• ตื่นเต้นเรื่องจิตสงบ
ปุจฉา : กราบเรียนถามหลวงปู่ กระผมทำสมาธิโดยใช้การนั่ง โดยการกำหนดลมหายใจเข้า-ออก ในครั้งที่กระผมคิดว่าได้ผลดี คือผมจะรู้สึกละเอียดขึ้น...ละเอียดขึ้น..เป็นลำดับ แต่ทันใดนั้นผมก็คิดแต่ว่า “จิตมันจะสงบแล้ว” (จริงๆแล้วผมก็ไม่เคยสัมผัสกับจิตที่สงบ) และผมก็รู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่ผมคาดว่าจะได้รับจากความสงบนั้น สุดท้ายผมก็รู้สึกอยู่อย่างนั้น และผมก็เริ่มรู้สึกว่า ไม่สงบเหมือนเริ่มแรก เป็นอย่างนี้มาหลายครั้งแล้วครับ
กระผมขอความเมตตาจากหลวงปู่ ช่วยสั่งสอนกระผมด้วยครับ
วิสัชนา : พระศาสดาทรงตรัสว่า “ธรรมใดเกิดแต่เหตุ..ถ้าจะดับ ก็จงดับเหตุแห่งธรรมนั้น” เมื่อความกังวลเรื่องจิตจะสงบบังเกิดขึ้น คุณก็ตัดกังวลนั้นเสีย อย่าไปใส่ใจมัน จงให้ความสำคัญในกรรมฐานที่คุณเจริญอยู่เพียงอย่างเดียว โดยไม่ต้องไปใส่ใจว่า อะไรมันจะเกิดขึ้น
อาการที่เกิดกับคุณ แสดงว่าคุณขาดสติ เคลื่อนออกจากกรรมฐานที่กำลังทำ แต่ดันไปสนใจใส่สติกับเรื่องอื่นแทน
คุณจงจำไว้ว่า สติเครื่องระลึกรู้กรรมฐาน ก็คือสติชนิดสัมมาสติ มิใช่มิจฉาสติ ต้องเป็นสติในส่วนกุศลเท่านั้น
• ถอดกายทิพย์
ปุจฉา : กราบนมัสการองค์หลวงปู่ที่เคารพยิ่ง ยังมีเรื่องอีกหลายเรื่องที่ลูกยังไม่รู้ และไม่ทราบว่าจะมีผู้ใดสามารถให้คำตอบได้ ขอความกรุณาจากองค์หลวงปู่ช่วยวิสัชนาด้วย จะเป็นพระคุณอย่างสูง คำถามมีดังนี้
1. การถอดกายทิพย์คือสภาวะธรรมที่เป็นอย่างไร หมายถึง การส่งกระแสจิตไปยังผู้หนึ่งผู้ใด หรือที่หนึ่งที่ใด ใช่หรือไม่
2. ที่เล่ากันต่อๆมาว่า ในสมัยพุทธกาล ในตอนเช้าๆ พระพุทธเจ้าจะส่งญาณวิถีสำรวจ ก่อนที่พระองค์จะเสด็จไปโปรดสัตว์ที่สมควรจะได้รับการโปรดมากที่สุดในวันนั้น อยากถามว่าลักษณะเช่นนี้ถือว่าเป็นการถอดกายทิพย์ ใช่หรือไม่
3. การจะรับโทรจิตที่มีผู้ส่งมาถึงเรา จะจูนเครื่องกันได้อย่างไร โดยเฉพาะในฝ่ายรับ จะมีวิธีฝึกจิตอย่างไร จึงจะสามารถติดต่อกันทางจิตได้ และฝ่ายส่งกระแสจิตจะต้องทำอย่างไร ฝ่ายไหนปฏิบัติยากกว่ากันระหว่างผู้รับกับผู้ส่ง
4. นิรุตติสมาบัติ เป็นวิชาเกี่ยวกับอะไร จะฝึกอย่างไร มีข้อเสียหายอะไรหรือไม่ในการฝึก
วิสัชนา : 1. การถอดกายทิพย์ คือกระบวนการส่งกระแส จิตออกไปสัมผัสรับรู้ความจริงที่ห่างไกลนอกกายเรา คล้ายๆ กับเวลาที่คุณอยู่ในที่ทำงาน แล้วนึกถึงบ้าน นึกถึงห้องนอน นึกถึงสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ
เปรียบได้อีกอย่างก็คือ เหมือนกับบุคคลผู้มีกำลัง ชักดาบออกจากฝัก กายเนื้อก็คือฝักดาบ ส่วนกายทิพย์หรืออาทิสสมานกาย คือดาบที่ชักออกจากฝักแล้ว มีทั้งความคมกล้าของปัญญา ว่องไว เข้มแข็ง และผ่อนคลาย
2. ไม่ใช่..นั่นเป็นการใช้ทิพยจักษุ คือ ตาทิพย์มองดูสรรพสัตว์
3. การจะรับส่งกระแสจิตของตนได้นั้น คุณต้องฝึกจิต ชำระจิตของคุณ ให้อ่อนควรแก่การงาน พร้อมทั้งให้พลังแก่จิตคุณ ด้วยการมีสติตั้งมั่น เหล่านี้เป็นกระบวนการที่จะสามารถรับและส่งกระแสจิตได้ทั้งนั้นแหละ
4. หมายถึงความรอบรู้ในภาษาทั้งคนและสัตว์..ไม่มีข้อเสียหายในการฝึก
• การดำรงสติเป็นการสร้างอัตตา?
ปุจฉา : เรียนถามหลวงปู่เกี่ยวกับการดำรงสติ ผมไม่เข้าใจว่าในการดำรงสติ เป็นการรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในกาย เปรียบเหมือนการที่เราสร้างตัวตนในตัวเราขึ้นมา เพื่อให้เฝ้ามองการเป็นไปของกายนี้ ถือว่าเป็นการสร้างอัตตาหรือตัวเราขึ้นมาหรือเปล่าครับ
วิสัชนา : คงไม่ใช่หรอกคุณ ถ้าคุณทำถูกวิธี คุณก็จะรู้ว่า การเฝ้ามองของสติ เป็นการใช้จิตที่มีธรรมชาติรู้ ให้มารู้เฉพาะเรื่องที่ดีมีกุศล พูดง่ายๆก็คือ ฝึกจิตให้รู้ดีมีประโยชน์ และเป็นสิ่งที่คุณต้องการรู้เท่านั้นเอง
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 139 กรกฎาคม 2555 โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม)