xs
xsm
sm
md
lg

ผัวชั่วคราว ตอนที่ 16

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผัวชั่วคราว ตอนที่ 16

ภายในบ้านเชิดศักดิ์ ดูฟองเอารูปในมือถือให้เชิดศักดิ์ดู

"ให้ดูฟองส่งให้คุณเพาเลยไหมคะ"
"ยังก่อน รอให้สถานการณ์สุกงอมกว่านี้ สองคนนี้มันลึกซึ้งกันจริงๆ ค่อยส่งไป"
"ถึงตอนนั้นคุณเพาคงอกแตกตาย"
"ให้แตกตายจริงๆ เถอะ กลัวว่าจะให้อภัยมันอีก"
"คุณเชิดยังไม่รู้จักฤทธิ์แรงหึงของผู้หญิงดี แล้วดูท่าทางคุณเพาจะไม่ใช่เล่นๆ"
"ฉันไม่เคยเจอใครหึงขนาดนั้นน่ะสิ"
ดูฟองเข้าไปกอดเชิดศักดิ์ไว้
"อยากให้ดูฟองทำบ้างไหมละคะ"
"อย่าเลยดูฟอง เป็นแบบนี้น่ะน่ารักอยู่แล้ว"
เชิดศักดิ์หยิกจมูกดูฟองเบาๆ ดูฟองซบกับเชิดศักดิ์ สีหน้าเจ้าเล่ห์

คตกริชประคองพิมพ์สนมมาถึงเตียง เธอยังไม่ยอมปล่อยเขา
"คุณพิมพ์ปล่อยผมก่อนนะครับ"
"พิมพ์เวียนหัวจังค่ะ ไม่ได้ดื่มมากขนาดนี้มานานแล้ว พิมพ์เมาแล้วแน่ๆ"
"คุณพิมพ์นอนพักก่อนนะครับ เดี๋ยวตื่นมาก็หาย"
พิมพ์สนมอ้อนๆ แบบคนเมา
"คุณกริชน่ารักจัง คุณดีกับพิมพ์จริงๆ อยู่เป็นเพื่อนพิมพ์ก่อนนะคะ"
"คุณพิมพ์พักผ่อนนะครับ ดึกแล้วผมต้องรีบกลับ"
"อย่าเพิ่งไปสิคะ อยู่ต่ออีกหน่อย...นะคะ"
พิมพ์สนมโน้มคอคตกริชลงไป เสียงไลน์ของเขาดังขึ้น
"คุณพิมพ์ ผมต้องกลับก่อนแล้วนะครับ"
คตกริชรีบออกไป พิมพ์สนมมองตามอย่างงุนงงปนเสียดาย

คตกริชเข้ามานั่งในรถ อ่านไลน์ที่ส่งมา
"ไหนบอกว่าจะกลับมาดูแล ตอนนี้อยู่ที่ไหน"
เขาระบายลมหายใจยาว เมื่อกี้เกือบพลาดไปแล้ว

ในเวลาต่อมา คตกริชเปิดประตูห้องเข้ามา เห็นลำเพาภานอนหันหลังให้อยู่
"คุณเพาหลับแล้วเหรอครับ"
"ยัง ฉันรอเธออยู่"
คตกริชเดินเข้าไปใกล้ ท่าทางเป็นห่วง
"ที่จริงไม่ต้องรอผมหรอกครับ"
ลำเพาภาหันมา มองคตกริชด้วยสายตาแปลกๆ เธอพยายามลุกขึ้น เขาเข้าไปช่วยประคอง พอลุกขึ้นมาได้ เธอก็ตบหน้าแล้วทุบตีเขาแรงๆ ด้วยความโกรธเกรี้ยว จนสายน้ำเกลือหลุด
"เธอหายไปไหนมา บอกฉันมาซิ ทำไมเพิ่งกลับมา"
เขาพยายามจับไหล่ของเธอให้หยุด
"เดี๋ยวก่อนครับคุณเพา อะไรกันครับเนี่ย ผมทำอะไรผิด"
"ตอบฉันมาสิว่าเธอหายไปไหนมา"
"ผมก็ไปที่ผับไงครับ"
"ผับเลิกตั้งแต่ตีสองแล้ว เธอไปไหนมาอีก"
คตกริชอึ้งไป ไม่แน่ใจว่าลำเพาภารู้เรื่องเขาไปส่งพิมพ์สนมหรือยัง
"ผม...ไปส่งพิมพ์สนมที่บ้าน"
เธอทุบตีเขาอีกอย่างเกรี้ยวกราด
"นั่นไงล่ะ ในที่สุดก็จนมุม คนทรยศ ทำไมถึงทำอย่างนี้ ทำไม"
"ฟังผมก่อนสิครับ คุณเพา...หยุดก่อน"
คตกริชพยายามอธิบาย แต่ลำเพาภายังทุบตี เขาจึงต้องคอยปัดป้อง เธอทุบจนหยุดหอบอย่างเหนื่อย คตกริชเข้าไปประคอง
"คุณเพาครับ"
ลำเพาปัดมือออก
"ไม่ต้องมายุ่ง"
"ผมไปส่งเขาเพราะเห็นเขา...รอรถนาน"
"ไม่ต้องมาแก้ตัว ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าให้เลิกยุ่งกับพิมพ์สนม เกี่ยวข้องกันน้อยที่สุดยิ่งดี แล้วทำไมถึงต้องไปส่งถึงบ้าน"
"ผมไม่ได้มีอะไรกับคุณพิมพ์นะครับ แค่ไปส่งเขาแล้วก็กลับมาที่นี่"
"ฉันไม่เชื่อ ถ้าคนเราไปส่งกันถึงบ้านมันต้องคิดอะไรกันแน่ๆ"
"ถ้าคุณเพาจะคิดอย่างนั้นก็ตามใจครับ ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงแล้ว"
ลำเพาภารชี้ไปที่ประตูอย่างโกรธจัด
"ออกไป! ไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้"
"ทำไมคุณไม่เชื่อผมบ้างเลย"
"บอกให้ออกไปไงล่ะ!"
ลำเพาภาหยิบของใกล้มือไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำเกลือ ผลไม้ ดอกไม้เยี่ยม ฯลฯ ปาใส่คตกริช จนเขาต้องรีบออกจากห้อง เขาออกมา ยืนพิงกำแพงอย่างอ่อนแรง ถอนใจกับตัวเอง
 
ส่วนลำเพาภาซบหน้ากับมือตัวเอง ร้องไห้ออกมาอย่างเสียใจ

ตอนสายของวันใหม่ ขณะที่พิมพ์สนมนั่งทำงาน เสียงรองเท้าส้นสูงของลำเพาภาก็เดินใกล้เข้ามา เธอลุกขึ้นยิ้มหวานอย่างดีใจ

"สวัสดีค่ะคุณเพา หายดีแล้วเหรอคะ"
ลำเพาภาชะงัก เหลือบมองพิมพ์สนมด้วยสายตาเกลียดชัง
"ถ้ายังไม่หายฉันจะมาทำงานเหรอ"
พูดจบลำเพาภาก็เข้าไปในห้อง พิมพ์สนมมองตามอย่างรู้สึกพิลึก
"วัยทองแน่ๆ"

ลำเพาภาเข้ามาในห้อง นั่งลงกุมขมับ เครียด พิมพ์สนมยกชาเข้ามา
"ชามินท์ค่ะคุณเพา พิมพ์เพิ่งได้มาใหม่ หอมชื่นใจทำให้สดชื่นด้วยนะคะ"
เธอตอบเสียงห้วน
"วางไว้ก่อน"
พิมพ์สนมรู้สึกแปลกๆ แต่ก็วางถ้วยชาไว้บนโต๊ะตามคำสั่ง ลำเพาภาหยิบถ้วยชาขึ้นมาเทลงถังขยะพิมพ์สนมตกใจ
"ทำไมคะคุณเพา"
"ฉันไม่ชอบ"
"เอ่อ...เหรอคะ งั้นไม่เป็นไรค่ะ พิมพ์จะเปลี่ยนให้ใหม่"
พิมพ์สนมทำท่าจะหยิบถ้วยชาออกไป แต่ลำเพาถามขึ้น
"เมื่อคืนกริชไปส่งเธอที่บ้านเหรอ"
พิมพ์สนมตกใจ
"คุณเพา ทราบ"
ลำเพาภาหายใจแรง แต่พยายามระงับความโกรธ
"กริชเขาเล่าให้ฉันฟังเอง"
พิมพ์สนมไม่ค่อยเชื่อนัก แต่แอ๊บใสซื่อ
"พอดีว่า...มันดึกแล้วน่ะค่ะ"
"ฉันเคยบอกแล้วไง ว่ากลับดึกก็ให้มาเบิกค่าแท็กซี่ที่ฉันได้"
"พิมพ์ก็รอแท็กซี่แล้วค่ะ แต่รอนานมาก เผอิญคุณกริชขับรถมาเห็นเข้า ก็เลยมีน้ำใจไปส่ง"
"ฉันไม่ต้องการคำแก้ตัวอะไรทั้งนั้น เธอกับกริชเป็นเพื่อนร่วมงานกัน ไม่ควรสนิทกันขนาดนั้น มันจะทำให้เสียงาน"
"แต่เราไม่ได้มีอะไรเกินเลย"
"ตอนนี้ไม่มี แต่ในอนาคตอาจจะมีก็ได้ แล้วคนที่ผับมันจะเอามาเมาท์กันจนเสียการปกครอง เข้าใจไหม"
"ค่ะๆ"
"เข้าใจก็ดี ออกไปได้แล้ว"
พิมพ์สนมหันหลังให้ลำเพาภา สีหน้าเจ็บใจสุดขีด แต่ก็เดินออกไปเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น ลำเพาภามองตามอย่างหมั่นไส้

คตกริชสีหน้าเคร่งเครียดครุ่นคิดอยู่ในมุมสวนบริษัทโฆษณา ก่อนจะโผล่ขึ้นไปบอกวิลิปดา
“พรุ่งนี้ว่างหรือเปล่าครับลิปดา”
“ทำไมคะ จะชวนไปไหน ดูหนังเหรอ”
“มากกว่าดูหนังอีกครับ”
“อะไรเอ่ย บอกมาสิคะ แล้วลิปดาจะตอบว่าว่างหรือเปล่า”
“ผมจะชวนลิปดาไปดูบ้านครับ”
วิลิปดาสีหน้าแปลกใจ นึกไม่ถึง

ภายในร้านอาหาร เชิดศักดิ์นั่งกินข้าวกับลำเพาภา มองเธออย่างเป็นห่วง
"ได้ข่าวว่าคุณเข้าโรงพยาบาลเหรอ"
"ใครบอกคุณคะ"
"โธ่...ผมเป็นหุ้นส่วนคุณนะ ทำไมจะไม่รู้ ลูกน้องผมอยู่ที่ผับเยอะแยะ คุณนั่นแหละใจดำ ไม่ยอมบอกผมเลย"
"ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากค่ะ แค่เพลียเพราะพักผ่อนไม่พอ"
"คุณต้องหัดไว้ใจคนอื่นบ้างนะคุณเพา"
"ฉันไม่ไว้ใจอะไร"
"ก็ไว้ใจให้คนอื่นทำงานแทนคุณไง คุณจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก อย่างที่ผับน่ะ คุณปล่อยกริชดูไปคนเดียวก็ได้"
"ฉันไม่ได้ไม่ไว้ใจเขา แต่ผับเพิ่งเปิดไม่นาน ลูกค้าจากคอนเน็คชั่นของฉันก็เยอะ ฉันเลยยังปล่อยไม่ได้"
เชิดศักดิ์หรี่ตามองเธอ รู้ว่าที่ปล่อยไม่ได้คือ คตกริชมากกว่า แซวขำๆ
"ปล่อยผับไม่ได้ หรือปล่อยคนไม่ได้กันแน่ครับ"
เธอถึงกับสะอึก คอแข็งเสียงแข็งขึ้นมา
"หมายความว่ายังไง"
เชิดศักดิ์มองลำเพาภาอย่างลองใจ
"ท่าทางกริชกับพิมพ์จะทำงานเข้าขากันดีนะครับ ให้สองคนนี้ช่วยคุณจะได้แบ่งเบาภาระ..."
ลำเพาเสียงดัง
"ไม่ต้อง"
เชิดศักดิ์ตกใจเล็กน้อย ไม่นึกว่าลำเพาภาจะจริงจังขนาดนี้
"แหม...ทำไมต้องเสียดังด้วย"
"ฉันไม่ชอบคนพูดจากำกวมให้ร้ายคนอื่น"
"ผมให้ร้ายยังไงครับคุณเพา ก็แค่บอกให้คุณปล่อยสองคนนั้นทำงานช่วยคุณ อย่าไปคุมเขามากเกินไปเท่านั้นเอง ดูเขาสนิทกันมากด้วย เอ๊ะ...หรือคุณหวง"
ลำเพาภาลุกขึ้น เชิดศักดิ์ดึงไว้
"ไม่เอาน่าคุณเพา ผมขอโทษ ผมแค่พูดเล่น ทำจริงจังไปได้ คุณก็รู้จักผมดีนี่"
"ฉันรู้จักคุณดีน่ะสิ ถึงรู้ว่าคุณจะพูดอะไรมันมีนัยยะซ่อนอยู่ทุกครั้ง"
"ผมบอกแล้วว่าพูดเล่น มา...นั่งลงกินข้าวต่อเถอะ จะได้คุยงานต่อด้วย ไม่เอาน่า อย่าเพิ่งงอน"
"ทีหลังอย่าพูดเล่นอย่างนี้อีกนะคะ ฉันไม่ชอบ"
"ครับๆ ไม่พูดก็ไม่พูด"

ลำเพาภานั่งกินข้าวต่อ เชิดศักดิ์แอบโล่งใจ
 
อ่านต่อหน้า 2

ผัวชั่วคราว ตอนที่ 16 (ต่อ)

หน้าผับตอนค่ำ คตกริชดูแลต้อนรับลูกค้าในผับอยู่ พอมองไปก็แปลกใจ เมื่อเห็นพิมพ์สนมนั่งดื่มอยู่ด้านหนึ่ง จึงเดินเข้าไปหา

"คุณพิมพ์ทำไมมานั่งดื่มอยู่คนเดียว"
"วันนี้ฉันมาในฐานะลูกค้า นั่งดื่มเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิคะ"
คตกริชนั่งลง มองพิมพ์สนมอย่างพิเคราะห์
"มีเรื่องเครียดเหรอครับ"
"เรื่องคุณเพานั่นแหละค่ะ"
"คุณเพาพูดอะไรกับคุณพิมพ์"
"เขาเตือนเรื่องพิมพ์กับคุณค่ะ บอกว่าอย่าสนิทกันมากจะทำให้เสียงาน"
"ผมขอโทษนะครับ ที่ทำให้คุณเดือดร้อน"
"ช่างมันเถอะค่ะ คุณกริช ไอ้ของอย่างนี้มันต้องมีบ้างในอารมณ์คนวัยอย่างคุณเพา เขาคงไม่รู้ตัวว่าแสดงท่าทางหึงหวงออกมา"
คตกริชนิ่ง พิมพ์สนมมองเขาด้วยท่าทางเหมือนเพื่อนผู้เข้าใจเขาจริงๆ
"คุณกริชไม่ต้องห่วงเรื่องนี้หรอกค่ะ พิมพ์ไม่คิดอะไรอยู่แล้ว พิมพ์เข้าใจคุณ"
"ผมจะระวังไม่ให้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นอีก"
"เราก็ไม่ต้องพูดกัน ไม่ต้องทักทายกัน มันเรื่องอะไรที่เราจะต้องอยู่ใต้อำนาจถึงขนาดนั้น พิมพ์ถือว่าพิมพ์ต้องมีข้อต่อรองกับนายจ้างได้ พิมพ์ถึงจะทำงานด้วย"
"คุณไม่กลัวตกงานเหรอ"
"บริษัทเสื้อผ้าดังๆ ของเมืองนอกสองสามแห่ง เคยติดต่อพิมพ์ไปทำงานด้วย แต่พิมพ์ไม่ได้ตอบรับเพราะเห็นว่าทำงานกับคุณเพารู้ใจกันแล้ว และเงินเดือนที่นี่ก็โอเคอยู่"
"ผมไม่อยากให้เรื่องนั้นเกิดขึ้นอีก มันไม่ดีกับทุกฝ่าย"
พิมพ์สนมถามด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง
"ว่าแต่...คุณกริชไปทำยังไงเข้า คุณเพาถึงได้หวงคุณอย่างนั้น"
คตกริชรีบปฎิเสธ
"เปล่านี่ครับ คุณเพาคงไม่ได้หวงผม แต่หวงคุณมากกว่า"
"คงไม่ใช่มั้งคะ คุณเพาเอาฉันไว้ใช้งานเท่านั้นล่ะค่ะ"
คตกริชนิ่งไป พิมพ์สนมลอบมองสีหน้า พยายามเดาความรู้สึกของเขา

ลำเพาภาออกจากห้องน้ำในห้องนอน เธอหยิบมือถือขึ้นมาดู พึมพำกับตัวเอง
"เธอจะไม่ง้อฉันหน่อยเหรอกริช"
เธอวางมือถือลงอย่างอารมณ์เสีย

ภายในบ้านเชิดศักดิ์ ดูฟองเอารูปในมือถือให้เชิดศักดิ์ดู
"วันนี้คตกริชก็ไปส่งนังเลขาแอ๊บแบ๊วอีกแล้วค่ะ หรือว่าเขาสองคนชอบกันจริงๆ"
"ยังไงก็ผ่านด่านคุณเพาไปไม่ได้หรอก"
"คุณเชิดคิดอย่างนั้นเหรอคะ"
"ฉันลองแหย่ดูแล้ว ท่าทางคุณเพาจะหึงแรงเป็นบ้า"
"นี่ขนาดยังไม่ได้ส่งรูปไปให้ดูนะคะ แสดงว่าคุณเพาได้กลิ่นอยู่แล้ว"
"ยั่วพิมพ์สนมแล้ว ลองยั่วคตกริชบ้างสิ"
"ให้ดูฟองยั่วเหรอคะ"
"ใช่ ยั่วกริชเพื่อให้พิมพ์สนมหึง ผู้หญิงหึงก็จะยิ่งแสดงความเป็นเจ้าของมากขึ้น เหมือนกับลำเพาภา คราวนี้พอเกิดศึกระหว่างสองคนนั้นเธอก็ค่อยชิ่งออกมา แล้วคนที่จะอยู่ไม่ได้ก็คือคตกริช"
"คุณเชิดแผนล้ำลึกอีกแล้ว"
ดูฟองกับเชิดศักดิ์มองหน้ากันยิ้มกริ่ม

วันใหม่ คตกริชพาวิลิปดาเดินดูบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านจัดสรร
"ทำไมถึงคิดจะซื้อบ้านละคะ"
"เพื่อนที่เช่าบ้านอยู่กับผมเค้ากลับต่างจังหวัดไปแล้วครับ ผมเลยต้องจ่ายค่าเช่ามากขึ้น เลยคิดว่าเอาค่าเช่ามาซื้อบ้านดีกว่า จะได้ลงหลักปักฐานซะที ลิปดาชอบหลังนี้ไหมครับ"
"ชอบค่ะ ถึงจะเป็นบ้านมือสอง แต่เจ้าของเดิมก็รักษาไว้ดี ไม่โทรม ทำเลก็ใช้ได้ ไม่ไกลจากออฟฟิศเราด้วย"
"ถ้าลิปดาชอบผมก็จะเก็บเงินซื้อบ้านหลังนี้ให้ได้"
"จะเลือกตามฉันเลยเหรอคะ"
"อีกหน่อยลิปดาก็ต้องมาอยู่ที่นี่ด้วยนี่ครับ"
วิลิปดาทุบเขาเบาๆ
"แหม...ยังไม่ทันไรเลย"
"ผมไม่อยากให้ลิปดาลำบากนี่ครับ ผมลำบากคนเดียวก็พอ"
วิลิปดาซาบซึ้ง
"ขอบคุณมากนะคะกริช"

ทั้งสองคนเดินจูงมือกันไปอย่างมีความสุข

ภายในร้านอาหาร อธิปนั่งกินข้าวอยู่กับลีน่าด้วยสีหน้าเคร่งเครียดจนลีน่าสังเกตเห็น

"มีอะไรรึเปล่าจ๊ะอธิป ทำไมทำหน้าแบบนั้น"
"คือว่า.. เอ่อ เปล่าครับ ไม่มีอะไร"
"บอกฉันมาเถอะ"
อธิปแกล้งตีหน้าเศร้าเล่นละครหลอกลีน่า
"ผมต้องออกจากบ้านเช่าแล้วครับ เจ้าของบ้านบอกว่ามีคนมาเช่าใหม่ให้เงินมากกว่าผมหลายเท่า เงินมากขนาดนั้นผมคงไม่มีปัญญาจ่ายหรอกครับ ช่วงนี้ ผมก็ไม่ได้ทำงานที่บาร์แล้วด้วย ตั้งแต่เจอคุณลีน่า ผมก็อยากหยุดชีวิตกลางคืนแล้วมาใช้ชีวิตเหมือนคู่รักทั่วไป ผมไม่อยากฝืนใจไปกับลูกค้าคนอื่นอีกแล้ว ช่วงรอคอนโดสุขุมวิทตกแต่งเสร็จ ถ้าไม่ได้มาอยู่กับคุณลีน่า ผมคงไปขอนอนห้องรับแขกบ้านเพื่อนก่อนครับ"
ลีน่าสงสาร
"โถ...งั้นเธอย้ายมาอยู่คอนโดที่บางนาพรุ่งนี้เลย"
"คุณลีน่าจะยกคอนโดที่บางนาให้ผมด้วยเหรอครับ"
"เธอดีกับฉันขนาดนี้ ทำไมจะให้ไม่ได้ล่ะ"
อธิปดีใจสุดขีด รีบเอาใจลีน่า
"คุณลีน่าอยากให้ผมทำอะไรบอกได้เลยนะครับ ผมจะทำให้ทุกอย่างเพราะ ชีวิตของผม ผมตัดสินใจมอบให้กับคุณลีน่าแล้วครับ"
ลีน่าปลื้ม อธิปยิ้มดีใจที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน

ลำเพยพรรณรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้าน รถของลำเพาภาแล่นเข้ามา เธอมองแปลกใจและดีใจ แล้วก็รีบไปเปิดประตูรั้วให้รถของพี่สาวแล่นเข้ามา ลำเพาภาลงจากรถ ถอดแว่นกันแดดออก
"พี่เพา จะมาทำไมไม่โทร.บอกก่อน"
"พอดีมาช้อปปิ้งแถวนี้เลยแวะมา เดาไม่ผิดเลยจริงๆ ว่าเธอต้องอยู่บ้านแล้วลิปดาล่ะ"
"ออกไปข้างนอกค่ะ เห็นบอกว่าจะไปดูบ้านกับแฟน"
ลำเพาภาสีหน้าแปลกใจ

จังหวะนั้น คตกริชขับรถมาถึงหน้าบ้านวิลิปดาพอดี เธอมองไปเห็นรถลำเพาภาจอดอยู่
"แปลกจัง วันนี้แม่มาด้วยค่ะ"
คตกริชมองไป เห็นรถลำเพาภาแต่ไม่เห็นเลขทะเบียน
"กริชเข้าไปด้วยกันนะคะ ลิปดาจะได้แนะนำให้แม่รู้จัก"
"ไว้วันหลังดีกว่านะครับ วันนี้คุณแม่อาจจะอยากคุยกับลิปดา"
"ไม่เห็นเป็นไรเลยค่ะ เข้าไปเดี๋ยวเดียว คุณแม่ไม่ซักยาวอย่างน้าพรรณหรอกค่ะ"
"แต่วันนี้ผมยังไม่สะดวกจริงๆ ต้องรีบไปที่ผับด้วย กลัวจะไม่ทัน"
"อ๋อ...งั้นโอเคค่ะ แล้วเจอกันนะคะ"
วิลิปดาลงจากรถแล้วเปิดประตูเข้าบ้าน คตกริชขึ้นรถขับออกไป

วิลิปดาเข้ามาในบ้าน ลำเพยพรรณนั่งอยู่คนเดียว
"กริชมาส่งเหรอลิปดา"
"ค่ะ"
"น่าจะพาเข้ามาแนะนำกับแม่หน่อย"
"เผอิญกริชต้องรีบกลับไปทำงานต่อค่ะ"
"แม่เขานั่งทำงานอยู่ในสวน ไปหาหน่อยซิจ้ะ"
วิลิปดามองไปก่อนเดินไปหา ลำเพาภาซึ่งนั่งเช็คเมลในไอแพดอยู่หันมา
"กลับมาแล้วเหรอลิปดา เห็นน้าพรรณบอกว่าจะซื้อบ้าน"
"เปล่าค่ะ แฟน...ลิปดาเขาจะซื้อ"
"แสดงว่าเขาจริงจังแล้วใช่ไหม"
"เขาซื้ออยู่เองน่ะค่ะ"
"วันหลังพามาให้รู้จักหน่อยนะจ๊ะ อยากรู้ว่าผู้ชายที่เอาชนะพีได้เป็นยังไง"
"เขาสู้พี่พีไม่ได้หรอกค่ะ แต่อยู่กับเขาแล้วสบายใจ คุยกันรู้เรื่อง"
"คิดจะแต่งงานกับเขาหรือเปล่า"
วิลิปดามองลำเพาอย่างแปลกใจ
"ยังอีกนานค่ะ"
"แต่คิดใช่ไหม"
"ยังไงเราก็ต้องทำงานเก็บเงินกันอีกหลายปีก่อนจะแต่งงานค่ะ"
ลำเพาภาจับน้ำเสียงวิลิปดาได้ เหมือนไม่อยากให้ใครไปแตะต้องโลกส่วนตัวของเธอ
"อายุเท่านี้ก็ไม่ถือว่าเด็กเกินกว่าจะคิดเรื่องนี้หรอกนะ เรียนจบมีงานมีการทำแล้ว"
วิลิปดาแปลกใจที่ได้ยินลำเพาภาพูดแบบนั้น
"แต่ไอ้ที่จะกอดคอกันต่อสู้นั่นไม่จำเป็นเลย มันหมดสมัยไปแล้ว กว่าจะเก็บเงินแต่งงานกันได้ก็คงแก่กันพอดี"
ลำเพาภามองวิลิปดาอย่างครุ่นคิดก่อนจะตัดสินใจพูด
"ถ้าคนนี้คือคนที่ใช่ อยู่กับเขาแล้วมีความสุข ถ้าตัดสินใจเลือกคนนี้แน่นอนแล้ว เรื่องบ้านแม่จะรับผิดชอบให้เอง"

วิลิปดามองลำเพาภาอย่างรู้สึกผิดคาดขึ้นไปอีก ไม่นึกว่าจะมีข้อเสนอให้เธอขนาดนี้
 
อ่านต่อหน้า 3

ผัวชั่วคราว ตอนที่ 16 (ต่อ)

คตกริชอยู่ในฟิตเนสกับอธิป

"กูจะย้ายไปอยู่คอนโดคุณลีน่าแล้วนะ มึงหาบ้านได้หรือยัง"
"เจอถูกใจแล้ว ลิปดาก็ชอบ แต่แพงไปหน่อย กลัวผ่อนไม่ไหว"
"มึงนี่ไม่รู้จักทางลัดซะเลยว่ะ"
"ทางลัดอะไร"
"ก็คุณเพาไง มึงน่าจะกอบโกยจากคุณเพาให้มากๆ ในเมื่อคุณเพากำลังหลงมึงจนลืมหูลืมตาไม่ขึ้นอยู่แล้ว ตอนนี้กูมีกูก็กอบโกยให้ตัวเองเต็มที่ คนเราน่ะโว้ย ถึงที่สบายมันต้องเอาความสบายไว้ก่อน ใครจะไปรู้ล่ะว่าวันข้างหน้าดวงไม่เล่นด้วย เราอาจจะกลับไปตกยากเหมือนเมื่อก่อนก็ได้"
คตกริชถอนหายใจ
"กูเคยบอกแล้ว ว่าไม่อยากเอาจากเขามากเกินไป ของฟรีมันไม่มีในโลก"
"มึงก็ตอบแทนเขาจนเขาพอใจ แล้วค่อยชิ่งหนีดิวะ หรือไม่ถ้าคุณเพาไปเจอผู้ชายที่ถูกใจกว่ามึงเข้า เชื่อเถอะ...มึงต้องถูกเขี่ยทิ้งเหมือนรองเท้าเน่าๆ มึงจะรอให้วันนั้นมาถึงโดยที่ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยเหรอ"
คตกริชคิดหนัก อธิปตบบ่าคตกริชเบาๆ
"มึงคิดให้ดี...กริช เวลาเจ็บปวดน่ะไม่มีใครช่วยแบ่งไปได้หรอก ฉะนั้น ต้องทำให้ชีวิตสมหวังมากๆหน่อย มันจะได้ไปทดแทนเวลานั้น"
คตกริชมองหน้าอธิปอย่างเริ่มคล้อยตาม

ลำเพาภาออกมาที่รถ พอจะขึ้นรถ เสียงไลน์ดังขึ้น เธอหยิบขึ้นมาดู สีหน้าดีใจ
"คุณเพาหายดีหรือยังครับ ผมขอโทษถ้าทำอะไรให้ไม่พอใจ แต่ขอยืนยันว่า ผมกับพิมพ์สนมไม่มีอะไรเกินกว่าเพื่อนแน่นอน เป็นห่วงนะครับ...กริช"
ลำเพาภายิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีขึ้น เงื้อมือจะไลน์ตอบ แต่แล้วก็ชะงัก
"เธอต้องพิสูจน์ตัวเองให้มากกว่านี้นะกริช"
ลำเพาภาพิมพ์อะไรบางอย่างกลับไป

ภายในบ้าน ลำเพยพรรณอุทานอย่างแปลกใจ
"อะไรนะ แม่เราน่ะเหรอจะซื้อบ้านให้ ก็...ยังไม่รู้จักมักจี่กันเลยนี่นา ทำไมพูดอย่างนั้นออกมาได้ เดี๋ยวเขาจะคิดว่า เป็นฝ่ายเอาลูกสาวไปประเคนเขาน่ะ ไม่ว่า"
"หนูก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ น้าพรรณ จะว่าลองใจก็ไม่ใช่ เขาอาจรู้สึกอยากจะให้เพื่อชดเชยเรื่องที่ผ่านมาก็ได้"
"แต่วิธีนี้มันไม่ถูก การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ ลิปดาไม่มีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจตามลำพัง มันต้องขึ้นอยู่กับการรู้เห็นของผู้ใหญ่หลายฝ่าย แล้วอย่างนี้มิเสียหายแย่เหรอ"
วิลิปดาคิดหนัก

คตกริชขับรถมาถึงหน้าบ้านลำเพาภา แล้วเข้าไปในบ้านเธอด้วยท่าทางรีบร้อน เปิดประตูเข้ามาในห้อง สีหน้าร้อนใจ
"คุณเพาครับ เป็นยังไงบ้าง"
ลำเพาภาซึ่งหันหลังให้เขาแอบยิ้มดีใจ เขาเข้ามาใกล้
"อาการแย่ลงอีกเหรอครับ"
ลำเพาภาค่อยๆ หันมา สีหน้าเปลี่ยนเป็นอ่อนระโหย
"นึกว่าเธอจะไม่มาซะแล้ว"
"พอเห็นไลน์ก็รีบมาเลยครับ"
ลำเพาภาจะลุกขึ้น คตกริชช่วยประคองขึ้นมา
"แล้วตอนนี้ใครดูผับล่ะ"
"วันนี้ไม่ค่อยมีอะไรมาก เลยให้พลดูแทนครับ"
"ฉันดีใจที่เธอเป็นห่วงฉัน"
"คุณเพาดีกับผมมาก ผมเป็นห่วงคุณเพาเสมอ"
"ฉันอยากได้ยินคำอื่นบ้าง นอกจากเป็นห่วง"
คตกริชเข้าใจความหมาย
"ผม...ยังไม่พร้อมที่จะพูดกับใครครับ"
"แม้แต่ฉันเหรอ"
"ผมจะพูดเมื่อผมมั่นใจจริงๆ ครับ"
ลำเพาภาสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้าเข้าใจ
"เอาละ ฉันจะไม่บังคับเธอ จนกว่าจะถึงเวลา แต่วันนี้ฉันทำอะไรบางอย่างเพื่อเธอ แล้วเธอก็ไลน์มาพอดี เราคงคิดอะไรตรงกัน"
"อะไรครับคุณเพา"
"ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ แต่ขอให้เธอรับรู้แค่ว่าฉันทำเพื่อเธอทั้งหมด เพื่อเราจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน"

เธอกอดเขาไว้ เขารู้สึกผิดและสับสน

หน้าบริษัทโฆษณา ตอนสาย วิลิปดากับคตกริชถือแก้วกาแฟคนละใบ นั่งดื่มไปคุยไป

"ทายสิคะว่ามีข่าวดีอะไร"
"ข่าวดี จะว่าได้เงินเดือนขึ้นก็ยังไม่สิ้นปีเลย"
"ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกค่ะ แต่เป็นเรื่องอื่น"
"เดาไม่ถูกหรอก"
"แม่ลิปดาสนับสนุนให้เราแต่งงานกันค่ะ แถมไม่เห็นด้วยที่เราต้องเหนื่อยยากเก็บเงินซื้อบ้าน เรื่องนี้ท่านจะจัดการให้เองค่ะ"
คตกริชมองวิลิปดาอย่างงงงัน
"ลิปดา"
"ท่านเป็นคนแปลกๆ นะคะ แต่พูดจริงทำจริง"
คตกริชกลับนิ่งเฉย ไม่รู้สึกยินดีอะไร
"ถ้ามันง่ายอย่างนั้นก็ดีน่ะซี่ ลิปดา ผมกลัวว่ามันจะมีอะไรแอบแฝง"
วิลิปดาสีหน้าสลดลง
"หมายความว่ายังไงคะกริช"
"คุณแม่ท่านไม่เคยเห็นผมมาก่อน เราไม่คุ้นเคยกัน คนเป็นแม่ย่อมไม่เสี่ยงให้ลูกแต่งงานกับคนที่ท่านไม่รู้จักหรอก ท่านอาจจะลองใจผมก็ได้"
"ลองใจคุณทำไมคะกริช"
"ผมจน คุณแม่คุณอาจจะคิดว่า ผมต้องตะครุบโอกาสนั้นทันทีที่ท่านเสนอ"
วิลิปดาอึ้งไป มืออ่อนจนตกลงข้างตัว
"ไม่งั้นมันแปลกนะครับ ที่จู่ๆ ท่านก็เสนอซื้อบ้านให้ ชีวิตผมนี่...ไม่เคยผ่านอุปสรรคอะไรง่ายๆ ก็เลยคิดว่าเรื่องนี้มันไม่น่าง่าย"
วิลิปดาหน้าเครียดคิดตามที่คตกริชพูด
"ไม่ใช่ผมไม่เชื่อแม่คุณนะ เพียงแต่เราต้องรอบคอบ ผมไม่อยากให้ผู้ใหญ่เห็นว่าเราไม่ต่อสู้อะไรเลย คุณรอผมได้ไม่ใช่เหรอ"
คตกริชจับมือวิลิปดาบีบเบาๆ
"รอได้สิคะ เรายังมีเวลา"
"ผู้ใหญ่อาจจะไม่เข้าใจเรา แต่ผมรู้ว่า...ผมพิสูจน์ตัวเองได้ด้วยการกระทำไม่ใช่คำพูด"
วิลิปดาซบลงกับไหล่ของคตกริช พยายามให้กำลังใจเขาและตัวเอง

ภายในสวน ลำเพยพรรณโวยวายกับลำเพาภา
"พี่เพาเห็นพรรณเป็นอะไรค่ะ ทำไมไม่ปรึกษาพรรณสักคำ"
"พี่ก็เห็นว่าเด็กมันรักใคร่ชอบพอกัน ทั้งคู่ก็โตแล้วนะ เรียนจบมีงานทำแล้ว อย่าไปขัดขวางเลย อย่าลืมว่าเรื่องมีอะไรกันก่อนแต่งเดี๋ยวนี้เป็นเรื่องธรรมดา เด็กมันเจอกันทุกวัน แล้วยัยลิปดาก็ดูรักเขามาก เขาพูดคำเดียวก็เชื่อแล้ว"
"พรรณเชื่อใจหลานของพรรณ ลิปดาไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายชิงสุกก่อนห่ามหรอกค่ะ จู่ๆพี่เพาก็จะมายกให้คนที่ยังไม่เคยแม้แต่เห็นหน้า"
"พี่หวังดีนะ แต่งงานแล้วให้เขามาอยู่ในสายตาเราจะดีกว่า"
"พี่เพาน่ะคิดง่ายๆ พรรณไม่อยากให้ลิปดาพลาดต้องเร่ร่อนหย่าทางโน้น แต่งทางนี้"
"เธอจะห้ามได้ยังไง ลิปดาน่ะดื้อจะตายไป"
"พี่เพาคงผิดหวังแย่ ถ้าพรรณจะบอกว่าผู้ชายเขาไม่รับความปรารถนาดีที่พี่เพาใส่ถาดไปประเคนหรอกค่ะ"
ลำเพาภาอึ้งไปนิดหนึ่ง ก่อนกระชากเสียงห้วน
"ทำไม"
"เขาอยากต่อสู้ของเขาเองสิคะ"
เธอพูดอย่างดูถูก
"ต้องทำงานอีกกี่ปีกี่ชาติล่ะถึงจะซื้อได้ ฉันจะพูดกับลิปดาเอง"
ลำเพยพรรณมองอย่างไม่สบายใจ กลัวทะเลาะกันอีก

วิลิปดากลับมาจากทำงาน ลำเพาภาเอ่ยปากพูดด้วยสีหน้าหงุดหงิด
"ลิปดา ขอคุยอะไรด้วยหน่อย"
"เรื่องบ้านใช่ไหมค่ะ เรา...ยังไม่ได้รีบร้อนอะไร รอไปก่อนจะดีกว่าค่ะ"
"ทำไมถึงเห็นความหวังดีของคนอื่นไม่มีค่า"
วิลิปดามองแม่อย่างรู้ว่า แม่น้อยใจ
"ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ แต่เราอยากจะต่อสู้ด้วยตัวเองมากกว่า แฟนลิปดาเขาอยากพิสูจน์ตัวเองค่ะ"
"เขาบอกเราอย่างนั้นเหรอ"
"ค่ะ เขาตั้งใจจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า เขาแต่งกับลิปดาเพราะความรัก ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สมบัติของใครทั้งนั้น"
ลำเพาภายิ้มหยันๆอย่างดูถูก
"ฟังดูดีจริงๆ ชักอยากจะเห็นหน้าผู้ชายคนนี้แล้วซิ"

ลำเพาภาไม่เชื่อว่า ผู้ชายคนนี้จะดีจริงอย่างที่ลูกสาวพูด
 
อ่านต่อหน้า 4

ผัวชั่วคราว ตอนที่ 16 (ต่อ)

วันใหม่ ภายในร้านอาหาร ลำเพาภาตักกับข้าวให้คตกริชอย่างเอาใจ

"หมู่นี้เราไม่ค่อยมีเวลากินข้าวด้วยกันเลย เสาร์อาทิตย์เธอก็ไม่ค่อยว่าง"
"ช่วงนี้ผมกำลังหาบ้านครับ"
ลำเพาภามองคตกริชอย่างแปลกใจ
"อยากได้บ้านเหรอจ๊ะกริช"
"ครับ เพื่อนผมย้ายออกจากบ้านเช่าไปหมดแล้ว ถ้าผมต้องเช่าอยู่คนเดียว ก็สู้เอาค่าเช่ามาผ่อนบ้านดีกว่า"
"ถ้าอยากได้บ้าน วันหลังไปดูด้วยกันก็ได้ ขาดเหลืออะไรฉันจะช่วย"
คตกริชมองหน้าเธออย่างนึกไม่ถึง
"คุณเพา...คุณเพาจะซื้อบ้านให้ผมจริงๆ เหรอครับ"
"ทำไมจะซื้อไม่ได้ล่ะ ถ้ากริชอยากได้บ้านจริงๆ เธออยากได้จริงๆเหรอ"
"ครับ แต่ก็ต้องมีเงินดาวน์ก้อนนึงด้วย"
"ราคาเต็มเท่าไร"
"ห้าล้านห้าครับ"
"ที่เท่าแมวดิ้นตายน่ะสิ"
"ห้าสิบตารางวาครับ ผมอยู่คนเดียวไม่ต้องใหญ่โตมากก็ได้"
"งั้นอาทิตย์หน้าฉันว่าง เราไปดูด้วยกัน"
คตกริชดีใจปนสับสน
"คุณเพา...ดีกับผมจนผมไม่รู้จะตอบแทนในความกรุณาได้ยังไง"
ลำเพาภาซบกับไหล่ของคตกริช
"แค่เธอดีกับฉัน จริงใจกับฉันให้มากเหมือนอย่างที่ฉันให้เธอก็พอแล้วละกริช เธอทำได้ไหม"
คตกริชรู้สึกผิด ไม่กล้าตอบลำเพาภา แต่เธอโกรธที่เขาไม่พูดอะไร พาลระแวงเรื่องพิมพ์สนม
"ไม่ได้เหรอ เธอจริงใจกับฉันไม่ได้เหรอคตกริช!"
คตกริชจำใจ
"ได้ ได้ครับคุณเพา"
ลำเพาภายิ้ม
"ฉันพยายามหาทางสนับสนุนให้เธอก้าวเข้ามาเป็นอะไรก็ได้ที่จะทำให้เราเดินไปด้วยกันในอนาคตโดยไม่มีข้อตำหนิ ฉันซื้อบ้านให้เธอ ฉันก็มีข้อแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับผู้หญิงของเธอด้วย"
คตกริชผละออกมาจากลำเพาภาอย่างตกใจ นึกว่าเธอรู้เรื่องวิลิปดาแล้ว
"ตัดพิมพ์สนมออกไปเสีย ฉันไม่ต้องการให้เธอมีเขาอีกต่อไป"
คตกริชแอบโล่งใจ
"ผมไม่ได้คิดอะไรกับเขาอยู่แล้วครับ"
ลำเพาภายิ้มอย่างพอใจ

ภายในฟิตเนส อธิปยกดัมเบลไปด้วย ขณะให้คำแนะนำกับคตกริช
"มันจะไปยากอะไรวะกริช ในเมื่อเขาเข้าใจแบบนั้น เขามานั่งอยู่ในหัวใจของมึงได้ที่ไหน"
"กูโกหกไม่เก่ง กลัวพูดออกไปแล้วหน้าตามันไม่เป็นอย่างที่พูดน่ะซี่...เฮ้อ..."
"หัดโกหกไว้มากๆ เหอะ อย่าทำตัวเป็นพ่อพระเลยวะกริช อีกหน่อยมึงจะชินไปเอง"
"มึงไม่รู้นิสัยคุณเพา คนอย่างคุณเพาน่ะทำอะไรให้ใครเดาได้ซะที่ไหน"
"หรือว่ามึงจะกลับไปรับข้อเสนอของแม่ยาย ทั้งที่มึงปฏิเสธไปแล้ว"
"ใครจะไปรู้ ว่าแม่ของลิปดาลองใจหรือเปล่า เกิดผู้ใหญ่เขารู้ว่าจริงๆแล้ว เราไม่มีอะไรเลย แต่งงานกับลิปดาหวังสมบัติของเขา พอดีมองหน้ากันไม่ติด"
อธิปตบไหล่คตกริช
"แต่กูแนะนำนะเพื่อน เชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามใจ คุณเพาให้มึงได้อยู่แล้ว มึงเลือกทางคุณเพาไว้ไม่เสียหลายหรอก มึงเป็นแค่ผัวชั่วคราวของเขา อายุขนาดคุณเพานี่เกือบจะเป็นแม่มึงได้เลยนะเว้ย ยังไงเค้าต้องตายก่อนมึงแน่ๆ ยิ่งเขาไม่มีลูกมีหลาน เผลอๆ มึงได้สมบัติจากเขา รวยไม่รู้ตัวเลยว่ะ ฮ่าๆๆ"
คตกริชมองอธิปอย่างรู้สึกขนลุก

ห้องฝ่ายบุคคล บ.โฆษณา แป๋มเงยหน้าขึ้นถามคนตรงหน้า
"มาสมัครงานตำแหน่งอะไรคะ"
อุ๋ยซึ่งแต่งตัวเรียบร้อยยืนต่อหน้าแป๋ม
"ตำแหน่งพีอาร์ค่ะ"
"ตอนนี้เรายังไม่รับนะคะ"
"ขอกรอกใบสมัครทิ้งไว้ก่อนได้ไหมคะ เผื่อมีตำแหน่งว่างจะได้เรียกมาเลย อุ๋ยอยากทำงานที่นี่ค่ะ"
"ได้ค่ะ" แป๋มหยิบใบสมัครยื่นให้ "งั้นกรอกใบสมัครไว้นะคะ ไปนั่งกรอกข้างหน้าได้เลยค่ะ"
"ขอบคุณค่ะ"

อุ๋ยเดินออกไป ยิ้มกริ่มกับตัวเอง

อุ๋ยทำทีเป็นกรอกใบสมัคร แต่สอดส่ายสายตามองหาใครบางคน แต่ยังไม่เห็น อุ๋ยกลับมากรอกใบสมัครต่อ พอได้ยินเสียงคนคุยกันดังเข้ามา อุ๋ยก็ลุกขึ้นมองไป เห็นคตกริชกับวิลิปดาเดินคุยกันเข้ามา

"เดี๋ยวเราชวนแป๋มไปกินซูชิกันดีกว่า เห็นบ่นอยากมาหลายวันแล้ว"
"ได้ครับ"
ทั้งสองเดินใกล้เข้ามา อุ๋ยรีบหลบวูบ ทำเป็นก้มหน้าก้มตาเขียนใบสมัคร
วิลิปดากับคตกริชเคาะประตูห้อง
"แป๋ม ไปกินข้าวกัน วันนี้กินซูชินะ"
"โอเคได้เลย"
อุ๋ยมองไป แล้วรีบเปลี่ยนที่นั่งเป็นหันหลังให้ แป๋มเดินออกมา พอเห็นอุ๋ยยังนั่งเขียนใบสมัครอยู่
"อ้าว...ลืมไป เดี๋ยวรอน้องเขาเขียนเสร็จก่อน มีอะไรสงสัย หรือเปล่าคะ"
อุ๋ยดัดเสียงไม่ให้คตกริชจำได้
"ไม่มีค่ะ พี่ไปทานข้าวเถอะค่ะ เดี๋ยวเขียนเสร็จแล้วหนูวางไว้ตรงนี้"
"เขียนให้เสร็จก่อนดีกว่า ใบสมัครเป็นความลับ พี่ไม่อยากให้คนอื่นมาเห็น เดี๋ยวพี่รอ" แป๋มบอกกับคตกริชและลิปดา "รอแป๊บนึงนะ"
ทั้งคู่พยักหน้าว่ารอได้ แต่แล้วคตกริชมองอุ๋ยอย่างรู้สึกคุ้นๆ
"เอ๊ะ...คุณ"
คตกริชจะเข้าไปมองหน้าอุ๋ยใกล้ๆ อุ๋ยตกใจ รีบหลบไม่ให้คตกริชเห็นหน้า แล้วรีบยื่นใบสมัครคืนให้แป๋ม
"เสร็จแล้วค่ะ หนูไปก่อนนะคะ"
อุ๋ยยกมือไหว้ทั้งสาม แล้วรีบก้มหน้าก้มตาหลบออกไป คตกริชมองตามสงสัย
"เดี๋ยวครับ"
อุ๋ยไม่ฟัง พรวดออกไปทันที วิลิปดาถามคตกริชอย่างงงๆ
"มีอะไรคะกริช"
"เปล่าครับ ผมแค่คุ้นหน้าน้องคนนั้น เหมือนเพื่อนผมคนนึง"
"เหรอคะ ท่าทางเขาจำกริชไม่ได้"
"หรือผมอาจจะจำผิดก็ได้"
"งั้นเดี๋ยวฉันเอาใบสมัครไปเก็บก่อนนะ" แป๋มบอก
แป๋มเข้าห้องไป คตกริชยังไม่วายมองตามอย่างสงสัย

ทั้งสามเดินออกมา อุ๋ยหลบอยู่ มองตามคตกริชกับวิลิปดาอย่างมีแผนการณ์บางอย่าง

วิลิปดาเดินเข้าห้องน้ำ กำลังล้างมือในห้องน้ำ ใครคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามา มองวิลิปดาผ่านทางกระจก เธอรู้สึกตัวจึงมองกลับ เห็นอุ๋ยยิ้มให้
"คุณเป็นแฟนคุณกริชเหรอคะ"
วิลิปดาชะงัก มองหน้าอุ๋ยผ่านกระจกอย่างงุนงง
"คุณ...ที่มาสมัครงานเมื่อกี้ใช่ไหมคะ"
"ใช่ค่ะ ที่จริงฉันรู้จักคุณกริชนะคะ แต่ไม่กล้าทักเขา"
"ทำไมละคะ"
"เพราะฉันรู้จักเบื้องหลังเขาดีค่ะ"
"เบื้องหลัง? หมายความว่ายังไง"
"นี่คุณไม่รู้จักแฟนตัวเองเลยเหรอ"
"ฉันเพิ่งรู้จักเขาไม่นาน"
"งั้นฉันจะบอกให้เอาบุญนะ ว่าคุณกริชเคยทำงานในบาร์ผู้ชายขายตัว"
วิลิปดาอึ้งไปอย่างนึกไม่ถึง
"อะไรนะ"
"ไม่เคยรู้มาก่อนใช่ไหมล่ะ แล้วอีกอย่างที่ยิ่งกว่านั้นนะ เขามีผู้หญิงแก่คราวแม่เลี้ยงดูอยู่ด้วย"
"ไม่จริง คุณใส่ร้ายเขาหรือเปล่า คุณเป็นใครกันแน่"
"ฉันพูดเรื่องจริงทั้งหมด ไม่เชื่อไปสืบประวัติของเขาดูสิ คุณเคยไปบ้านเขาหรือยังล่ะ"
"แล้วทำไมฉันต้องเชื่อคุณ"
"จะไม่เชื่อก็ได้ แต่ลองแอบไปดูที่ผับเขาดูนะ แล้วคุณจะรู้ว่าที่ฉันพูดน่ะ จริงหรือเปล่า"

อุ๋ยเดินออกไปพร้อมกับรอยยิ้มเยาะนิดๆ วิลิปดามองอุ๋ยอย่างไม่เชื่อนัก แต่ก็อยากลองดู
 
อ่านต่อตอนที่ 17
กำลังโหลดความคิดเห็น