ผัวชั่วคราว ตอนที่ 12
วิลิปดาเข้ามาในบ้าน ปิดประตู เสียงลำเพยพรรณดังเข้ามา
"วันนี้พีไม่ได้มาส่งเหรอจ๊ะ"
วิลิปดาชะงัก หันไปตอบเขินนิดๆ
"ไม่ใช่ค่ะ"
"น้ามองออกไปก็ว่าไม่ใช่ เดี๋ยวนี้ คบหลายคนเหรอลิปดา"
"เปล่าค่ะ พอดีเขาเป็นเพื่อนร่วมงานคนใหม่ เพิ่งมาวันนี้ บ้านเราเป็นทางผ่าน เขาเลยแวะมาส่งค่ะ"
"เมื่อก่อนพีก็บอกว่าทางผ่านเหมือนกัน เอ...บ้านเรานี่ท่าจะทำเลดีนะ"
"แหม...น้าพรรณคะ"
"น้าไม่ว่าอะไรหรอกนะ แต่อยากให้ดูดีๆ ก่อน แล้วพีเขาไม่ว่าอะไรเหรอ"
"พี่พีออกไปพบลูกค้ายังไม่กลับค่ะ"
"แสดงว่าเขายังไม่รู้น่ะสิ"
"ยังค่ะ"
วิลิปดาจะเดินเลี่ยงไป แต่ลำเพยพรรณพูดต่อ
"จะคบใครก็ดูให้ดีละกันนะ อย่างพีก็ดูเป็นคนดี ท่าทางเอาใจใส่ลิปดาดีด้วย"
วิลิปดาหันกลับมา
"หนูก็ดูๆ ไปก่อนน่ะค่ะ ยังไม่คิดอะไรกับใครเป็นพิเศษ อยากดูให้ดีๆ ก่อนเหมือนกัน"
ลำเพยพรรณมองหลานสาวอย่างรู้ทัน
"ร้ายจริงๆ นะลิปดานี่แอบดื้อตามเคย"
"เปล่านะคะ หนูคิดอย่างนั้นจริงๆ เหนียวตัวจัง หนูขอขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะคะ"
วิลิปดารีบขึ้นบันไดไป ลำเพยพรรณมองตามเป็นห่วง
วิลิปดาเข้ามาในห้อง ยิ้มอารมณ์ดีมีความสุขหัวใจพองโต เธอวางกระเป๋าแล้วนั่งลง คิดถึงคตกริช
เสียงไลน์ดังขึ้น วิลิปดาหยิบมาดู
"เข้าบ้านเรียบร้อยแล้วนะครับ"
"เข้ามาแล้วค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ"
"ยังไม่ได้ขับไปไหนเลยครับ"
เธอชะงัก รีบไปที่หน้าต่าง เปิดม่านออกมองลงไป เห็นคตกริชเปิดกระจกลงมองขึ้นมา ยิ้มแล้วโบกมือให้ เธอโบกมือกลับไป
ลำเพยพรรณเปิดตู้เย็นจะหยิบน้ำ แต่พอมองผ่านหน้าต่าง ก็เห็นคตกริชโบกมือให้ใครอยู่ จึงนิ่วหน้ามองสงสัย เธอเปิดประตูออกไปดูหน้าบ้าน
เขายังโบกมือให้ลิปดา แต่พอลำเพยพรรณออกมามอง ก็ชะงัก รีบหดมือกลับ แล้วขับรถออกไป ลำเพยพรรณมองขึ้นไปบนห้อง เห็นหลานสาวรีบปิดม่าน ก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
พอปิดม่าน เดินกลับเข้ามาในห้อง เสียงมือถือดังขึ้น วิลิปดาดีใจคิดว่าคตกริชโทร.มา แต่พอเห็นหน้าจอก็ผิดหวังเล็กน้อย
"สวัสดีค่ะพี่พี"
พีรนันท์โทร.หาวิลิปดาอย่างร้อนรน
"ลิปดาออกไปกินข้าวที่ไหนครับ"
"เปล่าค่ะ ลิปดาอยู่บ้านแล้ว"
"อะไรนะครับ ทำไมวันนี้กลับเร็วจัง"
"พอดีงานเสร็จเร็วน่ะค่ะ"
"ทำไมไม่รอพี่ พี่อุตส่าห์รีบคุยรีบกลับมา จะได้กลับด้วยกันไง"
"ไม่เป็นไรค่ะ ลิปดากลัวว่าพี่พีจะเลิกดึก ยังไงลิปดาก็กลับมาแล้วนี่คะ"
"โอเคครับ ลิปดาถึงบ้านแล้วพี่ก็หายห่วง คืนนี้พี่โทร.หาอีกนะครับ"
"ค่ะพี่พี"
วิลิปดาวางสาย สีหน้าไม่สบายใจนัก
ภายในผับถูกตกแต่งเรียบร้อยแล้ว เตรียมจะเปิดพรุ่งนี้ พนักงานกำลังจัดโต๊ะเก้าอี้และวางดอกไม้ตกแต่งสถานที่ ลำเพาภาเดินสำรวจความเรียบร้อย รอคตกริชอย่างหงุดหงิด
"ทำไมยังไม่มาอีกนะ"
พิมพ์สนมเดินเข้ามาหาลำเพาภา
"คุณพิมพ์คะ คุณเชิดเชิญไปดูข้างในหน่อยค่ะ"
"บอกว่าอีกสิบห้านาที"
"เห็นคุณเชิดว่าเชิญไปเดี๋ยวนี้เลยได้ไหมคะ ต้องช่วยตัดสินใจด่วนเรื่องจัดห้องผู้จัดการค่ะ"
"งั้นเธอช่วยดูเขาจัดดอกไม้ตรงนี้หน่อย ว่าตรงตามแบบหรือเปล่า"
"ได้ค่ะ"
ลำเพาภาเข้าไปทันที พิมพ์สนมดูการจัดดอกไม้ต่อจากเจ้านาย คตกริชเปิดประตูเข้ามาด้วยท่าทางรีบร้อน แต่ลำเพาภาเข้าไปแล้วจึงไม่ทันเห็น
พิมพ์สนมหันมาก็ยิ้มให้อย่างดีใจทันที
"สวัสดีค่ะคุณกริช มาแล้วเหรอคะ เห็นคุณเพารออยู่"
"สวัสดีครับคุณ...พิมพ์"
"ความจำดีจังเลยค่ะ"
พิมพ์สนมยิ้มหวานให้อย่างน่ารัก
"เราเคยคุยกันแล้วนี่ครับ ... คุณเพาอยู่ไหนครับ"
"เข้าไปคุยกับคุณเชิดอยู่ค่ะ รอตรงนี้ก่อนก็ได้นะคะ"
"ทำอะไรอยู่ครับ"
"อ๋อ...พิมพ์ช่วยคุณเพาดูจัดดอกไม้อยู่ค่ะ"
"สวยมากเลยนะครับ"
พิมพ์สนมทำแกล้ง
"ขอบคุณค่ะ"
คตกริชขำๆ
"ผมชมดอกไม้ครับ"
พิมพ์สนมหัวเราะทำตัวน่ารัก
"แหม...เนียนๆ หน่อยก็ไม่ได้"
"ผมล้อเล่นครับ อย่างคุณพิมพ์ต้องชมว่าสวยน่ารักต่างหาก"
พิมพ์สนมมองคตกริชยิ้มตาเป็นประกาย แอบอ่อยนิดๆ เขาหันมาเห็นเธอยิ้มให้ก็ยิ้มตอบ
ในห้องผู้จัดการผับ ลำเพาภาสั่งช่างอย่างเอาใจใส่มาก
"เก้าอี้นั่งขอเป็นทรงสูง ปรับเอนได้ด้วย เอาที่มีคุณภาพดีที่สุด ขอโซฟารับแขกสีดำสวยๆชุดนึงตั้งตรงนี้ แล้วก็ติดโคมไฟที่นี่ เอาแบบเก๋ๆ ทันสมัย ในแบบที่ส่งมามันดูราคาถูกไปหน่อย แล้วก็เอาตู้ใบใหญ่กว่าเดิมนิดนึงสำหรับโชว์ของใหญ่ๆ ได้ด้วย"
เชิดศักดิ์ทำแซว
"ท่าทางห้องผู้จัดการจะหรูซะจนผมอยากนั่งเองแล้วนะเนี่ย"
"ที่นี่เป็นผับชั้นสูงนี่คะ ห้องผู้จัดการก็เป็นหน้าเป็นตาของผับเหมือนกัน"
"ตามใจคุณเพาครับ"
"ได้ครับ เดี๋ยวผมจะเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้คุณเชิดกับคุณเพาดูอีกที"
"จ้ะ รีบไปจัดการเลย"
ช่างออกไป ลำเพาภาจะตามออกไป แต่เชิดศักดิ์พูดขึ้น
"เขาไม่เหมาะกับคุณเพาหรอกนะครับ"
ลำเพาภาชะงัก หันกลับมา
"ใครคะ"
"ก็เจ้าของห้องนี้ไงละครับ"
เธอตกใจที่เชิดศักดิ์รู้ แต่เก็บอาการไม่แสดงออก ถามกลับไปนิ่งๆ
"เหมาะหรือไม่เหมาะตัดสินตรงไหนเหรอคะ"
เชิดศักดิ์เดินเข้ามาใกล้ลำเพาภา
"ทั้งฐานะทั้งความรู้ คุณสมบัติต่างๆ เขาไม่ควรค่าให้คุณมองเลย"
"อายุด้วยใช่ไหมคะ"
"มันก็เป็นอุปสรรคอย่างนึง เขาคิดไม่เหมือนเราหรอก"
ลำเพาภามองเชิดศักดิ์อย่างท้าทาย
"ถ้ามองแค่นั้น เราสองคนก็เหมาะสมกันมากกว่า"
เชิดศักดิ์ขยับเข้ามาใกล้เธอมากขึ้นจนแทบจะแนบชิดกัน
"ใครๆ ก็มองว่าเราสองคนเหมาะสมกันที่สุด ผมอยากให้คุณเปิดใจกับผมบ้าง เรารู้จักกันมานาน เราคุยกันรู้เรื่อง และเราก็รู้ทันกัน"
"แต่ที่จริงมันไม่ใช่แค่นั้นนะคะ ถ้าใจเราสองคนไม่ตรงกัน ความเหมาะสมมันก็ไม่มีประโยชน์"
พูดจบลำเพาภาก็เดินออกไป เชิดศักดิ์เจ็บใจ อยากเอาชนะ
อ่านต่อหน้า 2
ผัวชั่วคราว ตอนที่ 12 (ต่อ)
พิมพ์สนมกับคตกริชคุยกัน หัวเราะคิกคักสนุกสนาน ลำเพาภาก้าวฉับๆ ออกมา พิมพ์สนมตาไวเห็นก่อนจึงรีบแยกออกจากเขา มาหาลำเพาภาทันที
"คุณเพาคะ คุณกริชมาแล้วค่ะ"
แว่บแรกเธอดีใจ แต่แล้วก็หงุดหงิดใส่แบบงอน ๆ
"ทำไมมาช้านักล่ะ"
"ขอโทษครับคุณเพา ตอนนี้ขับรถเก๋งเลยซอกแซกไม่ค่อยได้"
"หน้าไปโดนอะไรมา"
"อ๋อ...อุบัติเหตุนิดหน่อยครับ"
"มอเตอร์ไซค์อีกแล้วสิ เลิกขับได้แล้วนะ มีรถแล้วนี่ ที่จริงฉันอยากให้เธอคุยกับช่างตกแต่งห้องทำงานด้วย ว่าอยากได้แบบไหนแต่นี่เขาเพิ่งกลับไป"
"คุณเพาดูให้ผมก็เหมือนกันครับ ผมเชื่อใจคุณเพา"
ลำเพาภายิ้มออกมาได้
"เดี๋ยวฉันพาเธอไปดูทางนั้น เธอต้องชอบแน่"
เธอพาคตกริชออกไป พิมพ์สนมแอบยิ้มหยันหมั่นไส้เล็กๆ ที่เจ้านายจะกินเด็ก
ทางเดินในผับ เธอพาคตกริชเข้ามา
"ห้องทำงานเธออยู่ทางนี้"
ทั้งสองสวนกับเชิดศักดิ์ที่เดินออกมา คตกริชรีบยกมือไหว้ อีกฝ่ายรับไหว้ แล้วเข้าไปกอดคอด้วยท่าทางเหมือนสนิทสนมมาก
"มาแล้วเหรอผู้จัดการคนเก่งของเรา ผับยังไม่เปิดก็รับบทหนักแล้วนะ"
ลำเพาภารู้ว่าเชิดศักดิ์ประชดก็ไม่ค่อยพอใจ
"กริชเขาหนักเอาเบาสู้ค่ะ แค่นี้เขาไม่เกี่ยงหรอก"
"ได้ข่าวว่ากริชทำงานตอนกลางวันด้วย จะไหวเหรอ"
"ไหวครับ"
เชิดศักดิ์ตบบ่าแรงๆ
"หนุ่มไฟแรงกำลังสร้างเนื้อสร้างตัวก็อย่างนี้แหละ ดีแล้วๆ จะได้เก็บเงินไว้ขอเด็กสาวๆ"
เชิดศักดิ์ขยิบตาให้ คตกริชทำหน้าไม่ถูก เชิดศักดิ์หันไปทางลำเพาภาที่หน้าบึ้งอยู่
"อย่าใช้งานกริชหนักมากล่ะ เดี๋ยวเขาจะหนีเราไปซะก่อน"
เธอมองค้อนเชิดศักดิ์หน่อยๆ
"ฉันเข้าใจคนทำงาน คุณไม่ต้องห่วง"
เชิดศักดิ์หัวเราะนิดๆ แล้วเดินออกไป
ภายในบาร์ โอมนั่งรินเครื่องดื่มให้ลูกค้าอย่างตั้งอกตั้งใจ แต่แล้วมีแก้วใบหนึ่งลอยว่อนเฉียดหน้าโอมไปนิดเดียว น้ำจากแก้วกระเด็นใส่หน้า โอมเช็ดหน้าตัวเอง
หญิง 1 ซึ่งท่าทางเมามากชี้หน้าด่าโอม
"ชงเหล้าภาษาอะไร เข้มแสบคอเลย เห็นฉันเป็นขี้เมาหรือไงหา"
"ผมขอโทษครับ เดี๋ยวผมผสมใหม่ให้"
โอมจะหยิบแก้วใหม่มาชง แต่หญิง 1 ปัดออก
"ไม่เอาแล้ว ออกไปเถอะ ไปๆๆ เอาคนอื่นมาแทน ที่ดูดีดูใสๆ กว่านี้น่ะ อยู่บ้านก็เจอแต่พวกไม่เจริญหูเจริญตาแล้ว ยังต้องมาเจอที่นี่อีก"
โอมรีบออกไปอย่างน้อยใจ
โอมเตะตู้อย่างโมโห แฟรงค์เข้ามาดู
"พี่โอมเป็นอะไร"
โอมเอามือเสยผมด้วยความหงุดหงิด
"พี่เครียดน่ะ"
"ใจเย็นๆ พี่โอม ลูกค้าเมาแล้วก็อย่างนี้แหละ ต้องทำใจหน่อย"
"อิจฉาไอ้กริช มันหลุดพ้นแล้ว ถ้าพี่ไม่ต้องดูแลลูกหนู พี่ก็อยากจะไปให้พ้นๆเหมือนกัน"
"ไอ้กริชมันใจแข็ง แล้วก็ดวงดีด้วย มีคนอุปถัมภ์ค้ำชูสบายไปละ"
โอมชะงัก หันไปทางแฟรงค์
"งั้นที่เขาลือก็จริงเหรอ"
แฟรงค์พยักหน้า โอมหนักใจแทนกริช
"พี่ชักจะเป็นห่วงมันซะแล้ว"
"ห่วงทำไมพี่โอม มันสบายจะตาย เขาเพิ่งซื้อรถคันใหม่ให้ เงินก็ดีงานก็รุ่ง"
"แต่พี่รู้จักนิสัยมันดี มันเป็นคนชอบเอาใจคนอื่นจนเคยตัว บางทีมันอาจจะเกรงใจจนลืมความต้องการที่แท้จริงของตัวเองก็ได้"
แฟรงค์มองโอมอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก
ดูฟองเดินเชิดเข้ามาในผับ พิมพ์สนมเข้ามาต้อนรับ
"สวัสดีค่ะ มาพบใครคะ"
ดูฟองมองพิมพ์สนมหัวจรดเท้า
"มาพบคุณเพา"
"จากไหนคะ"
"เธอเป็นใครเหรอ"
พิมพ์สนมชักสีหน้าไม่พอใจ
"แล้วคุณล่ะเป็นใคร"
"เอ๊ะ...จะมาย้อนถามอีกทำไม ถ้าเธอไม่สำคัญพอฉันก็ไม่จำเป็นต้องตอบคำถาม"
พิมพ์สนมกัดฟันกรอดอย่างเจ็บใจ แต่พยายามข่มอารมณ์ ตอบเชิดๆ
"ฉันเป็นเลขาคุณเพา"
ดูฟองชะงักไปนิดหนึ่ง มองพิมพ์สนมอย่างพิจารณา
"อ๋อ...เลขานี่เอง จำได้แล้ว ฉันเคยเจอเธอที่ออฟฟิศคุณเพาครั้งนึง เห็นแค่แว้บเดียวเลยจำไม่ได้ ในนี้มันมืดด้วย"
พิมพ์สนมพูดนิ่มๆ แต่เชือดเฉือน
"ท่าทางจะความจำไม่ค่อยดี"
ดูฟองสะอึกไปนิด
"ปกติจะความจำดีเฉพาะคนที่สำคัญๆ เท่านั้น ถ้าไม่สำคัญพอก็ไม่รู้จะจำให้รกสมองทำไม"
"ท่าทางพื้นที่สมองของเธอคงจะเล็กมาก จึงได้จำอะไรไม่ค่อยได้"
ดูฟองขึ้นเสียงจะเถียง แต่เชิดศักดิ์ออกมาพอดี
"มีอะไรกันเหรอ"
"อ๋อ...เปล่าหรอกค่ะ" พิมพ์สนมบอก
ดูฟองกับเชิดทำเป็นไม่รู้จักกันตามที่ตกลงกัน
"ดิฉันชื่อดูฟองค่ะ คุณเพานัดดูฟองมาพบที่นี่"
"อ๋อ...คุณคงเป็นนักร้องที่คุณเพาจ้างมา ... ช่วยไปตามคุณเพามาสิพิมพ์ จะได้มาฟังคุณดูฟองร้องเพลง คงอยู่ในห้องผู้จัดการน่ะ"
"ได้ค่ะ"
พิมพ์สนมเดินออกไป ดูฟองเหยียดปาก เชิดศักดิ์กระซิบถาม
"มีอะไรหรือเปล่า"
"นิดหน่อยค่ะ ท่าทางแม่เลขาคนนี้ไม่เบาเหมือนกัน"
"ก็แค่เลขาน่ะ อย่าไปถือสาเลย"
ดูฟองยังมองตามพิมพ์สนมอย่างไม่ชอบขี้หน้านัก
ภายในห้องทำงานผู้จัดการผับ ลำเพาภาบรรยายให้คตกริชฟังว่า จะตกแต่งห้องอย่างไรบ้าง
"แล้วตรงนี้ฉันก็จะตั้งโซฟารับแขกสีดำ ปูพรมสีเทา เธอชอบไหม"
คตกริชอึ้งไปอย่างไม่สบายใจ
"ผมรู้สึกว่ามันหรูเกินไป"
ลำเพาภามองคตกริชอย่างจริงจังลึกซึ้ง
"ไม่หรูเกินไปหรอก ไม่มีอะไรมากเกินไปสำหรับเธอ"
คตกริชถอนใจอย่างอึดอัด
"ผมไม่อยากให้คนอื่นมองว่าผมได้สิทธิพิเศษ"
"ไม่ต้องไปสนใจท่าทีของใคร เธอเป็นผู้จัดการที่นี่ ใหญ่รองจากฉันกับคุณเชิด ห้องทำงานของเธอก็คือห้องที่ใช้ต้อนรับแขกวีไอพีทั้งหลาย เธอสมควรได้พร้อมกับตำแหน่งอยู่แล้ว"
"ขอบคุณครับคุณเพา"
ลำเพาภาเข้าไปกอดแขนคตกริชไว้
"อยากให้ถึงวันเปิดผับเร็วๆจัง"
"อีกไม่นานแล้วนี่ครับ"
"แต่ฉันใจร้อน อยากให้เราจะได้อยู่ใกล้กันเร็วๆ"
เธอซบกับไหล่คตกริช เขาแอบเกร็งตัวเล็กน้อย
ประตูห้องเปิดออก ลำเพาภารีบผละออกจากเขาทันที พิมพ์สนมเปิดเข้ามา รู้สึกถึงความผิดปกติของทั้งสอง แต่ก็ทำเป็นไม่รู้เรื่อง
"มีอะไรเหรอพิมพ์"
"นักร้องที่ชื่อดูฟองมาแล้วค่ะ"
"อ้อ... นักร้องที่มาสมัครงานกับฉัน เดี๋ยวเราออกไปฟังกันว่า เขาร้องเพลงเป็นยังไง"
ลำเพาภาเดินออกมาหยุดที่หน้าพิมพ์สนม
"อ้อ...วันหลังจะเข้าออกห้องไหน ช่วยเคาะประตูก่อนด้วยนะ"
พิมพ์สนมก้มหน้ารับ
"ค่ะ"
เธอพาคตกริชเดินออกไป พิมพ์สนมแสยะปากหมั่นไส้ก่อนจะรีบตามไป
อ่านต่อหน้า 3
ผัวชั่วคราว ตอนที่ 12 (ต่อ)
ดูฟองร้องเพลงสากลอยู่บนเวที พร้อมกับเต้นส่ายสะบัดไปมาอย่างเซ็กซี่ เชิดศักดิ์มองอย่างพอใจ แต่ลำเพาภานิ่วหน้าเล็กน้อย ตอนจบเพลงดูฟองฉีกแข้งฉีกขา สะบัดกระโปรงขึ้นมาจนเซ็กซี่เกินงาม
ลำเพาภาชะงักไปนิดหนึ่ง แต่เชิดศักดิ์หัวเราะชอบใจ พิมพ์สนมมองดูฟองอย่างดูถูกก่อนจะหันมายิ้มโปรยเสน่ห์ให้คตกริช เขายิ้มตอบตามมารยาท
เชิดศักดิ์ตบมือให้ คตกริชกับพิมพ์สนมเลยตบตาม ลำเพาภาตบมือตามมารยาท ดูฟองลงจากเวที
"เป็นยังไงบ้างคะ"
"ฉันว่าสำหรับคอนเซ็ปต์ของผับเรา ไม่จำเป็นต้องเซ็กซี่ขนาดนี้ก็ได้ เอาแค่เบาๆ ก็พอ"
ดูฟองหน้าเจื่อนไปนิดหนึ่ง พิมพ์สนมทำเป็นแอบเอามือปิดปากหัวเราะเพื่อยั่วดูฟอง
ดูฟองเหลือบมองแค้นๆ แต่ก็ทำเป็นยิ้มรับ
"ได้ค่ะ ดูฟองจะลดดีกรีความเซ็กซี่ให้น้อยลง"
"แต่ผมกลับชอบนะ ดูเร้าใจดี แขกของเรามีต่างชาติเยอะ เขารับได้อยู่แล้ว ดูอย่างนักร้องฝรั่งสิ ถ้าไม่ขายเซ็กซี่ด้วยยังอยู่ยาก"
"แต่เราก็ต้องแคร์แขกคนไทยด้วย โรงแรมนี้มีระดับผู้บริหารพาลูกค้ามาเอนเตอร์เทนบ่อยๆ เราควรจะเป็นห่วงภาพลักษณ์เราด้วย"
"เดี๋ยวนี้ผับแข่งขันกันเยอะ ถ้าเราไม่มีจุดขายที่โดดเด่น คนก็จะไม่พูดถึง"
"เราสร้างจุดเด่นอย่างอื่นก็ได้นี่คะ อย่างการตกแต่ง หรือบริการที่ดี ... หรือกริชว่าไง ผับที่เธอเคยทำงานด้วยเขาเป็นยังไง"
เขสตอบด้วยความเกรงใจ
"เขา..ก็มีจุดขายเรื่องบริการกับบุคลากรครับ ขายความเซ็กซี่บ้างพอประมาณ"
ลำเพาภาพยักหน้าพอใจ แต่เชิดศักดิ์รู้สึกขัดใจ พิมพ์สนมแอบยิ้มรู้อยู่แล้ว
" งั้นเอาพอประมาณก็แล้วกันค่ะ ให้ดูฟองลดเซ็กซี่ลงดีกว่า"
ดูฟองมองหน้าเชิดศักดิ์ เขาจำใจยอมรับ
"โอเคครับ ตามใจคุณเพาละกัน"
"ดูฟองจะไปปรับปรุงมาใหม่นะคะ"
"อย่างอื่นก็โอเคแล้วจ้ะ"
"ขอบคุณค่ะ ดูฟองกลับเลยนะคะ"
ดูฟองยกมือไหว้ลำเพาภากับเชิดศักดิ์ แล้วยิ้มอ่อยๆให้คตกริช พิมพ์สนมแอบเบะปากหมั่นไส้ แต่ดูฟองเชิดใส่ก่อนออกไป เชิดศักดิ์ลุกขึ้นบ้าง
"งั้นเรากลับกันเถอะครับคุณเพา เดี๋ยวผมขับไปส่งคุณ"
"ไม่เป็นไรค่ะ คุณกลับไปก่อนเถอะ"
เชิดศักดิ์มองลำเพาภากับคตกริชอย่างหมั่นไส้
ในเวลาเดียวกัน แฟรงค์เข้ามาในห้อง มองซ้ายมองขวาไม่เห็นใครจึงหยิบยาอะไรบางอย่างใส่ปาก แล้วดื่มน้ำตาม
"ทำอะไรน่ะแฟรงค์" โอมถาม
"กินน้ำไงพี่"
แฟรงค์ดื่มน้ำอักๆๆ จนหมดแก้ว โอมมองไม่เชื่อ
"แต่เมื่อกี้พี่เห็น... แกก็รู้ไม่ใช่เหรอว่า คุณมลกับเจ๊บอนนี่ไม่ชอบให้ใครเล่นของแบบนี้"
แฟรงค์เริ่มหงุดหงิด
"เล่นอะไรพี่โอม"
"มันจะทำให้แกโทรมเร็ว"
แฟรงค์อารมณ์แรงขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล
"เฮ้ย...พี่โอม เราพูดกันคนละเรื่องแล้ว พี่พูดอะไรไม่รู้เรื่อง"
"แกเล่นยาใช่ไหม"
แฟรงค์งุ่นง่าน
"อย่ามาใส่ร้ายได้ไหมพี่โอม"
แฟรงค์จะเดินออกไป โอมดึงไว้
"พี่จะไม่บอกใครนะ แต่แกรีบเลิกซะ ก่อนที่จะสายเกินไป"
"ไม่มีอะไรแล้วจะให้เลิกได้ยังไงล่ะ! อย่ามายุ่งอีก ไม่งั้นจะเลิกนับถือเป็นพี่"
แฟรงค์สะบัดตัวจากโอม แล้วฮึดฮัดออกไป โอมมองตามเป็นห่วง
ในเวลาต่อมา คตกริชเดินออกมากับลำเพาภา
"รถคุณเพาจอดอยู่ที่ไหนครับ"
"ฉันทิ้งไว้ที่บริษัท"
"งั้นเดี๋ยวผมไปส่ง"
ลำเพาภายิ้มสมใจ คตกริชเปิดประตูรถให้เธอขึ้นนั่ง เธอยิ้มให้เขาอย่างขี้เล่น
"เหมือนที่ฉันฝันไว้เลย ฉันได้เป็นตุ๊กตาหน้ารถของเธอ"
คตกริชยิ้มขำกับความเป็นเด็กในตัวลำเพาภา เธอยิ้มอย่างมีความสุข พิมพ์สนมแอบดูอยู่อย่างหมั่นไส้
คตกริชขับรถมาถึงหน้าตึกบ้านลำเพาภา เขาเปิดประตูให้เธอลงมา
"ฝันดีนะครับคุณเพา"
คตกริชทำท่าจะกลับขึ้นไปนั่งที่คนขับ
"จะกลับแล้วเหรอ"
กริชหยุดกึก มองไปเห็นลำเพาภามองมาด้วยสายตาอ้อนๆ
"พรุ่งนี้คุณเพาต้องไปทำงานแต่เช้านี่ครับ"
"เธอด้วยใช่ไหม... ไม่เป็นไร งั้นเธอกลับไปก็ได้ อยากกลับก็กลับไป เชิญ"
ลำเพาภาทำท่าจะเข้าบ้าน คตกริชยืนนิ่งตัดสินใจ รู้สึกเกรงใจ
"คุณเพาครับ"
ลำเพาหันกลับมายิ้มอย่างสดใส
ในบ้านเชิดศักดิ์ดูฟองนวดไหล่ให้เชิดศักดิ์อย่างเอาใจ
"วันนี้ลุ้นแทบแย่ นึกว่าจะไม่รับดูฟองซะแล้ว"
"ถึงยังไงผมก็จะช่วยให้ถึงที่สุด ไม่ต้องห่วงหรอก"
ดูฟองกอดเชิดศักดิ์ไว้จากด้านหลัง
"ตกลงจะบอกได้หรือยังคะ ว่าที่ให้ดูฟองเข้าไปทำงานในนั้น อยากให้ช่วยอะไร"
"ช่วยจับตาดูหุ้นส่วนของผมเอาไว้ ผมสงสัยว่าเขากับผู้จัดการอาจจะสมคบคิดกัน"
"อ๋อ...คตกริชน่ะเหรอคะ ชัวร์เลยค่ะ ดูก็รู้ว่าคุณเพามองเขาพิเศษกว่าคนอื่น ขนาดเรื่องที่คุณเชิดกับคุณเพาควรจะตัดสินใจกันแค่สองคน กลับให้ผู้จัดการตัดสินใจ หลงเด็กแน่ๆ"
เชิดศักดิ์กัดฟันกรอดอย่างเจ็บใจ
"นั่นแหละ ผมถึงต้องให้ดูฟองช่วย"
"แล้วทำไมคุณเชิดถึงรับผู้จัดการคนนี้ละคะ"
"ผมรับปากไว้แล้วแต่แรก ว่าถ้าลำเพายอมหุ้นกับผม ผมจะให้เขาเลือกผู้จัดการเอง"
"แหม...ตามใจเขาขนาดนั้นคิดอะไรกับเขาหรือเปล่าคะ"
เชิดศักดิ์นิ่งหน้าเครียดไป ดูฟองเดินมาข้างหน้า เชยคางเชิดศักดิ์หันมา
ดูฟองทำเป็นน้อยใจ
"คุณเพาสวยรวยโสดขนาดนั้น มิน่า..."
"ไม่เอาน่าดูฟอง เราคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าผมจะดูแลคุณ แต่เราไม่มีพันธะอะไรต่อกัน"
"จำได้ค่ะ แต่ดูฟองก็อดหึงไม่ได้นี่คะ"
"ไม่ต้องหึงหรอก ผมแค่อยากเอาชนะเขาเท่านั้นเอง ไม่ได้รู้สึกกับเขาเหมือนที่รู้สึกกับดูฟองเลย"
เชิดศักดิ์ไซ้ซอกคอดูฟอง ดูฟองหัวเราะคิกคักอย่างมีจริต
ลำเพาภาเดินเข้ามาในบ้านกับคตกริช
"เฮ้อ...วันนี้ฉันเหนื่อยจัง เธอเหนื่อยไหม"
"นิดหน่อยครับ"
"นี่ขนาดยังไม่เริ่มเปิดจริงจังนะ ทำไมเธอไม่ลาออกจากงานกลางวัน แล้วมาดูแลผับให้ฉันเต็มตัว จะได้ไม่เหนื่อย"
"ผมอยากทำอะไรใหม่ๆ ที่ไม่ใช่งานกลางคืนบ้าง"
"ฉันขึ้นเงินเดือนให้เธออีกเท่านึง"
"ขอบคุณครับคุณเพา แต่ผมอยากทำอย่างนี้ไปก่อน ถ้าเหนื่อยค่อยดูกันอีกที"
"เธอนี่ชอบขัดใจฉันตลอดเลยนะ เมื่อไรจะตามใจฉันบ้าง"
ลำเพาภาหันหน้าหนี คตกริชจับมือไว้
"ผมไม่มีอะไรที่ตามใจคุณเพาได้นี่ครับ ผมจน ผมทำเท่าที่ฐานะของผมจะทำได้เท่านั้น"
ลำเพาภาหันกลับมา
"อย่าพูดเรื่องความจนอีกได้ไหม มันไม่ใช่อุปสรรคของเราเลยสักนิด เธอตามใจฉันได้โดยที่เป็นเธออย่างนี้แหละ"
"ผมจะตามใจเท่าที่ผมสามารถทำได้นะครับ"
"งั้นวันนี้ก็ตามใจฉันหน่อยสิ"
ลำเพาภาซบไหล่และกอดคตเขาไว้ เขาค่อยๆ ยกมือขึ้นกอดตอบ ด้วยความรู้สึกสับสนว้าวุ่นใจ
เสียงไลน์ของคตกริชดังขึ้น เขาชะงัก
"ผมขอตัวกลับก่อนดีกว่าครับ กลัวว่าพรุ่งนี้จะไปทำงานไม่ไหวจริงๆ"
ลำเพาภามองคตกริชอย่างระแวง
"ใครไลน์มาเหรอ ถึงได้รีบกลับ"
"ผมยังไม่ได้อ่านเลยครับ คุณเพาก็เห็น อีกไม่กี่วันเราก็จะได้เจอกันอีกอยู่แล้ว... นะครับคุณเพา"
ลำเพาภาถอนใจอย่างเสียดาย แต่ก็จำใจต้องปล่อยเขาไป
"ฉันต้องตามใจเธออีกตามเคย"
อ่านต่อหน้า 4
ผัวชั่วคราว ตอนที่ 12 (ต่อ)
คตกริชมาที่รถ เปิดไลน์อ่านดู
"ขอบคุณนะคะที่วันนี้มาส่ง"
คตกริชยิ้มกับตัวเอง กดไลน์ส่งกลับไป
"ผมอยากได้ประโยคนี้ทุกวัน ฝันดีนะครับ"
วิลิปดาอ่านไลน์ของคตกริชยิ้มๆ เธอวางมือถือไว้บนหัวเตียง แล้วหลับอย่างมีความสุข
วันรุ่งขึ้น วิลิปดามาทำงานแต่เช้า แต่โต๊ะคตกริชยังว่างเปล่า เธอจึงเข้าไปนั่งที่ตัวเองอย่างเหงาๆ
คตกริชยื่นถ้วยกาแฟมาให้ วิลิปดาเงยหน้าขึ้นมอง อย่างแปลกใจ
"ผมเคยเห็นคุณดื่มยี่ห้อนี้"
"เคยเห็นที่ไหนคะ"
คตกริชอมยิ้มไม่บอก วิลิปดาทำหน้างอนๆ
"ไม่เห็นอยากรู้เลย"
"ตอนที่ผมมาสมัครงานที่นี่"
วิลิปดาแปลกใจยิ่งขึ้น
"เราไม่ได้เจอกันครั้งแรกตอนติดฝนเหรอคะ"
"ใช่ครับ คุณเจอผมครั้งแรกตอนนั้น แต่ผมเคยเจอคุณก่อนหน้า"
วิลิปดาอึ้งไป จะถามอะไรอีก
" ลิปดา วันนี้มาแต่เช้าเลยนะครับ"
พีรนันท์เดินตรงเข้ามาหา
"เมื่อวานกลับเร็วนี่คะ"
"งั้นรีบดื่มกาแฟร้อนๆ เลย พี่ซื้อมาฝาก"
พีรนันท์ชะงัก เมื่อเห็นวิลิปดามีแก้วกาแฟแบบเดียวกัน เธอรีบแก้ตัว
"ลิปดาแวะซื้อก่อนขึ้นมาน่ะค่ะ"
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ให้เด็กๆ มันกินแทน"
พีรนันท์หันไป เห็นคตกริชกำลังเปิดแฟ้มเอกสาร
"กริช...เดี๋ยวสายๆ เรามาคุยแบ่งงานกันหน่อยนะ"
"ได้ครับคุณพี"
พีรนันท์เดินเข้าห้องไป คตกริชกับวิลิปดาแอบสบตาอย่างรู้กันสองคน
วิลิปดาเข้ามารินน้ำในห้องกาแฟ คตกริชถือแก้วน้ำเข้ามาเหมือนกัน
"คุณพ่อคุณแม่ของลิปดาดุหรือเปล่า"
"เรื่องอะไรคะ"
"เรื่องเมื่อวาน ที่มีคนแปลกหน้าไปส่งถึงบ้าน"
"ไม่หรอกค่ะ พวกท่านไม่รู้ด้วยซ้ำ"
คตกริชเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ วิลิปดารีบอธิบาย
"ลิปดาอยู่กับคุณน้าค่ะ"
"อ๋อ...แล้วคุณน้าว่าอะไรหรือเปล่าครับ"
"แค่ถามนิดหน่อยค่ะ กลัวคุณน้าดุเหรอคะ"
"ที่ผมถามก็เพราะว่า เวลาเจอคุณน้าจะได้ทำตัวให้ถูก"
"ปกติคุณกริชทำอะไรถูกต้องเสมอเหรอคะ"
คตกริชชะงักคิดไกลไปถึงเรื่องลำเพาภา แล้วหัวเราะเบาๆและพูดเสียงจริงจัง
"ไม่ค่อยถูกน่ะสิครับ ต่อไปนี้ถึงได้อยากจะทำแต่สิ่งที่ถูกต้องกับคุณ"
"สำคัญขนาดนั้นเชียวเหรอคะ"
"มันอาจจะน่าขำนะครับ ถ้าผมบอกว่า จู่ๆ ก็อยากจะให้มันสำคัญขึ้นมา"
"เพราะอะไรคะ"
คตกริชตัดสินใจพูด
"เพราะผมไม่ได้คิดจะคบคุณในฐานะเพื่อนร่วมงานเท่านั้น"
เธอตกใจเบือนหน้าหลบสายตาของเขา
"ไม่เร็วไปเหรอคะ"
"ช้าหรือเร็วนี่ผมไม่คิดว่ามันเป็นองค์ประกอบที่เราจะเข้าใจกัน"
วิลิปดาหน้าแดงปลั่งขึ้น พูดแบบแก้เก้อ
"เอ่อ..เจอแบบนี้แล้วลิปดาไปไม่ถูกเลยจริงๆ"
เขาเอ็นดูในความน่ารักของเธอ ทั้งสองยิ้มให้กัน รู้สึกเหมือนทั้งห้องนั้นเป็นสีชมพูในทันใด
ลำเพาภานั่งทำงานอยู่ในห้อง เสียงมือถือดังขึ้น เธอรับสาย
"ว่าไงจ๊ะพรรณ ทำไมวันนี้โทร.มาได้"
"พรรณมาธุระแถวออฟฟิศพี่เพาค่ะ เย็นนี้เลยจะแวะไปกินข้าวด้วย พี่เพาว่างหรือเปล่า"
"ช่วงนี้ฉันงานยุ่งมากเลย"
"ใจร้ายจังพี่เพา"
"เอ้าๆๆ ก็ได้ๆ ไม่ต้องต่อว่าฉันแบบนั้นหรอก จะเจอกันที่ไหนล่ะ"
ลำเพยพรรณยิ้มอย่างมีความหวัง
วิลิปดากำลังเก็บโต๊ะ พีรนันท์เข้ามาถามอย่างแปลกใจ
"จะกลับแล้วเหรอครับลิปดา"
"ใช่ค่ะ พอดีน้าพรรณอยากให้ไปเป็นเพื่อนซื้อของน่ะค่ะ"
"เดี๋ยวพี่ไปส่งนะครับ"
"ไม่เป็นไรค่ะ พี่พียังต้องคุยกับพี่ปุ่นต่อ ลิปดานั่งรถไฟฟ้าไปเร็วดีค่ะ"
"งั้นตามใจครับ เดินทางดีๆ นะ"
"ขอบคุณค่ะ"
พีรนันท์เดินออกไป วิลิปดาเก็บกระเป๋าเสร็จลุกขึ้น หันมาบอกคตกริช
"ไปแล้วนะคะ"
"แล้วเจอกันครับ"
คตกริชมองตามครุ่นคิด
วิลิปดาเดินออกมารอแท็กซี่ที่หน้าตึก แต่แล้วรถคันหนึ่งแล่นเข้ามาจอดเทียบ เธอแปลกใจ เมื่อเห็นคตกริชเปิดประตูออกมา
"ผมจะไปส่ง"
"แต่ว่า...กริชต้องประชุมกับพี่พีพี่ปุ่นด้วยไม่ใช่เหรอคะ"
"อีกตั้งครึ่งชั่วโมงครับ"
"ที่จริงไม่จำเป็นต้องไปส่งหรอกค่ะ ลิปดาไปเองได้จริงๆ"
"อย่าลืมความตั้งใจของผมสิครับ"
วิลิปดาถึงกับหน้าแดง
"ขึ้นรถก่อนเถอะครับ ไม่งั้นรถจะติด"
รถคันหลังตามมาบีบแตรไล่ วิลิปดารีบขึ้นรถ รถแล่นออกไป
ลำเพยพรรณนั่งรออย่างกระวนกระวายในร้านอาหาร สักพักสีหน้าก็ยิ้มแย้มขึ้น เมื่อเห็นคนเดินเข้ามา เธอรีบโบกมือเรียก
"ทางนี้ค่ะ"
ลำเพาภาหันมามอง พอเห็นน้องสาวก็รีบเข้ามานั่งด้วย
"รอนานหรือยัง"
"สิบห้านาทีเองค่ะ"
"งานยุ่งมากเลย เดี๋ยวต้องกลับไปเคลียร์ต่อ สั่งอะไรหรือยัง"
"ยังค่ะ รอพี่เพานี่แหละ"
"งั้นรีบสั่งเลย พี่มีเวลาแค่ชั่วโมงเดียว ... น้องจ๊ะ"
ลำเพาภาพูดพลางเรียกบริกร ลำเพยพรรณมองไปหน้าร้านอย่างรอคอยใครอีกคน
คตกริชขับรถมาจอดหน้าร้าน แล้วลงไปเปิดประตูให้วิลิปดา
"ขอบคุณค่ะ"
"ผมเดินไปส่ง"
"ไปไหว้คุณน้าของลิปดาด้วยสิคะ ลิปดาจะได้แนะนำให้รู้จักเลย"
"คุณน้าจะงงหรือเปล่าครับ"
"ไม่งงหรอกค่ะ เพราะเมื่อวานงงไปแล้ว"
ทั้งสองหัวเราะให้กัน กำลังจะเดินเข้าไปในร้านอาหาร แต่เสียงมือถือคตกริชดังขึ้น เขาดูหน้าจอ
"แย่แล้ว...คุณพีโทรตาม"
"งั้นรีบกลับไปเถอะค่ะ"
"โอเคครับ"
คตกริชรีบกลับไปขึ้นรถ วิลิปดามองตามเป็นห่วงและลุ้น
อ่านต่อตอนที่ 13