xs
xsm
sm
md
lg

รอยมาร ตอนที่ 3

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ติดตามอ่านละครออนไลน์ได้ทาง www.manager.co.th ทุกเช้าเวลา 09.30 น.

รอยมาร ตอนที่ 3
 

บารมีรีบเดินมาที่ท่าน้ำ กวาดตามองอย่างสงสัย ก็เห็นเรือพายคว่ำลอยอยู่หน้าท่าน้ำบ้านของตน สักครู่สไบนางก็โผล่พ้นน้ำมาเกาะขอบท่าน้ำ แว่บแรกที่เขาเห็นหน้าเด็กสาว ก็รู้สึกถูกชะตา เอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก บารมีรีบเข้าไปช่วยดึงตัวขึ้นมา “เอ้า ขึ้นมาก่อน...เป็นไงมั่งหนู”
ทันทีที่ขึ้นมาได้ สไบนางรีบถาม“ลุงเห็นท่าหนูตกน้ำเมื่อกี้รึเปล่า”
“เห็นแว๊บๆ ดูไม่จืดเลยล่ะ”บารมีขำๆ
“ห้ามพูดไปนะลุง อายเค้าตายเลย”
บารมียิ้มๆ “ลุงชื่อมีนะ หนูชื่อล่ะอะไร เป็นลูกเต้าเหล่าใครแถวนี้ล่ะ”
“เรียกหนูว่าไบก็แล้วกัน”
บารมียิ้มขำ “ยังมีชื่อเชยๆ ยังงี้หลงเหลืออยู่อีกเหรอ”
สไบนางค้อน “แหม ชื่อลุงทันสมัยมากเลยนะ ลุงมี ลุงมา ตาสี ตาสา”
“มาน่ะชื่อลูกชายลุง”
“ครอบครัวตัวม.ว่างั้นเถอะ ส่วนหนูตัวบ.บ้า บ๊อง เบ๊อะ”
บารมีหัวเราะออกมา สไบนางห่อตัวด้วยความหนาวเล็กน้อย
“หนาวมั้ย” -- “ถามได้...” -- “งั้นเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในบ้านลุงก่อน” -- “ขอบคุณค่ะ”
สไบนางรีบลุกขึ้นเดินนำเข้าไปก่อนเจ้าของบ้าน ด้วยความอยากเห็นภายในบ้านทรงไทยมาก
บารมีมองตามงงๆ
“เออ ดูมันสิ ลูกบ้านไหนวะเนี่ย” บารมียิ้มๆด้วยความรู้สึกถูกชะตา เดินตามเข้าไป

+ + + + + + + + + + + +

สไบนางเข้ามาในบ้าน สายตากวาดตามองไปทั่วโถงบ้านไทยอย่างตื่นตาตื่นใจ
“โอ้โห...เห็นแล้วอยากตาย”
บารมีขำๆ “ทำไมล่ะ”
“ก็มันสวยมากไงลุง เอาน่ะ ลุงไม่เข้าใจหนูหรอก”
“งั้นก็ขอบใจมากสำหรับคำชม”บารมีหันไปเรียกแม่บ้าน “แรม...แรม”
แรมที่อยู่ด้านใน ได้ยินเสียงนายเรียก รีบเดินออกมารับใช้ “คะคุณท่าน”
สไบนางอึ้งไป กวาดตามองบารมีจากหัวจรดเท้าอีกที ดูสภาพการแต่งตัวว่าไม่ให้เลย
“คุณท่าน”สไบนางพึมพำไม่อยากเชื่อ
“ไปหาเสื้อใส่อยู่กับบ้านของมาร์ค มาเปลี่ยนให้แม่หนูนี่ที”บารมีสั่ง
“ค่ะ...ตามมาทางนี้จ้ะหนู”
สไบนางเดินตามแรมไป พร้อมกวาดตามองดูความใหญ่โต และสวยงามของตัวบ้านไปอย่าง
ตื่นตาตื่นใจ ไม่นานนัก สไบนางแต่งตัวด้วยเสื้อยืดตัวโคร่งๆของอุปมา กับกางเกงชาวเลของบารมี เดินกวาดตาสำรวจบ้านออกมาจนถึงโต๊ะอาหาร บารมีมองสไบนางยิ้มๆ พลางบอก
“เสื้อของลูกมา กางเกงของพ่อมี”
สไบนางยิ้มแหยๆ “เดี๋ยวหนูซักมาคืน”
“เอาไปเลยก็ได้ เสื้อผ้าเยอะแยะ...มาทานอาหารเช้าด้วยกันสิ”
สไบนางเดินมาดูอาหาร เป็นไข่ดาว แฮม ขนมปัง กาแฟ น้ำส้ม “อาหารฝรั่งซะด้วย”
แรมมาลากเก้าอี้ให้สไบนางนั่ง
“ทานได้มั้ยล่ะ”บารมีถาม
สไบนางนั่งลง “สบายมากค่ะลุง ถ้ามีน้ำมะเขือเทศด้วยล่ะแจ่มเลย”
“หนูชอบเหรอ”
สไบนางยิ้มกว้าง “ที่สุดค่ะ”
“รู้สึกบ้านลุงจะมีนะ แรม...ไปเอาน้ำมะเขือเทศมาเปลี่ยนที”
“ค่ะ...”แรมยกแก้วน้ำส้มไป
“ลุงมีใจดีจังเลย”สไบนางทานอาหารไป คุยไป
“ยังไม่ได้บอกลุงเลยว่า บ้านหนูอยู่สวนไหนเหรอ”
“บอกไปลุงก็ไม่รู้จักหรอกค่ะ”
“ขอรู้หน่อยน่า เผื่อเหงาๆ จะได้เดินไปเที่ยว”
“สวนคุณย่ารุจาค่ะ"
บารมีอึ้งไปเลย สไบนางเล่าต่อไปเรื่อย “ลุงหาไม่ยากหรอก ชวนลูกชายลุงไปด้วยก็ได้ หนูจะได้เลี้ยงข้าวลุงบ้าง...”สไบนางตัดบทเปลี่ยนเรื่อง “ไส้กรอก แฮม บ้านลุงนี่อร่อยจังเลย”
สไบนางทานอาหาร เคี้ยวตุ้ยๆไปอย่างเอร็ดอร่อย บารมีอึ้งเครียดไป มองสไบนางไม่วางตาอย่างเงียบๆ เหมือนจะทานอะไรต่อไม่ลงแล้ว

+ + + + + + + + + + + +

ขำลากเรือมาผูกเอาไว้ที่ท่าน้ำหน้าบ้านสวน ยายจันทร์จูงมือสไบนางที่เปลี่ยนเสื้อผ้า เป็นของตัวเองแล้ว คุยอยู่ที่ท่าน้ำ
“ทีหลังอย่าพายเรือไปไหนคนเดียวแบบนี้อีกนะคะ ยายหัวใจเกือบวายตาย”
“บีพายเรือไปแค่ใกล้ๆ แค่นี้เองยาย บีว่ายน้ำแข็งซะอย่างจะกลัวอะไร”สไบนางโต้อย่างเซ็งๆ ที่พอกลับมาถึงก็ถูกบ่น
“คุณแม่คุณบีก็ว่ายน้ำแข็งยัง...”ยายจันทร์รีบหุบปาก “ยายขอโทษค่ะ”
สไบนางปั้นยิ้ม จับมือยายจันทร์
“บีรู้ว่ายายเป็นห่วง ต่อไปจะไม่พายเรือ...”
ยายจันทร์ตั้งยิ้มรออย่างสบายใจ “บ่อยๆ ก็แล้วกัน...”สไบนางพูดขำๆ
“คุณบีนี่จริงๆเลยนะ”ยายจันทร์ตีแขนเบาๆ ด้วยความเอ็นดู
“จะบ่อยไม่บ่อย ก็ไม่ได้ทั้งนั้นล่ะค่ะ”
ขณะเดียวกันนั้น เสียงโทรศัพท์มือถือสไบนางดังขึ้นขัดจังหวะ เสียงเรียกเข้าเป็นเสียงสวดมนต์
“ครูใหญ่โทรมาแล้ว” ยายจันทร์ขำๆ สไบนางกดรีบสาย
“สวัสดีค่ะคุณย่าสุดที่รักขา มีอะไรให้บุบบี้รับใช้เจ้าคะ”สไบนางฟังย่าแล้ว ขำๆ ก่อนตอบ “ไม่ต้องส่งใครมารับหรอกเจ้าค่ะ บีนัดฝนเอาไว้แล้ว รับรองไม่เกิน 5 โมงเย็น กลับไปนวดขาให้คุณย่าถึงเตียงแน่นอนเจ้าค่ะ”
สไบนางคุยกับคุณหญิงรุจาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

+ + + + + + + + + + + +

หยาดฝนแต่งตัวน่ารักสมวัย จะออกไปเจอสไบนางตามนัด ขณะเดินผ่านหน้าห้องนอนสายทิพย์ ซึ่งเป็นพี่สาวก็หยุดกึก เมื่อได้ยินเสียงสายทิพย์กับธนู พี่เขยทะเลาะกันดังลอดออกมา
“จะให้ฉันอยู่เฉยได้ยังไง ฉันอายคน ฉันไม่ได้หน้าด้านหน้าทนเหมือนคนของคุณ”สายทิพย์ตวาดอย่างเกรี้ยวกราด
หยาดฝนไม่สบายใจ แต่ก็แอบฟังอยู่หน้าห้อง
“แล้วจะให้ผมทำยังไง ผมก็บอกแล้ว ว่าเราเป็นเพื่อนร่วมงานกันคุณก็ไม่เชื่อ ดีแต่ฟังขี้ปากชาวบ้าน มีใครมันหวังดีอยากให้ใครได้ดีกว่ามัน”
“คุณอย่ามาอ้างหน่อยเลย เพื่อนอะไรซื้อคอนโดอยู่ด้วยกัน นอนห้องเดียวกันคืนเว้นคืน นี่มันคำจำกัดความของคู่นอนหรือว่า เมียเก็บ ไม่ใช่เพื่อน”
“คุณทิพย์ พูดจาให้เกียรติกันมั่งสิ การที่ผมหายไป คุณสืบแน่ชัดแล้วเหรอ ว่าผมไปค้างกับวิมาดา ขอเถอะ อย่าพูดอะไรโดยไม่มีหลักฐาน คุณเป็นผู้ใหญ่แล้ว อายุก็ไม่น้อย เป็นถึงครูบาอาจารย์ ควรระงับปากคำและอารมณ์ให้มากกว่านี้ ควรปรับปรุงตัวเสียใหม่”
สายทิพย์โกรธจี๊ดสวนกลับทันที
“คุณไม่ต้องมาสั่งสอนฉัน”สายทิพย์น้ำตาคลอด้วยความอัดอั้น
“ก็เพราะไอ้คำว่าครูค้ำคออยู่นี่ล่ะ ฉันถึงต้องทนหน้าชื่น ยอมอ่อนข้อให้กับความมักง่ายของคุณมาตลอด หลายครั้งฉัน ต้องทำหูหนวกตาบอด ไม่รับรู้เรื่องบัดสีสกปรกที่คุณละเลงอยู่นอกบ้าน”
ธนูถอนหายใจเดินหนีด้วยความหงุดหงิด สายทิพย์เดินตามประจันหน้า
“คุณคิดว่าทำดีแล้วเหรอะธนู คุณเป็นผู้ชาย แต่กลับเอาเปรียบ ทำเรื่องย่ำยีจิตใจฉันไม่เว้นวัน...คุณไม่เคย
ไว้หน้าฉัน ไม่เคยคิดให้เกียรติเมียที่เป็นอาจารย์อย่างฉันเลย”สายทิพย์น้ำตาร่วงพรั่งพรู
ธนูระเบิดอารมณ์ หาทางจบการทะเลาะ
“โอ๊ย เบื่อ เบื่อ เบื่อ เบื่อจริงโว้ย บอกแล้วว่าไม่มีอะไรกัน ไม่มีอะไรกัน เชื่อบ้างสิ”
ขณะเดียวกันนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือเสียงแปลกๆดังขึ้นขัดจังหวะ...ธนูและสายทิพย์สบตากัน หยาดฝน ที่อยู่หน้าห้องน้ำตาคลอด้วยความสงสารพี่สาว ตกใจมาก รีบกดตัดสายโทรศัพท์เดินเลี่ยงหนีออกไป

+ + + + + + + + + + + +

สไบนางและหยาดฝน นั่งคุยปรับทุกข์กันในร้านไอศกรีม
“ก่อนพี่ทิพย์ท้อง เธอก็เห็นนี่บี พี่ทิพย์กับพี่นูรักกันยังกะอะไรดี”หยาดฝนเล่าให้เพื่อนฟังอย่างทุกข์ใจ
“พ่อแม่ทะเลาะกันทุกวันแบบนี้ สงสารหลานเน๊อะ เพิ่งจะขวบกว่าเอง”สไบนางออกความเห็น
“ที่จริงเค้าไม่น่าทำแบบนี้เลย พี่นูสนันสนุนเค้าจนได้รับทุนองค์กรไปเรียนต่ออเมริกา”
“แต่ฉันว่าตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอก แกก็เข้าข้างพี่เขยเกินไป พี่นูอาจจะหนับหนุนเพราะอยากนุ๋งนิ๋งกับชีก็ได้”
“ไม่รู้ล่ะ ยังไงฉันก็อยากให้พี่ทิพย์กับพี่นูกลับมาคืนดีกันเหมือนเดิม อย่าให้เรื่องเลยเถิดถึงขั้นหย่าร้างเลย” หยาดฝนถอนใจ
สไบนางหยุดกินหน้าขึงขังไม่พอใจ
“นึกแล้วฉันก็อยากเจอตัวยัยวิมาดานี่จริงๆเลย อยากเอาไมค์ไปจ่อปากสัมภาษณ์ว่า ทำบ้านเค้าแตก
ยังงี้ ชีวิตยังมีความสุขอยู่ได้อีกเหรอะ...ทุเรศ”
สไบนางบอกอย่างนึกเกลียดวิมาดา คนที่เธอไม่เคยเห็นหน้าขึ้นมาอย่างจริงจัง

+ + + + + + + + + + + +

ธนูขับรถมาจอดที่ช่องจอดรถของคอนโด แล้วลงจากรถมองทำท่าส่งซิกแนลไปยังรถคันหนึ่ง ที่จอดอยู่ไกลๆ ธนูเดินนำเข้าไปในตึก ครู่หนึ่ง...วิมาดาที่นั่งรออยู่ เดินลงมาจากรถคันนั้นอย่างเซ็งๆ ก่อนจะทิ้งระยะแล้วเดินตามธนูเข้าไปห่างๆ
ในลิฟท์ ธนูและวิมาดายืนอยู่ห่างๆกัน แม้จะอยู่ด้วยกันตามลำพัง วิมาดาส่องกระจก สยายผม แต่งผมเธอไป ธนูทนความเซ็กซี่ของวิมาดาไม่ไหว เห็นว่าด้วยกันอยู่ตามลำพังก็เข้าไปกอดเธอเอาไว้ วิมาดากระแทกธนูออกไปไม่พอใจ
“ปล่อยนะคะ ลิฟท์มีกล้องวงจรปิด”
“เรื่องเรามันไม่มีอะไรต้องปิดบังแล้วนี่”
“นั่นก็เรื่องของคุณ คุณไม่แคร์ แต่วิแคร์”
ลิฟท์เปิดออกพอดี วิมาดาเดินออกไปด้วยท่าทางหงุดหงิด แอบทำท่าสะอิดสะเอียน รังเกียจธนูด้วยซ้ำ ธนูรีบตามออกไป
“วิ...ผมขอโทษนะ”
วิมาดาเดินเร็วนำไปก่อนเลย กลัวใครมาเห็นเข้า

+ + + + + + + + + + + +

อุปมากลับมาที่บ้านทรงไทยหลังเลิกงาน เขายกไวน์มานั่งดื่มกับบารมีที่หน้าบ้าน ยกแก้วไวน์ชนแก้วกับพ่อแล้วบอก...
“เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับพ่อ”
บารมียิ้ม “ขอบใจมาร์ค”
ทั้งคู่จิบไวน์ไป บารมีหันไปมองตัวบ้าน “แกยังไม่บอกพ่อเลย ว่าชอบเรือนหอของแกมั้ย”
อุปมาหันมองตาม ยิ้มบางๆ
“ชอบสิครับ เป็นบ้านลูกครึ่งเหมือนกับผม มีความเป็นไทยจากพ่อครึ่งนึง ความเป็นอาหรับจากแม่อีกครึ่ง”
บารมียิ้มๆ “แกจะคิดยังงั้นก็ได้ แต่คอนเซ็ปท์ที่พ่อวางไว้คือ คนไทยที่มีความคิดแบบตะวันตก ซึ่งก็คือตัวแกเหมือนกัน”
อุปมายิ้มปลื้ม “ขอบคุณมากครับพ่อ...แล้วเมื่อไหร่ผมจะได้เห็นหน้าว่าที่เจ้าสาวผมซะทีล่ะครับ”
บารมียิ้มบางๆ “ใจเย็นๆมาร์ค รับรองเจ้าสาวที่พ่อเลือกให้เป็นหญิงไทยที่เพียบพร้อมทั้งชาติตระกูล การศึกษา และหน้าที่การงาน รอเวลาอีกนิดเดียว แกได้เจอแน่ ไม่นานเกินรอหรอก”
บารมีตบบ่าอุปมาแล้วหัวเราะชอบใจไป ก่อนจะเดินเลี่ยงไปดื่มไวน์รับลมเย็นสบายอารมณ์ อุปมามองตามพ่อไปอย่างติดใจสงสัย

+ + + + + + + + + + + +

(อ่านต่อหน้า 2 )







รอยมาร (ต่อ)
 

คุณหญิงรุจาเดินเล่นชมสวนออกกำลังกายอยู่กับบังอร อยู่ๆ ชันษาก็มุดรั้วเข้ามาพร้อมถุงใส่ผลไม้ คุณหญิงรุจาสะดุ้งตกใจ “พ่อชัน ย่าตกใจหมดเลย”
ชันษายิ้มแหยๆ “นึกว่าหมาเหรอครับ”
คุณหญิงรุจาและบังอรขำๆ
“ผมไปพบลูกความที่ระยองมา เลยซื้อเงาะมาฝากคุณท่านครับ”
คุณหญิงรุจายิ้มแย้ม “ขอบใจมากจ้ะ”
บังอรเข้าไปรับถุงผลไม้มา “ชีพจรลงเท้าซะจริงนะ ขึ้นเหนือล่องใต้ตลอดเวลา”
ชันษายิ้มบางๆ “ทำไงได้ล่ะครับ ช่วงสร้างเนื้อสร้างตัวก็ต้องยังงี้ล่ะครับคุณบังอร”
“ขยันขันแข็งยังงี้น่ะดีแล้ว เก็บเกี่ยวประสบการณ์เอาไว้...อีกหน่อยเป็นท่านผู้พิพากษา จะมามุดรั้วยังงี้ไม่ได้แล้วนะ”คุณหญิงรุจาเย้าแหย่
ชันษาหัวเราะขำๆ “คงอีกนานแหละครับคุณท่าน”
“เอาน่า ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น”
ขณะเดียวกันนั้น อาทิตย์ขับรถเข้ามาจอดที่หน้าตัวบ้าน “ใครมาน่ะ”คุณหญิงรุจาถามอย่างสงสัย “คุณอาทิตย์น่ะค่ะ”บังอรบอก
ชันษารู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที เพราะรู้ว่าอาทิตย์มาหาเมธาวี “งั้นผมกลับก่อนนะครับ”
“เดี๋ยวๆ มารู้จักกันเอาไว้ เผื่ออีกหน่อยจะได้พึ่งพากัน สายงานใกล้ๆ กันนี่ ตามฉันมาชันษา...”
คุณหญิงรุจาเดินนำไป ชันษาไม่กล้าขัด จำใจเดินตามไปต้อนรับอาทิตย์ที่เดินเข้ามาด้วยชุดสูทอย่างหล่อ เพราะกำลังจะไปออกงาน
อาทิตย์ยกมือไหว้คุณหญิงรุจา ขณะที่บังอรเดินแยกเอาผลไม้ไปเก็บ
“นี่ชันษา ทนายความหนุ่มไฟแรงอนาคตไกล”คุณหญิงรุจาแนะนำ
อาทิตย์ยิ้มให้ ชันษายิ้มตอบ คุณหญิงรุจาแนะนำต่อ
“นี่คุณอาทิตย์ เพื่อนเมเค้ารู้จักกันที่เมืองนอก”
คุณหญิงรุจาเล่าพลางยิ้มแย้มจับแขนอาทิตย์อย่างเป็นกันเอง
“เพิ่งมารู้ว่าไม่ใช่คนอื่นไกล พ่อกับพ่อเป็นรั้วของชาติรุ่นพี่รุ่นน้องกันเอง”
ชันษาฝืนยิ้มให้ อดแอบเปรียบเทียบกับตัวเองไม่ได้ ยิ่งรู้สึกต่ำต้อย อาทิตย์หันมองไปทางตัวบ้าน ยิ้มปลื้ม...
“แม่เมเสร็จพอดีเลย”คุณหญิงรุจาบอก
ชันษาหันไปมอง เห็นเมธาวีสวยเฉิดฉาย ดูสง่างาม สวยหรูในชุดออกงานกลางคืน ชันษาแทบจะกลั้นหายใจมอง ไม่กระพริบตา
“รอนานมั้ยคะ”
อาทิตย์ส่งยิ้มหวานเยิ้มให้ “คุณเมสวยขนาดนี้ รอนานกว่านี้ก็ได้ครับ”
“ใหม่ๆ ก็ยังงี้ทุกราย”คุณหญิงรุจากระเซ้า
“ไม่หรอกครับคุณย่า”
“จ้ะ แล้วจะคอยดู...เอ้อ ชันษาเค้าเอาเงาะจากระยองมาฝากแน่ะ”
ชันษายิ้มรอ เมธาวีมองชันษาตอบมารยาท “ขอบใจนะ”
เมธาวีเดินไปหาอาทิตย์ “ไปกันเถอะค่ะ”
เมธาวียกมือไหว้คุณหญิงรุจา “เมไปก่อนนะคะคุณย่า”
อาทิตย์ไหว้คุณหญิงรุจา ยิ้มเลยมาให้ชันษาแล้วเดินไปเปิดประตูรถให้เมธาวีขึ้นไปนั่ง ชันษาจับตามองอาทิตย์และเมธาวี รู้สึกหูอื้อ ตาพร่าพรายไปหมด แอบรู้สึกเขม่นๆอาทิตย์ด้วยความหึงหวงขึ้นมาไม่ได้

+ + + + + + + + + + + +

ค่ำคืนนั้น สไบนางนั่งบีบนวดคุณหญิงรุจาอยู่ในห้องนอน พลางเล่าเรื่องที่ได้พบบารมีให้ฟัง
“ไม่บอกไม่เชื่อนะคะว่าเป็นพ่อเจ้าของบ้าน แต่งตัวเก่าๆ ขาดๆ เหมือนคนสวนเลยล่ะค่ะคุณย่า ลุงแก้วยัง
แต่งตัวดีกว่าเลย”
“เค้าก็คงเป็นเศรษฐีติดดิน ไม่เจ้ายศเจ้าอย่างเหมือนบ้านเรา”
“ไม่มีใครเทียบบ้านเราได้หรอกค่ะ สุดๆ โดยเฉพาะคุณย่า”
รุจาเข็กหัวหลานสาวเบาๆ “ย่าทำไม”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร บีจะชมว่าแต่งตัวสวย สมฐานะดูเป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้ว”
“ผิดกับหลานสาวคนเล็ก แต่งตัวเหมือนทอมบอย”
สไบนางทำหน้างอนๆ “ว่าเค้าเหรอ”
สไบนางแกล้งจี้เอวย่า คุณหญิงรุจาขำเพราะจั๊กจี้
“เจ้าบุบบี้ เดี๋ยวเถอะนะ เล่นอะไร”
สไบนางเป็นลิงเป็นค่าง หลบซ้ายหลบขวา จี้เอวย่า จี๋คอบ้าง คุณหญิงรุจาจะดุก็ดุไม่ลงเป็นขำๆ ซะมากกว่า “เซี้ยวนักนะเรา ไปอ่านหนังสือได้แล้ว”
สไบนางยิ้มๆ “ไปก็ได้ค่ะ มาหอมแก้มกู้ดไนท์ก่อน”
สไบนางเข้าไปหอมแก้มย่าซ้ายทีขวาที ก่อนจะแอบจี้เอวย่า แล้วหัวเราะชอบใจวิ่งหนีออกไปจากห้อง
“เจ้าคนนี้นี่...”
คุณหญิงรุจายิ้มๆ ส่ายหน้าด้วยความเอ็นดูหลานสาว

+ + + + + + + + + + + +

อาทิตย์ขับรถมาส่งเมธาวีที่หน้าบ้านอัคราช เขารีบลงจากรถมาเปิดประตูให้เธอลงมา “ขอบคุณค่ะ”
“วันนี้คุณทำให้ผมปลื้มจนยิ้มไม่หุบเลยรู้มั้ย”
เมธาวียิ้มมั่นใจ “ปกติค่ะ เมไปกับใคร ก็ไม่เคยทำให้คนที่ไปด้วยผิดหวัง”
อาทิตย์ยิ้มเจื่อนลงไปนิด พอเข้าใจว่าเมธาวีมีตัวเลือกยังไม่หยุดที่ตน “ลองวีคเอนด์ เจอกันที่บ้านสวนนะคะ”
อาทิตย์ยิ้มรับ “ครับ กู๊ดไนท์นะครับ”
อาทิตย์จะหอมแก้ม เมธาวียกมือขึ้นกัน
“เร็วเกินไปค่ะ...”เมธาวีจุ๊บมือตัวเองแล้วไปแตะแก้มอาทิตย์ “กู๊ดไนท์ค่ะ”
เมธาวีเดินกลับเข้าบ้านไปอาาทิตย์เจื่อนๆ ถอนใจแล้วเดินกลับขึ้นรถ...ชันษาแอบอยู่ที่พุ่มไม้มองด้วยความสะใจ
“สมน้ำหน้า ไอ้ฉวยโอกาส” ชันษาสะแหยะยิ้มพอใจ

+ + + + + + + + + + + +

เช้าวันหยุด...ระเบียบพายเรือพาสไบนางมาถึงหน้าท่าน้ำบ้านไทย “จับเรือไว้”
สไบนางสั่ง กำถุงใส่ของแน่น จะขึ้นท่า ระเบียบกังวลกลัวโดนด่า
“คุณบีจะขึ้นไปจริงๆเหรอคะ”
“พายเรือมาถึงนี่แล้วไม่ขึ้นบ้าน จะมาทำไม”
“เดี๋ยวเค้าก็ด่าเอาหรอก”
“ฉันรู้จักกับลุงมีเจ้าของบ้าน ใครจะกล้ามาด่าฉัน เธอปอดแหกก็รออยู่ในเรือนี่แหละ”
สไบนางขึ้นท่าน้ำไป แล้วเดินไปที่หน้าบ้านไทย เห็นป้อมสาวใช้อีกคน กำลังจะเดินไปเข้าบ้าน สไบนางเรียกไว้
“เธอๆ” ป้อมหันมองสไบนาง
“ฉันมาหาลุงมี”
“ท่านไม่อยู่หรอกค่ะ ไปนอก อยู่แต่ลูกชายท่าน จะพบมั้ยคะ”
“พบทำไมล่ะ ฉันไม่รู้จัก” สไบนางมองถุงใส่ของในมือแล้วตัดสินใจ “ไม่เป็นไร แล้วฉันมาใหม่...”
สไบนางเดินกลับออกไป ป้อมเดินกลับเข้าบ้านไป อุปมานั่งทำงานอยู่กับโน้ตบุ๊ค เหลือบตามองป้อม
“น้าเรียมกลับมาแล้วเหรอะ” -- “ยังค่ะ” -- “ได้ยินเสียงคุยกับใคร” “เพื่อนคุณท่านน่ะค่ะ” อุปมาสงสัย
“เพื่อนพ่อเหรอ” -- “เด็กวัยรุ่นแถวนี้น่ะค่ะ” อุปมายิ้มๆ
“บอกป้าไม่ต้องเตรียมอาหารนะ เย็นนี้ฉันจะไปพัทยากับเพื่อน” -- “ค่ะคุณมาร์ค” ป้อมเดินเลี่ยงไป อุปมายิ้มๆ ติดใจสงสัย อยากเห็นเพื่อนวัยรุ่นของพ่อ

+ + + + + + + + + + + +

สไบนางเดินผ่าสวนตรงไปทางท่าน้ำ หัสดินเดินมาจากทางบ้านเล็กของบารมี เห็นเด็กสาววัยรุ่น ก็ยิ้มกระชุ่มกระชวย รีบเดินปรี่เข้าไปทัก “มาหาใครเหรอครับ”
สไบนางหยุดเดินหันมอง หัสดินยิ้มให้ สไบนางมองสำรวจหัสดินหัวจรดเท้า “คุณคงคือนายมา ลูกชายลุงมีสินะ”
หัสดินชะงักไปเล็กน้อย สไบนางถามต่อ “ลุงมีกลับบ้านนอกไปตั้งแต่เมื่อไหร่”
หัสดินอมยิ้ม ทำเนียนไปเพราะชอบหยอกเย้าเด็กสาวอยู่แล้ว
“สักพักแล้วครับ มีธุระอะไรจะฝากบอกคุณลุง เอ๊ย คุณพ่อรึเปล่าครับ”
สไบนางครุ่นคิด ตัดสินใจ ส่งถุงให้ “งั้นฝากเสื้อนี่ให้ลุงมีด้วย”
“เสื้ออะไรเหรอครับ”
สไบนางเปิดถุง หยิบเสื้อและกางเกงชาวเลที่ตนใส่ไปออกมาก่อน
“นี่เสื้อยืดของคุณ กับ กางเกงของลุงมี ซักคืนให้แล้ว”
หัสดินรับไว้งงๆ สไบนางหยิบเสื้อกางเกงใหม่ สีสันผู้ดีออกมาอีก เป็นเสื้อกางเกงสไตล์เดียวกับ
ที่บารมีใส่วันที่เจอกัน “ส่วนสองตัวนี้ฉันซื้อให้ลุงมีใหม่”
สไบนางเอาวางใส่มือ หัสดินรับไว้งงๆ
“อย่าว่าโง้นงี้เลยนะ พ่อคนเดียว คุณมา หาเสื้อผ้าให้ใส่ดีๆ หน่อยไม่ได้เหรอ เก่าเปื่อยเลย อายเค้า ทีตัวเอง แต่งซะเท่เลย”สไบนางวางถุงลงบนเสื้อในมือหัสดิน “อ้ะ ถุง...ไปแล้ว”
สไบนางพูดเสร็จก็เดินไปเลย หัสดินรีบเรียกไว้ “เดี๋ยวสิน้อง”
สไบนางหันมองหน้านิ่ง “น้องชื่ออะไรล่ะ พ่อกลับมาจะได้บอกถูก”
“ชื่อไบ ไปแล้ว...” สไบนางวิ่งปรื๋อไปที่ท่าน้ำ หัสดินมองตามยิ้มๆ
“เด็กสาววัยรุ่นนี่มันน่าเอ็นดูจริงจิ๊ง”
“เดี๋ยวก็ติดคุกหรอกไอ้หัส”เสียงอุปมาดังขึ้น หัสดินหันไปมองอุปมาที่เดินออกมาหาตน
“ลุงเข้าใจคบเพื่อนใหม่นะโว้ย น่ารักเชียว แก้มชมพูเลย จับแต่งเนื้อแต่งตัวดีๆ สวยเหลียวหลังเลยนะแก”
“ขนาดนั้นเลยเหรอะ ฉันเห็นไม่ถนัด...แล้วนี่เสื้ออะไร”
“น้องเค้าซื้อเสื้อมาฝาก บอกเห็นลุงใส่เสื้อเก่าๆ ขาดๆ”
อุปมาขำๆ “ฉันเตือนพ่อแล้วเคยฟังที่ไหน อายเค้ามั้ยล่ะ”
หัสดินหันไปเห็นเรืองสไบนางกำลังออกจากท่า
“อุ๊ย...น้องไบคนสวยของฉันไปแล้ว”หัสดินบ๊าย บายส่ง “บ๊าย บาย”
สไบนางเห็นหัสดินบ๊าย บาย ก็ไม่ชอบใจ หันหน้าไปอีกทางทันที พออุปมามองตามไปก็ไม่เห็นหน้าสไบนาง เห็นแต่ระเบียบ เด็กน้อยยิ้มแย้มบ๊าย บายกลับมา อุปมามองไปที่สไบนางเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าบ้าน จังหวะที่เขาหันหลังเดินกลับไป สไบนางก็หันกลับมามองอย่างสงสัยว่าผู้ชายตัวใหญ่ๆ
อีกคนเป็นใคร หัสดินบ๊าย บายพร้อมแกล้งส่งจูบให้ สไบนางเหยียดปากใส่ ค้อนใส่หัสดินให้อีกขวับใหญ่

(อ่านต่อวันพรุ่งนี้)




กำลังโหลดความคิดเห็น