกระดอนออกไป ทุกคนในงานมองอย่างตกใจและงุนงง คตกริชหันไปบอกลิปดา
"รีบไปที่บ้านคุณแม่คุณ"
"เกิดอะไรขึ้นคะ"
"ของขวัญที่มีค่าเท่ากับชีวิต...ชีวิตของคุณเพา"
คตกริชจูงมือลิปดาวิ่งออกไป
อ่านต่อหน้า 4
ผัวชั่วคราว ตอนที่ 28 อวสาน (ต่อ)
ทั้งคู่มาที่รถเจ้าบ่าว ซึ่งตกแต่งสวยด้วยริบบิ้นและดอกไม้ เสียงข้อความที่ลำเพาภาส่งมาดังก้อง
"วันนี้ฉันจะมอบของขวัญแต่งงานที่มีค่าเท่ากับชีวิตฉัน"
คตกริชรีบขึ้นรถขับออกไปพร้อมกับวิลิปดา คนอื่นๆในงานมองอย่างงงๆ
"มันอะไรกันเนี่ย พิธีจบแค่นี้เหรอ" อำไพถาม
"ยังค่ะคุณแม่ ยังไม่ได้สวมแหวนกันเลย" แป๋มบอก
"ทำไมกริชถึงทำแบบนี้"ลำเพยพรรณว่า
"เขาไปที่ไหนกันครับคุณน้า" พีรนันท์ถาม
"น้าก็ไม่รู้เหมือนกัน"
ทุกคนมองหน้ากันอย่างไม่มีใครตอบใครได้
ลำเพาภามองปืน แล้วเอามาจ่อตัวเอง หลับตาลง กำลังจะเหนี่ยวไก เสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้นรัวๆ ลำเพาภาหยุดชะงัก ลืมตา
ลิลลี่ออกมาโวยวาย
"มาหาใครคะ กดกริ่งไม่เกรงใจกันเลย"
แต่แล้วลิลลี่ก็ต้องตะลึงงัน
"วะ...ว้าย...ตะ...ตะ"
ตำรวจ 3 นายยืนอยู่หน้าบ้าน
ตำรวจ 1ถาม
"นี่บ้านคุณลำเพาภา เลิศอริยาภา ใช่ไหมครับ"
ลิลลี่ถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกใจ ทำอะไรไม่ถูก
ลิลลี่รัวเคาะประตูห้องนอนลำเพาภา
"คุณเพาขา เกิดอะไรขึ้นคะคุณเพา เปิดประตูหน่อยสิคะ"
ไม่มีเสียงตอบจากข้างใน
ตำรวจ1บอก
"คุณลำเพาภา เปิดประตูด้วยครับ นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ กรุณาเปิดประตูหน่อยครับ"
ยังไม่มีเสียงใดๆ ตอบกลับมา
ภายในห้อง ลำเพาภาหลับตา กึ่งนั่งกึ่งนอนนิ่งอยู่บนเตียง มีผ้าห่มห่มคลุมมาถึงอก เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างเจ็บปวด นัยน์ตาเหม่อลอย ไม่สนใจรับรู้เสียงเอะอะจากภายนอก มือขวาที่ถือปืนตกอยู่ข้างตัว
"คุณเพาขา... เปิดประตูหน่อยค่ะ"
"คุณลำเพาภาครับ คุณลำเพาภา"
ตำรวจยังคงเคาะประตูห้อง แต่ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ จึงหันไปถามลิลลี่
ตำรวจ 2 ถาม
"คุณลำเพาภาอยู่ในห้องนี้แน่เหรอครับ"
"แน่ค่ะ เธอสั่งไว้ไม่ให้ใครรบกวน จนกว่า..."
ตำรวจ 3 ถาม
"จนกว่าอะไรครับ"
"จนกว่าคุณ..."ลิลลี่ว่ายังไม่ทันจบ
วิลิปดาเข้ามาพอดี
"แม่...แม่อยู่ไหนคะ"
"อยู่ในห้องค่ะคุณลิปดา"
ลิปดาบอกกับตำรวจ
"ฉันเป็นลูกของเขาค่ะ"
"ลูก..."
ลิลลี่มองลิปดางงๆ เพราะนึกว่าเป็นหลานมาตลอด ตำรวจเปิดทางให้วิลิปดา
"งั้นคุณช่วยเกลี้ยกล่อมให้คุณแม่ออกมาหน่อยครับ"
ลิลลี่บอก
"ระวังนะคะคุณลิปดา เมื่อกี้ได้ยินเสียงปืนค่ะ"
ลิปดาเข้าไปเคาะประตูเรียก
"นี่ลิปดานะคะแม่... แม่ได้ยินไหมคะ เปิดประตูเถอะค่ะแม่ นะคะ ใจเย็นๆนะคะแม่ ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอกค่ะ"
ลำเพาภาพูดกับตัวเองด้วยเสียงอ่อนแรง
"จะมีอะไรร้ายแรงไปกว่าการแต่งงานของลูกกับคตกริชล่ะ"
"แม่คะ ลิปดาขอโทษ แม่จะให้ลิปดายกเลิกการแต่งงาน ลิปดาก็จะยกเลิกค่ะ จะให้ทำอะไร ลิปดายอมทุกอย่าง แต่อย่าทำร้ายตัวเองเลยนะคะ"
เสียงเงียบไปอีก ลิปดาตะโกนอย่างร้อนใจ
"แม่คะ เปิดประตูให้ลิปดาเข้าไปเถอะค่ะ"
คตกริชหันไปถามลิลลี่
"พี่ลิลลี่มีกุญแจสำรองหรือเปล่าครับ"
"รอเดี๋ยวนะคะ"
ลิลลี่รีบวิ่งลงไปชั้นล่าง
เสียงกุกกักดังขึ้นที่หน้าห้องนอน ลำเพาภาหันไปมองปืนในมือข้างตัว นิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด เธอค่อยๆ ยกปืนอย่างอ่อนแรงขึ้นมา
ประตูเปิดออก ลำเพาทำท่ายกปืนขึ้น ลิปดาถลาเข้ามาในห้อง
"แม่...อย่านะคะ แม่...ลิปดาขอร้อง"
"คนอื่นออกไป ฉันจะคุยกับลูกของฉันตามลำพัง"
ทุกคนถอยออกไปนอกห้อง ลำเพาภาลดปืนลงอย่างอ่อนแรง
"ลิปดาลูกแม่"
ลิปดาเห็นลำเพาภายังเหมือนปกติก็โล่งใจ กอดไว้อย่างดีใจ
"แม่ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ"
ลำเพาภายิ้มรับอย่างอ่อนระโหย ลูบผมของลิปดา
"ลิปดาไม่แต่งแล้วค่ะ ถ้าแม่ไม่อยากให้แต่ง แม่อย่าทำร้ายตัวเองเลยนะคะ"
"แม่ทำทุกอย่างเพื่อลูกนะ...ลิปดา"
คตกริชสังเกตเห็นหน้าของลำเพาภาซีด เขามองไปที่พื้น เห็นเลือดหยดลงมาจากที่นอน จึงมองลำเพาภาอีกครั้งอย่างใจหาย
"เลือด! คุณเพาบาดเจ็บ ช่วยเรียกรถพยาบาลทีครับคุณตำรวจ"
ตำรวจรีบวอเรียกรถพยาบาลทันที
ลิปดามอง ตกใจ เห็นเลือดซึมผ้าห่ม จึงเปิดผ้าห่มออกมา ถึงกับกรีดร้อง
"แม่"
ร่างของลำเพาภาที่อยู่ใต้ผ้าห่มชุ่มไปด้วยเลือด
"ทำไมแม่ถึงทำอย่างนี้ ทำไม..."
"แม่อยากจะปกป้องลูกเป็นครั้งสุดท้าย"
"แม่..."
ลำเพาภาพูดด้วยเสียงที่ขาดเป็นห้วงๆ
"ลูกจะรู้บ้างไหมว่า แม่เป็นห่วง... สิ่งที่แม่ทำทั้งหมดก็เพื่อลูกทั้งนั้น แม่กลายเป็นผู้ร้ายฆ่าคน ก็เพราะไม่ต้องการให้ลูกเลือกเดินทางผิด แม่ไม่เชื่อว่า ผู้ชายอย่างคตกริชจะดูแลชีวิตลูกได้ตลอดรอดฝั่ง ที่สำคัญ แม่ไม่ต้องการให้ลูก ต้องมาใช้สามีคนเดียวกับแม่"
วิลิปดาสีหน้าตะลึงงันอย่างนึกไม่ถึง ไม่อยากจะเชื่อความจริงที่ได้ยิน หันไปมองคตกริชด้วยความผิดหวังที่สุดในชีวิต น้ำตาไหลพราก
คตกริชก้มตาลงต่ำด้วยความรู้สึกผิด วิลิปดารู้สึกผิดที่เข้าใจแม่ผิดมาตลอด
"แม่...หนูขอโทษ"
"ลูกจะเข้าใจแม่บ้างหรือเปล่า เข้าใจถึงหัวใจดวงนี้ของแม่บ้างไหม"
"เข้าใจแล้วค่ะ หนูเข้าใจแม่ทุกอย่างแล้ว"
ลำเพาภายิ้มนิดๆ อย่างดีใจ เหมือนได้ปลดเปลื้องภาระทุกอย่างแล้ว ลิปดาพรั่งพรูคำพูดออกมาด้วยความรู้สึกผิดที่ทำให้ลำเพาภาเป็นแบบนี้
"แม่อดทนไว้นะคะ หนูจะพาแม่ไปหาหมอ หนูจะไม่แต่งงาน จะเชื่อฟังแม่ทุกอย่าง แม่อย่าทิ้งหนูไปนะคะ เราจะอยู่ด้วยกันสามคน แม่ หนู น้าพรรณ แม่ไม่อยากให้หนูทำอะไรหนูก็จะไม่ทำอีกแล้ว หนูรักแม่นะคะ" วิลิปดาพูดพลางปล่อยโฮ
"แม่ก็...รักลูกนะ ลิปดา ลูกแม่"
มือของลำเพาภาค่อยๆ ตกลง หมดลมหายใจ
วิลิปดากรีดร้องออกมาอย่างรับไม่ได้
"แม่... แม่ อย่าทิ้งลิปดาไป.... แม่"
ลิปดาโผเข้าไปกอดร่างที่ไร้ลมหายใจของแม่ไว้แน่น
คตกริชมองร่างนั้น น้ำตาไหลออกมาด้วยอย่างสะเทือนใจที่เป็นต้นเหตุให้ลำเพาภาต้องมาจบชีวิตลงแบบนี้
"คุณเพา"
คตกริชกำลังคุยกับตำรวจที่ห้องโถงบ้านลำเพาภา
"ดูฟองสารภาพแล้วว่าคุณลำเพาภาเป็นผู้จ้างวานฆ่าคุณพิมพ์สนม"
ลิปดาเดินมาทิ้งตัวลงนั่งอย่างหมดอาลัยตายอยาก ลิลลี่เข้ามาหาลิปดาพร้อมซองเอกสารที่ลำเพาฝากไว้
"คุณลิปดาขา คุณเพาฝากให้คุณลิปดาค่ะ"
ลิลลี่ออกไปทั้งน้ำตา วิลิปดาเปิดซองออกมา เห็นเป็นเอกสารพินัยกรรม และมีจดหมายฉบับหนึ่ง เธอเปิดอ่านไปน้ำตาไหลไปอย่างหัวใจแหลกสลาย
"ลิปดาลูกรักของแม่...
แม่รู้ตัวว่าที่ผ่านมา แม่ไม่ได้ดูแลลูกอย่างที่ควรจะเป็น แม่ไม่มีอะไรจะมอบให้ นอกจากพินัยกรรมฉบับนี้ ที่ยกทุกสิ่งทุกอย่างที่แม่มีอยู่ในชีวิตให้กับลูก ไม่ต้องโศกเศร้าเสียใจนะลิปดา แม่อยากจะชดเชยความเป็นแม่ที่บกพร่องมาตลอด ถึงวันนี้แม่จะไม่ได้อยู่ดูแลลูกอีกแล้ว แต่ขอให้
ลูกรับรู้ว่า แม่จะคอยดูลูกจากที่ใดที่หนึ่ง และไม่ได้ทิ้งหนูไปไหนเลย แม่จะอยู่ข้างๆ ลูกเสมอ"
คตกริชมองลิปดาอย่างเข้าใจความรู้สึกของเธอดี สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
ท่ามกลางบรรยากาศในงานศพ แขกทยอยเข้ามา วิลิปดากับลำเพยพรรณยืนต้อนรับแขกอยู่หน้างาน ทั้งสองหน้าตาหมองเศร้า วิลิปดาน้ำตาคลอ
พีรนันท์เข้ามายกมือไหว้ลำเพยพรรณ
"เสียใจด้วยนะครับคุณน้า ลิปดา"
"ค่ะพี่พี"
"พี่เป็นกำลังใจให้นะ"
"ขอบคุณค่ะ"
คตกริชเข้ามายืนอยู่มุมหนึ่ง สีหน้าหมองเศร้า เขาเห็นแป๋มกับเพื่อนๆ เข้ามาจับมือวิลิปดาแสดงความเสียใจ หลังจากพวกของแป๋มเข้าไปแล้ว คตกริชเข้ามาในงาน
"เสียใจด้วยนะครับ คุณน้า ลิปดา"
ลำเพยพรรณพยักหน้ารับ
อี๊ดกระซิบกับแป๋ม
"สงสารคุณกริชกับลิปดาจัง แม่มาเสียวันแต่งพอดี"
"ยังไงฉันก็เชียร์ให้เขาสองคนแต่งกันอีกรอบนะ ให้ลิปดาพ้นช่วงไว้ทุกข์ไปก่อน"
คตกริชเข้าไปในงาน แต่แยกตัวไปนั่งคนเดียว
บริเวณหน้าหลุมฝังศพของลำเพาภา บาทหลวงกล่าวไว้อาลัยในพิธี
"เราทั้งหลายมาจากดิน และ เราก็ต้องกลับคืนไปสู่ดิน ดินกลับกลายเป็นดิน เถ้ากลับกลายเป็นเถ้า ธุลีกลับไปสู่ธุลี"
ผู้ร่วมพิธีเรียงแถว ทยอยนำดอกไม้วางบนหลุม จนมาถึงคตกริช เขายกมือไหว้ศพลำเพาภาอย่างเศร้าสร้อย
"ผมขอโทษ...ขอโทษกับทุกเรื่องที่ผ่านมา ขอให้คุณเพาโปรดอโหสิกรรมกับสิ่งที่ผมได้ทำผิดต่อคุณทุกอย่าง ขอให้ดวงวิญญาณของคุณเพาไปสู่สุคตินะครับ"
คตกริชน้ำตาไหลเมื่อนึกถึงความดีที่ลำเพาภาเคยมีให้ตน ก่อนจะวางดอกไม้ไว้ที่หน้าหลุมศพแล้วเดินจากไป
พีรนันท์ แป๋ม และคนอื่นๆ ทยอยเข้ามาวางดอกไม้ แล้วออกไปทางเตนท์
ลำเพยพรรณเข้ามายกมือไหว้ น้ำตาไหล
"พี่เพาคะ ไม่ต้องห่วงอะไรทางนี้ พรรณจะดูแลลิปดาแทนพี่ ให้ดีกว่าที่ผ่านมา หลับให้สบายนะคะ"
ลิปดาถือดอกไม้เข้ามาเป็นคนสุดท้าย วางดอกไม้ไว้บนหลุมด้วยความอาลัย
"วันนี้หนูรู้แล้วว่าแม่รักหนูมากที่สุด มากยิ่งกว่าชีวิตของแม่ หนูจะจำทุกคำที่แม่ เคยพูดเคยเตือน ขอให้วิญญาณของแม่ไปสู่สวรรค์นะคะ"
วิลิปดาค่อยๆเอ่ยปากพูดคำที่ติดค้างอยู่ในใจมาเป็นเวลานานออกมา
"หนู..รักแม่นะคะ"
วิลิปดาแตะที่หลุมศพของแม่ น้ำตารินไหลออกมา ลำเพยพรรณเข้ามากอดหลานสาวไว้
"ลิปดา...น้ายังรักลิปดาเสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม อย่าคิดว่าทุกสิ่งที่มันพังไปแล้ว เราต้องพังตามไปด้วย หนูยังมีเวลาที่จะเริ่มต้นใหม่อีกมาก ถ้าหนูรักแม่ อยากให้แม่หมดห่วง หนูต้องกลับมาเข้มแข็ง เข้มแข็งเหมือนแม่ของหนูให้ได้"
"ค่ะน้าพรรณ"
สองน้าหลานกอดกันร้องไห้
เวลาต่อมา วิลิปดากับลำเพยพรรณยืนส่งแขก พีรนันท์เข้ามาลา ยกมือไหว้น้าวิลิปดา ลำเพยพรรณรับไหว้
"ขอบใจนะพี"
"ครับคุณน้า"
"ขอบคุณนะคะพี่พี ขอบคุณสำหรับวันนี้และทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา"
พีรนันท์จับมือวิลิปดาไว้บีบเบาๆ
"มีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกได้นะครับ พี่พร้อมเป็นกำลังใจให้ลิปดาเสมอ"
วิลิปดาพยักหน้ารับ พีรนันท์เดินออกไป
บริเวณทางเดินออกจากสุสานวิลิปดาถือรูปของลำเพาภาเดินมาพร้อมกับน้าสาว คตกริชยืนรออยู่ที่รถ เขาเปิดประตูให้ลิปดาขึ้นไป
วิลิปดาพยักหน้ากับลำเพยพรรณเดินไปก่อน วิลิปดาเข้าไปใกล้เขา
"ลิปดา ผม..."
วิลิปดามองคตกริชอย่างตัดใจเป็นครั้งสุดท้าย
"ต่อไปนี้...เราคงไปทางเดียวกันไม่ได้อีกแล้วนะคะ"
คตกริชเศร้าไป มองวิลิปดาอย่างเข้าใจ น้ำตาคลอ
"ขอให้ลิปดาโชคดีนะครับ"
"เช่นกันค่ะ ลาก่อนค่ะกริช"
วิลิปดาเดินออกไป น้ำตารินไหลออกมาเงียบๆ
คตกริชน้ำตาไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่เช่นกัน มองตามเธอด้วยความรักและอาลัยสุดหัวใจ ก่อนจะตัดสินใจขึ้นรถขับออกไป
วิลิปดากับคตกริชแยกไปคนละเส้นทาง ค่อยๆ ห่างกันไปเรื่อยๆ จนเป็นเพียงจุดเล็กๆ คนละจุดบนเส้นทางยาวไกล
จบบริบูรณ์...