เมืองไทย 360 องศา
กลายเป็นว่า เวลานี้สำหรับพรรคก้าวไกล ถือว่า “หมดสภาพ” แบบไร้ความหวังกับสังคมอย่างสิ้นเชิงแล้ว กลายสภาพเป็นการเมืองแบบดาษดื่น ที่เห็นกันอยู่ หลังจากเกิดเรื่อง “อื้อฉาว” มาแบบต่อเนื่องไม่มีพักหายใจกันเลย ซึ่งแต่ละเรื่องแต่ละเหตุการณ์ที่ “แดง” ออกมาเกือบทั้งหมดถือว่า เกิดมาจากข้างในทั้งสิ้น ไม่ใช่มีการถูกกล่าวหาจากภายนอกด้วยซ้ำไป เป็นพฤติกรรมที่ “น่ารังเกียจ” ของสมาชิกพรรคด้วยกันเองทั้งสิ้น
ขณะเดียวกัน เมื่อไล่เรียงแต่ละกรณีที่เกิดขึ้น เมื่อเทียบกับพรรคการเมืองอื่นทั้งในอดีต ในปัจจุบัน หรือแบบต่อเนื่องกันมาตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งบางพรรคที่มีอายุเก่าแก่ กลับมีเรื่องอื้อฉาวยังไม่เท่ากับพรรคก้าวไกล หรืออดีตพรรคอนาคตใหม่ ในเวลานี้ด้วยซ้ำไป
ล่าสุด เจอ ส.ส.ปราจีนบุรี นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา ที่เพิ่งถูกขับออกจากพรรคก้าวไกล กรณีไปคุกคามทางเพศทีมงาน ขู่จะเปิดโปงการทุจริตของ ผู้ช่วย ส.ส.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดของระดับผู้บริหารพรรคคนหนึ่ง ว่าไปเรียกรับเงินจากผู้บริหารโรงขยะแห่งหนึ่งจำนวนหลายล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้ นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า “ผมหยุดให้ข่าวไปหลังจากแถลงไปวันเเรก แต่ ผช.ส.ส.ของกรรมการบริหารพรรคบางท่าน ยังคงไล่ตีผมไม่หยุด หรือต้องให้ผมพูดทั้งหมด ตามข้อมูลหลักฐานที่ผมเคยให้พรรคไป ผู้ช่วย ส.ส. ของปราจีนบุรี จากโควตาของพรรค คนนี้ เกี่ยวพันกับการเอื้อรับผลประโยชน์จากโรงงานกำจัดขยะหลายล้านบาท”
“ส่วนเรื่องจะทุจริต หรือไม่ทุจริตก็ไปว่ากันในพรรค ซึ่งผมเดินออกมาแล้ว คงไม่ขอก้าวล่วงกระบวนการ แต่หากพรรคยังปล่อยปะ ให้ผู้ช่วยของกรรมการบริหารพรรค ปล่อยข่าวมูลต่างๆ และสร้างความเสียหายกับผมเช่นนี้ ผมอาจจำเป็นต้องชี้แจงจากหลักฐานทั้งหมด ผมต้องการทำ และสร้างการเมืองที่ไม่ทุจริต”
แน่นอนว่า มองบางมุมอาจเป็นลักษณะ “แบล็กเมล์” หรือ “เอาคืน” แต่อีกด้านหนึ่ง มันก็สะท้อนให้เห็นว่าภายในพรรคมีรายการ “เรียกรับเงินใต้โต๊ะ” มีการแสวงหาประโยชน์ ไม่ต่างจากนักการเมืองพรรคอื่น มีเรื่องราวเกี่ยวกับ “ตั๋วช้าง” เหมือนกับที่เคยกล่าวหาเยาะเย้ย หรือ “ด้อยค่า”คนอื่น เอาเข้าจริงมันก็ไม่ได้ต่างกัน หรือไม่ก็อาจจะเลวร้ายกว่าด้วยซ้ำไป เพราะพรรคนี้เพิ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น ยังมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น อีกทั้งหากมีการขุดคุ้ยกันต่อไป อาจจะเจอ “ขยะ” ที่ซุกเอาไว้ใต้พรมอีกมากมายก็เป็นได้
กรณีที่มีการเปิดโปงมาจาก นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา ส.ส.ปราจีนบุรี ที่เพิ่งถูกขับออกจากพรรคก้าวไกลคนนี้ ก็ต้องเดินหน้าเปิดโปงให้ถึงที่สุด หากเป็นเรื่องทุจริต ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นเรื่อง “แบล็กเมล์” ทางการเมือง กลายเป็นเรื่อง “น้ำเน่า” ยิ่งกว่าเดิมอีก ดังนั้น เมื่อเปิดหัวออกมาแบบนี้มันก็ต้อง “กระชากหน้ากาก” ผู้ช่วย ส.ส.ปราจีนฯ คนนั้นว่าเป็นใคร และที่ว่าเป็น “เด็กกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล” นั้น มันคือใคร แม้ว่าในความเป็นจริงก็คงสืบหาตัวกันไม่ยาก เพียงแต่ว่าที่ผ่านมาอ้างว่าทำ “การเมืองแบบใหม่” ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย หรือที่บอกว่า ประเทศไทยจะไม่เหมือนเดิม มันก็ต้องเดินหน้าที่จะแฉต่อเนื่องให้ถึงที่สุด
ขณะเดียวกัน อีกกรณีหนึ่งที่เป็นผลต่อเนื่องมาจากกรณี “คุกคามทางเพศเหมือนกัน” แต่ ผลออกมาแบบ “คนไม่เท่ากัน” เนื่องจากกรณีของ นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา ส.ส.ปราจีนบุรี ซึ่งพรรคก้าวไกลมีมติขับออกจากพรรค แต่อีกคนหนึ่ง คือ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ที่มีปัญหาเรื่อง คุกคามทางเพศ เช่นเดียวกัน แต่ผลของมติออกมาต่างกัน นั่นคือ มีเสียงมติไม่พอสามในสี่ ตามรัฐธรรมนูญ แต่ให้ตัดสิทธิ์ในการดำรงตำแหน่งทางการเมือง พร้อมคาดโทษห้ามก่อเหตุในลักษณะแบบนี้อีก ซึ่งก็มีคำถามตามมาอีกว่า มี ส.ส.จำนวนกว่ายี่สิบคน ที่โหวตอุ้ม ส.ส.คนนี้ จนทำให้มีเสียงไม่พอขับออกจากพรรคได้ ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ในเรื่องย้อนแย้ง “ความเป็นคนไม่เท่ากัน” ระหว่าง ส.ส.บ้านนอก กับ ส.ส.เมืองกรุงที่มีคอนเนกชันกับพวกคนดัง หรือพวก “ชั้นสูง” ในพรรค ตามที่ นายวุฒิพงศ์ เคยตัดพ้อในเรื่องแบบนี้มาแล้ว และนำมาสู่การขู่แฉเรื่องงทุจริต เรียกรับผลประโยชน์หลายล้านบาทดังกล่าว
อย่างไรก็ดี หลังจากเกิดเสียงวิจารณ์ดังขรมทั่วสารทิศ ทั้งจากคนนอก และบรรดาคนกันเองทั้งหลายที่รุมประณาม นายไชยามพวาน แล้ว รวมไปถึงพรรค และ ส.ส.ที่โหวตอุ้ม โดยเรียกร้องให้เปิดเผยชื่อและแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งตามรายงานระบุว่า มี 6 คน ที่พอ เห็นชื่อเห็นหน้าก็ต้องร้องอ๋อ
โดย เพจ "วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร" ที่นำมาประกอบโพสต์ดังกล่าว มีการลงรูป ส.ส.ของพรรคก้าวไกล ทั้งสิ้น 6 คน ได้แก่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.ทิสรัตน์ เลาหพล ส.ส.กทม. นายสิริน สงวนสิน ส.ส.กทม. นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. และ นายจรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ ส.ส.กทม.
แอดมินเพจดังกล่าว ยังระบุข้อความในช่องแสดงความคิดเห็นด้วยว่า “ไม่ใช่เรื่องเสียหาย หรือหน้าอาย หนูอยากฟังเหตุผลดีๆ เท่านั้นเอง” “มีงดออกเสียงด้วยนะคะ แต่ถือว่าเป็นคะแนนให้ปูอัดอยู่ต่อ” “ถ้าไม่ได้มาโหวต เท่ากับสนับสนุนให้ปูอัดอยู่ต่อ ใช่มั้ยคะ?” เป็นต้น
แม้ว่าความเคลื่อนไหวล่าสุดของพรรคก้าวไกล ที่มีการนัดประชุมพรรค ในวันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน เพื่อลงมติขับ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ ส.ส.กทม. อีกครั้ง ซึ่งเที่ยวนี้เมื่อพิจารณาจากบรรยากาศ และอารมณ์ทางการเมืองที่ถาโถมเข้ามารอบทิศทาง ทำให้น่าเชื่อว่า คงต้องขับพ้นพรรคได้สำเร็จค่อนข้างแน่ แต่คำถามก็คือ “มันไม่ทันการณ์แล้ว” เหมือนกับสายไปแล้ว
ที่สำคัญ หาสภาพของพรรคก้าวไกลเวลานี้เรียกว่า “หมดสภาพ” ไปเรียบร้อยแล้ว ไม่เหลือภาพลักษณ์ของพรรคการเมืองแนวใหม่ ตามที่เคยอวดอ้างเอาไว้เลย กลายเป็นพรรค “น้ำเน่า” ไว้ใจไม่ได้ ถูกมองเป็นพรรคที่มัวเมาในเรื่องกาม เหล้าเบียร์ เครื่องดื่มมึนเมา และที่สำคัญก็คือมีเรื่องทุจริต มีอภิสิทธิ์ชน ย้อนแย้งกับคำพูดที่เคย “ด้อยค่า” คนอื่น ทำนองว่าตัวเองเหนือกว่า พวกรุ่นเก่าล้าหลัง
หลายเรื่องราวที่เกิดขึ้นในพรรคก้าวไกลถือว่า “ขึ้นเร็ว ลงเร็ว” หมดเครดิตในทางสังคมส่วนใหญ่ไปแล้ว แม้ว่ายังมี บรรดา “ด้อมส้ม” ที่ยังไม่ลืมหูลืมตา แต่ก็เป็นประเภทเดียวกัน ที่เป็นพวกไร้ราก ไร้แก่นสาร ที่จะพากันก้าวลงเหวไปด้วยกัน นาทีนี้ ถือว่าหมดแล้วกับพรรคการเมืองยุคใหม่ การเมืองแบบใหม่ คำพูดที่ว่า “คนเท่ากัน” มันก็แค่ลิเก และยังเป็น “ลิเกหลงโรง” ไปเสียอีก !!