หนังสือเล่มนี้จะช่วยชี้ให้เห็นความจริงว่า
คำสอนเรื่องการดูจิตของหลวงปู่ดูลย์นั้น
มีความหมายและวิธีการอย่างไร
ลงกันได้พอดีกับคำสอนของพระพุทธเจ้า
ตามนัยแห่งพระสูตรและอภิธรรมอย่างไร
ครั้งที่ 01 อารัมภบท
เมื่อ 20 กว่าปีก่อน การดูจิตยังเป็นวิธีการปฏิบัติธรรมที่รู้จักกันอยู่ในวงแคบ เฉพาะในหมู่ลูกศิษย์ของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล บางส่วน เท่านั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่นักปฏิบัติส่วนมาก เมื่อได้ยินคำว่า 'ดูจิต' ถ้าไม่งุนงง ก็มักจะปรามาสว่าไม่ใช่หนทางปฏิบัติเพื่อความบริสุทธิ์หลุดพ้น เพราะยังไม่คุ้นเคยกับคำว่า 'ดูจิต' และไม่ทราบวิธีการดูจิตด้วย แต่ก็ต้องปฏิเสธไว้ก่อน เนื่องจากไม่ใช่วิธีการ ปฏิบัติที่ตนคุ้นเคย ทั้งที่การดูจิตนั้น ลงกันได้พอดีกับคำสอนเรื่องการเจริญสติปัฏฐานตามพระสูตร หรือแม้กระทั่งกับอภิธรรม
แต่เมื่อถึงวันนี้ หากนักปฏิบัติไม่พูดถึง การดูจิต หรือไม่เคยได้ยินคำว่าดูจิต ก็อาจจะถูกมองว่าไม่ทันสมัยเสียแล้ว เพราะไม่ว่าไปที่ใดก็มักได้ยินว่า 'คนนั้นดูจิต คนนี้ดูจิต' ต่างก็อ้างคำสอนของหลวงปู่ดูลย์บ้าง อ้างคำสอนของลูกศิษย์หลวงปู่บ้าง หรือไม่อ้างเลยก็มีบ้าง ปรากฏการณ์นี้ด้านหนึ่งก็เป็นเรื่องดี เพราะทำให้วงกรรมฐานมีทางเลือกในการปฏิบัติมากขึ้น แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือ การเผยแพร่เรื่องการดูจิตทุกวันนี้ เริ่มคลาดเคลื่อนจากแก่นธรรมคำสอนของหลวงปู่ดูลย์ บ่อยครั้งที่ขัด หรือแย้งกับหลักการเจริญสติปัฏฐานตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ตลอดจนอภิธรรมเสียด้วยซ้ำไป การดูจิตที่ผิดหลักการที่พระพุทธเจ้าสอนนั้น ถึงอย่างไรก็ไม่นำผู้ปฏิบัติให้บรรลุมรรคผลนิพพานได้
หนังสือเล่มนี้จะช่วยชี้ให้พวกเราเห็นความจริงว่า คำสอนเรื่องการดูจิตของหลวงปู่ดูลย์นั้น มีความหมายและวิธีการอย่างไร ลงกันได้พอดีกับคำสอนของพระพุทธเจ้าตามนัยแห่งพระสูตรและอภิธรรมอย่างไร เพื่อพวกเราที่ชอบคำสอนของหลวงปู่ จะได้ไม่หลงไปทำสิ่งอื่น ทั้งที่คิดว่ากำลังดูจิตตาม คำสอนของหลวงปู่ หรือปฏิบัติขัดหรือแย้งกับคำสอนของพระพุทธเจ้า เพราะไม่เพียงตนเองจะไม่ได้ผลในการปฏิบัติ แต่จะทำให้คำสอนเรื่องการดูจิตเสียหาย และที่ร้ายแรงที่สุดสำหรับชาวพุทธก็คือ จะพลอยทำ พระสัทธรรมให้ฟั่นเฟือนไปด้วย
อนึ่งคุณความดีของหนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนขออุทิศแด่โยมพ่อวิชัย โยมแม่ดวงแก้ว สันตยากร ผู้ให้กำเนิด โยมพ่อสวัสดิ์ จันอำรุง โยมแม่แฉล้ม แตงอ่อน (เย็นสบาย) ผู้ให้การเลี้ยงดู (อ่านต่อสัปดาห์หน้า)
คำสอนเรื่องการดูจิตของหลวงปู่ดูลย์นั้น
มีความหมายและวิธีการอย่างไร
ลงกันได้พอดีกับคำสอนของพระพุทธเจ้า
ตามนัยแห่งพระสูตรและอภิธรรมอย่างไร
ครั้งที่ 01 อารัมภบท
เมื่อ 20 กว่าปีก่อน การดูจิตยังเป็นวิธีการปฏิบัติธรรมที่รู้จักกันอยู่ในวงแคบ เฉพาะในหมู่ลูกศิษย์ของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล บางส่วน เท่านั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่นักปฏิบัติส่วนมาก เมื่อได้ยินคำว่า 'ดูจิต' ถ้าไม่งุนงง ก็มักจะปรามาสว่าไม่ใช่หนทางปฏิบัติเพื่อความบริสุทธิ์หลุดพ้น เพราะยังไม่คุ้นเคยกับคำว่า 'ดูจิต' และไม่ทราบวิธีการดูจิตด้วย แต่ก็ต้องปฏิเสธไว้ก่อน เนื่องจากไม่ใช่วิธีการ ปฏิบัติที่ตนคุ้นเคย ทั้งที่การดูจิตนั้น ลงกันได้พอดีกับคำสอนเรื่องการเจริญสติปัฏฐานตามพระสูตร หรือแม้กระทั่งกับอภิธรรม
แต่เมื่อถึงวันนี้ หากนักปฏิบัติไม่พูดถึง การดูจิต หรือไม่เคยได้ยินคำว่าดูจิต ก็อาจจะถูกมองว่าไม่ทันสมัยเสียแล้ว เพราะไม่ว่าไปที่ใดก็มักได้ยินว่า 'คนนั้นดูจิต คนนี้ดูจิต' ต่างก็อ้างคำสอนของหลวงปู่ดูลย์บ้าง อ้างคำสอนของลูกศิษย์หลวงปู่บ้าง หรือไม่อ้างเลยก็มีบ้าง ปรากฏการณ์นี้ด้านหนึ่งก็เป็นเรื่องดี เพราะทำให้วงกรรมฐานมีทางเลือกในการปฏิบัติมากขึ้น แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือ การเผยแพร่เรื่องการดูจิตทุกวันนี้ เริ่มคลาดเคลื่อนจากแก่นธรรมคำสอนของหลวงปู่ดูลย์ บ่อยครั้งที่ขัด หรือแย้งกับหลักการเจริญสติปัฏฐานตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ตลอดจนอภิธรรมเสียด้วยซ้ำไป การดูจิตที่ผิดหลักการที่พระพุทธเจ้าสอนนั้น ถึงอย่างไรก็ไม่นำผู้ปฏิบัติให้บรรลุมรรคผลนิพพานได้
หนังสือเล่มนี้จะช่วยชี้ให้พวกเราเห็นความจริงว่า คำสอนเรื่องการดูจิตของหลวงปู่ดูลย์นั้น มีความหมายและวิธีการอย่างไร ลงกันได้พอดีกับคำสอนของพระพุทธเจ้าตามนัยแห่งพระสูตรและอภิธรรมอย่างไร เพื่อพวกเราที่ชอบคำสอนของหลวงปู่ จะได้ไม่หลงไปทำสิ่งอื่น ทั้งที่คิดว่ากำลังดูจิตตาม คำสอนของหลวงปู่ หรือปฏิบัติขัดหรือแย้งกับคำสอนของพระพุทธเจ้า เพราะไม่เพียงตนเองจะไม่ได้ผลในการปฏิบัติ แต่จะทำให้คำสอนเรื่องการดูจิตเสียหาย และที่ร้ายแรงที่สุดสำหรับชาวพุทธก็คือ จะพลอยทำ พระสัทธรรมให้ฟั่นเฟือนไปด้วย
อนึ่งคุณความดีของหนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนขออุทิศแด่โยมพ่อวิชัย โยมแม่ดวงแก้ว สันตยากร ผู้ให้กำเนิด โยมพ่อสวัสดิ์ จันอำรุง โยมแม่แฉล้ม แตงอ่อน (เย็นสบาย) ผู้ให้การเลี้ยงดู (อ่านต่อสัปดาห์หน้า)