xs
xsm
sm
md
lg

บทความ

x

จีนกับ “ระเบียบโลกใหม่”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทับทิม พญาไท



เปิดฉากสัปดาห์นี้...คงต้องแวะไปแถวๆ “เล้ง...อยู่สะพานขาวแค่นี้เอง!!!” หรือแวะไปดู “พญามังกรจีน” เขาสักหน่อย เพราะเมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา คุณพี่จีนท่านได้เปิดฉาก เปิดผ้าม่านกั้ง เปิดงานต่อเนื่องกันไปถึง2 งาน โดยจะถือเป็นงานช้าง งานม้าใดๆ ก็แล้วแต่ แต่ต้องถือเป็นงานที่ “ไม่ธรรมดา” ไปด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นงานฉลองครบรอบ 80 ปีวันแห่งชัยชนะ
เมื่อครั้งช่วงสงครามโลกครั้งที่2 หรืองานประชุมสุดยอด SCO” ครั้งที่ 25 ที่อาจถือได้ว่าเป็นทั้งการ “ส่งสัญญาณ” การ “ชี้แนะ-ชี้นำ”หรือการ “เบ่งกล้าม-อวดกล้าม” ของมหาอำนาจอันดับ2 ของโลกที่ใกล้ๆ แซงโค้งวัดเบญฯ ขึ้นเป็นมหาอำนาจอันดับ1 แทนที่คุณพ่ออเมริกา ในอีกไม่ใกล้-ไม่ไกลนับจากนี้ก็แล้วแต่จะลองไปคิดๆกันเอาเอง...

สำหรับงานฉลองครบ 80 ปีวันแห่งชัยชนะนั้น...แค่ได้เห็นผู้นำจีนอย่างประธานาธิบดี “สีทนได้” หรือ “สี จิ้นผิง” ควงแขนขนาบขวา-ขนาบซ้าย โดยขวาคือผู้นำรัสเซียอย่างประธานาธิบดี “ปูติน”ซ้ายคือผู้นำที่ได้ชื่อว่ามีขีดความอดทนค่อนข้างจำกัดแห่งเกาหลีเหนือคือประธานาธิบดี “คิม จองอึน”เรียงแถวดาหน้าเข้ามารับชม “ขบวนพาเหรด” เพียงเท่านี้...ก็เรียกว่าก่อให้เกิดอาการ “หนาวว์ว์ว์ยะเยือกก์ก์ก์”เอาง่ายๆ โดยเฉพาะผู้นำอเมริกาอย่าง “ทรัมป์บ้า” ที่น่าจะกำลังนั่งดูการถ่ายทอดสดการสวนสนามเนื่องในวันดังกล่าว จนไม่เพียงแต่ต้องเอ่ยปากชมความอลังการความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของคุณพี่จีนแต่เพียงเท่านั้น แต่ยังอดไม่ได้ที่จะต้อง “เหน็บ”ไว้ในTruth Social” ด้วยข้อความสั้นๆ ที่ “โพสต์” ไว้ว่า...“ขอให้ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงและประชาชนชาวจีนผู้แสนวิเศษ มีวันเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่และยั่งยืน โปรดส่งความปรารถนาดีไปยังวลาดิมีร์ ปูติน และคิม จองอึน ในช่วงเวลาที่พวกท่านกำลังวางแผนคิดร้ายต่ออเมริกา...”นี่...ต้องเรียกว่าออกอาการ “เปรี้ยว!!!” แบบคล้ายๆ ผู้ที่โดนบีบมะนาวใส่หัวแม่เท้าอะไรทำนองนั้น...

แต่ก็นั่นแหละ...ไม่ว่าเปรี้ยวแค่ไหน? ณ อวัยวะส่วนไหน? แต่เมื่อได้เห็น “ขบวนพาเหรด”ของบรรดาทวยทหารจีนที่ขนเอาอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ นานา ออกมาอวด-ออกมาโชว์เนื่องในงานดังกล่าว โอกาสที่จะเกิดอาการ “จืดสนิท”ปานประดุจรับประทาน “รางจืด” เข้าไปเป็นกำๆ ย่อมน่าจะมีความเป็นไปได้ไม่มาก-ก็น้อย เพราะคุณพี่จีนท่านเล่นขนเอาบรรดา “บ้องข้าวหลามยักษ์”ขนาดและชนิดต่างๆ เข้ามาร่วมในขบวนสวนสนาม อย่างชนิดเห็นแล้วหน้ามืด ตาลาย เอาง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นขีปนาวุธ Dongfeng”(DF) ในแต่ละรุ่น ไล่มาตั้งแต่ DF-31 BJ” ขีปนาวุธข้ามทวีป(International Ballistic Missiles-ICBM) ที่มีพิสัยทำการระดับ13,000 กิโลเมตร DF-41” พิสัยทำการระดับ12,000-15,000 กิโลเมตร ไปจนถึงDF-61”ที่ก้าวหน้า ก้าวไกล ยิ่งกว่าDF”ในแต่ละรุ่น และเพิ่งเปิดตัวครั้งแรกในงานนี้ นั่นยังไม่รวมถึงDF-26D”ที่ได้ชื่อฉายาว่า Guam Killer” หรือผู้ที่สามารถพิฆาตฐานทัพอเมริกาบนเกาะกวมได้แบบสบายๆ...

นอกเหนือไปจากนั้น...ยังมีขีปนาวุธ JL-3” ที่ใช้ยิงจากเรือดำน้ำ ไปจนถึงจรวดไฮเปอร์โซนิกที่สามารถหลบหลีกเรดาร์ระบบป้องกันภัยทางอากาศที่สุดแสนจะทันสมัยอย่าง YJ-17”, “YJ-19”หรือ CJ-1000”จรวดไฮเปอร์โซนิกพิสัยไกล รวมไปถึงเครื่องยิงเลเซอร์ LY-1” ที่มีประสิทธิภาพในการสกัดกั้นจรวดและเครื่องบินโดรนของฝ่ายตรงข้าม และมีเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่มีอาวุธทันสมัยชนิดนี้เอาไว้ในมือ เช่น อเมริกา อังกฤษ และรัสเซียที่สามารถใช้เครื่องยิงเลเซอร์ในลักษณะดังกล่าวหยุดยั้งโดรน FP-1 Kamikaze”ของยูเครน แบบแทบไม่เหลือติดท้องฟ้าเอาเลยก็ว่าได้ นั่นยังไม่รวมไปถึง “โดรนใต้น้ำ”อย่างAJX-002”หรือ “โดรนล่องหน”อย่างGJ-11”ที่ได้ชื่อ ฉายาว่า “นักบินผู้ซื่อสัตย์”(Loyal Wingman) ไปจนกระทั่ง “สุนัขหุ่นยนต์”ที่ต่างใช้ระบบAI” เป็นตัวควบคุมไปด้วยกันทั้งสิ้น ฯลฯ ฯลฯ อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้นี่เอง ที่ทำให้ใครที่คิดจะเล่นงานคุณพี่จีน หนีไม่พ้นต้องหนาวยะเยือก หรือปวดแสบ ปวดร้อน จะด้วยเหตุเพราะถูกบีบมะนาวใส่หัวแม่เท้าหรือไม่? อย่างไร? ก็แล้วแต่จะว่ากันไป...

หรืออย่างที่ผู้อำนวยการศูนย์ The Center for Comprehensive European and International Studies” ของรัสเซีย
“นายVasily Kashin”เขาได้ตั้งข้อสังเกตไว้นั่นแหละว่า บรรดาอาวุธต่างๆ ของจีนที่ถูกนำมาอวดโชว์ไว้ในงานนี้ ต่างไปจากอาวุธเมื่อ15 ปีที่แล้วแบบคนละเรื่อง-คนละม้วน คือไม่ใช่อาวุธที่เกิดจากการลอกเลียนแบบพื้นฐานมาจากผู้อื่น(rudimentary
copies) แต่เกิดจากการประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมาเองแบบใหม่ถอดด้าม และนั่นเองที่ทำให้... “การสวนสนามของจีนครั้งนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องธรรมดาๆ แต่อาจถือเป็นการ...ส่งสัญญาณ!!! ครั้งสำคัญ ที่อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงหลักนิยมบางอย่างเอาเลยก็เป็นได้” หรืออาจไม่จำเป็นต้อง “หงออ์อ์อ์” หรือต้องใช้วิธีลอดเลื้อยโอบกระหวัดรัดพันใครต่อใครอีกต่อไปแล้ว เพราะโดยอาวุธเท่าที่จีนมีอยู่ในมือ ย่อมมีศักยภาพพอที่จะ “เผชิญหน้า”กับใครๆ ในแบบ “ดอก-ต่อ-ดอก” เอาเลยก็ย่อมได้...

แต่ก็นั่นแหละ...บรรดาอาวุธร้ายๆ ที่คุณพี่จีนท่านขนมาอวด ขนมาโชว์ในงานวันแห่งชัยชนะเที่ยวนี้ คงไม่ได้มุ่งที่จะอวดกล้าม โชว์กล้าม เพื่อให้ผู้อื่นต้องเป็นฝ่าย “หงออ์อ์อ์” แบบเดียวกับที่มหาอำนาจอันดับ1 ของโลก อย่างคุณพ่ออเมริกา มักประพฤติ-ปฏิบัติจนกลายเป็นนิสัยไปแล้วก็ว่าได้ เพราะภายใต้บรรยากาศของงานอีกงานหนึ่ง นั่นคือการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศ Shanghai Cooperation Organization”ครั้งที่25 ในระยะเวลาใกล้ๆ กัน ผู้นำจีน อย่างประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” ท่านก็ได้ถือเป็นโอกาสในการนำเสนอ สิ่งที่เรียกว่า The Global Governance Initiative”หรือGGI” อันแทบไม่ได้ต่างอะไรไปจาก “ระเบียบโลกแบบใหม่” ต่อหน้าบรรดาผู้นำประเทศกว่า 20 ประเทศ รวมทั้งเลขาธิการสหประชาชาติอีกด้วย...

และด้วย “เนื้อหา-สาระ” อันประกอบไปด้วยหลักการพื้นฐาน 5 ประการ ไม่ว่าการเคารพอำนาจอธิปไตยของแต่ละประเทศโดยเท่าเทียมกัน การให้ความยอมรับต่อกฎ ระเบียบระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของสหประชาชาติ การยอมรับความแตกต่างหลากหลายของแต่ละประเทศ ที่เป็นไปในแบบหลายขั้วอำนาจ การยึดมั่นผลประโยชน์ของประชาชนในประเทศต่างๆ เป็นศูนย์กลาง และการเน้นหนักในสิ่งที่สอดคล้องกับการปฏิบัติ อันสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่จะทำให้ความขัดแย้งใดๆ ก็ตามเท่าที่มีอยู่ในโลกใบนี้ ไม่ว่าในแง่การเมือง การทหาร ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ หรือเขตแดน ฯลฯ สามารถหาทางออก-ทางไปได้ด้วยการพูดคุย-เจรจา ของผู้ที่ให้ความยอมรับต่อหลักการพื้นฐานดังกล่าว หรือด้วยข้อตกลงแบบที่เรียกว่า Multilateral agreement” นั่นเอง...

ด้วยการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในลักษณะเช่นนี้นี่เอง...ที่ทำให้นักคิดนักวิชาการชาวรัสเซียอย่าง Ladislav Zemannek” แห่งสโมสร The Valdai Discussion Club” เขาอดไม่ได้ที่จะต้องเอามาตีความแปลความ ไว้ในข้อเขียน บทความ ชิ้นล่าสุด ว่าด้วยเรื่อง China’s new Global Governance-What is it, exactly”หรือเอาจริงๆ แล้ว สิ่งที่เรียกว่า GGI” ของคุณพี่จีนมันคืออะไรกันแน่??? และดูเหมือนว่า...ด้วยโครงร่าง ด้วยลักษณะของความเป็นกลุ่มประเทศSCO”ที่ถูกริเริ่มขึ้นโดยคุณพี่จีนตั้งแต่แรกนั่นเอง ที่สามารถใช้เป็นตัวอธิบายถึงความมุ่งมั่นความพยายามดังกล่าวได้เป็นอย่างดี หรือด้วยเหตุเพราะกลุ่มประเทศที่รวมตัวเป็นองค์กรแห่งนี้ เอาเข้าจริงๆ แล้วแทบไม่ได้กลมเกลียว กลมกลืน เป็นเนื้อเดียวกัน(Homogeneous) แต่อย่างใด หลายต่อหลายประเทศมีข้อขัดแย้งแตกต่างในทางการเมือง เศรษฐกิจ และอะไรต่อมิอะไรอีกเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าอินเดียกับจีน อาร์เมเนียกับปากีสถาน รัสเซียกับอาร์เมเนีย หรือกระทั่งอินเดียกับจีน ไปจนถึงตุรกี-ตุรเคียที่เป็นทั้งสมาชิก NATO”และSCO”ภายในเวลาเดียวกัน แต่ต่างฝ่ายต่างสามารถใช้เวทีดังกล่าวในการ “ประนีประนอม” ระหว่างกันและกันได้...

ดังนั้น...แม้ว่าคุณพี่จีนท่านจะขน “บ้องข้าวหลามยักษ์” ไม่รู้จะกี่ชนิด กี่ประเภท ออกมาอวด ออกมาโชว์ในขบวนสวนสนาม หรือขบวนพาเหรดของงานครบรอบ80 ปีแห่งชัยชนะก็ตาม แต่ “บทสรุป” ของสิ่งเหล่านี้...ก็น่าจะเป็นไปดังที่ผู้นำจีนประธานาธิบดี “สีทนได้”หรือ “สี จิ้นผิง” ท่านป่าวประกาศไว้แบบเสียงดัง-ฟังชัดนั่นแหละว่า... “โลกทุกวันนี้...กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ต้องเลือกระหว่างสันติภาพกับสงครามระหว่างการเจรจากับการเผชิญหน้าระหว่างการชนะแบบกินรวบกับการชนะไปด้วยกันทุกฝ่าย...” ด้วยเหตุนี้...บรรดาเราๆ-ทั่นๆทั้งหลายที่นั่งๆ นอนๆ กันอยู่ในแต่ละประเทศ คงหนีไม่พ้นต้องตัดสินใจ “เลือก” เอาข้างหนึ่ง-ข้างใดอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ อันเนื่องมาจากโลกทุกวันนี้แทบไม่เหลือ “พื้นที่เป็นกลาง” ใดๆ ต่อไปอีกแล้ว!!!


กำลังโหลดความคิดเห็น