แม้เลือกเกิดได้ ตอนที่ 28 อวสาน
วิไลเข้ามาในห้องนอนสิงห์ ใบพรกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ สิงห์กำลังเก็บของที่เหลืออยู่ เห็นสร้อยของพรที่ถอดวางไว้ วิไลโผล่หน้าเข้ามา
"ใบพร อ้าว พรยังไม่ออกจากห้องน้ำอีกเหรอ"
"ยังครับ"
"ไม่เป็นไร"
วิไลจะออกไป
"แม่ครับ สร้อยเส้นนี้ ผมเห็นพรใส่อยู่ตลอด ผมเคยจะซื้อเส้นใหม่ให้ แต่พรบอกว่าจะใส่เส้นนี้แหละไม่เปลี่ยน มันมีความหมายอะไรกับพรหรือครับ"
"อ๋อ...เป็นสร้อยของพ่อเขาน่ะ พ่อให้พรตั้งแต่เด็ก ๆ ก่อนพ่อจะเสีย พรบอกว่า จำพ่อไม่ค่อยได้ ก็ขอจำสร้อยเส้นนี้ไว้แทนก็แล้วกัน"
"อ้อ อย่างนี้นี่เอง"
"แม่ไปเก็บของก่อนนะ"
วิไลออกจากห้อง สิงห์มองสร้อยแล้วยิ้มออกมา
นพเดินเตร่อยู่หน้าคอนโด พยายามจะโทร. หากฤษณ์
"เฮ้อ จะขอเงินสักหมื่นสองหมื่น คุณกฤษณ์ไม่รับสายเลยโว้ย"
รปภ.ในตู้ยามนั่งประจำอยู่สองนาย หน้าคอนโดฯเห็นมีรถจากบริษัทตกแต่ง พนักงานกำลังขนพรม ขนเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นกันขวักไขว่
รปภ1 บอก
"กะกลางคืนน่ะจะซวย"
"ทำไมวะ"
"แอบงีบไม่ได้เลยน่ะซีวะ ต้องอยู่เฝ้าตลอด คนเข้าออกที่ไม่ใช่คนคอนโดต้องเช็คละเอียด"
"ทำไมวะ แค่งานหมั้น ต้องรักษาความปลอดภัยอะไรกันนักหนา"
"เอ็งไม่รู้เลยเหรอวะ คืนนี้เขาจะขนทั้งเงินทั้งทองคำแท่ง กว่าห้าสิบล้านมาที่ห้องคุณกฤษณ์ ท่านสส. จะไว้เป็นสินสอดทองหมั้นเจ้าสาว"
นพฟังแล้วตาลุก
"ห้าสิบล้าน"
นพรีบผละไปทันที
"ห้าสิบล้านเลยเหรอวะ"
"ใช่ งานเขาจะจัดตอนเช้ามืดเลย นักข่าวมากันเพียบ"
"คนรวย ทำไรก็ดีไปหมดละ คืนนี้คนจนอย่างเรา ๆ ไม่ต้องนอนกันละ"
ใบพร ต้อยไหว้ลาละม่อม พริ้ง ศรีและสายพิณนั่งอยู่ด้วยกัน สายพิณยังดูทีวีเหม่อลอยเช่นเดิม
"ก็มาเยี่ยมกันบ้างนะ อย่าไปแล้วไปลับล่ะ"
ใบพร/ ต้อยรับคำ "ค่ะ"
"ใบพร มานี่ซิ"
ภายในห้อง ละม่อมมอบเงินสดส่วนหนึ่งให้ ใบพร
"แม่ ฉันรับไว้ไม่ได้หรอกจ๊ะ"
"ไม่รับได้ยังไง นี่มันเงินของเธอเอง"
"เงินของหนู"
"ใช่ ก็รายได้เธอที่หักเข้าบ้านน่ะ แม่เก็บไว้ส่วนหนึ่งเป็นเงินออมของทุกคน ใครลาออกไป ก็ต้องได้เงินออมนี่ไว้เป็นทุน"
ใบพรยิ้มปลื้มใจ ไหว้ละม่อม
"ขอบคุณค่ะแม่"
"รักษาตัวนะ รวมทั้งลูกในท้องด้วย คลอดแล้วต้องพามาให้แม่อุ้มนะพร"
ใบพรสะอื้น
"ค่ะ แม่"
ใบพรเข้ากอดละม่อม
นงเยาว์นั่งคุยกับสิงห์ นงเยาว์ยังหน้าตาซีดเซียวเพราะดื่มหนัก
"จะไม่กลับจริง ๆเหรอ"
"ฉันกลับไปเจอหน้าแม่ตอนนี้ไม่ได้หรอกพี่ ฉันคงทนเห็นสายตาแม่ที่มองฉันอย่างตำหนิไม่ได้ เพราะฉันเป็นคนทำให้พี่ตงตาย"
"พี่เข้าใจ แต่นงอยู่ที่นี่คนเดียวพี่เป็นห่วง ได้ข่าวว่าเดี๋ยวนี้กินเหล้าทุกวัน"
"ก็มันกลุ้ม ฉันไม่เป็นไรหรอกน่า ฝากดูแม่ด้วย... ฉันลา"
นงเยาว์ไหว้สิงห์ แล้วหันกลับขึ้นบ้านไปทันที สิงห์มองตามแล้วถอนใจ
คืนนั้น การ์ดและเจ้าหน้าที่ธนาคารกำลังลำเลียงตู้เซฟมาวางตรงหน้า กฤษณ์ ไกรวิทย์ และนภา เจ้าหน้าที่ไขตู้ออก แล้วดึงกล่องใส่ธนบัตรและทองแท่งออกมาวาง
"แม่ครับ ขนาดนี้เลยเหรอครับ"
"ต้องขนาดนี้แหละ"
"ทำไมไม่ขนมาพรุ่งนี้ละครับ"
"พิธีเราตอนหกโมงเช้า จะขนทันได้ยังไงล่ะ"
"ที่จริงก็อันตรายเหมือนกันนะ เอาทั้งเงินทั้งทองมาจากตู้นิรภัยแบบนี้" ไกรวิทย์บอก
"ไม่อันตรายหรอกครับ เพราะทางเราจัดทีมรักษาความปลอดภัยไว้แล้ว ดูแลคนเข้าออกชั้นนี้ทั้งหมด" เจ้าหน้าที่บอก
"รีบนอนได้แล้วลูก คืนนี้ รปภ.จะอยู่เฝ้าหน้าห้องให้ทั้งคืน แล้วตีห้า พ่อกับแม่จะมานะ"
"ครับ"
กฤษณ์ถอนใจ ไกรวิทย์ถามเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ต่อ
ตรอกหลังเฮเว่น ใบพรลงจากรถสิงห์ แต่งตัวเรียบร้อย
"พรมาลาเฮียก้านกับพี่ๆ ในร้าน อยู่แค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นละ พี่ก็มารับพรได้เลย"
"เดี๋ยวเราแวะทานของทะเลก่อนกลับนะ จะซื้อไปฝากแม่ด้วย"
"ค่ะ"
สิงห์แล่นรถออก ใบพรจะเข้าร้าน ชะงักไปเมื่อร่างของนพโผล่จากเงามืด ใส่แจ็คเก็ตดำตัวใหญ่
"น้า"
นพเข้าถึงร่างใบพรทันที เอาปืนจ่อร่าง
"อย่าร้องนะนังพร ไปกับฉันเดี๋ยวนี้"
"จะไปไหน"
"เดี๋ยวรู้เอง อย่าทำพิรุธด้วย"
นพดึงใบพรออกจากตรอก ไปอีกทาง
กฤษณ์ดูเบอร์มือถือ เห็นว่าเป็นเบอร์ใบพร ลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงรับโทรศัพท์
"ใบพร"
ใบพรที่หน้าคอนโด แอบหลบอยู่ในมุมมืดของซุ้มกำแพง นพประกบอยู่ข้าง ๆ ยังจ่อปืนอยู่
เปิดเสียงจากมือถือ
"ค่ะ คุณกฤษณ์"
"ฉันดีใจมากที่เธอโทร.มา เธอยังอยู่พัทยารึเปล่า"
"ค่ะ ฉันอยู่ที่หน้าคอนโดคุณนี่แหละ ฉัน... ฉันอยากพบคุณ"
"อยากพบฉัน"
"ค่ะ ก่อนที่ฉันจะไปจากคุณ และไม่มีวันได้พบกันอีก"
กฤษณ์ยิ้มดีใจ
"ได้ เธอขึ้นมาพบฉันที่ห้องเลย เดี๋ยวฉันจะให้การ์ดไปรับเธอขึ้นมา"
"ไม่ค่ะ"
"ทำไมล่ะ"
"คุณพ่อฉันมาด้วย คุณลงมารับฉันเองดีกว่า"
"คุณพ่อเธอมาด้วย มีอะไรรึเปล่า ใบพร"
"คุณพ่ออยากคุยกับคุณส่วนตัวค่ะ"
"ได้ ได้ ฉันลงไปเดี๋ยวนี้"
ใบพรเลิกสาย
"ดีมาก เล่นไปตามบทบาทที่บอกนะ อย่าตุกติก"
"น้าทำแบบนี้ไปทำไม น้าจะทำร้ายคุณกฤษณ์งั้นเหรอ"
"เดี๋ยวแกก็รู้"
ใบพรยังกุมมือถืออยู่ กดมือถือติดต่อสิงห์
สิงห์กำลังซื้อของปิ้งย่างข้างทาง เสียงจอแจยวดยาน ทำให้ไม่ได้ยินเสียงมือถือที่เสียบไว้ที่กางเกง
กฤษณ์เข้ามาหาใบพรและนายนพที่ยังหลบอยู่มุมกำแพงคอนโด
"มันเรื่องอะไรกันใบพร ทำไมมาหลบมุมอยู่ตรงนี้"
ใบพรเข้าหากฤษ
"คุณกฤษณ์ ช่วยด้วยค่ะ"
นพจ่อปืนมา
"หวัดดี คุณกฤษณ์ แเจอกันอีกแล้วนะครับ"
"นายต้องการอะไร"
"คุณต้องพาเราขึ้นไปห้องคุณ แล้วห้ามการ์ดตรวจอาวุธเด็ดขาด ไปเร็ว"
กฤษณ์เป็นอึ้ง ก่อนจะพาใบพรเดินคู่กันไป นพประกบหลังผ่านตู้ยาม ยามทำความเคารพ
กฤษณ์นำใบพรและนพมาหน้าห้อง การ์ดสองนายจะทำการตรวจค้น
"ไม่ต้อง นี่แขกของฉันเอง"
"ครับ คุณกฤษณ์"
การ์ดเปิดประตูให้ทั้งสามเข้าห้อง นพประกบใบพรตลอด
ทั้งสามเข้ามาในห้อง นพผลักร่างใบพรเซไปหากฤษณ์ จ่อปืนมายังทั้งคู่
"นี่มันเรื่องอะไรกัน นี่พ่อเธอจริง ๆ เหรอ"
"แค่พ่อเลี้ยงเท่านั้นค่ะ"
"นายต้องการอะไร"
"ต้องการสินสอดของคุณไงครับ คุณกฤษณ์ มูลค่าตั้งกว่าห้าสิบล้าน ถอยไป"
นพให้กฤษณ์และใบพรถอยกรูดไปยังห้องนั่งเล่นด้านใน
กฤษณ์ดึงใบพรเข้ามาในห้องที่จัดเตรียมงานหมั้นอย่างดี ตั่งกลางห้องวางปึกเงินและทองกองไว้เพื่อเตรียมทำข่าว นพมองตาเป็นมัน เข้าไปยืนหน้าตั่ง หยิบเงินทั้งปึกมาดู พร้อมทองแท่ง
"เป็นอย่างที่คิดจริง นี่ละน้า นิสัยคนรวย อยากอวดความรวยดีนัก ฮ่ะฮ่ะ เพราะฉะนั้นควรจะแบ่งให้คนจนอย่างข้าบ้าง ฮ่ะฮ่ะ"
นพจัดการสอดปึกเงินและทองแท่งลงในแจ็คเก็ตทันที
"คุณกฤษณ์ ฉันขอโทษจริง ๆ นะคะ"
"ไม่เป็นไร"
จังหวะนี้ ใบพรยังถือมือถืออยู่ แอบกดบันทึกภาพนพ แล้วส่งไปยังเครื่องของสิงห์ทันที
อ่านต่อหน้า 2
แม้เลือกเกิดได้ ตอนที่ 28 อวสาน (ต่อ)
สิงห์เดินกลับมาที่รถ เสียงมือถือดัง กดรับสายมือถือทันที ภาพนพกำลังโกยเงินและทองเข้าเสื้อ หัวเราะร่า เห็นชัดว่าด้านหลังคือระเบียงมองออกไปเห็นทะเล เป็นห้องกฤษณ์แน่ ๆ
"ไอ้นพ"
สิงห์บึ่งรถตรงไปยังคอนโดกฤษณ์ทันที
นพใส่เงินและทองจนเต็มเสื้อ จ่อปืนมายัง ใบพรและกฤษณ์
"เอาละ ถึงเวลาเดินทางกันแล้ว"
"อะไรนะ เดินทาง"
"แกจะต้องขับรถพาฉันกับนังพรออกไปนอกเมือง ห้ามแสดงพิรุธ เล่นไม่ซื่อไม่ต้องห่วงหรอกน่า พอถึงนอกเมือง ฉันจะปล่อยแกเป็นอิสระ แต่นังพร แกต้องไปกับฉันต่อ อย่าคิดเลยว่าจะไปสร้างวิมานอยู่กับไอ้สิงห์ได้"
"น้าจะก่อเวรกับฉันไปถึงไหน แล้วนี่ยังปล้นคุณกฤษณ์อีก น้าไม่มีทางรอดกฎหมายบ้านเมืองหรอก"
"ก็ให้มันรู้ไปซีวะ ไป พาข้าไปที่ลานจอดรถ เดี๋ยวนี้"
"ได้ ฉันยอมทำตามนายทุกอย่าง ขออย่างเดียวอย่าทำร้ายใบพร"
"แหม.....นังพร ไอ้ลูก สส.นี่มันรักแกจริงว่ะ ไม่น่าโง่ไปอยู่กันกับไอ้กระจอกอย่างไอ้สิงห์มันเลย ไป คุณกฤษณ์ ทำทุกอย่างให้แนบเนียน"
กฤษณ์ ออกมาพร้อมนพและใบพร ทำสีหน้ายิ้มแย้ม
การ์ดถาม
"คุณกฤษณ์จะไปไหนเหรอครับ"
"ฉันจะไปส่งใบพรกับพ่อเขาน่ะ ไม่ต้องตามหรอก"
"ครับ"
กฤษณ์พานพและใบพรเข้าลิฟต์
กฤษณ์ขับรถออกมาจากคอนโดฯ ใบพรนั่งตอนหน้า นพนั่งท้าย จี้ปืนมาที่หลังกฤษณ์ รถแล่นผ่านป้อมยามไป ยามมองอย่างสงสัยนิดหน่อย รถเลี้ยวออกไปทางหนึ่ง
ทางตรงข้าม มอเตอร์ไซค์สิงห์แล่นมา ยามเข้าขวางทันที
"พี่....ผมมาหา คุณกฤษณ์ มีเรื่องด่วน"
"คุณกฤษณ์ขับรถออกไปแล้ว"
"หา... คุณกฤษณ์ออกไปแล้ว มีใครอยู่ในรถด้วยรึเปล่า"
"มีผู้หญิงกับพ่อเขาน่ะ"
สิงห์ไม่รอให้น้ายามพูดต่อ ขับรถบึ่งตามไปทันที
รถกฤษณ์แล่นมาตามถนนเปลี่ยว สิงห์ขับตามมาอย่างเร็ว แล้วพุ่งเข้าขนาบข้างรถ
"เฮ้ย ไอ้สิงห์"
นพไขกระจกลง จะยิงสิงห์
"น้าอย่ายิงนะ"
กฤษณ์ตัดสินใจหักหลบเข้าข้างทาง นพเสียหลัก ระเบิดกระสุนใส่สิงห์เข้านัดหนึ่ง รถสิงห์เสียหลักแล่นแฉลบไปข้างหน้า แล้วล้มกลางถนน รถไถลไปไกล สิงห์ไถลไปตามรถ กลิ้งไปข้างถนน
รถเลี้ยวเข้ามากลางลานกว้าง นพถอดแจ็คเก็ตที่ใส่เงินและทองไว้ในรถแล้วถลาลงจากรถ ลากร่างใบพรออกมา เอาปืนจ่อกฤษณ์ลงจากรถ
"อย่านะ อย่าทำอะไร ใบพร"
"นังพร แกต้องขับรถให้ข้า คุณกฤษณ์ เอากุญแจรถมาให้ผม"
"ฉันให้กุญแจแก แต่แกต้องปล่อยใบพร"
"ก็ได้ เอากุญแจมา"
กฤษณ์โยนกุญแจให้ นพรับกุญแจเข้ามือพอดี
จังหวะนี้ สิงห์วิ่งกลับมาแต่หน้าผากเลือดไหลอาบ วิ่งลำบากเพราะขากะเผลก มีแผลฉีกขาด
สิงห์ทรุดล้มลง แต่เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าทั้งหมด
"เสียใจนะครับ นังพรต้องเป็นตัวประกันให้ผม"
ใบพรเข้าแย่งปืนจากมือนพ นพตบใบพรล้มคว่ำไปกับพื้น
สิงห์พยายามลุก จะไปช่วย
"โธ่ อีนี่ ฤทธิ์มากนักนะ"
นพทำท่าจะเตะซ้ำ กฤษณ์สุดทนโผนเข้าแย่งปืนจากนพทันที ทั้งสองปล้ำกันอยู่ที่พื้น
สิงห์วิ่งโผเผมาถึง ใบพรวิ่งเข้ามาอยู่ข้างสิงห์
เสียงปืนระเบิดขึ้น ใบพรกรีดร้อง ร่างทั้งคู่นิ่งกันไป กฤษณ์ผงะออกมา เสื้อเปื้อนเลือด นพนอนกุมท้องเลือดท่วมเช่นกัน กฤษณ์ถือปืนที่แย่งมาจากนพได้ เต็มไปด้วยความโกรธพลุ่งพล่าน"แกคิดจะปล้นฉันเหรอ แล้วยังจะทำร้ายใบพรอีก อย่าอยู่เลยมึง"
กฤษณ์จ่อปืนเข้าที่ร่างนพ
"คุณกฤษณ์ อย่าครับ"
กฤษณ์ขาดสติเสียแล้ว ยิงอีกหนึ่งนัดตรงที่สำคัญ นพกระตุกตามแรงกระสุนแล้วแน่นิ่งไป
ใบพรร้องไห้โฮ สิงห์นิ่งงัน นึกไม่ถึงว่า กฤษณ์จะลุแก่โทสะได้ขนาดนี้
กฤษณ์ทรุดลงคุกเข่ากับพื้น สติกลับมา สิงห์เข้าไปดูอาการนพ
"ขาดใจแล้ว"
กฤษณ์ทิ้งปืน หมดเรี่ยวแรงอยู่ตรงนั้น
"เรียกตำรวจเถอะ ฉันยอมมอบตัว ฉันฆ่ามันตาย"
"คุณกฤษณ์ ไม่นะคะ คุณป้องกันตัวนะ"
"นัดแรกน่ะใช่ แต่นัดที่เหลือ ฉันฆ่ามันโดยเจตนา ฉันยอมรับโทษ"
"เช้านี้คุณจะเข้าพิธีหมั้นแล้วนะครับ แล้วพรุ่งนี้ก็เป็นวันแต่ง"
"ไม่มีอีกแล้ว มันคงเป็นกรรมของฉัน นายเรียกตำรวจมาเถอะ แล้วเรียกพ่อมาด้วย"
สิงห์มองกฤษณ์นิ่ง แล้วเดินไปหยิบปืนที่ตกอยู่ข้างกฤษณ์มาเช็ดคราบเลือดและคราบนิ้วมือออกทั้งหมด แล้วถือปืนไว้เสียเอง ใบพร กฤษณ์มองอย่างงุนงง
"พี่ สิงห์ จะทำอะไรน่ะ"
"ทำสิ่งที่พี่ต้องทำ"
สิงห์ถือปืนไว้
"ผมจะรับสารภาพว่าผมเป็นคนฆ่าไอ้นพเอง คุณไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ผมคือคนยิง"
"นายสิงห์"
"พี่สิงห์ นี่หมายความว่า...."
"พี่รับผิดเอง"
"ไม่พี่ พี่ทำอย่างนี้ไม่ได้ เรากำลังจะไปสร้างครอบครัวด้วยกัน ฉันให้พี่รับโทษไม่ได้"
"ใช่....ฉันก็รับไม่ได้ มันเรื่องอะไรที่นายต้องมารับผิดแทนฉัน"
"เพื่อทดแทนบุญคุณ เมื่อกี้ที่คุณเสี่ยงแย่งปืนจากมัน เพื่อช่วยใบพรแท้ ๆ"
"นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่ฟังขึ้น"
"มีอีกเหตุผลนึง ชีวิตของคุณ มีอนาคตที่งดงามรออยู่ คุณกำลังจะแต่งงานกับคนที่รักคุณอย่างแท้จริง คนที่ช่วยให้ครอบครัวและพรรคของคุณพ่อคุณอยู่รอดปลอดภัย ถ้าคุณต้องติดคุก ทุกอย่างก็คงล่มสลายหมด "
"นายจะเสียสละอะไรให้ฉันขนาดนั้น"
"ผมไม่ได้ทำเพื่อคุณเท่านั้นหรอก ผมทำเพื่อผมเองด้วย"
"คืออะไรพี่สิงห์"
"ใบพร พี่เคยฆ่าคนตาย พี่ทำบาปไว้มาก พี่จะต้องชดใช้ ไม่อย่างนั้นจิตวิญญาณของพี่ก็คงไม่มีวันสงบสุข"
ใบพรมองหน้าสิงห์แล้วร้องไห้โฮออกมา เพราะเป็นเหตุผลที่เธอต้องยอมจำนน กฤษณ์นิ่งงันไป
"คงเข้าใจนะครับ ว่าผมเสียสละเพื่ออะไร"
ใบพรเข้ากอดสิงห์ ร้องไห้กับอก กฤษณ์งงงันทำอะไรไม่ถูก
หลายวันต่อมา สิงห์เดินลงบันไดตึกสถานีตำรวจ กำลังตรงไปยังรถจากเรือนจำ สิงห์ในชุดนักโทษ มีเจ้าหน้าที่เรือนจำประกบพามาที่รถ สิงห์หน้าหมองคล้ำ แต่นัยน์ตาแข็งแกร่ง และไม่ยอมแพ้
สิงห์ชะลอฝีเท้าลง ใบพรยืนรออยู่ เจ้าหน้าที่พยักหน้าอนุญาตให้ ใบพรเข้ามาพูดกับสิงห์
"พี่สิงห์ ฉันจะรอพี่นะ"
"พี่ก็จะรอวันที่พ้นโทษ และได้กลับมาหาพร อีกเรื่องที่พรยังไม่ได้บอกพี่ เรื่องข่าวดีไง ที่ว่าจะบอกวันที่เราจะเดินทางจากพัทยา"
ใบพรน้ำตาไหลพรากออกมาทันที
"จ๊ะ พี่ พรจะบอกพี่ว่าพรท้องจ๊ะ"
สิงห์ทั้งดีใจทั้งเศร้าไปพร้อมๆกัน ยิ้มทั้งน้ำตา
"จริงเหรอพร"
"จ๊ะพี่"
"งั้นพี่คงไม่เห็นตอนลูกคลอด ดูแลเขาให้ดีนะ พี่จะกลับมาอุ้มลูก"
สิงห์ร้องไห้
"จ๊ะพี่"
ทั้งสองร้องไห้ด้วยกัน ใบพรถอดสร้อยออก สิงห์มองอย่างแปลกใจ
"พี่สิงห์ นี่คือสร้อยที่พ่อให้พรไว้ ทำให้พรรำลึกถึงพ่อได้ ทั้ง ๆ ที่พรจำหน้าพ่อไม่ได้ด้วยซ้ำ พี่เก็บไว้นะ"
"ทำไมล่ะพร"
"เหมือนคำสัญญาของเรา เราจะต้องกลับมาหากัน และสร้อยเส้นนี้พี่จะต้องนำมาเป็นของขวัญให้ลูก"
สิงห์พยักหน้า ใบพรสวมสร้อยให้สิงห์
"เอ้า คุณน้อง หมดเวลาแล้ว ต้องเดินทางแล้ว"
ใบพรถอยจากรถ สิงห์ขึ้นรถ รถค่อย ๆ แล่นออก ใบพรมองตามไป จนรถลับไปจากสายตา
ใบพร ต้อย วิไลกำลังเตรียมตัวเดินทาง จะปิดบ้าน กฤษณ์ก้าวเข้ามา
"อุ๊ย.... คุณกฤษณ์" ต้อยเรียก
ใบพรนิ่งงันไป
"ผมขอคุยกับ ใบพรหน่อยนะครับคุณแม่"
"เชิญค่ะ"
ทั้งคู่คุยกันที่สนาม
"ไม่ต้องห่วงนะใบพร คดีป้องกันตัวแบบนี้มีทางจะขอลดหย่อนโทษให้ได้ นายสิงห์อาจติดคุกไม่นานอย่างที่คิด"
"ค่ะ"
"เพื่อเป็นการตอบแทนที่นายสิงห์ทำเพื่อฉัน ขอให้เธอรับไว้"
ใบพรรับซองมาจาก กฤษณ์ เป็นเช็คตัวเลขหลักล้าน
"ฉันรับไม่ได้หรอกค่ะ"
"เธอต้องรับไว้"
"ทำไมคะ"
"เพราะฉันได้ตกลงกับนายสิงห์ไว้แล้ว เรื่องเงินจำนวนนี้ และเมื่อไหร่ที่เธอคลอดลูก ฉันจะให้เงินเธอกับลูกอีกก้อนนึง"
"พี่สิงห์ตกลงกับคุณไว้แล้ว"
"เขาไม่ได้ขอเองหรอกนะ ฉันยื่นข้อเสนอให้เขาเอง เขาตกลงให้ฉันช่วยเหลือเธอตลอดเวลาที่เขารับโทษ"
ใบพรพยักหน้า
"ขอบคุณค่ะ คุณกฤษณ์"
"เข้มแข็งนะใบพร ฉันต้องกลับละ"
"ขอให้มีความสุขกับชีวิตสมรสนะคะ คุณกฤษณ์"
กฤษณ์มองใบพรอย่างแสนรัก แต่แล้วก็ละสายตาไปทันทีอย่างตัดใจ
"ฉันจะจำไว้เสมอว่าฉันมีความสุขแค่ไหนที่ได้อยู่กับเธอ"
กฤษณ์แยกไปทันที ใบพรมองตาม น้ำตารื้น ถอนใจใหญ่แล้วค่อย ๆ ยิ้มออกมา สีหน้าเปี่ยมด้วยความหวังอีกครั้ง
หลายวันต่อมา พริ้งพาละม่อมเดินขึ้นบันได
"มันไม่สบายมาหลายวันแล้วพี่ แต่มันไม่บอกใคร ฉันน่ะกลัวเหลือเกิน"
"กลัวอะไรยายพริ้ง"
"กลัวมันจะจั่วน่ะซี"
"ว้าย ทำไมล่ะ มันไม่ได้ป้องกันเหรอ"
"ทำนองนั้น เพราะมันกินเหล้าเมาทุกวัน ไปกับแขกมันยังให้แขกเลี้ยงเหล้ามันอีก แล้วก็อย่างที่รู้ ๆ น่ะพี่ พอเมาแล้วก็ลืมป้องกันทั้งคู่"
ละม่อมตกใจ ทั้งสองเดินมาหน้าห้องนงเยาว์ เสียงไอโขลก ๆ ละม่อมเปิดประตูเข้าไป ร่างนงเยาว์นอนคลุมผ้าห่มหนาวสะท้าน ไออย่างแรง
"นงเยาว์"
ละม่อมเปิดผ้าห่มออก แล้วต้องตกใจกับสภาพทรุดโทรมของนงเยาว์ ตามตัวมีรอยจาง ๆ ละม่อมพลิกร่าง นงเยาว์หันมา ขอบตาช้ำ ตาแดง แก้มตอบและเหงื่อท่วมตัว
"นงเยาว์ เป็นยังไงบ้าง"
นงเยาว์ส่ายหน้า เบือนหน้าหนีแล้วไอต่อเนื่อง
"เรียกรถพยาบาลเถอะพริ้ง ไม่ไหวแล้ว"
นงเยาว์ยังนอนไอโขลก ๆ จนตัวโยน ละม่อม พริ้งถอยห่างยกมือปิดหน้าทันที
ศรีและสายพิณมายืนอยู่หน้าบ้านไกรวิทย์ เห็นแขกเหรื่อเดินเข้าออกบ้าน จัดแต่งสวนหน้าบ้านสวยงามเพราะเป็นวันแต่งงานบ่าวสาว
"ให้พี่พาเธอมาที่นี่ทำไม จะมาป่วนงานเขาเหรอพิณ ไม่เอานะ วันนี้คุณกฤษณ์เขาแต่งงานแล้ว อย่าไปยุ่งกับเขาเลย กลับเถอะ"
"อย่าเพิ่งกลับ ฉันอยากได้ชุดเจ้าสาวน่ะ ไปเอาชุดเจ้าสาวมาให้ทีซิ"
"ชุดเจ้าสาวไหน"
"ของพิณไง ชุดเจ้าสาวตัวนั้น"
"ได้ งั้นรออยู่ที่นี่นะ อย่าไปไหน"
"จ๊ะ"
ศรีเดินตามแขกเข้าบ้าน สายพิณชะเง้อมอง แล้วเดินลัดเลาะไปทางหลังตึก
อ่านต่อหน้า 3
แม้เลือกเกิดได้ ตอนที่ 28 อวสาน (ต่อ)
สายพิณเดินมาข้างตึก มองผ่านกระจกเข้าไปในห้องรับแขก เห็นแขกผู้ใหญ่อยู่กันเต็ม สายพิณแนบหน้ากับกระจก
ในห้องรับแขก กฤษณ์และปริมกำลังนั่งอยู่ที่ตั่ง รดน้ำสังข์ แขกผู้ใหญ่ทยอยเข้ามารดน้ำ ไกรวิทย์ นภา ธาดา กลุ่มเพื่อน อ๋อง ตั้ม โอ๋ เข้าแถวกันมา
ที่กระจกหน้าต่าง สายพิณมองเข้ามา แต่ยังไม่มีใครสังเกต กฤษณ์มองผ่านไปพอดี มองอย่างสงสัยว่าใครกัน
ไกรวิทย์และนภารดน้ำให้บ่าวสาวแล้วมายืนมุมห้อง ใกล้หน้าต่าง นภาสะดุ้งเพราะเห็นสายพิณเข้าพอดี
นภา
"ว้ายตายแล้วคุณ นังพิณมันบุกเข้ามาบ้านเรา"
"อะไรกันเนี่ย มันมาทำไม"
"ปิดม่านก่อนค่ะ ฉันจะออกไปจัดการมันเอง"
ไกรวิทย์เข้าไปรูดม่านปิดกระจกเสีย นภารีบออกจากห้อง ยังไม่มีใครสังเกต
ศรีจด ๆ จ้อง ๆ อยู่หน้าประตูไม่กล้าเข้าไป แขกเหรื่อคุยอยู่กันครึกครื้น เสียงเอะอะข้างบ้าน ทำให้ทุกคนหันไปมอง ศรีรีบเลี้ยวมุมตึกไปทันที
ศรีเข้ามา พบนภากำลังสั่งให้ รปภ.ดึงร่างของ สายพิณที่ไม่ยอมไปจากตรงนั้น
"แกจะมาทำลายงานลูกฉันอีกใช่ไหม ออกไปเดี๋ยวนี้"
"ไม่ไป เอาชุดเจ้าสาวมา ฉันจะใส่ชุดเจ้าสาว"
"นี่ไง จะมาทำลายงานชัด ๆ ลากมันออกไปแล้วเรียกตำรวจ"
"เดี๋ยวค่ะคุณ"
ศรีเข้ามาประคองสายพิณ
"อ้อ มากันทั้งคู่เหมือนเคย ดี....จับเข้าคุกทั้งคู่เลย"
"เดี๋ยวค่ะ ฟังก่อน เราไม่ได้มาทำลายงานคุณ จะมาขออย่างเดียวเท่านั้น"
"อะไร เงินใช่ไหม จะมาขู่กรรโชกใช่ไหม"
"เปล่า แต่สายพิณเขาอยากได้ชุดเจ้าสาวน่ะค่ะ"
"ต๊าย ยังมีหน้ามาพูด ลากมันออกไป"
สอง รปภ.จะลากสองสาวออก ไกรวิทย์ที่เดินเข้ามา
"ท่านคะ หนูไหว้ละ สงสารพิณมันเถอะค่ะ มันไม่สบาย มันมีอาการทางประสาท"
"เดี๋ยว เดี๋ยว พวกนายหยุดก่อน อาการทางประสาทเหรอ"
รปภ.หยุด
"นี่คุณไปฟังมันทำไม"
"คุณหยุดก่อน"
ไกรวิทย์มอง สายพิณหลบตาไม่กล้ามองตอบ
"แล้วเธอต้องการอะไร"
ศรีบอก
"ชุดเจ้าสาวชุดนั้นที่สายพิณเคยใส่น่ะค่ะ มันขอแค่นั้นจริง ๆ แล้วมันจะไม่มารบกวนพวกคุณอีกเลย"
"แน่นะ"
ไ"ชุดนั้นยังอยู่รึเปล่าคุณ"
"กำลังจะโละทิ้งอยู่ค่ะ อยู่ในห้องเก็บของนั่นแหละ"
"อย่าทิ้งนะคะ หนูขอซื้อก็ได้"
ไกรวิทย์มองหน้านภา ทั้งสองมองสายพิณที่มีอาการประสาทอย่างเห็นชัด
"นภา เอาชุดมาให้ สายพิณเถอะ"
"ได้... แต่อย่ามายุ่งกับลูกชายฉันอีกนะ"
ศรีพยักหน้า สายพิณบ่นพึมพำบางอย่างแต่ไม่มีใครรู้เรื่อง
หลายวันต่อมา ณ ริมแม่น้ำร่มรื่น ทุ่งนาเขียวขจี บ้านใต้ถุนสูง ต้อย วิไลกำลังเด็ดผักสวนครัวหน้าบ้าน บรรยากาศร่มรื่น บ้านตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับ น่ารัก สะอาดสะอ้าน มีรถมอเตอร์ไซค์คันเล็กจอดอยู่ข้างบ้าน
ต้อยบอก
"แม่....วันนี้กับข้าวขายหมดเกลี้ยง ป้าสำลีมาสั่งเพิ่มอีกสี่ห้าหม้อแน่ะ"
"ขายดีอย่างนี้ แม่ว่าเราน่าจะเซ้งแผงที่ตลาดขายเองเลยดีกว่านะ"
"ต้อยเล็งทำเลไว้แล้ว มีเงินทุนเมื่อไหร่เซ้งแผงเมื่อนั่น"
หน้ารั้วบ้าน นงเยาว์มองเข้าไปในบ้านอย่างอิดโรยเต็มที ถือกระเป๋าเดินทางใบเล็ก ร่างกายทรุดโทรมผ่ายผอม ใบพรท้องแก่เต็มทีเดินลงเรือนมา
" แม่คะ....วันนี้อยากทานน้ำพริกมะขามน่ะ เอาเปรี้ยว ๆ เลยนะแม่"
"ได้ เดี๋ยวตำให้"
ต้อยหันมาเห็นใบพร วิไล ใบพร มองตาม
"ใครน่ะ" วิไลถาม
ต้อยและใบพรเดินมารั้วบ้าน
"นงเยาว์"
นงเยาว์มองทั้งสอง น้ำตารื้น สะอื้นไห้
"ฉันไม่มีที่ไปแล้ว ฉันขอมาอยู่ด้วยได้ไหม"
"โธ่... นงเยาว์ มาขออยู่อะไร แม่เธอก็อยู่ที่นี่ เรารอให้เธอกลับมา"
"มาเข้าบ้านก่อน" ต้อยบอก
ต้อยรับกระเป๋าจากนงเยาว์ ใบพรจะเข้ามาแตะตัว นงเยาว์ถอยห่าง
"อย่า เธอกำลังท้อง อาจจะติดเชื้อได้ ฉันไม่สบาย รู้ใช่ไหม"
"เรารู้แล้วละ ไป เข้าบ้านเถอะ"
นงเยาว์เข้าบ้าน สองสาวตามมา นงเยาว์ยกมือไหว้วิไล
"แม่วิไล สวัสดีค่ะ"
"สวัสดีค่ะ คุณแม่อยู่บนบ้าน เดี๋ยวขึ้นไปกราบท่านเสียนะ"
"ค่ะ"
นงเยาว์มองไปรอบ ๆ บ้าน เช็ดน้ำตา ทุกคนยิ้มให้อย่างเป็นกำลังใจ และไม่มีใครมีท่าทีรังเกียจ
นางสายนอนผ่ายผอมอยู่ที่ฟูกที่ปูกับพื้น มีผ้าห่มคลุมอยู่ แต่หน้าตาสดใส นงเยาว์คลานเข้ามา
ข้าง ๆ แล้วก้มลงกราบแม่ทั้งน้ำตา ใบพร ต้อย นั่งอยู่ห่าง ๆ
"แม่ขา นงกลับมาหาแม่แล้ว"
นางสายค่อย ๆ ลืมตาขึ้น มองนงเยาว์นิ่งครู่นึง ก่อนจะเริ่มจำได้ และเหมือนพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง น้ำตาค่อย ๆ ไหลอาบน้ำ นงเยาว์ปล่อยโฮออกมา
"หนูผิดไปแล้ว หนูมากราบขอโทษแม่ ยกโทษให้หนูด้วย"
นงเยาว์จับมือแม่ไว้ ร้องไห้กับมือแม่ ใบพรและต้อยพลอยร้องไห้ไปด้วย
หลายวันต่อมา ในเรือนจำชาย สิงห์ในชุดนักโทษ นั่งอยู่ลำพังที่เก้าอี้ข้างสนาม กำลังอ่านจดหมาย และดูรูปที่ส่งมาเป็นกล่องพัศดุ สิงห์หน้าตากรำแดด แต่แข็งแรงสดชื่นกว่าเดิม สิงห์ใส่สร้อยของ ใบพรไว้ตลอด
จดหมายลายมือใบพรบอกว่า
"พี่สิงห์จ๊ะ นงเยาว์มาอยู่กับเราแล้ว พี่ไม่ต้องห่วงเรื่องสุขภาพของนงนะ เพราะตอนนี้ยาต้านช่วยรักษาโรคได้จริง ๆ"
นงเยาว์ดูสุขภาพดีขึ้น กำลังเช็ดตัวให้แม่ ใบพรกำลังเย็บเสื้อโหลอยู่ชานบ้าน กองผ้าขนาดใหญ่สุมอยู่มุมห้อง วิไลและต้อยช่วยกันสอยเสื้อ ทั้งสามมอง นงเยาว์ที่ปรนนิบัติแม่อย่างดี
"เงินค่ายาถึงจะแพงสักหน่อย แต่เราก็มีรายได้มากพอจะจุนเจือได้ ทั้งเย็บเสื้อโหลส่งโรงงาน และทำกับข้าวสำเร็จส่งที่ตลาด เรายังมีทุนสำรองจากเงินที่คุณกฤษณ์ให้มา ถือว่าเรามีฐานะพอมีพอกินเชียวละจ๊ะ"
สิงห์ยิ้มขณะอ่านและดูรูปไปด้วย
อ่านต่อหน้า 4
แม้เลือกเกิดได้ ตอนที่ 28 อวสาน (ต่อ)
ใบพรกำลังเก็บผักสวนครัว ต้อย วิไล นงเยาว์กำลังเตรียมทำอาหารกะทะขนาดใหญ่อยู่ใต้ถุน
บรรยากาศหัวเราะกันสนุกสนาน ใบพรหันไปมองแล้วยิ้ม ใบพรสะดุ้งเล็กน้อย รู้สึกลูกดิ้น เอามือกุมท้องแล้วยิ้มออกมาอย่างอิ่มใจ
ทั้งสามนางวิ่งเข้ามาแตะท้องใบพร ต้อยแนบหน้ากับท้อง แล้วเหมือนโดนเตะ หัวเราะกันใหญ่
"ลูกดิ้นใหญ่แล้ว หมอบอกว่าเป็นลูกชายจ๊ะ คงหล่อเหมือนพ่อเขา พี่ช่วยตั้งชื่อให้ลูกด้วยนะ พระท่านตั้งให้ก่อนว่า “ใจสิงห์” จ๊ะ"
สิงห์ยิ้มดีใจ น้ำตาไหลพรากด้วยความปิติ
หลายวันต่อมา ละม่อมยืนมองอยู่ที่หาดพัทยายามเช้า ไร้ผู้คน ร่างใครคนหนึ่งอยู่ในชุด
สีขาวเดินไปมา กฤษณ์เดินมาสมทบกับละม่อม
"เธอมาเดินที่นี่ทุกเช้าเลยเหรอครับ"
"ค่ะ ขอมาเดินทุกเช้าเลย แล้วต้องใส่ชุดเจ้าสาวชุดนี้ด้วย"
สายพิณชุดเจ้าสาวที่ชายกระโปรงรุ่ยร่ายเต็มที สายพิณถือช่อดอกไม้เหี่ยว ๆ ในมือ เดินยิ้ม
ไปมา เหมือนมีคนรายล้อมยินดีกับความเป็นเจ้าสาวของเธอ
ละม่อมและกฤษณ์มองอยู่ไกล ๆ
"เธอจำผมได้ไหม"
"เอ....ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ แต่ก็เคยพูดชื่อคุณอยู่นะ สายพิณจ๊ะ มานี่หน่อยซี"
สายพิณหันมา มองกฤษณ์นิ่ง แล้วเดินมาหา มองหน้ากฤษณ์แล้วหลบตาอย่างที่เคย กฤษณ์ยิ้มให้
"จำได้ไหม นี่ใคร"
"สายพิณ จำผมได้ไหม"
สายพิณค่อย ๆ สบตากฤษณ์ แล้วมองเลยไปไกล
"ต้องไปขึ้นรถแล้ว จะต้องไปฮันนีมูน"
"ฮันนีมูนเหรอครับ"
สายพิณยิ้มแล้วแล้วโบกมือให้ ก่อนจะเดินผ่าน กฤษณ์ไป กฤษณ์มองตาม ยิ่งรู้สึกสลดใจจนน้ำตารื้น ละม่อมถอนใจ
"แม่ละม่อม ช่วยดูแลสายพิณด้วยนะครับ ขาดเหลืออะไรผมยินดีช่วย"
กฤษณ์เดินแยกกลับไป ละม่อมมองตาม ก่อนจะหันกลับไปมองสายพิณ ที่ยังยิ้มกับทะเล ฟ้าสวยโยนช่อดอกไม้ไปข้างหลัง แล้วหันกลับไปมอง หัวเราะระรื่น
"พี่ศรีรับได้ด้วย พี่ศรีจะได้แต่งงานแล้วละ"
ละม่อมมองแล้วเช็ดน้ำตา สายพิณยังยิ้มหัวเราะกับอากาศธาตุ
สองเดือนต่อมา ละม่อม พริ้งนั่งอยู่ในโถงตามปรกติ ศรีเดินนำเข้ามา มีสามสาวเดินตามมา
"เอ้า เด็ก ๆ ไหว้แม่ซะ นี่แม่ละม่อม นี่แม่พริ้ง"
สามสาวไหว้ ละม่อม พริ้งรับไหว้
"ไหว้พระไหว้เจ้า แนะนำตัวหน่อยซิ"
สามสาวหน้าตาเป็นคนต่างจังหวัด แต่ยังสาว อายุไม่เกิน 20 สะสวยหมดจด บางนางดูผ่าน
ศัลยกรรมมาแล้ว
"หนูชื่อปอยค่ะ มาจากอุดร"
"แตงโมค่ะ เพื่อนปอย แนะนำกันมา"
"ใบตองค่ะ อยู่ระยองนี่เอง"
"ถามก่อน คิดยังไงมาทำงานแบบนี้" พริ้งถาม
ปอยบอก
"หนูไม่มีทางเลือก ภาระทางบ้านเยอะค่ะ พ่อแม่ก็ป่วย พี่ชายก็อยากได้มอเตอร์ไซค์"
"เธอล่ะ " ศรีถาม
แตงโมท่าทางจริตดก
"หนูอยากได้เงินเยอะ ๆ จะได้แต่งตัวสวย ๆ ใช้ของแบรนด์บ้างน่ะค่ะ"
"ไม่คิดจะไปช่วยเหลือทางบ้านบ้างเหรอจ๊ะ"
"อ๋อ เพิ่งหนีออกจากบ้านค่ะ พ่อเลี้ยงมันจะข่มขืนหนู"
ศรี พริ้ง ละม่อมมองหน้ากันคุ้น ๆ
"เอ้า คนต่อไป"
"ตองมีความฝันค่ะ"
ละม่อมถาม
"ฝันอะไรจ๊ะ ฝันอยากขายบริการงั้นเหรอ"
ใบตองหัวเราะใส่จริต
"ไม่ใช่ค่ะคุณแม่ ตองฝันอยากเป็นดาราค่ะ ตองจะหาเงินไปทำหน้า ทำนมก่อน จากนั้นจะตามฝันไปเป็นดารานักร้อง หนูร้องเพลงเพราะนะคะ เต้นก็ได้ แสดงก็เก่ง ตองจะตามฝันให้เป็นจริงให้ได้ค่ะ"
ทั้งสาม มองหน้ากันอีกครั้ง
"เอาละ แน่ใจนะว่าไม่ได้ถูกบังคับมาทำงานแบบนี้ เพราะบางคนเคยพูดไว้ว่า ถ้าเขาเลือกเกิดได้ เขาจะไม่มาทำงานอาชีพนี้เด็ดขาด"
"เต็มใจค่ะ / เลือกที่ทำงานนี้ค่ะ / หนูไม่เลือกค่ะ เพราะหนูเกิดมาเพื่อสิ่งนี้"
ละม่อมบอก
"ดีแล้ว แม่ก็สบายใจ เอาละ มาว่ากันเรื่องกฎของบ้านก่อน ศรี พริ้ง ว่าไป"
ศรีบอก
"อยู่ร่วมกัน เป็นพี่เป็นน้อง กินข้าวหม้อเดียวกัน ห้ามขาด....ทะลาะเบาะแว้ง"
พริ้งบอก
"เราจะทำงานที่ร้านเฮเว่นของเฮียหมา พัทยากลาง แต่ตอนนี้เฮียแกติดคุกอยู่ที่ปอยเปต เฮียก้านเลยบริหารงานแทน คืนนี้จะพาไปรู้จัก"
"เรื่องรับแขก อันนี้สำคัญที่สุด คือต้องป้องกันอย่างที่สุด ปลอดความเสี่ยงใด ๆ และเราจะต้องตรวจสุขภาพทุก ๆ สามเดือน" ศรีบอก
สามสาวถูกอบรมเหมือนรุ่นที่ผ่าน ๆ มา คล้ายตัวตายตัวแทน เป็นวัฎจักรเดิม ๆ
สามปีต่อมา ต้อย วิไล นงเยาว์กำลังช่วยกันหุงข้าวหม้อใหญ่ และเตรียมกับข้าวไปขายที่ตลาด เดินเข้ามา สามหญิงหันมามอง
"พี่สิงห์"
สิงห์หน้าคล้ำขึ้น แต่แข็งแรงหล่อเหลา หอบถุงเป้แบบทหารเข้ามาในบ้าน นงเยาว์วิ่งเข้ามาไหว้แล้วกอดสิงห์ไว้แน่น
"พี่สิงห์สบายดี"
"สบายดี แล้วนงล่ะ"
"ดีจ๊ะพี่ แต่ก็ต้องดูแลตัวเองตลอดไม่ให้อ่อนแอ ได้ทุกคนช่วยดูแลด้วยละ"
สิงห์เดินตามนงเยาว์เข้ามาชานบ้าน ไหว้วิไล ต้อยไหว้สิงห์
"แม่ครับ ผมกลับมาแล้ว"
"หมดทุกข์หมดโศกเสียทีนะ สิงห์"
"ครับแม่"
ต้อยบอก
"พี่ สิงห์ คิดถึงที่สุดเลย"
"ต้อย สวยขึ้นนะ"
"อยู่ที่นี่มีแต่ความสุขน่ะซี"
"ขึ้นไปไหว้แม่ก่อนดีกว่าไหม" วิไลบอก
"ดีครับ"
นางสายนอนอยู่มุมห้อง หน้าตาอิ่มเอิบขึ้น สิงห์ก้มกราบแม่ทั้งน้ำตา
"แม่ครับ สิงห์กลับมาแล้ว กลับมาดูแลแม่แล้วนะครับ จะไม่ทิ้งแม่ไปไหนอีก"
นางสายรับรู้ น้ำตาไหลพราก สิงห์จับมือแม่มากุมไว้ วิไล นงเยาว์ ต้อย มองแล้วร้องไห้ตาม
ใบพรกำลังป้อนใจสิงห์ ลูกชายหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูอยู่ใต้ต้นไม้ร่มรื่น ทุ่งข้าวเขียวขจีอยู่เบื้องหลัง ข้าง ๆ ตัวใบพร มีเบาะให้เด็กนอน ของเล่นเด็กวางเกลื่อน ใจสิงห์วิ่งจากตักแม่มาตามทางเดิน มองใครคนหนึ่ง เดินมาหา
เด็กชายเดินมาหามองจ้องนิ่ง สิงห์มองลูกชายอย่างปลื้มปิติ อุ้มเด็กขึ้นมาแล้วกอดจูบไว้แน่น
"ลูกพ่อ"
สิงห์น้ำตาไหลพราก
"พ่อกลับมาอยู่กับลูกแล้วนะ"
เด็กมองหน้าสิงห์นิ่ง สัญชาตญาณรับรู้ความเป็นพ่อ ยิ้มให้สิงห์
"พ่อ"
สิงห์สะอื้น
"รู้เหรอลูก รู้ใช่ไหมพ่อคือพ่อของหนู"
"พ่อ"
เสียง ใบพรลุกขึ้นทันที
"พี่"
ใบพรวิ่งเข้ามากอดสิงห์แน่น ร้องไห้โฮ
"ทำไมไม่บอกว่าจะกลับวันนี้ จะได้ไปรับ"
"พี่แวะไปหลายที่ รวมทั้งที่วัด ให้พระท่านให้พร เลยไม่ได้บอกก่อน"
"คิดถึงพี่ที่สุด นี่ลูกของเราจ๊ะ ใจสิงห์"
"น่ารักที่สุดเลย"
"พ่อครับ"
"รู้ด้วยว่าพี่คือพ่อเขา ทำไมน่ารักอย่างนี้"
"เขาดหมือนพี่มาก"
สิงห์หอมแก้มลูกชาย
"ใบพรอุ้มที"
สิงห์ส่งเด็กให้ใบพรอุ้ม แล้วถอดสร้อยของใบพรจากคอสวมให้เด็กชาย ใบพรมองอย่างปลื้ม
"ลูกพ่อ นี่แหละสายใยของพ่อและแม่ คำมั่นสัญญาที่เราไว้ให้แก่กัน"
"และคำมั่นสัญญาที่มีต่อลูก เราจะเลี้ยงลูกให้ดีที่สุดเลยจ๊ะ"
ใบพรหอมแก้มลูก
"ใบพร เราเริ่มต้นชีวิตใหม่แล้วนะ"
"จ๊ะ เริ่มต้นชีวิตใหม่ ชีวิตที่เราเลือกเอง"
"ใช่ ชีวิตที่เราเลือกเอง" สิงห์ว่า
สิงห์กอดใบพรและลูกไว้แนบอก ทั้งสองมองไปยังท้องทุ่งเขียวขจีเบื้องหน้า ความหวังทอดยาวอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
จบบริบูรณ์...