ยังดิ้นรนหาขุมทรัพย์

รัฐบาลเศรษฐาได้ประกาศหาเสียงว่าจะทำให้คนไทยเป็นเศรษฐี หลังจาก 9 เดือนมีคนไม่น้อยที่อยู่ในสภาพยากจนแทบกลายเป็นคนอนาถาเพราะสภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้อต่อการมีชีวิตอยู่อย่างสบาย

ข่าวร้ายเรื่องประชาชนลำบากต้องเอารถยนต์ไปขายหรือโดนยึดเป็นเรื่องที่น่าเศร้าเพราะรถยนต์เป็นพาหนะสำคัญสำหรับใช้ทำมาหากิน สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายเมื่อต้องจ่ายแพงสำหรับน้ำมันและก๊าซ

คนรุ่นใหม่มีเงินซื้อรถไฟฟ้าใช้ก็ต้องยอมรับความไม่สะดวกบางประการ แต่ก็เป็นเรื่องของชีวิตแต่ละบุคคลที่จะต้องรับกับสภาพที่เป็นอยู่

เราเห็นว่ากว่า 9 เดือนที่รัฐบาลเศรษฐาบริหารประเทศแทบไม่มีอะไรดีขึ้น ตัวเลขเศรษฐกิจหลายอย่างย่ำแย่ อัตราการขยายตัวก็บ๊วยในกลุ่มอาเซียน จะไปโทษใครได้นอกจากตัวเอง

เว้นแต่พวกโทษคนอื่น ตำหนิคนอื่นยกเว้นตัวเอง
อันที่จริงรัฐบาลเศรษฐา ก็สืบทอดมาจากพรรคไทยรักไทยที่โดนยุบสองครั้งในชื่ออื่นและโดนรัฐประหาร แต่สมาชิกคณะรัฐมนตรีก็หน้าเดิม

หลายคนยังรักษาโหงวเฮ้งโจรไว้อย่างเข้มข้นและเพิ่มรังสีอำมหิตในด้านการทุจริตคอร์รัปชัน ความชั่วร้ายต่างๆ เกินระดับที่เคยเป็นมาด้วยซ้ำ

ช่วงนี้ความพยายามเร่งนโยบายฉาบฉวยสุกเอาเผากิน กำลังเผชิญแรงต้านจากประชาชนผู้รักชาติและห่วงใยว่าบ้านเมืองจะล่มจมเพราะฝีมือของรัฐบาลนี้

นโยบายเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ การแข่งรถสูตรหนึ่ง โครงการเอาที่ดินเข้าสู่สภาพ “เช่าชาติ” นาน 99 ปี โครงการแลนด์บริจด์ให้ต่างชาติใช้ที่ดิน 300,000 ไร่ โครงการออกสลาก และสารพัดแล้วแต่จะคิดขึ้นมาแหกตาประชาชน

ทั้งหมดนี้เป็นข้ออ้างเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซา แต่โครงการที่กัดไม่ปล่อยคือแผนจะใช้เงินในโครงการดิจิทัลซึ่งเดิมคาดว่าจะใช้ถึง 5 แสนล้านบาท แต่หาแหล่งไม่ได้จึงต้องปรับแผนตั้งแต่เริ่มโครงการ

มาถึงจุดนี้ไม่สามารถเอาเงินธนาคารเพื่อการเกษตรฯ มาใช้เพราะกลัวติดขัดกฎหมาย จึงต้องชะลอโครงการจะเอาเงินงบประมาณสองปีมาใช้และลดยอดเหลือเพียงแค่ 4.5 แสนล้านบาท อ้างจำนวนคนลดลง

นี่ยิ่งกว่านิยายน้ำเน่าแหกตาชาวบ้านมาตั้งแต่หาเสียง และปรับมาตลอดโดยคงไม่คิดว่าชาวบ้านจะรู้ทัน อยู่มา 9 เดือนกว่า โครงการเงินดิจิทัลไม่สำเร็จ ไม่มีเงินไปแจกชาวบ้านหัวละ 10,000 บาทก็ไม่เห็นบ้านเมืองล่มจม

ไม่ได้เงินก้อนนี้ไปกระตุ้นเศรษฐกิจทุกอย่างก็เป็นไปเหมือนเดิม แต่คนลำบากมากขึ้น และยังพยายามจะเห็นกฎหมายผ่านสภาฯ และวุฒิสภาให้ได้เพื่อเอาเงินงบประมาณแผ่นดินมาใช้แทนเงินของธนาคารเพื่อการเกษตรฯ

และก็ยังตอบคำถามไม่ได้ว่าทำไมไม่แจกเงินสด ทั้งที่เงินงบประมาณก็เป็นเงินสด ทำไมต้องแจกเงินดิจิทัล

การไม่มีคำตอบทำให้ชาวบ้านรู้ว่านักเลือกตั้งในรัฐบาลนี้มีแผนแฝงเร้นต้องการเงินส่วนหนึ่งจากกินหัวคิวเปอร์เซ็นต์ของเงินดิจิทัลเพื่อไม่ต้องกลับบ้านมือเปล่า

จ่ายค่า 3% ออก 3% ก็เป็นเงินหลาย 10,000 บาท ถ้าแจกเป็นเงินสดก็ไม่ได้อะไร นี่คือเหตุผลสำคัญ นอกจากนั้นอาจจะมีสินน้ำใจจากบริษัทผู้รับประโยชน์โดยตรงจากเงินก้อนนี้

ด้วยเหตุนี้จึงมีเงื่อนไขทุเรศอุบาทว์มาแหกตาชาวบ้านว่าทำไมถึงไม่ต้องแจกเงินสด ก็เพราะไม่อยากเหนื่อยเปล่า โดยไม่มีจิตสำนึกว่าบ้านเมืองจะต้องเป็นหนี้ก้อนใหญ่ เป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำครกใหญ่

ความไม่ซื่อที่แสดงให้ประชาชนเห็นทำให้ประเทศไทยมีอนาคตมืดมน นักลงทุนต่างประเทศไม่เข้ามาและนักลงทุนไทยหนีไปต่างประเทศเพราะทนกับสภาพซบเซาไม่ไหว

นอกจากนั้นยังมีปัญหาเรื่องหัวคิวหุ้นลมและเงินใต้โต๊ะสารพัดถูกเรียกร้องโดยนักเลือกตั้ง ทำให้นักลงทุนหนีหมด แต่นักเลือกตั้งไม่สนใจเพราะเอาแต่ได้

การจะไปถลุงเงินจากงบประมาณแผ่นดินไปแจกเงินดิจิทัลแจกพิสูจน์บทบาทของพรรคร่วมรับประทานและสมาชิกรุ่นใหม่ว่ามีความคิดอย่างไร ห่วงใยอนาคตของบ้านเมืองหรือไม่

พรรคร่วมรับประทาน คงไม่คำนึงถึงความเสียหายที่บ้านเมืองจะต้องเผชิญเพราะตัวเองได้ประโยชน์จากโครงการอื่นๆ แต่ชาวบ้านทั่วไปที่ไม่มีแรงต่อสู้ ต่อต้านก็จำเป็นต้องอยู่ในสภาวะจำยอม

หนี้ครัวเรือนสูงถึง 91% ของจีดีพีเป็นสิ่งที่น่ากลัวและยังมีหนี้สาธารณะ ดังนั้นเงินจึงหายจากตลาดเพราะส่วนหนึ่งคนมีเงินไม่อยากใช้เงิน เพราะไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร

คนไม่มีเงินต้องดิ้นรนหนักเพื่อความอยู่รอดและเลี่ยงที่จะใช้อาชญากรรมเป็นทางเลือกสุดท้าย คนว่างงานไม่มีรายได้ ไม่มีญาติพี่น้องพึ่งพาหรือเพื่อนฝูงยิ่งลำบากหนัก

หัวหน้ารัฐบาลยังทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน เดินสายทัวร์ต่างจังหวัดพบชาวบ้าน เพื่อไม่ต้องรับภาระบริหารงานแต่ละวันเพราะดูหน้ารัฐมนตรีแล้วตัวเองก็คงสิ้นหวังด้วยเช่นกัน

จะหวังให้ปัญหาแก้ได้ด้วยตัวมันเองก็ไม่ง่าย เพราะตราบใดที่พวกโหงวเฮ้งโจรคุมอำนาจรัฐการทำเพื่อให้บ้านเมืองดีขึ้นจะยากเพราะมีมือสกปรกจ้องฉกฉวยผลประโยชน์

บอกอีกครั้ง รอพระสยามเทวาธิราชอย่างเดียวที่เป็นความหวัง ที่ผ่านมายังแสดงฝีมือไม่เต็มที่ จากนี้ไปท่านจะใจเย็นไม่ได้แล้ว

น้ำตาของประชาชนแทบจะท่วมประเทศแทนสายฝนแล้ว