xs
xsm
sm
md
lg

ผัวชั่วคราว ตอนที่ 15

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผัวชั่วคราว ตอนที่ 15

พีรนันท์กลับเข้ามาในออฟฟิศ เขาดีใจเมื่อเห็นวิลิปดายังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน

"ลิปดา...ดีใจจังวันนี้ลิปดายังไม่กลับ"
"ลิปดารอพี่พีน่ะค่ะ"
พีรนันท์ยิ้มกว้างขึ้นอีก
"จริงเหรอ พักนี้เราไม่ค่อยได้คุยกันเลย พี่งานยุ่งมาก ลิปดาก็รีบกลับบ้าน พี่นึกว่าลิปดาจะน้อยใจพี่ซะอีก"
วิลิปดาหลบตา ไม่อยากมองพีรนันท์เพราะยิ่งรู้สึกผิดและสงสารเขา
"ไม่น้อยใจหรอกค่ะ"
"แล้ววันนี้ลิปดารอพี่มีอะไรหรือเปล่า จะชวนไปไหน"
"ลิปดามีอะไรอยากคุยกับพี่พีค่ะ"
"ดีเลย เดี๋ยวเราไปกินข้าวด้วยกันนะครับ"
"ไม่ต้องหรอกค่ะพี่พี"
"ไม่ต้องได้ยังไง เราไม่ได้กินข้าวด้วยกันนานแล้วนะ วันนี้พี่ว่างพอดี จะได้กินไปคุยไปไงครับ"
วิลิปดามองพีรนันท์อย่างครุ่นและคิดตัดสินใจ

วิลิปดาเดินนำมา พีรนันท์ตามมาข้างๆ
"มีอะไรเหรอลิปดา ทำไมถึงไม่ยอมไปทานข้าวกับพี่"
"พี่พีคะ ลิปดาไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี"
"เรื่องอะไร เรื่องงานหรือเปล่า"
"ไม่ใช่หรอกค่ะ เป็นเรื่องของเราสองคน"
"เรื่องของเรา"
พีรนันท์หน้าเสียมองวิลิปดา เริ่มรู้สึกว่าเป็นเรื่องไม่ดีแน่
"ลิปดา...เอ่อ..."
พีรนันท์หน้าเศร้าก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถาม
"ลิปดามีคนอื่นใช่ไหม"
เธอนิ่ง สับสนเพราะกลัวพีรนันท์เสียใจเลยไม่กล้าปฏิเสธแบบตรงๆ
"ตอนนี้ลิปดายังไม่พร้อมจะมีใครค่ะ"
เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก
"ถ้าอย่างนั้นพี่ก็ยังพอมีหวังใช่ไหม"
ลิปดาอึดอัดกับคำตอบ แต่ก็ไม่กล้าทำร้ายจิตใจของพีรนันท์มากไปกว่านี้
"ที่ลิปดาขอคุยกับพี่พี ก็เพราะไม่อยากให้พี่พีหวังต่างหากละคะ"
พีรนันท์แน่วแน่
"ตราบใดที่ลิปดายังไม่มีใคร พี่ก็จะไม่เลิกหวัง"
"พี่พีมีทุกอย่างพร้อม มีโอกาสมองผู้หญิงอื่นๆอีกเยอะแยะ"
"พี่ยังไม่เจอใครที่พี่อยากมอง นอกจากลิปดา"
วิลิปดาอึ้งไป ทั้งซาบซึ้งทั้งรู้สึกผิด
"ขอบคุณค่ะพี่พี แต่...มันไม่ยุติธรรมกับพี่พีเลย"
"ไม่ต้องคิดเรื่องยุติธรรมหรือไม่ พี่สบายใจที่จะให้มันเป็นแบบนี้"

พีรนันท์แตะแขนวิลิปดาให้เดินไป

คืนเดียวกัน คตกริชนั่งเหม่ออยู่คนเดียวอยู่ในห้องคาราโอเกะ ลำเพาภาเดินเข้ามา สังเกตเห็นอาการ

"เป็นอะไรไปกริช วันนี้ดูท่าทางเหนื่อยๆ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า"
"เปล่าครับ"
ลำเพาภานั่งลงข้างคตกริช ถามอย่างห่วงใย
"บอกฉันมาเถอะ ฉันรู้ว่าต้องมีอะไรแน่ๆ เรื่องงานรึเปล่า"
"ไม่ใช่เรื่องงานครับ"
"งั้นคงเป็นเรื่องที่บ้าน เล่าให้ฉันฟังได้ไหม"
คตกริชเสยผมอย่างเครียดๆ ก่อนจะมองหน้าลำเพาภา พอเห็นสีหน้าห่วงใยของเธอก็ตัดสินใจเล่า
"แม่ผมออกจากบ้านไปอยู่กับคนอื่น"
ลำเพาภาเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ แล้วก็ยิ้มออกมาอย่างเข้าใจในการกระทำของอำไพ
"ฉันเข้าใจนะ เข้าใจแม่ของเธอ"
"ผมกลัวแม่จะเป็นอันตราย"
"เขาเองก็คงรู้ว่าเสี่ยง แต่เขาเลือกที่จะไป เพราะมันเป็นความสุขของเขา"
"ทำไมคุณเพาคิดว่าอย่างนั้นละครับ"
"อาจจะเป็นเพราะว่า บางครั้งฉันก็รู้สึกอย่างแม่เธอเหมือนกัน"
คตกริชอึ้ง มองหน้าลำเพาภาอย่างรู้สึกละอาย
"ไม่เกี่ยวกับเรื่องของเราหรอกนะ แต่เป็นการใช้ชีวิต ตอนยังสาวเราอาจจะระวังตัวแจ กลัวโน่นนี่สารพัด แต่เมื่อถึงช่วงนึง เราจะรู้สึกว่า เวลามันผ่านไปเร็วมาก และชีวิตก็ไม่มีอะไรแน่นอน ถ้าไม่เสี่ยงตอนนี้ก็ไม่รู้จะมีโอกาสอีกเมื่อไร"
ลำเพาภาโอบคตกริชไว้เป็นเชิงปลอบ
"สบายใจได้นะกริช แม่เธอคงลำบากมามากแล้ว เขาก็เลยอาจจะอยากใช้ชีวิตแบบที่ตัวเองเคยคิดบ้าง เธอคอยดูแลคอยเตือนเขาอยู่ห่างๆ ก็พอแล้ว อะไรที่มันยังไม่ได้เกิด ก็ไม่ควรไปกังวลมันก่อน บางทีอาจจะดีกว่าที่เราคิดก็ได้"
เขารู้สึกสับสนและอบอุ่นใจ แต่ก็รู้สึกผิดกับทั้งวิลิปดาและลำเพาภา

เวลากลางคืน พีรนันท์ขับรถมาส่งวิลิปดาที่บ้าน
"ขอบคุณนะคะพี่พี ที่ยังอุตส่าห์มาส่ง"
"ไม่เป็นไรจ้ะ พี่เต็มใจเสมอ อย่าลืมที่พี่พูดนะลิปดา พี่รอลิปดาให้โอกาสพี่"
วิลิปดาลงจากรถ โบกมือให้พีรนันท์ แล้วมองตามรถของเขาที่แล่นออกไปอย่างรู้สึกลำบากใจ
ขณะที่เธอเข้ามาในบ้าน ลำเพยพรรณก็มองไปที่หน้าบ้านแล้วถามหลานสาว
"วันนี้พีมาส่งเหรอ"
"ใช่ค่ะ"
เธอนั่งลง ลำเพยพรรณตามมานั่งใกล้ๆ
"แล้วกริชรู้หรือเปล่า"
"ไม่รู้หรอกค่ะ เขาต้องรีบไปทำงานต่อ"
"เดี๋ยวนี้ลิปดารู้จักสับรางแล้วเหรอ"
"ลิปดาไม่อยากให้เป็นอย่างนี้เลยนะคะน้าพรรณ ที่จริงก็คุยกับพี่พีแล้ว แต่เขาบอกว่า ถ้าหนูยังไม่มีใครก็จะยังไม่ยอมแพ้"
"แสดงว่าเขายังไม่รู้เรื่องกริช"
"ยังค่ะ ลิปดายังไม่บอก เพราะทั้งสองคนเป็นเจ้านายลูกน้องกันอยู่"
"น้าไม่เข้าใจเลย พีเหนือกว่ากริชทุกอย่าง ทั้งฐานะ ความรู้ ตำแหน่งงานแถมยังมาก่อน ทำไมน่ะลิปดาถึงได้เลือกกริช"
"หนูก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมถึงรู้สึกกับพี่พีแค่พี่ชาย อยู่กับเขาแล้วอบอุ่น แต่เป็นแค่ความรู้สึกแบบพี่น้องเท่านั้นจริงๆ"
น้าสาวพยักหน้าเข้าใจ แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้
"ลิปดาต้องนึกถึงอนาคตให้มากเข้าไว้ ว่ากริชเขาจะเลี้ยงดูเราได้หรือเปล่า"
"กริชเขาเป็นคนขยันน่ะค่ะ ตอนนี้เขาก็ทำงานพิเศษตอนกลางคืนด้วย เขาอยากพิสูจน์ตัวเอง"
"เขาขยันก็จริง แต่สู้คนที่มีพื้นฐานอยู่แล้วอย่างพีไม่ได้หรอก"
"หนูคงไม่ชอบอะไรๆ ที่มันพร้อมเกินไปมั้งคะน้าพรรณ อาจจะไม่มีอะไรให้ตื่นเต้น"
"จ้า ระวังจะตื่นเต้นจนหัวใจวายนะจ๊ะ"
วิลิปดาถอนใจครุ่นคิด ลำเพยพรรณมองหลานสาวอย่างเป็นห่วง

สาย วันรุ่งขึ้น คตกริชเปิดเอกสารนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะ ภายในบริษัทโฆษณา แต่สีหน้าง่วงงุน เขาจึงยกกาแฟดื่มจนหมดแก้วเพื่อแก้ง่วง พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นวิลิปดาแอบมองอยู่ สีหน้าขำๆ
"มาตั้งแต่เมื่อไรครับ"
"เมื่อกี้นี้เองค่ะ สงสัยกริชตั้งใจทำงานจนไม่ได้สังเกต"
"ผมไม่ได้สังเกตเพราะง่วงต่างหากละครับ"
วิลิปดาเป็นห่วง
"กริชไหวหรือเปล่าคะ"
"ไหวครับ ได้กาแฟไปแล้วคงดีขึ้น" แล้วเขาก็ลดเสียงลงถาม "เมื่อวานคุยกับคุณพี เป็นยังไงบ้าง"
"เดี๋ยวเราไปคุยกันดีกว่าค่ะ"

คตกริชพยักหน้า มองซ้ายมองขวา แล้วเดินออกไป
 
อ่านต่อหน้า 2

ผัวชั่วคราว ตอนที่ 15 (ต่อ)

มุมหนึ่งในบริษัท คตกริชอุทานอย่างแปลกใจ

"คุณพียังไม่ยอมแพ้เหรอครับ"
"ใช่ค่ะ เขาบอกว่าตราบใดที่ลิปดายังไม่มีใคร เขาก็จะพยายามต่อไป"
"ลิปดาเสน่ห์แรงจัง"
"อย่าประชดกันอย่างนี้สิคะ"
"ไม่ได้ประชดครับ ผมพูดจริง หึงด้วย"
วิลิปดาอดยิ้มออกมาไม่ได้
"ไม่ทันไรหึงซะแล้วเหรอ"
"ผมคงต้องรีบแสดงตัวให้คุณพีรู้"
"ฉันว่าเรารอให้คุณพ้นโปรก่อนดีกว่า"
"ลิปดา ผม..ผมไม่อยากรอแล้วจริงๆ ยิ่งรอนานไปอาจจะทำให้อะไรเปลี่ยนแปลงได้"
"โธ่...กริชมองลิปดาเป็นคนยังไงนะ"
เขาจับมือเธอไว้
"ผมเชื่อมั่นในตัวคุณ แต่ก็อดกังวลไม่ได้"
"อย่าระแวงสิคะ ถ้าฉันจะเลือกพี่พี ก็คงเลือกไปก่อนหน้านี้แล้ว"
คตกริชบีบมือเธอเบาๆ อย่างซาบซึ้ง
"ขอบคุณนะครับลิปดา ขอบคุณที่รอผม"
เขามองวิลิปดาด้วยสายตาหวานซึ้ง แต่แล้วทั้งสองหันไปมองใครบางคนที่ก้าวเข้ามา พีรนันท์หยุดยืนมองอยู่ด้วยความเสียใจ
"ที่แท้ก็กริชนี่เอง ที่เป็นสาเหตุ..."
วิลิปดาตกใจ
"พี่พี..."
"ทำไมลิปดาไม่บอกความจริงกับพี่"
"คือ…พี่พีกับกริช...ทำงานด้วยกัน ถ้าบอกไปสองคนคงมองหน้ากันไม่ติด"
"พี่เสียใจ ที่ลิปดามองพี่ผิดไป พี่แยกแยะได้นะ ระหว่างงานกับส่วนตัว"
พีรนันท์เดินออกไป วิลิปดามองตามอย่างเสียใจ
"พี่พี"
"ผมจะไปอธิบายกับเขาเอง"
คตกริชตามพีรนันท์ออกไป วิลิปดามองตามอย่างเป็นห่วง

พีรนันท์เข้ามานั่งในห้อง เอนตัวลง หลับตาอย่างเครียดๆ ภาพการกุมมือและมองกันอย่างหวานซึ้งของทั้งคู่ ยังตามหลอน เสียงเคาะประตูดังขึ้น
"อย่าเพิ่งเข้ามา ผมอยากอยู่คนเดียว"

หน้าห้องทำงานพีรนันท์ คตกริชชะงัก แล้วเดินออกไปด้วยสีหน้าไม่สบายใจนัก

วิลิปดานั่งลงด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม
"พี่พีคงจะโกรธมาก อีกแค่เดือนเดียวคุณก็จะพ้นโปรแล้ว ไม่น่าเลย"
"อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดครับลิปดา ถ้าไม่พ้นทดลองงานที่นี่ ผมก็ไปเริ่มที่ใหม่ได้"
"ถ้าเป็นอย่างนั้น เราก็คงไม่ได้เจอกันบ่อยๆ สิคะ"
"ผมจะหาเวลามาเจอคุณจนได้"
"คุณทำงานเยอะขนาดนี้ จะเอาเวลาไหนมาเจอกัน"
"ต้องมีสิครับ ผมจะทำให้ได้ ที่จริงอย่างนี้ก็ดีนะครับ เราจะได้เปิดเผยไปเลย ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆอีกแล้ว"
วิลิปดาสีหน้ายังไม่ค่อยสบายใจนัก คตกริชจับมือวิลิปดาไว้
"ถ้าลิปดาพร้อมจะสู้ไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมก็ไม่ยอมแพ้นะครับ"
"ลิปดาสู้เสมอค่ะ กริชก็อย่าท้อนะคะ"

วิลิปดายิ้มให้คตกริชอย่างมีกำลังใจมากขึ้น

ลำเพาภาเดินกลับจากห้องประชุม พลางสั่งงานพิมพ์สนม

"เธอช่วยสรุปบัญชีของผับเดือนที่แล้วมาด้วยนะ แล้วก็ดูเรื่องกติกาการเป็นเมมเบอร์ของผับเรา นอกจากสะสมแต้มแล้วน่าจะมีส่วนลดให้ด้วย"
"ได้ค่ะคุณเพา วันนี้ให้พิมพ์ไปที่ผับด้วยไหมคะ"
"ไม่ต้องแล้ว เธอทำงานอยู่ที่นี่แล้วส่งเมลไปก็ได้ ที่นั่นเธอไม่มีโต๊ะส่วนตัว อาจจะไม่ค่อยสะดวก"
"ทุกทีพิมพ์เอาโน้ตบุ้กไปนั่งทำก็สะดวกดีค่ะ"
"แต่ฉันว่าเสียงมันดัง เธอทำที่นี่หรือเอากลับไปทำที่บ้านน่าจะมีสมาธิมากกว่า"
พิมพ์สนมแอบเซ็งแต่ฝืนยิ้มตอบ
"ได้ค่ะ"
ลำเพาภาจะเข้าห้องแต่แล้วเซไปอย่างรู้สึกวูบๆ พิมพ์สนมรีบเข้าไปประคอง
"เป็นอะไรไปคะคุณเพา"
"รู้สึกเวียนหัวน่ะ สงสัยพักนี้นอนน้อย"
"เข้าไปพักในห้องก่อนนะคะ เดี๋ยวพิมพ์จะไปเอายามาให้"
ลำเพาภาพยักหน้าอย่างเหนื่อยอ่อน พิมพ์สนมรีบออกไป

ในห้องทำงาน เวลากลางวัน ต่อเนื่องมา ลำเพาภานั่งลงอย่างเหนื่อยอ่อน สักพัก ก็กดมือถือ โทร.หาคตกริช
"กริชจ๊ะ วันนี้ฉันไม่เข้าไปที่ผับนะ อยากจะกลับไปพักที่บ้านสักหน่อย"
"คุณเพาเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ ให้ผมพาไปหาหมอไหม"
ลำเพาภาสีหน้าดีขึ้นที่คตกริชแสดงความเป็นห่วง
"ยังไม่ต้องหรอกจ้ะ นอนพักสักหน่อยก็คงหาย วันนี้ฝากเธอดูผับด้วยนะกริช"
พิมพ์สนมถือยา แง้มประตูจะเข้ามา แต่พอได้ยินก็นึกขึ้นได้ ยิ้มอย่างมีแผน

ภายในผับ เวลากลางคืน ดูฟองกำลังร้องเพลงอยู่บนเวที คตกริชต้อนรับลูกค้าเสร็จ ก็เดินเลี่ยงมาพักทางหนึ่ง พิมพ์สนมซึ่งอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์สังเกตอยู่ จึงเอาน้ำเข้ามาให้อย่างเป็นห่วง
"พิมพ์ผสมค็อกเทลแก้วนี้เอง คุณกริชลองดูสิคะว่าเป็นยังไง"
"ขอบคุณครับ" คตกริชลองดื่ม "อื้ม...อร่อยมากเลยครับ ไม่นึกว่าคุณจะมีฝีมือด้านนี้ด้วย"
พิมพ์สนมหัวเราะๆ
"อ้าว...ทำไมละคะ"
"ผมเห็นคนทำงานเก่งๆ ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยสนใจเข้าครัว"
"พิมพ์ชอบทำกับข้าวค่ะ แต่พักนี้ไม่ค่อยมีเวลาเท่าไร" เธอมองหน้าเขาอย่างเป็นห่วง "คุณกริชก็คงไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อนเหนื่อยไหมคะ"
"นิดหน่อยครับ"
เธอแกล้งทำเป็นมองเห็นเหงื่อที่หน้าเขา
"อุ๊ย ร้อนเหรอค่ะ เหงื่อซึมเลย"
พิมพ์สนมเอาทิชชู่ซับเหงื่อให้ กริชชะงักไปนิดหนึ่ง
"ขอบคุณครับ"
พิมพ์สนมมองดูด้วยประกายตาแพรวพราวนิดหนึ่ง ก่อนจะถามหยั่งเชิง
"วันนี้คุณเพาไม่เข้า คุณกริชทราบหรือยังคะ"
"คุณเพาโทร.บอกแล้วครับ เห็นบอกว่าไม่ค่อยสบาย"
"ท่าทางคุณเพาไว้ใจคุณกริชมากเลยนะคะ"
เขาระแวงกลัวพิมพ์สนมรู้ความจริง เลยรีบปฏิเสธ
"ไม่หรอกครับ เป็นหน้าที่ที่ผมต้องรู้มากกว่า"
"แต่เรื่องคืนนั้น ที่พิมพ์รอดก็เพราะคุณเพาเชื่อคุณกริช พิมพ์นับถือคุณจริงๆค่ะ"
"ผมไม่มีอะไรให้น่านับถือหรอกครับ"
"แต่พิมพ์นับถือคุณมากค่ะ"

ดูฟองร้องเพลงจบ เดินมาเห็นทั้งสองก็แอบสังเกต เห็นพิมพ์สนมคุยกับคตกริชอย่างใกล้ชิด แถมยังปัดผมที่ปรกหน้าให้เขาอีก ดูฟองแอบถ่ายรูปไว้
 
อ่านต่อหน้า 3

ผัวชั่วคราว ตอนที่ 15 (ต่อ)

ผ่านเวลามา พิมพ์สนมยืนอยู่หน้ารั้วของผับ เธอคอยชะเง้อมองไปหน้าประตู พอเห็นคตกริชออกมา ก็รีบเดินไปทำทียืนรอรถอยู่ริมถนน เขาขึ้นและขับรถออกมา เห็นพิมพ์สนมเดินอยู่ จึงกดแตรเรียก เขาเปิดกระจกโบกมือให้

"คุณพิมพ์ขึ้นรถก่อนครับ"
พิมพ์สนมแกล้งทำหน้างง
"พิมพ์รอแท็กซี่อยู่ค่ะ"
"เดี๋ยวผมไปส่ง"
"แต่ว่า"
"ขึ้นมาก่อนครับ"
เธอทำท่าอิดออด
"เห็นคุณพิมพ์ออกมาสักพัก คิดว่ากลับไปนานแล้ว"
"บ้านพิมพ์ไม่ค่อยมีแท็กซี่ยอมเข้าไปค่ะ เรียกหลายคันแล้วยังไม่ได้เลย"
"ซอยเปลี่ยวเหรอครับ"
"นิดหน่อยค่ะ"
"งั้นผมไปส่งดีกว่าครับ"
"ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณรีบกลับไปพักผ่อนเถอะ"
"ดึกแล้วครับ ผมไปส่งดีกว่า มันอันตราย"
พิมพ์สนมแอบยิ้มกริ่มแล้วรีบขึ้นรถ คตกริชขับออกไป ดูฟองแอบถ่ายรูปทั้งสองไว้อีก พลางยิ้มเยาะ

เขาขับรถมาถึงหน้าบ้านพิมพ์สนม เธอหันมายิ้มหวานให้เขา
"ขอบคุณมากนะคะที่อุตส่าห์มาส่ง"
"ที่จริงบ้านคุณพิมพ์ก็ไม่ได้ไกลจากบ้านผมครับ แต่ซอยเปลี่ยวไปหน่อย วันหลังอย่ากลับดึกอย่างนี้อีกนะครับ"
"มันจำเป็นนี่คะ ผับเพิ่งเปิดใหม่ คุณเพาก็ไม่อยู่ พิมพ์ต้องคอยช่วยดูจนกว่าจะอยู่ตัว"
"บ้านเราอยู่ทางเดียวกัน เดี๋ยววันหลังผมจะมาส่งนะครับ"
พิมพ์สนมแอบดีใจแต่รีบปฏิเสธ
"อย่าเลยค่ะ คุณกริชต้องทำงานตอนกลางวัน กว่าจะมาส่งพิมพ์เสร็จก็ดึกมากแล้ว"
"ไม่เป็นไรครับ ดึกๆ รถโล่ง ผมขับแป๊บเดียวก็ถึง"
"พิมพ์ขอบคุณอีกครั้งนะคะ คุณกริชน่ารักจังเลย"
พิมพ์สนมลงจากรถ พอเปิดประตูบ้านเข้าไปแล้วก็หันกลับมาโบกมือให้เขา คตกริชโบกมือกลับให้ แล้วขับรถออกไป พิมพ์สนมมองตามยิ้มอย่างมีเลศนัย

ในบ้านลำเพาภา ตอนสาย วันรุ่งขึ้น ลิลลี่ถือกาละมังเปล่าเข้ามาวาง หลังจากเอาผ้าเข้าเครื่องเสร็จแล้ว เห็นโต๊ะอาหารยังว่างเปล่า จึงมองขึ้นไปบนห้องลำเพาภาอย่างสงสัย
"สายป่านนี้ทำไมคุณเพายังไม่ลงมาอีก"

ลำเพาภาลืมตาตื่นขึ้นมา สีหน้ายังอ่อนเพลีย พอลุกขึ้นก็ทรุดลงไปอีก เธอจับหน้าผากตัวเองอย่างรู้สึกมึน จึงหลับตาสักพัก ก่อนจะลุกขึ้นอีกครั้ง เธอพยายามลงจากเตียง แต่แล้วก็วูบไป
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
"คุณเพาขา คุณเพาตื่นหรือยังคะ"
ลิลลี่เปิดประตูเข้ามา เห็นเจ้านายนอนกองอยู่บนพื้นก็ตกใจ
"ว้าย...คุณเพา"

ลิลลี่รีบเข้ามาประคองลำเพาภา

พีรนันท์นั่งทำงานอยู่ เสียงเคาะประตูดังขึ้น

"เชิญครับ"
คตกริชเปิดประตูเข้ามา พีรนันท์เห็นก็ชะงักไปนิดหนึ่ง แล้วก็ทำสีหน้าเป็นปกติ เขายื่นเอกสารให้พีรนันท์
"งานใหม่ที่เรารับมาเมื่อวาน คุณพีช่วยเซ็นเปิดจ็อบให้ด้วยครับ"
พีรนันท์เอาเอกสารมาอ่านแล้วเซ็นชื่อลงไป ก่อนจะยื่นคืนให้
"คุณพีครับ เรื่องวันนั้น"
พีรนันท์โบกมือห้ามพลางจ้องหน้าคตกริช
"ไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้น ถึงลิปดาจะเลือกคุณ แต่ยังไงผม ก็ยังไม่ยอมแพ้หรอกนะ"
"ผมดีใจแทนลิปดานะครับ"
"ไม่ต้องดีใจหรอก ถ้าเมื่อไรผมรู้ว่าคุณดูแลลิปดาได้ไม่ดี ผมไม่ปล่อยคุณไว้แน่"
"คงไม่มีวันนั้นหรอกครับ"
"อย่าเพิ่งมั่นใจไป เพราะผมก็มั่นใจในสิ่งที่ผมทำเหมือนกัน คุณอย่าให้ลิปดาผิดหวัง"
"ขอบคุณที่เตือนครับ"
คตกริชเดินออกไป พีรนันท์มองตามเอาจริง

ภายในโรงพยาบาล ลำเพาภานอนให้น้ำเกลืออยู่ ท่าทางอ่อนเพลีย ลิลลี่เข้ามาดูลำเพาภาอย่างเป็นห่วง
"คุณเพาเป็นยังไงบ้างคะ"
"ยังเพลียๆอยู่ กริชเขารู้หรือยัง"
"ยังค่ะ ลิลลี่ยังไม่บอกใครเลย"
"ฉันอยากให้เขามาเยี่ยม"
"เอ่อ...งั้นลิลลี่จะโทร.บอกเขานะคะ"
ลิลลี่รีบออกไป ลำเพาภามองตามอย่างรอคอย

คตกริชเดินกลับมาจาห้องพีรนันท์ พูดสายกับลิลลี่ไปด้วย
"แล้วเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ... ครับ ขอบคุณครับ พี่ลิลลี่"
คตกริชวางสาย สีหน้าหนักใจ วิลิปดาถามอย่างเป็นห่วง
"กริชเป็นอะไรไปคะ"
"อ๋อ...ไม่มีอะไรครับ คิดเรื่องงานอยู่น่ะ"
"จะกลับหรือยังคะ"
คตกริชดูนาฬิกา
"วันนี้ผมคงไปส่งลิปดาไม่ได้"
"ต้องรีบไปที่ผับเหรอคะ"
"เปล่าครับ พอดี..." เขานึกหาเหตุผล "เอ่อ..คุณแม่ผมไม่ค่อยสบาย อยู่โรงพยาบาล"
"ท่านเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ"
"โรคประจำตัวน่ะครับ ท่านเป็นโรคความดัน พอพักผ่อนน้อยก็เลยวูบไป"
"ลิปดาอยากไปเยี่ยมท่านด้วย"
คตกริชตกใจ รีบหาทางเลี่ยง
"เอาไว้ให้ท่านแข็งแรงดีก่อนดีกว่าครับ ตอนนี้ท่านอาจจะไม่ค่อยพร้อม"
"งั้นไม่เป็นไรค่ะ คุณรีบไปดูคุณแม่เถอะ ลิปดากลับเองได้"
เขาพยักหน้า พยายามซ่อนแววตาที่รู้สึกผิดต่อวิลิปดาไว้

ในเวลาต่อมา คตกริชเปิดห้องพักในโรงพยาบาลเข้ามา เห็นลำเพาภานอนให้น้ำเกลืออยู่ เธอดีใจ
"คุณเพาเป็นยังไงบ้างครับ"
"ยังเพลียๆอยู่เลย แต่ก็พอมีแรงกว่าเมื่อตอนเช้า"
"พักนี้คุณเพาทำงานหนัก ต้องพักมากๆ นะครับ"
"บอกแต่ฉัน แล้วตัวเธอล่ะ"
"ผมยังไหวครับ แต่คุณเพาไม่จำเป็นต้องทำงานหนักขนาดนี้แล้ว ให้คนอื่นทำแทนก็ได้"
"รู้ไหมที่ฉันยอมร่วมหุ้นทำผับนี่เพราะใคร"
คตกริชมองลำเพาภาอย่างซาบซึ้งในบุญคุณ
"ผมจำได้ครับ คุณเพาอยากให้ผมเปลี่ยนชีวิตใหม่ คุณเพาดีกับผมมาก"
"ที่ฉันดีกับเธอก็เพราะเธอเป็นคนดีไงล่ะ"
เขารู้สึกผิด
"บางทีผมอาจจะไม่ดีอย่างที่คุณเพาคิดก็ได้นะครับ"
"แต่เธอก็ดีกับฉัน เป็นห่วงฉันมาตลอด... เธอเป็นห่วงฉันใช่ไหมกริช"
คตกริชหลบตานิดหนึ่ง ก่อนจะตอบออกไป
"ครับ"
"คืนนี้อยู่เฝ้าฉันหน่อยนะ"
"แล้วที่ผับละครับ"
"ฉันให้พิมพ์สนมไปดูแทนแล้ว" เธอจับมือเขา "เธออยู่เป็นเพื่อนฉันได้ใช่ไหม"
"ได้ครับ"
เธออ้อน
"งั้นช่วยป้อนข้าวฉันหน่อยสิ"
คตกริชหยิบชามข้าวต้มป้อนให้ ลำเพาภากินอย่างมีความสุข

เวลาเย็นใกล้ค่ำ ต่อเนื่องมา วิลิปดากลับเข้ามาในบ้าน
"วันนี้ไม่มีใครมาส่งเหรอลิปดา"
"พี่พีจะมาค่ะ แต่ลิปดาหนีกลับซะก่อน"
"แล้วกริชล่ะ"
"แม่ของเขาไม่สบายค่ะ เลยต้องรีบกลับไปดู"
"แม่ของลิปดาก็เข้าโรงพยาบาลเหมือนกันนะ น้าว่าจะชวนไปเยี่ยมพอดี"
แววตาของวิลิปดาเบิกขึ้นนิดหนึ่งด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงปกติ
"เป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ"
"อ่อนเพลียเพราะทำงานหนักน่ะ ไป...เตรียมตัวแล้วเดี๋ยวเราออกไปด้วยกัน"
วิลิปดาอิดออด
"ลิปดา...เอ่อ"
"แม่เขาไม่สบายทั้งคน ลิปดาจะใจจืดไม่ยอมไปเยี่ยมเลยเหรอ"
"แม่คงไม่อยากเจอหนูหรอกค่ะ"
"คิดไปเองอีกแล้ว เราไปแม่เขาต้องดีใจมากแน่ๆ"
วิลิปดานิ่งคิด ลำเพยพรรณแตะแขนลิปดาเบาๆ
"ไปนะลิปดา แล้วถือโอกาสขอโทษแม่เขาซะ เป็นโอกาสดีแล้ว"

เธอครุ่นคิดตัดสินใจ
 
อ่านต่อหน้า 4

ผัวชั่วคราว ตอนที่ 15 (ต่อ)

ภายในผับ พิมพ์สนมมาคอยต้อนรับลูกค้าที่เข้าร้านด้วยท่าทางอ่อนหวาน

"สวัสดีค่ะ เชิญค่ะ กี่ที่คะ"
พิมพ์สนมพาลูกค้าไปนั่ง แล้วเรียกพนักงานเสิร์ฟมาบริการ เสียงฮือฮาดังมาจากเวที พิมพ์สนมหันไปมอง เห็นดูฟองซึ่งร้องเพลงอยู่ เดินลงจากเวที แล้วเต้นยั่วยวนแขกผู้ชาย บางทีก็ทำท่าจะไปนั่งตัก ทำให้ได้ทิปมามากมาย พิมพ์สนมมองไปอย่างไม่พอใจ

ดูฟองเดินเข้ามาในห้องแต่งตัว พร้อมกับหยิบทิปที่ได้รับออกมานับอย่างตื่นเต้น พิมพ์สนมสีหน้าเอาเรื่องเดินเข้ามา
"เธอไม่ควรไปเต้นยั่วลูกค้าแบบนั้น"
ดูฟองหันมาเบะปากใส่พิมพ์สนม
"มันเป็นวิธีร้องเพลงแบบของฉัน ยุ่งอะไรด้วย สาระแน!"
พิมพ์สนมโมโห แต่ข่มใจพูดนิ่งๆอย่างดูถูก
"มันจะทำให้เสียภาพลักษณ์ของผับเรา ที่นี้เป็นผับผู้ดี ไม่ใช่ค็อกเทลเลาจน์อย่างที่เธอเคยอยู่"
ดูฟองของขึ้น มองพิมพ์สนม เริ่มโกรธ
"ฉันไม่เคยอยู่ค็อกเทลเลาจน์"
"อ้าวเหรอ นึกว่าเคยอยู่ซะอีก เห็นทำตัวเหมือนนักร้องพวกนั้น ยังไงก็ปรับปรุงด้วยนะ ไม่งั้นคุณเพารู้เข้าจะไม่พอใจแน่"
พิมพ์สนมหันหลังทำท่าจะเดินออกไป ดูฟองเลยพูดตามหลัง
"เรื่องนี้คุณเพาไม่ว่าอะไรหรอก ถ้าจะไม่พอใจก็พวกกินบนเรือน ขี้รดบนหลังคามากกว่า"
พิมพ์สนมหันขวับไม่พอใจ
"หมายถึงอะไร"
ดูฟองทำหน้าเย้ยหยันสุดฤทธิ์
"รู้ทั้งรู้ว่าคุณเพากินเด็ก ยังจะไปอ่อยผู้ชายของเขาอีก"
"ไม่มีหลักฐาน อย่าพูดมั่วๆ"
"ทำไมจะไม่มี ฉันฟ้องคุณเพาได้ทุกเมื่อ"
"ก็ลองดูซี่ ว่าคุณเพาจะเชื่อแกหรือว่าเชื่อฉัน และที่สำคัญ... เขาเชื่อคุณกริชมากที่สุด ยังไงเขาต้องช่วยฉันแน่"
"อย่าหลงระเริงไปเลย สักวันเค้าต้องรู้ความจริง ว่าแกแย่งของๆเค้า คุณเพาไม่เอาแกไว้แน่ ทำเป็นแอ๊บใสซื่อ อีคนหน้าด้านชอบกินผัวชาวบ้าน!"
พิมพ์สนมตบหน้าดูฟอง ดูฟองตบกลับ ทั้งสองยื้อดึงผมกันไปมา พลเปิดเข้ามาเห็นตกใจ
"เฮ้ย...ตบกันอีกแล้ว"

คตกริชป้อนข้าวให้ลำเพาภาเสร็จ ก็วางชามข้าวลง
"เก่งมากครับ ทานจนหมดเลย"
เธอยิ้มให้คตกริชอย่างมีความสุข
"คงเพราะกินอะไรไม่ลงมาแต่เช้า แล้วก็ได้คนป้อนเก่งด้วย"
คตกริชยิ้มเก้อๆ เสียงมือถือดังขึ้น เขากดรับสาย
"ฮัลโหล มีอะไรเหรอพล"
ลำเพาภามองอย่างสนใจ
"อะไรนะพล... ได้ๆ พลรีบหาคนช่วยแยกก่อนนะ เดี๋ยวจะรีบไป"
คตกริชวางสาย ลำเพาภาถามทันที
"เกิดอะไรขึ้นที่ผับเหรอ"
"เอ่อ..มีลูกค้าทะเลาะกันในผับครับ ผมจะรีบไปดู"
"ไปแล้วจะช่วยอะไรได้ พิมพ์สนมก็อยู่ไม่ใช่เหรอ"
"คือ...คุณพิมพ์เขาเป็นผู้หญิง เลยไม่กล้าทำอะไรมากครับ"
"โอเค งั้นเธอรีบไปเคลียร์ แล้วส่งข่าวกลับมาด้วย"
"ครับ เดี๋ยวดึกๆ ผมกลับมา"
คตกริชรีบออกไป ลำเพาภาทิ้งตัวพิงลงพนักเตียงอย่างเซ็งๆ

ลำเพยพรรณกับวิลิปดาเดินมาตามทางในโรงพยาบาล วิลิปดาหิ้วตะกร้าผลไม้มาด้วย ทั้งสองมองเลขที่ห้องเพื่อหาห้องที่ลำเพาภาพักอยู่
คตกริชเปิดประตูห้องคนไข้ออกมา
ลำเพยพรรณกับวิลิปดาเกือบเห็น แต่ลำเพยพรรณชี้ให้หลานสาวมองที่ป้ายเลขที่ห้องจึงคลาดกัน
"ป้ายชี้ไปทางนั้นจ้ะ"
วิลิปดากับลำเพยพรรณหันไปมองห้อง คตกริชซึ่งสวนมาก็ถูกเตียงพยาบาลที่เข็นผ่านไปพร้อมญาติคนไข้บังพอดี

ทั้งคู่เดินไปทางห้องลำเพาภา

ลำเพาภานอนพักอยู่ เสียงเคาะประตูดังขึ้น

"ใครน่ะ กริชเหรอ"
"พรรณเองค่ะพี่เพา"
"เข้ามาสิจ๊ะ"
ลำเพยพรรณเปิดประตูเข้ามา ลำเพาภายิ้มให้
"นึกว่าจะหลงซะแล้ว"
"ไม่หลงหรอกค่ะ แต่รอลิปดากลับมาก่อน จะได้มาด้วยกัน"
ลำเพาภาชะงักไปนิดหนึ่ง มองไปเห็นลูกสาวหิ้วตะกร้าผลไม้ตามลำเพยพรรณเข้ามา สองแม่ลูกมองหน้ากันอึ้งๆ บรรยากาศเงียบงันไปครู่หนึ่ง ลำเพยพรรณรีบแก้ไขสถานการณ์โดยดึงหลานสาวเข้ามา
"เข้ามาสิ ลิปดา"
เธอวางผลไม้ไว้บนโต๊ะ
"ทานส้มไหมคะพี่เพา เดี๋ยวให้ลิปดาแกะให้"
ลำเพยพรรณหยิบส้มยื่นให้วิลิปดาแกะ
"เมื่อกี้เพิ่งกินอิ่ม ยังไม่อยากเท่าไร"
วิลิปดาสีหน้าผิดหวัง ที่ลำเพาภาดูเย็นชาและมึนตึงเหมือนเคย
"กินผลไม้ซะหน่อยน่าพี่เพา จะได้ล้างปาก"
"ฉันยังไม่อยากกินจริงๆ เอาไว้ก่อน"
"หมอว่าไงคะ ให้กลับบ้านได้เมื่อไร"
"พรุ่งนี้ก็กลับแล้วละ"
"แล้วไม่มีใครเฝ้าเลยเหรอคะ ให้ลิปดามาเฝ้าไหมคะ"
ลำเพาภารีบพูด กลัวจะรู้เรื่องคตกริช
"ไม่ต้อง"
วิลิปดาหน้าเจื่อนไป ลำเพารู้สึกตัว ลดเสียงให้อ่อนลง
"ไม่ได้เป็นอะไรมาก"
วิลิปดารู้สึกอึดอัด หาทางเลี่ยง
"หนูไปซื้อกาแฟนะคะ"
วิลิปดาทำท่าจะออกไป ลำเพาภารู้ว่าลูกสาวโกรธอยู่ จึงทำท่าจะลุกขึ้น
"เดี๋ยวก่อน"
แต่แล้วลำเพาภาก็ทรุดลงไป
"โอ๊ะ..."
วิลิปดาหันกลับมา ลำเพยพรรณตกใจรีบเข้าไปประคองพี่สาว
"พี่เพาเป็นยังไงบ้างคะ"
"หน้ามืดนิดหน่อย โอเคแล้ว"
"พรรณเรียกหมอให้ไหมคะ"
"ไม่ต้อง ไม่ต้องมาสนใจฉันหรอก" เธอมีน้ำเสียงน้อยใจ "คนเป็นลูกยังไม่สนใจเลย"
ลำเพยพรรณทนไม่ไหว โพล่งออกมาด้วยความอัดอั้น
"ลิปดา... พี่เพา ทำไมสองคนถึงต้องหน้ามึนหน้าตึงใส่กันตลอดเวลานะ ครอบครัวเราก็มีกันแค่นี้เองทำไมถึงทำดีต่อกันไม่ได้ ฉันไม่เข้าใจ จะพูดกันดีๆ บ้างไม่ได้เลยหรือไง ฉันอึดอัดจะแย่อยู่แล้ว"
สองแม่ลูกอึ้งไป เมื่อเห็นลำเพยพรรณร้องไห้ออกมา
"พรรณ"
วิลิปดาน้ำตาคลอมองน้าสาวอย่างรู้สึกผิด ตัดสินใจเข้าไปยกมือไหว้ลำเพาภา แล้วร้องไห้
"หนูขอโทษค่ะ ที่ผ่านมาหนูอาจจะเข้าใจอะไรผิดไปหลายอย่าง น้าพรรณช่วยอธิบายให้หนูเข้าใจแล้ว"
ลำเพาภาสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง จะเอื้อมมือไปลูบหัวลูกสาว แต่ก็ดึงมือกลับ
"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร"
เธอเสียใจที่เป็นต้นเหตุให้ลำเพยพรรณต้องเสียน้ำตา เธอยกมือไหว้
"หนูขอโทษนะคะน้าพรรณ"
วิลิปดากอดน้าสาวร้องไห้โฮ
"จำไว้นะลิปดา ไม่มีใครรักเราได้มากเท่ากับแม่อีกแล้ว ต่อไป ขอให้เข้าใจกันมากๆ นะคะ สองแม่ลูก"
ลำเพยพรรณน้ำตาไหลด้วยความปลื้มใจ ดึงตัวหลานสาวเข้าหาลำเพาภา สองแม่ลูกกอดกัน แม้จะไม่สนิทใจ แต่ทำเพื่อให้ลำเพยพรรณสบายใจ

คตกริชเปิดประตูเข้ามาในห้องคาราโอเกะ สีหน้างุนงง เมื่อเห็นแต่พิมพ์สนมที่นั่งดื่มอยู่ในห้อง
"คุณพิมพ์"
เธอโผเข้ากอดเขาร้องไห้ปนเสียงอ้อแอ้ด้วยความเมา
"คุณกริช...ฮือๆ"
เขากอดปลอบพิมพ์สนมไว้เบาๆ แล้วค่อยดันตัวออก
"พลโทร.ไปหาผม บอกว่าคุณกับดูฟองมีเรื่องกันอีกแล้ว"
"พิมพ์ทนไม่ไหวแล้วนะคะ ดูฟองทำเกินไป"
"ดูฟองทำอะไรครับ"
"เขาหาว่าคุณกับคุณเพา...เอ่อ...เป็นมากกว่าแค่เจ้านายกับลูกน้อง"
คตกริชกัดกรามแน่น เครียดๆ พิมพ์สนมลอบมองหน้าเขาแล้วทำท่าเสียใจต่อ
"พิมพ์ไม่อยากให้ใครมาว่าร้ายคุณเพา เพราะพิมพ์นับถือคุณเพามาก ส่วนคุณกริชก็ดีกับพิมพ์ พิมพ์เลยฟิวส์ขาด มีเรื่องกับเขาอีก"
"ผมจะไปคุยกับดูฟองเอง"
พิมพ์สนมดึงคตกริชไว้
"อย่าเพิ่งเลยค่ะ พิมพ์กลัวเรื่องจะไปเข้าหูคุณเพา มันไม่ดี"
พิมพ์สนมแกล้งทำมึนเซไปนิด ๆ คตกริชต้องประคองไว้
"คุณพิมพ์เมาด้วยเหรอครับ"
"พิมพ์ดื่มนิดหน่อยค่ะ มันเครียดนี่คะ ปวดหัวด้วย"
"ผับจะเลิกแล้ว ผมไปส่งคุณที่บ้านดีกว่าครับ นอนพักผ่อนแล้วตื่นมาจะได้หาย"
พิมพ์สนมทำเป็นเซไปซบกับคตกริช
"พิมพ์ก็ไม่ไหวแล้วค่ะ"
เขาประคองพิมพ์สนมออกไปขึ้นรถ แล้วเขาเดินไปนั่งฝั่งคนขับ ดูฟองกำลังใช้กล้องมือถือแอบถ่ายทั้งสอง จนกระทั่งคตกริชขับรถออกไป เธอมีสีหน้ายิ้มกริ่ม กัดริมฝีปากอย่างสะใจตัวเอง

คตกริชขับรถมาส่งพิมพ์สนมถึงหน้าบ้าน
"คุณพิมพ์เดินเข้าไปไหวไหมครับ"
คตกริชมองไปเห็นพิมพ์สนมงัวเงีย
"ไหวค่ะ"
"ให้คนที่บ้านออกมารับดีกว่านะครับ"
"ไม่ได้หรอกค่ะ"
"เขานอนกันหมดแล้วเหรอครับ"
"เปล่าค่ะ พิมพ์อยู่คนเดียว"

คตกริชมองพิมพ์สนมอย่างครุ่นคิดตัดสินใจ ว่าจะประคองเข้าบ้านดีหรือไม่
 
อ่านต่อตอนที่ 16
กำลังโหลดความคิดเห็น