คมพยาบาท ตอนที่ 16
เปียหน้าตาเศร้าหมองซึมเศร้า เดินกลับเข้ามาในบ้าน แต่ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อเห็น
นมแสนั่งอยู่บนรถเข็น เปียร้องกรี๊ดตกใจ กระถดตัวหลบ มองตกใจกลัว วณีกับรจนาวิ่งกันเข้ามา วณีโอบกอดเปียที่เนื้อตัวสั่น
“ลูกเปียๆ นมแสไงลูก นมแส”
เปียเนื้อตัวสั่นค่อยๆหันมามองมอง นมแสจ้องตาเปียเขม็ง อาฆาต รจนาเล่า...
“รจกับคุณวณีเพิ่งไปรับนมแสกลับมาค่ะ ขอโทษที่ไม่ได้บอก คุณเปียเลยตกใจ”
“ไม่ต้องตกใจนะลูกนมแสไม่สบาย เลยดูเปลี่ยนไปเยอะ”
วณีเลี่ยงคำว่าน่ากลัว เปียไม่โต้ตอบ ชำเลืองมองนมแสอย่างหวาดกลัวว่าความลับเปิดเผย เปียรีบเดินเลี่ยงนมแสขึ้นไปยังด้านบน วณีกับรจนามองตามเปีย ไม่สบายใจ
เปียเดินเข้ามาในห้อง ความเครียดขึ้นมาอีก ทั้งเรื่องนมแส เรื่องน้อย ตรวจดีเอ็น
เอ เปียหยิบยาที่ซื้อมาเอง ขึ้นมากินเพื่อคลายเครียด
ขณะเดียวกัน เย็นยังคงกลุ้มเรื่องเปีย ที่บอกว่าเย็นเห็นแก่ตัว เธอจะไม่ไปจากที่นี่ จะฆ่าทุกคน ดวงตาของเย็นแห้งผากอ้างว้างเจ็บปวด ยิ่งคิดถึงความหลังก็ยิ่งรู้สึกผิด
อดีต...เปียวัยเด็กทะเลาะกับเพื่อนวัยเดียวกัน เปียแพ้สู้ไม่ได้ น้อยร้องไห้งอแงห้าม
แม่ของเด็กคนนั้นดีใจลูกชนะ เย็นเดินเข้ามา ยกเท้าถีบแม่ของเด็กคนนั้นโดยไม่ทันตั้งตัวจนล้มลง ผู้หญิงคนนั้นร้องกรี๊ดตกใจกลัว เย็นชี้หน้า
“อย่ามาสู้ฉันนะ” เปียดึงน้อยออกมาก่อนผลักเปียเข้าหาเด็กคนนั้น “ฉันสอนให้แกยอมแพ้มันเหรอ สู้สิ แกต้องสู้”
เย็นผลักเปียเข้าหา เปียมีคนให้ท้ายก็ตบเด็กคนนั้นอย่างแรง เย็นหัวเราะชอบใจ
“มันต้องอย่างนี้สินังเปีย”
แม่รีบพาลูกของตัวเองหนีอย่างรวดเร็ว เย็นกับเปียหัวเราะดีใจเป็นผู้ชนะ
ริมสระน้ำ...เย็นพาเปียกับน้อยมานั่งกินข้าว เปียหยิบเอาขนมจากปิ่นโตแล้ว
เกิดทำตก เย็นตบป้าบเข้าที่มือ ทำท่าดุ ซุ่มซ่าม เปียกลัว
เปียนั่งทำการบ้าน คิดไม่ออก เย็นนั่งสอน พอทำไม่ได้ เย็นตบเข้าที่หัวเปีย
จนเปียหน้าคะมำ คว่ำหน้าลงกับโต๊ะ
เย็นน้ำตาไหล ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกผิด แล้วคิดไปถึงวันที่คุณหญิงบอกว่า...วันหนึ่งคนที่
เจ็บที่สุดจะเป็นเย็น ยิ่งคิดเย็นก็ยิ่งน้ำตาไหล น้อยเดินมาหา
“น้าเย็น..ดึกแล้ว ทำไมยังไม่ไปนอนคะ”
เย็นรีบเช็ดน้ำตาบอกเสียงแผ่ว
“น้านอนไม่หลับ”
“น้าเย็นอย่าคิดมากนะคะ ไปนอน เดี๋ยวน้อยพาไป”
น้อยประคองเย็น แต่ทันทีที่แตะตัวเย็น น้อยก็สะดุ้งโหยง
“น้าเย็นตัวร้อนจี๋เลย”
น้อยประคองเย็นไปนอนในห้อง เฝ้าเช็ดเนื้อเช็ดตัว ดูแลเย็นทั้งคืน จนเย็นหลับ...รุ่งเช้า เย็นรู้สึกตัวขึ้นมา สิ่งแรกที่เห็นคือ น้อยนั่งหลับอยู่ข้างเตียง คอยดูแล เย็นมองน้อยสุดจะซาบซึ้งใจ ก่อนจะรู้สึกตัว เย็นรีบหลับตาลงทันที น้อยเอามือแตะที่หน้าผากเย็น สีหน้ากลุ้มใจ เดินออกไป เย็นมองตามน้อย น้ำตาไหล ทั้งซาบซึ้ง โศกเศร้า รันทดใจ
น้อยเดินมาหาจวนที่ทำงานอยู่ในบ้านคุณหญิง
“น้าจวน น้อยขอยาลดไข้หน่อยค่ะ”
“เย็นไม่สบายเหรอ”
“ค่ะ ตัวร้อนจี๋เลย”
คุณหญิงเดินเข้ามาได้ยิน
“เย็นเป็นอะไรมากรึเปล่าล่ะ”
“น้าเย็นนอนซมทั้งคืนเลยค่ะ” น้อยห่วงเย็นมากๆ
คุณหญิงหันไปสั่งจวน
“จวน..ไปดูนังเย็นหน่อยไป ถ้าเป็นอะไรมาก ก็พามันไปหาหมอ”
“ค่ะคุณหญิง”
น้อยไหว้คุณหญิง
“ขอบคุณมากค่ะคุณหญิง”
น้อยเดินออกไปกับจวน คุณหญิงมองเวทนา
เย็นถามจวนแบบไม่เชื่อ เสียงโหย หน้าตาซีดเซียวอย่างคนไม่สบาย
“ว่าไงนะ คุณหญิงน่ะเหรอ บอกให้พาฉันไปหาหมอ”
จวนมองหมั่นไส้
“ทำเป็นมาถาม คุณหญิงท่านก็ใจดีมีเมตตาอย่างนี้แหละ หรือจำไม่ได้ว่าคุณหญิงเป็นคนรับแกเข้ามาทำงานที่นี่น่ะ”
เย็นหน้าสลดลง สายตามีแต่ความทุกข์ ดวงตามีน้ำคลอตลอด จวนมองอาทร
“นี่..เป็นอะไรรึเปล่า”
เย็นจะร้องไห้ออกมา
“เปล่าพี่..เปล่า”
“ถ้าไม่ไหวก็บอก คุณหญิงท่านเมตตาแกเสมอนะเย็น....ถ้าแกจะไม่เถียง ไม่ทำให้ท่านหมั่นไส้น่ะ”
เย็นร้องไห้พูดไม่ออก ความรู้สึกผิดหลายอย่าง ประดังประเดรุมเร้ากันเข้ามา
จวนเดินเข้าไป คุณหญิงถามอาทร
“นังเย็นมันเป็นอะไรมากมั้ยจวน”
“ท่าจะแย่ค่ะ แต่จวนดูแล้ว ท่าทางเย็นเหมือนมีเรื่องในใจ หนูน้อยก็บอกเย็นเอาแต่ร้องไห้ จนล้มป่วย”
“มันเป็นอะไรของมัน” คุณหญิงสงสัยมาก
คุณหญิงเดินตรงไปยังบ้านของเย็น มีจวนตาม คุณหญิงเดินขึ้นไปบนบ้าน ทันทีที่เห็นคุณหญิง เย็นก็รีบทรุดตัวลงนั่งที่พื้น ไหว้ คุณหญิงมองตะลึง อดเหน็บไม่ได้ตามนิสัย
“ท่าทางแกคงจะป่วยหนักจนประสาทกลับนะนังเย็น ถึงได้ลุกมาไหว้ฉันน่ะ”
เย็นมองคุณหญิงซื่อ เป็นดวงตาของเย็นคนเดิม
“ค่ะคุณหญิง ประสาทกลับจากร้ายกลายเป็นดี”
คุณหญิงมองเย็น คาดไม่ถึง งุนงง
“แกป่วยหนักจริงๆ พามันไปหาหมอเถอะ”
จวนจะเข้ามาประคอง แต่เย็นยกมือห้าม มองคุณหญิงน้ำตารื้น
“ขอบคุณมากค่ะคุณหญิง”
“แกเป็นอะไร”
“ที่คุณหญิงเคยบอก...สุดท้ายคนที่เจ็บที่สุดจะเป็นฉันมันมาถึงแล้วค่ะ มันมาถึงแล้ว” เย็นร้องไห้โฮออกมาแบบสุดกลั้น “วันนี้ฉันเจ็บ เจ็บจนจะกระอักเลือด และก็ไม่รู้ความเจ็บที่สุด ที่ฉันจะต้องเจอ มันจะขนาดไหน”
คุณหญิงถามตกใจ อาทรห่วง
“เกิดอะไรขึ้นกับแกเย็น”
เย็นเอาแต่ร้องไห้ ตอบไม่ได้
“แกไม่บอก ฉันก็ไม่รู้จะช่วยแกได้ยังไง ได้แต่ขอให้สิ่งที่แกเจอะเจอมันทุเลา เบาบางลงแล้วกันนะเย็น”
เย็นมองซาบซึ้ง
“สิ่งที่คุณหญิงเมตตาดิฉัน ก็ถือว่าช่วยให้ความทุกข์ของฉันเบาบางลงแล้ว แต่กรรมที่ฉันทำไว้ มันกำลังกระหน่ำฉัน”
“กรรมที่แกพรากลูกพรากหลานฉัน แกก็เอามาคืนแล้ว แล้วมันมีเรื่องอะไรเลวร้ายมากไปกว่านี้อีกเหรอเย็น”
เย็นร้องไห้โฮออกมา สายตาที่มองคุณหญิงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เพราะความจริง เธอยังไม่ได้บอกความจริงกับทุกคน คุณหญิงยิ่งมองยิ่งไม่เข้าใจเย็น ขณะที่เย็นค่อยๆก้มลงกราบคุณหญิง ไม่รู้จะบอกยังไง
“ฉันไม่รู้จะพูดยังไง ฉันกราบขอโทษค่ะคุณหญิง ฉันกราบขอโทษ”
เย็นได้แต่ก้มหน้าร้องไห้กับเท้าของคุณหญิง จวนกับน้อยมองตะลึง ขณะที่คุณหญิงยิ่งมองเย็น งุนงงไม่เข้าใจ ค่อยๆยกมือลูบหัวเย็นเบาๆเวทนา
“ฉันอภัยให้แก...แกก็ต้องให้อภัยตัวเองนะเย็น...ไม่งั้น...แกจะทุกข์อยู่อย่างนี้”
คุณหญิงปลอบ ทั้งที่ไม่รู้เย็นทุกข์เรื่องอะไร เย็นเงยหน้ามอง
“แต่ถ้าคุณหญิงรู้ว่าฉันทุกข์เพราะอะไร คุณหญิงคงไม่บอกให้ฉันให้อภัยตัวเองค่ะ”
คุณหญิงมองเย็นไม่เข้าใจ
อุทัยถามคุณหญิงอย่างไม่เชื่อ
“อะไรนะครับ เย็นกราบขอโทษคุณแม่”
วณี เลอสรร มองหน้าคุณหญิง สนใจอยากรู้ เปียมองคุณหญิงหวาดระแวงกับการกระทำของเย็น ขณะที่คุณหญิงพยักหน้ารับ
“นี่แม่ยังตกใจอยู่เลยนะเนี่ย ไม่รู้เย็นมันเป็นอะไรของมัน”
“แปลก..แปลกมาก” อุทัยพึมพำ
“ใช่...เย็นพูดแปลกๆหลายอย่าง ท่าทางเย็นทุกข์มาก”
“เย็นคงรู้สึกผิดที่เอาลูกเปียไปน่ะค่ะ” วณีออกความเห็น กอดเปียไว้
“แต่แม่ว่า...เหมือนเย็นจะมีเรื่องอะไรมากกว่านั้น เปียรู้มั้ยลูก น้าเย็นกลุ้มใจเรื่องอะไร”
“เปียไม่ทราบค่ะ” เปียตอบไม่เต็มเสียงนัก
“เย็นอาจจะกำลังคิดหนัก เรื่องที่ผมกับวณีไปขอร้องน่ะครับ” อุทัยครุ่นคิด
เปีย รู้สึกใจเต้นแรง เพราะรู้ดีว่าเรื่องอะไร รจนาจับตามองท่าทางของเปียตลอดเวลา
“อุทัยก็ให้เวลาเย็นหน่อยแล้วกัน ความจริงยังไงก็ต้องเป็นความจริงวันยังค่ำ” คุณหญิงปราม
“ครับคุณแม่”
“แต่ที่น้าเย็นกราบขอโทษคุณย่า..ผมก็รู้สึกดีมาก อย่างน้อยน้าเย็นก็รู้แล้วอะไรถูกอะไรผิด อะไรควรไม่ควร” เลอสรรออกความเห็น
“ถ้าเย็นคิดได้จริงๆ ต่อไปบ้านเราคงมีความสุขนะคะคุณแม่” วณีบอกอย่างยินดี
ทุกคนมองหน้ากันยิ้มอ่อน ยกเว้นเปีย สายตาที่เปียมองทุกคน มีแต่ความหวาดระแวง
เปียเดินออกมาด้านนอก ดวงหน้าเศร้าหมอง คิดหนัก รจนาเดินตามออกมามองสังเกตถาม
“ท่าทางคุณเปียเหมือนไม่ดีใจเลย ที่คุณเย็นสำนึกผิด”
“อย่าหาเรื่อง” เปียมองตาเขียว
“ขอโทษค่ะ รจแค่ต้องการทดสอบ คุณเปียควบคุมตัวเองได้บ้างหรือยัง”
“ทำไมฉันจะต้องควบคุมอารมณ์ตัวเองด้วย ในเมื่อฉันไม่ได้เป็นอะไร”
“ค่ะๆ ไม่ได้เป็น...รจขอโทษนะคะที่ทำให้อารมณ์เสีย เอ่อ...คุณเปียได้ไปดูอาการนมแสบ้างรึเปล่าคะ”
“ดูทำไม”
“ก็ตอนนี้นมแสดีขึ้นมากแล้วนะคะ ดูแข็งแรง สดชื่น รจว่าอีกหน่อย นมแสต้องหายดีแน่ๆเลยค่ะ”
รจนาพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่เปียหน้าเครียด มีแต่ความกังวล หวาดระแวง
เปียก้าวฉับๆเข้าไปยังห้องนมแส เห็นนมแสพยายามยกมือยกแขนของตัวเอง แม้จะลำบาก แต่ก็จะขยับขึ้นมาได้บ้าง เปียเดินเข้าไปมอง นมแสมองสบตาเปียด้วยสายตาเกลียดชัง เปียจ้อง พูดเบาๆแต่เหี้ยม
“ฉันไม่มีทางปล่อยให้แกลุกขึ้นมาอ้าปาก เปิดเผยความลับของฉันหรอก”
เปียกระชากผมนมแสจนหน้าหงาย
“ถ้าฉลาดแกก็ควรเฉยๆแบบนี้ แต่ถ้าแกแส่ แกคงรู้ใช่มั้ยจุดจบของแกมันคืออะไร”
เปียจ้องหน้านมแสขมขู่ รจนาค่อยๆยื่นหน้าเข้ามาแอบมอง เห็นเปียกระชากผมนมแสอย่างโหดร้าย
รจนาเดินลิ่วออกมาที่หน้าบ้าน ตกใจกับภาพทีเห็น มือไม้สั่น จนต้องกุมมือตัวเอง
เอาไว้แน่น วณีเดินออกมาเห็น ท่าทางรจนาแปลกๆก็ถาม
“คุณรจเป็นอะไรรึเปล่าคะ”
รจนาสะดุ้งหันมามองวณีตกใจ
“รจ...รจ...”
“มีเรื่องอะไรคะ”
“รจเห็นคุณเปียกระชากผมนมแสค่ะ”
วณีณีตกใจมาก
วณีเดินลิ่วเข้าไปในห้อง กวาดตามองหาเปีย แต่เปียไม่อยู่แล้ว วณีเดินไปหานมแส
“ตะกี้ลูกเปียมาที่นี่เหรอจ้ะ”
นมแส พยายามพยักหน้า แต่ก็เป็นไปอย่างลำบาก วณีหน้าเสีย น้ำตาแทบคลอออกมา ขณะกลั้นใจถามต่อ
“แล้วลูกเปีย...ลูกเปียทำร้ายนมแสใช่มั้ยจ้ะ”
นมแสมองวณี สายตาของนมแสที่มองวณีสุดจะสงสาร นมแสพยายามอย่างที่สุดจนพยักหน้าออกมาได้ เท่านั้นวณีก็ปล่อยโฮออกมา
“โธ่...ลูกเปีย”
วณีแทบทรุด รจนาต้องรีบเข้ามาประคองวณีรวดเร็ว
เปียโผเผเดินออกมาหน้าบ้าน สภาพของเปียตอนนี้ทุกข์หนัก ปัญหารอบด้านรุมเร้า จนแทบจะหมดแรง
อ่านต่อหน้า 2
คมพยาบาท ตอนที่ 16 (ต่อ)
เปียเดินโผเผเข้าไปในร้านขายยา ยื่นซองยาให้
“ซื้อยาหน่อย”
คนขายมองซองยาแล้วมองเปีย
“ยาตัวนี้กินเยอะๆอันตรายนะ หาหมอดีกว่ามั้ย”
เปียหน้าตาบึ้งตึงโกรธเกรี้ยว เปิดกระเป๋าควักเงินเป็นปึกออกมาวางปังบนโต๊ะ
“ก็จะซื้อ หรือกลัวว่าฉันไม่มีเงิน นี่ไงเงิน...จะขายให้ฉันรึยัง”
“ขายอยู่แล้ว แต่ยังไงไปหาหมอดีกว่านะ ยาตัวนี้กินเยอะๆมันอันตรายจริงๆ”
“หน้าตาไม่ได้เหมือนพ่อแม่ฉันสักหน่อย ไม่ต้องมาสอน”
เปียคว้าซองยาเดินออกไป คนขายมองตามระอา
เปียโผเผออกมาจากร้านขายยา มือกำซองยาแน่น แล้วหยุดยืนที่ข้างทางกินยาเข้าไป เม็ดเดียวไม่พอ...เปียหน้าซีด รู้สึกว่าตัวเองยังแย่ หยิบยาจากในซองกรอกเข้าปากอีก2 เม็ด ก่อนดื่มน้ำตาม แล้วยืนนิ่ง หอบหายใจถี่พยายามตั้งสติก่อนเอาหลังมือเช็ดน้ำที่เลอะอยู่มุมปากลวกๆ ไม่สนใจตัวเองเท่าไหร่นัก เดินกลับไป
วณีนั่งเหงื่อแตกพลั่ก น้ำตาคลอหน่วยตา กลุ้มหนัก รจนากุมมือปลอบใจ
“ฉัน...ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ลูกเปียถึงได้เป็นขนาดนี้ แล้วฉันก็ไม่เข้าใจ ลูกเปียทำนมแสทำไม”
รจนามองเห็นใจ เกรงใจ
“แต่คุณวณีเชื่อที่รจพูดใช่มั้ยคะ”
วณีพยักหน้า
“ไม่มีเหตุผลที่คุณรจจะต้องโกหก หรือใส่ร้ายลูกเปียนี่คะ และยิ่งคุณรจพูด ฉันก็ยิ่งสงสัย มันเกิดอะไรกับลูกเปีย”
“รจว่า...มันอาจจะไม่ได้เกิดจากการที่คุณเปียป่วยแต่เพียงอย่างเดียวแล้วล่ะค่ะ”
“คุณรจหมายความว่า...” วณีดวงตาหวาดหวั่นขณะถาม
“อาจจะเกี่ยวกับการเลี้ยงดู นิสัยของคุณเปียเอง”
วณีร้องไห้ออกมาด้วยความทุกข์ใจ รจนากุมมือวณีบีบแน่นกว่าเดิมให้กำลังใจ
“ลองคุยกับคุณเย็นดูมั้ยคะ...เผื่อคุณเย็นจะคุยกับคุณเปียได้ เหมือนทุกที”
รจนาพาวณีเดินออกจากบ้าน ตั้งใจตรงไปยังบ้านของเย็น เปียเปิดประตูเข้ามาเห็นวณีเดินไปยังทิศทางที่น่าจะเป็นบ้านเย็น เปียมองตามอย่างหวาดระแวง ก่อนโผเผเดินตามไป ทั้งที่ตัวเองหน้าซีด เครียดจัด
เย็นยังคงมีอาการเหนื่อยอ่อนแบบคนป่วยทั้งกายทั้งใจ น้อยคอยดูแลใกล้ๆ วณีที่หน้าตาซึมเศร้ากลัดกลุ้มเดินมาพร้อมกับรจนา เย็นก็มองระแวง กลัวเรื่องตรวจดีเอ็นเอของน้อย เย็นปรายตาไปมองน้อยบอก
“น้อย...ไปหาอะไรมารับรองคุณวณีหน่อยไป”
“ค่ะ”
น้อยลุกไป รจนารีบอาสา
“รจช่วยค่ะ”
น้อยกับรจนาเดินออกไป ทันทีที่อยู่กันตามลำพัง เย็นก็ถามวณี
“คุณมาทวงคำตอบเรื่องการตรวจดีเอ็นเอยัยน้อยหรือคะ”
“ตอนนี้ฉันกลุ้มใจเรื่องลูกเปีย จน..จนไม่ได้คิดเรื่องอื่นแล้วเย็น”
วณีกลั้นสะอื้น เย็นใจเต้นแรง ถามตกใจปนหวาดกลัว
“เปียทำอะไรอีก”
วณีค่อยๆพูด เพราะไม่รู้อารมณ์ของเย็นจะเป็นยังไง
“ลูกเปีย...ลูกเปียแอบทำร้ายนมแส”
เย็นเบิกตากว้าง สลดเจ็บปวด ก่อนหลับตาลงกลั้นน้ำตาเหมือนยอมรับกลายๆ วณีถามคาดไม่ถึง
“เย็นไม่โกรธฉันใช่มั้ย”
เย็นพยักหน้าเจ็บปวดขมขื่น
“เป็นความผิดของฉันเอง ที่เลี้ยงยัยเปียมาแบบนี้...แค่หวัง..ให้พวกคุณได้รู้..ว่าความจริงแล้วเลือดผู้ดีอย่างคุณ ก็เลวก็ชั่วไม่แพ้กับเลือดคนจนๆอย่างฉัน”
วณีมองเย็นคาดไม่ถึง เย็นปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมา ระบายความในใจที่เจ็บปวด
“แต่พอยัยเปียเป็นแบบนี้ ฉันเจ็บไม่แพ้คุณหรอก คุณวณี”
“เย็น...” วณีตะลึง
“ฉันผิด...ฉันผิดไปแล้วจริงๆ”
เย็นร้องไห้โฮออกมา วณีแตะไหล่เย็น
“อย่าร้องไห้เย็น อย่าร้อง...”
เปียย่องมาดู เห็นวณีจับมือเย็น
“เราช่วยกันได้ ..เราช่วยกันให้ลูกเปียเป็นเด็กดีน่ารักได้นะเย็น”
“แปลว่า...คุณจะให้โอกาสยัยเปีย”
“เขาเป็นลูกฉัน ไม่ว่าลูกเปียจะเป็นยังไง ฉันก็รักลูกเปีย”
“คุณสัญญากับฉันนะคุณวณี ว่าคุณจะไม่ทิ้งยัยเปีย คุณจะไม่หวาดระแวงสงสัยยัยเปีย ทำให้แกเสียใจอีก”
“จ้ะเย็น...ฉันสัญญา”
“ขอบคุณคุณมากจริงๆคุณวณี ขอบคุณจริงๆ” เย็นมองซาบซึ้ง
ทั้งเย็นและวณีโผเข้ากอดกัน อย่างคนที่หัวอกเดียวกันนั่นคือรักเปีย รจนา
กับน้อยอีกมุมหนึ่งแอบมอง รจนากับน้อยแอบยิ้มให้กัน เปียยืนมองวณีกับเย็นแบบนิ่งๆ แต่น้ำตาไหลพรากออกมาด้วยความเจ็บปวดขมขื่นใจ
“ไม่มีใครรักฉัน มีแต่คนทรยศฉัน ฉันเกลียดทุกคน”
เปียในชุดว่ายน้ำกระโดดลงสระว่ายน้ำอย่างแรง อย่างจะปลดปล่อยความรวดร้าวทุกข์ทรมานในใจ เปียดำผุดดำว่ายพร้อมน้ำตาที่ไหลพรากออกมาอย่างทุกข์ใจ
ด้านนอกบ้าน มุกมาด้อมๆมองๆ ไม่เห็นใคร จึงฉวยโอกาสปีนกำแพงเข้ามารวดเร็ว...มุกแอบเดินดูบริเวณบ้านด้วยความตื่นเต้น เมื่อเห็นความร่ำรวย โอ่อ่าหรูหรา
“ขอให้เป็นบ้านผัวนังเย็นเถอะ ไอ้มุกจะได้สบายสักที” มุกกำลังจะเดินผละไปยังบ้านเย็น แล้วสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงคนกระโดดน้ำตูม มุกมองไปตามเสียง ก็เห็นเปียแหวกว่ายอยู่ในสระน้ำ มุกเขม้นมองตาโต นึกถึงเปียที่คุยอยู่กับเลอสรรที่ฟิตเนส
“นังเปีย”
เปียแหวกว่ายในสระน้ำด้วยดวงหน้าเจ็บช้ำ ดวงตามีน้ำไหลตลอดเวลา มุกย่องเข้ามา ไม่ได้หวังทำร้าย แค่ต้องการมองเปียชัดๆ เปียหันมาพอดีเห็นมุก ร้องกรี๊ดด้วยความตกใจ
“แอร้ย...ช่วยด้วยๆ”
เลอสรรกำลังจะเดินเข้าบ้านได้ยินเสียงเปียร้องลั่นด้วยความตกใจกลัวรีบวิ่งมา เปียรีบกระโจนขึ้นมาคว้าเสื้อคลุมมาสวมรวดเร็ว มุกฉวยโอกาสที่เปียหันหลังหลบหนีไปรวดเร็ว เลอสรรวิ่งมาเห็นเปียเนื้อตัวสั่น หน้าซีดตกใจ
“มีอะไรน้องเปีย”
“มีคนเข้ามาค่ะ มีคนเข้ามาแอบดูเปีย”
เปียปากคอสั่นกลัว โผเข้าหาเลอสรรกอดแน่น แบบต้องการการปกป้อง เลอสรรกอดเปียเอาไว้
“ไม่ต้องกลัว พี่อยู่นี่ มันคงหนีไปแล้วล่ะ”
เลอสรรกวาดตามองไปรอบๆ เปียหันมามอง มุกไม่อยู่แล้ว
อุทัย ถามเลอสรรและเปียอย่างตกใจ
“มีคนเข้าบ้าน”
“ครับ ผมดูกล้องวงจรปิดแล้ว ตัวที่จับภาพบริเวณสระน้ำเสียพอดี”
“ไปไรมั้ยลูก” วณีเข้ามากอด
“ไม่เป็นไรค่ะ เปียแค่ตกใจเฉยๆ” เปียมองวณีระแวง
วณีหันไปมองรจนา สายตาของวณีบอกเหมือนจะไม่เชื่อ เปียระแวงถามเสียงสั่นอย่างน้อยใจ
“คุณแม่ไม่เชื่อเปียหรือคะ”
“เปล่าจ้ะลูกเปีย เปล่า” วณีรีบอก
“รจว่าพาคุณเปียไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีมั้ยคะ เดี๋ยวจะไม่สบาย”
รจนาเดินเข้าไปหา เปียมองกร้าวแกมประชด
“ขอบคุณคุณรจนามากค่ะที่เป็นห่วง”
“ค่ะ” รจนามองสายตาเปียก็รู้บอกอ้อมแอ้ม
“เลอ..มากับน้า”
อุทัยเดินนำไป เลอสรรตาม เปียมองตามอย่างระแวงอีก
“นี่คุณพ่อไม่เชื่อเปียใช่มั้ยคะ ถึงได้เรียกพี่เลอสรรไปคุยด้วยน่ะ”
“อย่าคิดมากสิลูก” วณีปลอบเปีย แต่ความรู้สึกยังคิดถึงเรื่องเปียนมแสตลอด
“ก็แล้วทำไมคุณพ่อไม่ให้เปียไปด้วย”
“คุณอุทัยคงอยากให้คุณเปียพักผ่อน ขึ้นห้องนะคะ”
รจนาแตะแขนเปียเป็นเชิงจะพาไป เปียสะบัดแขนออก เดินกระแทกเท้าขึ้นบันไดไปยังห้องของตัวเอง รจนากับวณีเดินตามไปรวดเร็ว
อ่านต่อหน้า 3
คมพยาบาท ตอนที่ 16 (ต่อ)
วณีส่งเปียเข้าไปในห้อง พลางปลอบ
“ไม่มีอะไรนะลูก อย่าคิดมาก”
“ไม่รู้สิคะ เปียรู้สึกแย่ๆยังไงก็ไม่รู้ เหมือนทุกคนไม่รักเปีย เหมือนทุกคนปกปิดอะไรเปีย”
“ลูกเปียทำอะไรผิดไว้รึเปล่าล่ะ”
เปียตกใจ มองจ้องระแวง สายตาตื่นกลัว
“คุณแม่...คุณแม่พูดอย่างนี้แปลว่าอะไรคะ”
วณีหน้าซีดตอบไม่ได้ รจนารีบบอก
“คุณเปียอย่าคิดมากนะคะ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”
“ถ้าไม่มีอะไร ก็บอกเปียมา ทำไมคุณแม่ถามเปียอย่างนี้”
“แม่ก็พูดไปเรื่อยเปื่อยอย่างนั้นเองจ้ะ ไม่มีอะไร”
“แน่นะคะ” เปียถามย้ำ
“จ้ะ”
เปียสายตาอ่อนลง
“งั้นคุณพ่อไปคุยอะไรกับพี่เลอสรร”
รจนากับณีมองหน้ากัน ไม่รู้จะตอบยังไง เปียมองเขม็ง ระแวง
วันใหม่ อุทัยกับเลอสรรง่วนอยู่กับการเอาปืนออกมาดู อุทัยสอนให้เลอสรรใช้ปืน พลางอธิบายให้เปียฟัง
“ก็เมื่อคืนมีคนแอบเข้ามาในบ้าน พ่อเป็นห่วงเลยเรียกเลอสรรไปดูปืน เผื่อมีอะไรตอนพ่อไม่อยู่ พี่เขาจะได้ดูแลแม่ ดูแลหนู แทนพ่อไง”
“จริงเหรอคะ”
“ทำไมเปียถึงได้คิดว่าพ่อจะโกหก”
“เปล่าค่ะ”
เปียหลบตาอุทัย ไม่ชอบเลย อุทัยชอบมองจับผิด อุทัยหันไปมองเลอสรรที่
กำลังเก้ๆกังๆอยู่กับการจับปืนที่ไม่คุ้นเคยเอาซะเลย ยิ้มพลางบอก
“ท่าทางอย่างงี้สงสัยต้องไปหัดยิงปืนซะละมั้งเลอ”
“ผมก็ว่าอย่างนั้นล่ะครับุคณน้า” เลอสรรเห็นด้วยทันที
เลอสรรไปหัดยิงปืนที่สนามยิงปืน เปียไปด้วย ทั้งสองคนฝึกยิงปืนเข้าเป้าจากที่ไม่แม่น ไม่เข้าเป้า ก็เริ่มเฉียดๆ เข้าใกล้เป้า ได้คะแนนดีขึ้น
เลอสรรสนุกไปกับกีฬายิงปืน แตกต่างจากเปีย ทุกลีลาท่วงท่าเปียจะเคียดแค้นอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อคราวใดที่กระสุนเข้าเป้า เปียจะยิ้มเหี้ยมสะใจ
สองคนเดินออกมาพัก ในสภาพเหงื่อโทรมทั่วหน้าทั้งคู่
“น้องเปียเก่งจัง นอกจากจะไม่กลัวปืนแล้ว ยังดูสนุกกับการยิงปืนด้วย”
“เปียก็เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองค่ะ ว่าการยิงปืนสนุก แล้วเปียก็ชอบปืน...มันเหมือนคุ้นมือเปียยังไงไม่รู้...บอกไม่ถูก”
“ใช่...จนพี่แปลกใจ นี่ถ้าพี่ไม่รู้ พี่คงนึกว่าน้องเปียเคยหัดยิงปืนมาก่อนแน่ๆ”
“ไม่ใช่แค่พี่เลอแปลกใจหรอกค่ะ เปียก็แปลกใจตัวเองเหมือนกัน”
สองคนยิ้มให้กัน เห็นการยิงปืนเป็นเรื่องสนุก
มุกเดินอยู่ข้างทางรอเย็น แต่เย็นไม่มาสักที เขามองนาฬิกาหงุดหงิดมุกโกรธมาก
“นังเย็น”
มุกเตะถังขยะข้างทางเต็มแรงแบบระบายอารมณ์ก่อนเดินออกไป
เย็นนั่งซึม แต่สีหน้าสบายใจขึ้น น้อยเอาข้าวต้มมา
“น้าเย็นกินข้าวต้มนะคะ จะได้กินยา”
เย็นตักข้าวต้มกินอย่างว่าง่าย น้อยยิ้ม
“น้อยดีใจจังที่วันนี้น้าเย็นกินข้าวได้แล้ว”
เย็นยิ้มอ่อน ยังยิ้มได้ไม่เต็มหน้า
“น้าสบายใจขึ้นมั้ง”
“น้อยก็สบายใจ ที่เห็นน้าเย็นกับคุณวณีดีกัน”
“รู้ด้วยเหรอ” เย็นแปลกใจ
“น้อยแอบมองค่ะ แต่น้อยไม่ได้อยากรู้อยากเห็นว่า น้าเย็นกับคุณวณีคุยกันเรื่องอะไรนะคะ...น้อยแค่เป็นห่วง...กลัวน้าเย็นจะมีเรื่องไม่สบายใจอีก”
เย็นหน้าหมองลงไปอีก
“ถ้าเปียยังไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง น้าคงทุกข์ใจอยู่อย่างนี้แหละ”
“น้าเย็นห่วงเปียมาก”
“มาก...คงไม่น้อยใจ”
“หลายครั้งที่น้อยอยากถาม น้าเย็นรักน้อยบ้างมั้ย แต่น้อยก็ไม่กล้า น้อยกลัวคำตอบ แต่ตอนนี้น้อยไม่อยากถาม ไม่อยากรู้แล้วค่ะ แค่น้อยได้รักน้าเย็นก็พอแล้วค่ะ”
เย็นมองน้อยซาบซึ้ง ดึงเข้ามามอง
“น้อยช่างเป็นคนดีเหลือเกินลูก รู้มั้ย ความดีของน้อยเอาชนะได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะความชิงชัง ความเคียดแค้นพยาบาท ในใจของน้าเอง”
เย็นกอด น้อยกอดตอบ มุกเดินเข้ามาหัวเราะน่ากลัว
“รักกันจริงๆเลยนะ”
เย็นสะดุ้งเฮือกตกใจ น้อยมองมุกสงสัย
เย็นเดินนำลิ่วมาที่ตึกร้างหน้าตาหงิกงอโกรธมาก
“แกไปที่บ้านฉันทำไม”
“แก...ไม่ไปตามนัดเองนี่หว่า” มุกกวนมาก
“ฉันไม่ว่าง” เย็นโกรธ
“แกไม่ว่าง หรือจริงๆแล้วแก ตั้งใจ ที่จะเบี้ยวนัดกันแน่ฉันนังเย็น”
เย็นมองมุกไม่กลัว
“ทำไมฉันต้องเบี้ยว ในเมื่อฉันไม่เคยให้ค่า สัมภเวสี ที่มาขอส่วนบุญอยู่แล้ว”
“อยากโดนดีเหรอ”
มุกทำท่าเงื้อมือจะตบ เย็นนั้นกลัว แต่ทำเป็นกล้าใจดีสู้เสือ
“เป็นผู้ชายมาข่มขู่ผู้หญิง ก็ว่าน่าอายแล้ว นี่ยังจะทำร้ายอีก แกจะทุเรศไปถึงไหนไอ้มุก ตอนแรกฉันก็ว่าจะเจียดเงินมาให้อยู่ แต่ตอนนี้ ฉันเปลี่ยนใจแล้ว เพราะคนอย่างแก ได้คืบคงจะเอาศอก แล้วก็คงตามมาเป็นเห็บหมา คอยดูดเลือดดูดเนื้อจากฉันตลอดชีวิต”
“นังเย็น” มุกโกรธมาก
“แกรีบไปซะ ก่อนที่ฉันจะแจ้งตำรวจ อย่าลืม!ความชั่วทั้งหลายที่แกทำมันยังไม่หมดอายุความ”
มุกไม่ปล่อยให้เย็นตั้งตัวตบผลัวะ
“กล้าขู่ฉันเหรอนังเย็น”
เย็นร้องลั่นเซผงะ มุกตามเข้าไปตบซ้ำอีกหลายที จนเย็นแทบล้มลงไป มุกกระชากผมขึ้นมาจนเย็นหน้าหงาย
“ฉันให้โอกาสแกเป็นครั้งสุดท้าย คืนนี้ถ้าแกไม่เอาเงินมาให้ฉันที่นี่ เรื่องของนังเปียนังน้อยถูกแฉแน่”
มุกสะบัดมือตบอีกที เย็นทรุดลงไปนั่งที่พื้น เลือดกบปาก ดวงตาเต็มไปด้วยความเจ็บช้ำวิตกกังวล มองมุกเกลียดมาก
เย็นโผเผกลับบ้าน หน้าบวมเขียว มุมปากมีคราบเลือดติดอยู่ ถึงจะเช็ดออกแล้วแต่ก็ยังมีคราบ น้อยเห็นก็ตกใจ
“น้าเย็น...เกิดอะไรขึ้นคะ” น้อยละล่ำละลักถาม “ผู้ชายคนนั้นทำน้าเย็นเหรอ”
เย็นตาขวาง แค้นมุก น้อยเห็นท่าทางก็ถาม
“มันเป็นใครคะ ทำไมทำกับน้าเย็นอย่างนี้”
“ไม่ต้องไปสนใจมัน แล้วก็อย่าบอกเรื่องนี้กับใครเป็นอันขาด”
น้อยไม่ยอมโกรธแทน
“แต่มันทำร้ายน้าเย็น”
“อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก แล้วก็อย่าบอกใคร ได้ยินมั้ย” เย็นกังวล
“แต่...”
“อย่าดื้อ...ไม่อย่างนั้น น้อยจะมีอันตราย”
น้อยมอง สายตาเต็มไปด้วยคำถาม
“คนบางคนเลวเกินกว่าเราจะเอาชีวิตไปเสี่ยง”
“ค่ะ น้าเย็น”
เย็นมองน้อยเป็นห่วง ป่วยอยู่แล้ว ยิ่งมีเรื่องแบบนี้ทำให้เย็นโทรมลงไปอย่างรวดเร็ว
จวนตักข้าวต้มให้น้อยพลางบอก
“น้าว่าถ้าเย็นยังไม่หายดี พาไปโรงพยาบาลเถอะ”
“น้าเย็นไม่ยอมไปค่ะน้อยอ้อนวอนยังไงก็ไม่ไป” น้อยหน้าจ๋อย
“เย็นมันก็ดื้ออย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะ งั้นน้อยก็ดูแลเย็นให้ดีๆนะ” จวนส่งข้าวต้มให้ “ให้กินข้าว กินยาเยอะๆจะได้แข็งแรงเร็วๆ”
“ค่ะน้าจวน”
น้อยรับข้าวต้มหันมา แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อเจอคุณหญิงยืนมองอยู่
อ่านต่อหน้า 4
คมพยาบาท ตอนที่ 16 (ต่อ)
คุณหญิงเดินนำน้อยที่ถือชามข้าวต้มเข้าไปบนบ้าน เย็นเห็นก็ตกใจ
“คุณหญิง”
เย็นรีบยกมือไหว้หลบหน้าหลบตา ไม่อยากให้คุณหญิงเห็น
“ถ้ายังไม่หาย ก็ไปหาหมอเถอะเย็น แล้วนั่นหน้าไปโดนอะไรมา”
“เปล่าค่ะ” เย็นหลบตาหลบหน้า
“แล้วทำไมมันบวม มันช้ำอย่างนี้ล่ะ” คุณหญิงมองสังเกต
เย็นไม่ตอบ คุณหญิงหันมามองน้อยเป็นเชิงถาม แต่เจอน้อยมองเย็นด้วยสายตา
สุดจะสงสาร คุณหญิงถามซ้ำอีก
“มีเรื่องอะไร”
เย็นตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วๆ
“ไม่มีจริงๆค่ะคุณหญิง”
บ้านอุทัยยามค่ำคืน...คุณหญิงบอกอุทัยด้วยน้ำเสียงกังวล
“ถึงเย็นมันจะบอกว่าไม่มีอะไร แต่แม่มั่นใจ ว่ามันต้องมี เย็นต้องปกปิดความลับอะไรเราอยู่แน่ๆ”
เปียที่กำลังจะเดินเข้ามาได้ยินคำว่าความลับก็สะดุ้งเฮือก กังวล
“เย็นปกปิดความจริงเราหลายอย่างอยู่แล้วล่ะครับคุณแม่ ทั้งเรื่องลูกเปีย น้อย นี่ก็คงมีอะไรอีก แต่ไม่ยอมบอกเรา”
เปียหน้าซีด ความรู้สึกเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
เปียเดินลิ่วออกไปจากบ้าน ตั้งใจจะไปหาเย็น รจนาเห็นรีบตามออกมา
“คุณเปียจะไปไหน รจไปเป็นเพื่อนมั้ยคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ต้องการเพื่อน”
รจนาหน้าซีดหน้าเจื่อนไปรีบแก้
“รจหมายถึง รจจะตามไปดูแลน่ะค่ะ”
“นี่คุณรจนา ฉันไม่ใช่เด็กอนุบาล เวลาจะไปไหนมาไหน ฉันไม่ต้องการคนดูแล”
“แต่...”
“ฉันเข้าใจค่ะว่ามันเป็นหน้าที่ของคุณ แต่ถ้าฉันไม่ต้องการ อย่าแส่”
เปียเดินลิ่วออกไปรวดเร็ว รจนาหน้าเจื่อน มองเปียสังเกต นุกรู้ว่าลักษณะท่าทางของเปียไม่ใช่โรค แต่เป็นสันดาน!
เย็นเอาสร้อยทองออกมานับ น้อยเห็นท่าทางของเย็นก็วิตกกังวล เย็นหันมาเรียก
“มานี่”
น้อยเข้ามาหานอบน้อม
“คะน้าเย็น”
“นี่...ของน้อย”
เย็นยื่นสร้อยทองเส้นที่มีลายสวยงามให้น้อย ก่อนบอก
“ทีแรก น้าตั้งใจจะให้ตอนน้อยเรียนจบ แต่คิดไปคิดมา ให้ตอนนี้เลยดีกว่า”
เย็นหยิบอีกเส้น
“แล้วก็นี่...ที่คุณอุทัยให้น้อย น้อยเก็บไว้เองนะ”
น้อยมองงง
“ทำไมคะน้าเย็น...มีอะไร”
“น้าจะไปธุระ” เย็นเลี่ยงที่จะตอบ
“จะไปไหนคะ น้าเย็นยังเจ็บอยู่เลย” น้อยเป็นห่วง
เย็นไม่ตอบ
“ปิดบ้านให้ดีๆ อย่าให้คนแปลกหน้าเข้ามา”
เย็นเดินออกไป น้อยมองตามกังวล
เย็นเดินมาบริเวณสวนอย่างรวดเร็ว...เปียก็เดินมาอย่างรวดเร็วเหมือนกัน จังหวะทางเลี้ยวท่ามกลางความมืด สองคนชนกันพอดี ถุงทองสีแดงในมือของเย็นร่วงหล่นลง เปียตะครุบขึ้นมาดูอย่างรวดเร็วถาม
“น้าเย็นจะเอาทองไปทำไมเยอะแยะ”
“เรื่องของน้า” เย็นกระชากคืน
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเปียรึเปล่า”
เย็นมองเปียหนักใจก่อนบอก
“ไม่เกี่ยว”
“ดี...อย่าทำอะไรให้มันเสียหายมาถึงเปียนะ เปียกลัวความลับจะไปถึงหูคุณๆ”
เย็นหันขวับ สีหน้าระแวง
“คุณหญิงบอกท่าทางน้าเย็นเหมือนมีความลับ น้าเย็นจะทำอะไรก็ช่าง จะเอาเงินเอาทองไปเลี้ยงผู้ชายเปียก็จะไม่ยุ่งแต่อย่าให้ทุกคนสงสัย จนความเดือดร้อนมาถึงเปีย”
เย็นมองเปียนับวันยิ่งเสียใจ แต่ไม่ต่อล้อต่อเถียง เดินลิ่วไปตามทาง เปียมองสงสัย ตามเย็นไป
เปียย่องตามเย็นไปตามทางกลางดึก โดยที่เย็นไม่รู้ตัวอย่างผิดวิสัย ท่าทางของเย็นทรุดโทรมจากการเจ็บป่วย และความทุกข์ใจ ที่นับวันยิ่งอัดอั้น เปียตกใจ เมื่อมองเห็นเย็นเดินเข้าไปตึกร้าง เปียเห็นเหมือนผู้ชายแว่บๆ เธอตามเข้าไป เต็มไปด้วยความสงสัยว่าเย็นมาทำไมที่นี่ เธอจะก้าวเท้าตามเข้าไปแต่ก็ชะงักเพราะนึกได้ว่าเธอทำร้ายนมแสที่นี่ เปียหน้าซีดเผือด เนื้อตัวสั่นสะท้าน จนต้องถอยกลับไปอย่างคนที่กระทำความผิดเอาไว้
เย็นเดินเข้าไปด้านใน มุกเดินออกมา หัวเราะ
“นึกว่าเนื้อเย็นคนสวย จะไม่มาตามนัดซะแล้ว”
เย็นไม่ต่อล้อต่อเถียง แต่ยื่นถุงทองให้ มุกรับไปดู หน้าไม่พอใจ
“อะไรมีแค่นี้”
“ฉันเคยจนยังไง วันนี้ฉันก็จนอย่างนั้น หมดเนื้อหมดตัวฉันก็มีให้แกเท่านี้”
“โกหก...”
เย็นหน้าตาเหนื่อยใจมาก
“ไม่เชื่อก็ตามใจ และถ้าแกจะแฉจริงๆ ฉันก็คงต้องถือเป็นเวรเป็นกรรมของยัยเปียที่มันมีอาอย่างแกไม่เคยเลี้ยงดู แถมยังตามมาล้างผลาญ”
มุกหงุดหงิด
“ฉันตามมาล้างผลาญมันที่ไหนก็แค่...ขอเงินใช้นิดหน่อย นังเปียมันได้เป็นลูกคนรวยเลี้ยง อาขอนิดๆหน่อยๆไม่ได้รึไงวะ”
“แกไม่อายตัวเอง ก็อายผีพี่โมกบ้างเถอะไอ้มุก พูดออกมาได้...นี่ ถึงเงินทองที่ฉันให้แกไป มันจะไม่มากมาย แต่ถ้าแกเอาไปขาย เป็นทุนทำมาหากิน แกก็จะเลี้ยงตัวเองได้ตลอดชีวิต ฉันขอ เปียมันมีอนาคตที่ดีแล้วอย่าไปยุ่งกับมันเลยนะ”
มุกทำทีเป็นไม่ว่า แต่ดวงตาบอกว่าไม่ยอม เย็นมองกังวลกลุ้มใจอ้อนวอน
“นะมุก ปล่อยให้หลานมีอนาคตที่ดี ฉันขอ”
มุกไม่ตอบ
เย็นเดินตรงลิ่วจะกลับบ้านด้วยท่าทางกลุ้มใจ เปียที่ดักรออยู่เดินพรวดออกมาขวาง ถามเสียงดุกังวล
“น้าเย็นแอบไปหาใครมา”
เย็นมองเปียตกใจ สายตาเป็นเชิงถาม เปียบอกแบบถือไพ่เหนือกว่า
“เปียเห็น”
“เห็นก็ไม่จำเป็นต้องรู้...”
เย็นจะเดินไป เปียเดินมาขวาง
“แล้วมันเกี่ยวกับเปียมั้ย”
“แกจะอะไรกับน้านักหนา”
“ก็เปียไม่ไว้ใจน้าเย็น เปียกลัวน้าเย็นหักหลัง”
เย็นมองระอาอ่อนใจ ได้แต่ถอนหายใจ
“น้าทำทุกอย่าง เพื่อแก”
“รวมทั้งกอดกับคุณนายวณีด้วย” เปียยิ้มเยาะเย้ยหยัน “ถ้าคุณอุทัยมาเห็น คงมีความสุขมากที่เมียน้อย อ้อ ไม่ใช่สิ อดีตเมียเก็บ นางบำเรอ สมานฉันท์คืนดีกับเมียหลวงแล้ว”
เย็นเสียใจมาก
“อย่าก้าวร้าวกับน้านะเปีย”
“น้าเย็นจะจัดการอะไรเปียอีก เปียก็ไม่กลัว เปียหมดศรัทธาน้าเย็นแล้ว”
“ที่ผ่านมา แกก็ไม่เคยศรัทธาน้าอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถึงตอนนี้แกจะไม่ศรัทธา ก็คงไม่มีผลอะไรกับชีวิตน้า”
เย็นขมขื่น จะเดินไป
“รู้ว่าไม่แคร์ แต่อย่าทำให้เปียเดือดร้อนแล้วกัน”
“ถ้าแกเป็นคนดี แกจะไม่มีทางเดือดร้อน แต่ถ้าไม่...นรกกำลังรอแกอยู่ เพราะตอนนี้ ไอ้มุกอาของแกมันกลับมาแล้ว...และมันก็ไม่ได้กลับมาธรรมดา แต่มันกลับมาเพื่อแฉแก” เย็นตัดสินใจบอก
เปียหน้าซีดเผือด เดินแทบไม่มีแรงที่จะเข้าบ้าน เสียงของเย็นดังก้อง
“แกเชื่อน้านะเปีย ความดีเท่านั้นจะคุ้มกะลาหัว เพราะถ้าแกเป็นคนดีต่อให้ไอ้มุกมันแฉ ทุกคนก็ยังจะรักแก”
เปียเดินหน้าเครียดกลุ้มกังวล จะเดินเข้าห้อง ผ่านห้องเลอสรรเห็นเขากำลังขัดปืนอยู่ ก่อนที่จะเก็บไว้ในลิ้นชัก เปียมองตาวาวสนใจ สายตาเพ่งมองไปที่ปืน
วันใหม่...ทุกคนนั่งทานข้าวกันอยู่ รจนามองเปียสังเกต ขณะที่เปียมองวณี อุทัยด้วย
ความหวาดระแวง
“จวน...แบ่งอาหารไปให้เย็นด้วยนะ ผลไม้ด้วย บอกให้เย็นกินเยอะๆจะได้แข็งแรงเร็วๆ” วณีสั่งจวน
เปียมองวณี ความเจ็บปวดหวาดระแวงแล่นขึ้นมาอีก ขณะที่อุทัยก็มองแปลกใจ
“วณีบังเอิญเจอกับเย็นเลยรู้ว่าเย็นไม่สบายน่ะค่ะ”
“แล้วได้เรื่องมั้ย” อุทัยถามเป็นนัย
เปียมองหน้าวณีกับอุทัยสังเกต รู้ดีอุทัยกับวณีคุยกันเรื่องอะไร
“เย็นไม่ค่อยสบาย วณีเลยไม่ได้คุยอะไรกับเย็นค่ะ”
อุทัยพยักหน้ารับรู้ ขณะที่เลอสรรบอกจวน
“น้าจวนเดี๋ยวผมเอาอาหารไปให้น้าเย็นเองนะครับ”
“ค่ะ”
ทุกคนรับประทานอาหารกันตามปกติ มีเพียงเปียที่จ้องมองทุกคนสายตาหวาดระแวง กลัดกลุ้ม
เลอเดินถือสำรับอาหารออกไป เปียมอง มั่นใจเห็นเลอสรรออกไปแล้วแน่ๆ จึงเดินกลับขึ้นไปชั้นบนทันที...เปียกวาดสายตามองไปรอบๆ ไม่เห็นใครรีบเปิดประตูห้องของเลอสรร ตรงลิ่วไปขโมยปืนของเขา เธอกำปืนแน่น มุ่งมั้นตั้งใจว่า ใครขวางทาง เธอไม่ปล่อยไว้แน่
เลอสรรถือสำรับอาหารเข้าไป เย็นเห็นมองแปลกใจ เลอสรรรีบบอก
“น้าวณีบอกให้น้าเย็นกินข้าวเยอะๆ จะได้หายเร็วๆ”
“ฝากขอบคุณคุณวณีด้วยค่ะ”
เลอสรรมองเห็นหน้าเย็นยังมีรอยแดงช้ำก็อย่างเป็นห่วง
“น้าเย็นไปโดนอะไรมาเหรอครับ”
เย็นสะดุ้งรีบปฏิเสธ
“ปะ...เปล่าค่ะ”
เลอสรรมองน้อยที่มองเขาส่งสายตาทำนองเย็นไม่บอก น้อยเป็นห่วงเย็นมาก เลอสรรเห็นสายตาของน้อยก็รู้
“ถ้ามีอะไรให้ช่วย บอกได้เลยนะครับ...ผมเป็นห่วงน้าเย็น ไม่แพ้น้อย”
“ขอบคุณค่ะ แต่ต่อไป คุณอาจไม่พูดอย่างนี้ก็ได้”
“ไม่มีทางครับ ผมรักน้อย น้อยรักน้าเย็น ผมก็รักน้าเย็นด้วย” เลอสรรบอกจริงจัง
เย็นมองซึ้งใจ น้อยมองเลอสรรเหมือนจะงอน
ในสวน...น้อยบอกเลอสรรอย่างไม่สบายใจ
“พี่เลอสรรพูดอะไรก็ไม่รู้”
“พูดความจริง ถึงตอนนี้พี่เริ่มเชื่อมั่นแล้วว่า น้าเย็นเห็นใจพี่”
เลอสรรจับมือน้อยมากุม เปียเดินมาเห็นมองภาพตรงหน้าปวดร้าว
“อดทนอีกนิดนะน้อย พี่จะทำทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ให้น้าเย็นเห็นว่า พี่รักและจริงใจกับน้อยจริงๆ”
“ไม่ได้นะคะ...พี่เลอสรรต้องแต่งงานกับเปีย” น้อยดึงมือออก
“พี่ไม่ได้รักน้องเปีย แล้วน้องเปียก็ไม่ได้รักพี่อย่างนั้นเหมือนกัน”
เปียหัวใจแทบสลาย เลอสรรหันมาเห็นเปียพอดี เขายิ้มบอก
“นั่นไง...น้องเปียอยู่นั่น”
เลอสรรเดินมาหาเปีย กอดแบบพี่ชายกอดน้องสาว ขณะพาเปียเดินเข้ามาหาน้อย
“น้องเปีย...บอกน้อยสิ ว่าน้องเปีย รักพี่อย่างพี่ชาย”
เปียกับน้อยมองสบตากันน้อยมองเปียลำบากใจ เปียมองน้อยเจ็บปวด
“เปียไม่ได้รักพี่เลอสรรอย่างพี่ชายค่ะ”
เลอสรรตกใจ
“น้องเปีย”
เปียเสียงสั่นสะท้าน
“เปียอยากแต่งงาน อยากสร้างครอบครัว...ที่อบอุ่นมีความสุขกับพี่เลอสรร”
น้อยเห็นใจสงสาร ถึงยังโกรธเรื่องถูกหลอกไปฆ่าอยู่
“เปีย...”
“แต่น้าเย็นสอนเปีย แพ้อย่างมีศักดิ์ศรีดีกว่าไปยื้อแย่งเอาชัยชนะมา ในเมื่อพี่เลอสรรรักน้อย เปียยินดีด้วยค่ะ”
พูดจบเปียก็เดินแยกไปทันที น้อยมองกังวลตกใจ เลอสรรตามเปียไปทันที
เปียร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด สิ่งที่พยายามยื้อมาตลอด เริ่มสูญเสียไปทีละอย่างเลอสรรเดินตามมาร้องเรียกอาทร
“น้องเปีย”
เปียหันมา เลอสรรเดินเข้าไปหา
“พี่ขอโทษที่ทำให้น้องเปียเสียใจ แต่พี่โกหกตัวเองไม่ได้จริงๆ”
เลอสรรมองหน้า เปียร้องไห้ เลอสรรมองสงสารเห็นใจ แต่ตัดใจเดินออกมาปล่อยให้เปียยืนร้องไห้อยู่อย่างนั้น ประวิทย์ยืนมองอยู่ ดวงหน้าเศร้า เปียสบตากับประวิทย์ แต่ประวิทย์ไม่ได้เดินเข้ามาปลอบใจ เขาเลือกที่จะจากเปียไปเช่นกัน
เปียได้แต่ปล่อยโฮอยู่ตรงนั้น นาทีนี้ไม่เหลือใครแล้วจริงๆ
อ่านต่อตอนที่ 17