ข่าวสารผ่านโลก

• เวียดนามเปิดพิพิธภัณฑ์ 3 มิติ แห่งแรกในประเทศ

เวียดนาม : พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติเวียดนาม ได้ติดตั้งระบบ 3D Interactive หรือปฏิสัมพันธ์ 3 มิติ เป็นแห่งแรกในประเทศ เพื่อดึงดูดผู้เข้าชมให้มีส่วนร่วมกับเหตุการณ์อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ โดยพิพิธภัณฑ์เสมือนจริงนี้ ช่วยให้ผู้ชมเข้าถึงและค้นหาวัตถุ สิ่งของ หัวข้อเรื่องที่สนใจ ซึ่งจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์จริง

ด้วยเทคโนโลยี่ชั้นนำล่าสุดนี้ จะนำพาผู้สนใจเข้าชมความงดงามของโบราณวัตถุดั้งเดิมอย่างละเอียด ที่เห็นแม้กระทั่งรอยร้าว พร้อมข้อความบรรยายที่ไม่มีในพิพิธภัณฑ์จริง อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ เพื่อให้ผู้ชมได้สื่อสารกับบุคคลทั่วทุกมุมโลกที่รักในพิพิธภัณฑ์เช่นเดียวกัน

โดยความตั้งใจที่จะให้เป็นโครงการนำร่องระดับสากล พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ฯจึงนำเทคโนโลยีที่ดีที่สุดซึ่งใช้ในพิพิธภัณฑ์เสมือนจริงทั่วโลกมาใช้ และหวังว่าโครงการนี้จะดำเนินต่อเนื่อง เพื่อออกสู่สาธารณชนในอนาคตอันใกล้นี้ ตามความต้องการที่จะให้สาธารณชนได้เรียนรู้วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของชาติอย่างลึกซึ้ง

เมื่อเร็วๆนี้ พิพิธภัณฑ์เสมือนจริงได้จัดแสดงนิทรรศการ 2 เรื่อง คือ มรดกวัฒนธรรมทางพุทธศาสนาของเวียดนาม และตะเกียงเวียดนามโบราณ

(จาก Cinet)

• ร้านอาหารใช้วิถีพุทธ “กินอย่างมีสมาธิ”

สหรัฐอเมริกา : ร้านอาหารแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา เริ่มนำร่องจัดวัน “รับประทานในความเงียบ” ซึ่งห้ามลูกค้า พ่อครัว บริกร และพนักงานในร้านพูดคุย ในช่วงเวลา 90 นาทีของการรับประทานอาหาร

Eat คือชื่อร้านอาหารเล็กๆแห่งหนึ่งในย่านกรีนพ้อยต์ ใกล้เขตบรูคลิน รัฐนิวยอร์ก ขายอาหารชุด 4 อย่าง ราคา 40 ดอลลาร์ (ราว 1,200 บาท) ประกอบด้วย สลัดหรือซุป อาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลัก และของหวาน ซึ่งทั้งหมดปรุงจากวัตถุดิบที่เพาะปลูกในท้องถิ่นด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมี โดยนำนโยบายห้ามพูดมาใช้เฉพาะวันที่ทางร้านกำหนดในแต่ละเดือน ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี

นิค นอแมน หัวหน้าพ่อครัวซึ่งเป็นผู้จัดวันดังกล่าว ได้แรงบันดาลใจจากการใช้เวลาช่วงหนึ่งอยู่ที่วัดในพุทธศาสนาแห่งหนึ่งในอินเดีย และสังเกตเห็นบรรดาพระสงฆ์นั่งฉันอาหารเช้าอย่างเงียบสงบ และมีสมาธิ จึงอยากให้ลูกค้าของเขามีสมาธิในการรับประทานอาหารเช่นนั้นบ้าง

(จาก NDTV)

• นิทรรศการภาพลายมือ “ติช นัท ฮันห์” จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในสหรัฐฯ

สหรัฐอเมริกา : บริษัท ABC Home ร่วมกับวัดบลูคลิฟ ในสหรัฐอเมริกา จัดนิทรรศการภาพลายมือของ “ติช นัท ฮันห์” ขึ้นเป็นครั้งแรก ชื่อ “Calligraphic Meditation : The Mindful Art of Zen Master Thich Nhat Hanh” หรือ “สมาธิผ่านลายมือ : ศิลปะการเจริญสติของภิกษูเซน ติช นัท ฮันห์” ระหว่างวันที่ 7 กันยายน – 31 ธันวาคม 2013 ณ สำนักงาน ABC Home ในนครนิวยอร์ก

โดยได้นำภาพลายมือต้นฉบับของติช นัท ฮันห์ จำนวน 88 ภาพมาจัดแสดง ซึ่งแม่ชีชานกง ผู้ได้ศึกษาและทำงานกับภิกษุชื่อดังมานานกว่า 50 ปี เล่าว่า ติช นัท ฮันห์ คัดลายมือไปพร้อมๆกับทำสมาธิ นานกว่า 20 ปีแล้ว โดยจะดื่มชาดำจีน 1 ถ้วยก่อนนั่งลงเขียน และหยดน้ำชาลงในหมึกเขียน ภาพลายมือของท่านแสดงออกถึงพลังชีวิตที่แฝงอยู่ในการตวัดปลายพู่กันแต่ละครั้ง

โดยภาพลายมือที่นำมาจัดนิทรรศการ เช่น

หายใจ คุณยังมีชีวิต : เพียงแค่หายใจและตระหนักรู้ว่า เรายังมีชีวิตอยู่ ก็อาจทำให้เราเป็นสุขได้ เมื่อเราหายใจอย่างมีสติ เราดึงกายและใจกลับมาอยู่กับปัจจุบันขณะ

ฉันกลับถึงบ้านแล้ว : วลีนี้เตือนใจเราได้เป็นอย่างดีในการฝึกอยู่กับปัจจุบันขณะ เมื่อเราอยู่กับสิ่งที่กำลังดำเนินอยู่ ณ ปัจจุบัน เราจะรู้สึกว่า เราอยู่ที่บ้านจริงๆ

ไม่มีโคลนตม ก็ไม่มีดอกบัว : ดอกบัวไม่อาจเกิดได้ ถ้าปราศจากโคลนตม เช่นเดียวกับความสุขที่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ หากไร้ซึ่งความทุกข์ จงมองลึกๆเข้าไปในความทุกข์ แล้วเราจะเข้าใจมัน เป็นการเปิดโอกาสให้ความสุขเบ่งบาน ดังนั้น ดอกบัวไม่จำเป็นต้องปฏิเสธโคลนตม และความงามของดอกบัวช่วยเพิ่มคุณค่าให้โคลนตมอย่างแท้จริง

(จาก WSJ)

• ศิลปินญี่ปุ่นแกะสลักขนม เป็นรูป ‘พระพุทธเจ้า’

ญี่ปุ่น : เป็นเวลา 5 ปีแล้วที่ “โคชิ คาวาชิ” ได้แกะสลักขนมอูไมโบะ เป็นรูปพระพุทธเจ้า จำนวน 107 ชิ้น วางภายในฝาแก้วครอบ ตั้งแสดงภายในบ้านพักของเขาในกรุงโตเกียว ขนมอูไมโบะนี้ทำจากข้าวโพด เป็นขนมที่เด็กๆญี่ปุ่นโปรดปราน

คาวาชิเข้าถึงพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรกในพิธีศพคุณตาของเขา และตระหนักว่า ความตายเป็นสัจธรรมเขาจึงเปลี่ยนความเศร้าโศกมาเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานศิลปะ

โดยศิลปินนักออกแบบหนังสือวัย 40 ปีผู้นี้ ได้แรงบันดาลใจจากพระพุทธรูปไม้เอ็นกุ ซึ่งแกะสลักโดย “เอ็นกุ” ภิกษุและช่างแกะสลักชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงของยุคเอโดะในศตวรรษที่ 17 ที่แสดงอารมณ์ขันโดยไม่ซ้ำหน้ากันถึง 120,000 องค์

(จาก Japantimes)

• เนปาลเตรียมออกแบงค์ 100 รูปีใหม่ ตอกย้ำ “ดินแดนประสูติของพระพุทธเจ้า”

เนปาล : นายบาสการ์ มานิ เกียนวาลิ โฆษกธนาคารกลางแห่งชาติของเนปาล เปิดเผยว่า ธนาคารกลางฯได้จัดทำธนบัตรชนิด 100 รูปีรุ่นใหม่ โดยมีรูปเสาอโศก พร้อมข้อความ “ลุมพินี : สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า” และภาพพระนางสิริมหามายาเทวี พุทธมารดา อยู่บนธนบัตร

นายเกียนวาลิ เผยว่า ลุมพินีได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ทางธนาคารกลางฯจึงเห็นควรให้นำภาพลุมพินี ซึ่งเป็นความภูมิใจของชาติ ตีพิมพ์ลงบนธนบัตรด้วย

แหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยระบุว่า ในปี 2014 ธนาคารกลางฯเตรียมพิมพ์ข้อความดังกล่าว ลงบนธนบัตรชนิดอื่นๆด้วย เพื่อให้ชาวต่างชาติที่มาเยือนเนปาลได้รู้ว่า ลุมพินีเป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า และเพื่อกระตุ้นให้อยากไปเยือนที่นั่น

ทั้งนี้ ธนาคารกลางฯได้ออกธนบัตรรุ่นใหม่เพื่อประกาศว่า เนปาลคือดินแดนประสูติแห่งองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ในช่วงเวลาที่มีการถกเถียงกันถึงสถานที่ประสูติที่แท้จริง ซึ่งประเทศอินเดียมักกล่าวอ้างผ่านสื่อใหญ่ๆเสมอว่า พระพุทธเจ้าประสูติในอินเดีย

อนึ่ง เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2006 ธนาคารกลางฯ เคยออกธนบัตรราคา 50 รูปี เพื่อเฉลิมฉลองการดำเนินงานครบ 25 ปีของธนาคารกลางฯ ในปี 2005 โดยมีรูปเสาอโศกอยู่ทางขวามือ บนด้านหน้าของธนบัตร

(จาก Xinhua)

• สหรัฐฯบริจาคเงินให้เนปาล ป้องกันวัดโบราณถูกน้ำท่วม

เนปาล : สถานทูตสหรัฐอเมริกาในประเทศเนปาลได้บริจาคเงิน 87,800 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.7 ล้านบาท) เพื่อช่วยป้องกันน้ำท่วมวัดรินเชนลิง ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่สร้างในศตวรรษที่ 11 ตั้งอยู่ในหมู่บ้านฮาลจิ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ

วัดรินเชนลิงตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการถูกทำลาย อันเนื่องมาจากสภาวะโลกร้อนทำให้ธารน้ำแข็งบริเวณเทือกเขาหิมาลัยหลอมละลาย กลายเป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งที่เกิดขึ้นฉับพลันทางตอนเหนือของประเทศ น้ำจึงไหลบ่าลงมาท่วมตอนล่าง ดังนั้น จึงต้องหาทางป้องกันไว้ก่อน

อนึ่ง วัดรินเชนลิง เป็นหนึ่งในวัดพุทธทิเบตที่เก่าแก่ที่สุดในเนปาล ซึ่งชาวทิเบตให้ความเคารพอย่างสูง และมีแนวโน้มในอนาคตอาจได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

(จาก Reuters)

• เสียชีวิตแล้ว “โกเอ็นก้า” วิปัสสนาจารย์ชื่อก้องโลก

อินเดีย : เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2013 ดร.สัตยา นารายัน โกเอ็นก้า วิปัสสนาจารย์ชื่อดังระดับโลก อายุ 89 ปี ได้ถึงแก่กรรมอย่างสงบ ณ บ้านพักในเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย โดยมีพิธีฌาปนกิจเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม และอัฐิได้ถูกส่งกลับไปลอยอังคาร ณ แผ่นดินเกิดในพม่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ดร.สัตยา นารายัน โกเอ็นก้า เกิดเมื่อวันที่ 30 มกราคม 1924 ในครอบครัวชาวอินเดียที่นับถือศาสนาฮินดูซึ่งอาศัยอยู่ในพม่า ท่านได้เรียนวิปัสสนากับ “อูบาขิ่น” วิปัสสนาจารย์ชื่อดังชาวพม่า เป็นเวลา 14 ปี

ต่อมาในปี 1969 โกเอ็นก้าได้ย้ายไปอยู่ที่อินเดีย เพื่อเริ่มต้นสอนวิปัสสนาตามแนวทางของอูบาขิ่น กระทั่งปี 1976 โกเอ็นก้าได้เปิดศูนย์วิปัสสนาแห่งแรกชื่อ “สำนักวิปัสสนานานาชาติ” หรือ “ธรรมคีรี” ในเมืองอิกัตปุรี รัฐมหาราษฏระ และปี 1985 ได้ก่อตั้งสถาบันวิจัยวิปัสสนาขึ้นในเมืองนี้ด้วย

โกเอ็นก้าได้อำนวยการสอนวิปัสสนาหลักสูตร 10 วันตามประเทศต่างๆ ทั้งในซีกโลกตะวันตกและตะวันออก จนเป็นที่ยอมรับทั่วโลก ท่านย้ำเสมอว่า “พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนเรื่องความเห็นต่างทางศาสนา พระองค์ทรงสอนธรรมะ เพื่อนำไปสู่การดับทุกข์ ซึ่งเป็นหลักสากล” ปัจจุบัน มีศูนย์วิปัสสนาของโกเอ็นก้าทั้งสิ้น 172 แห่งใน 30 ประเทศทั่วโลก

โกเอ็นก้ามีภรรยาซึ่งเป็นครูร่วมสอนวิปัสสนา และบุตรชาย 6 คน ท่านได้รับปริญญากิตติมศักดิ์ รางวัล และใบประกาศเกียรติคุณจำนวนมาก จากรัฐบาลอินเดียและประเทศต่างๆ รวมถึงองค์การต่างๆทางพุทธศาสนา

(จาก The Indian Express Editorial)

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 155 พฤศจิกายน 2556 โดย เภตรา)