ข่าวปนคน คนปนข่าว
** “สส.แจ้ ปราจีน” แฉตั๋วโรงขยะ พรรคก้าวไกล โยงไปถึงกรรมการบริหารพรรค
พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก สาวไส้กันแหลก พรรคก้าวไกลยุค “ชัยธวัช ตุลาธน”เป็นหัวหน้า ...จากปัญหาคุกคามทางเพศ ลามไปถึงงาบส่วยโรงกำจัดขยะ
หลังจาก “สส.แจ้” วุฒิพงศ์ ทองเหลา ส.ส.ปราจีนบุรี ถูกพรรคก้าวไกลมีมติให้ขับออกจากพรรค ด้วยผิดจริยธรรมร้ายแรง ที่ไปมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศกับทีมงานของตัวเอง
วันนี้ “สส.แจ้” ออกมาแฉกลับบ้าง บอกว่าที่พรรคหาเหตุขับตนเองออกจากพรรคเพราะไปรู้เรื่องที่ “ผู้ช่วย ส.” ซึ่งเป็นผู้ช่วยสส.คนหนึ่ง ที่มีตำแหน่งเป็นถึงกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ไปรับผลประโยชน์จากโรงงานกำจัดขยะในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี หลายล้านบาท
การออกมาแฉกลับในช่วงเวลานี้ อาจถูกมองว่าเป็นการ “แบล็กเมล์” หรือ “เอาคืน” ของส.ส.แจ้ ...แต่เขาไม่ได้พูดปากเปล่า เพราะมีหลักฐานมาโชว์ด้วย เป็นคลิปเสียงเกี่ยวกับการซื้อขายที่ดินบริเวณดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ เขาก็นำหลักฐานส่วนนี้ให้กับทางพรรค เพื่อเป็นข้อมูลตรวจสอบการทุจริต แต่เรื่องเงียบ
จากนั้นก็มีเรื่องร้องเรียนว่า ตนเองคุกคามทางเพศทีมงานหาเสียง โดยคนที่พาหญิงผู้เสียหายมาร้องเรียนกับพรรค ก็คือ “ผู้ช่วยส.” ของกรรมการบริหารพรรคนั่นเอง
“สส.แจ้” จึงมั่นใจว่า การที่ตนถูกขับออกจากพรรค มีต้นเรื่องมาจากการที่ตนไปปูดเรื่องการรับผลประโยชน์จากโรงงานกำจัดขยะแน่นอน และสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเองนั้น ไม่ต่างกับ “ศาลเตี้ย” หรือที่เรียกกันว่า “พวกมากลากไป”!!
“วุฒิพงศ์” บอกว่า บ่อขยะนั้นมีขนาดใหญ่กว่าอาคารรัฐสภา 2 เท่า เจ้าของบ่อขยะที่มีเงินทุนมหาศาล ตอนที่ตนนำเรื่องนี้มาบอกกับพรรค ก็มีคนของพรรคมาบอกไม่ให้ตนพูด ตนเองก็กระอักกระอ่วนใจ แต่เมื่อเขายังตามมาทำลายตนแบบนี้ จึงเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องออกมาพูด
...ผมมีพยานหลักฐานทุกอย่าง ขาดเพียงสลิปโอนเงิน แต่ไม่ขอลงในรายละเอียด และตอนนี้ ก็ยังไม่ได้มีการตัดสินใจแจ้งความดำเนินคดีกับ “ผู้ช่วยส.”คนนั้น เพราะอยากให้เห็นกระบวนการ การจัดการของพรรคก้าวไกลมากกว่า...
หลังจากออกมาแฉเรื่องนี้ ก็มีผู้บริหารพรรค ทักมาทางไลน์ ขอให้หยุดในเรื่องนี้ ตนก็ตอบกลับไปว่า ขอให้ทางพรรคให้เกียรติ ในการทำหน้าที่ของตนเองด้วย ซึ่งทางพรรคเป็นองคาพยพขนาดใหญ่ และพรรคต้องมูฟออน ต้องเป็นฝ่ายค้านเชิงรุกจึงจะถูกต้อง
“วุฒิพงศ์”ยังบอกใบ้ว่า ถ้าอยากรู้ว่า “ผู้ช่วยส.” เป็นใครก็ให้ลองค้นหาคำว่า ฟ้องปิดปาก 50 ล้าน จะเจอ!!
...ผมยืนยันว่าข้อมูลที่นำมาเปิดเผย ไม่ต้องการให้พรรคก้าวไกลกลับมติ หรือให้องค์กรใดสั่งให้พรรครับผมเข้าสังกัดพรรคอีก เพราะผมคิดว่าต้องออกมา แบบไม่หันหลังกลับไป และการเปิดเผยเรื่องนี้ เพราะผมถูกตีไม่เลิก ถูกพาดพิงไม่หยุด ไม่ใช่เพราะต้องการโจมตีพรรค...
แล้วหลังจากนี้ “สส.แจ้” จะไปสังกัดพรรคไหนภายใน 30 วัน เพื่อรักษาสถานภาพ สส. คำตอบคือไม่ใช่พรรคไทยศรีวิไลย์ของ “อดีตสส.เต้” แน่นอน
...ที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ชวนเข้าสังกัดพรรคด้วยนั้น เป็นเพราะเราเป็นศิษย์พระจอมฯ สถาบันเดียวกัน เราก็มีคุยกัน แต่ไม่ได้ลงรายละเอียด แต่ตนเองอยากทำประโยชน์ในพรรค ที่ทำให้เกิดประโยชน์กับประชาชนได้มากกว่านั้น!!
แม้ข้อมูลที่ “สส.แจ้” นำมาออกมาแฉครั้งนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่ก็ได้รับความสนใจจากสังคม รวมทั้ง “สส.อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์” ในฐานะ ประธานกมธ.การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร บอกว่า จะเชิญ “วุฒิพงศ์” และผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงต่อกรรมาธิการฯ เพื่อตรวจสอบว่ามีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของระบบอุตสาหกรรม และกระทบต่อความเชื่อถือของประชาชนที่มีต่อ สส. ถ้าข้อกล่าวหาเป็นเรื่องจริง
เพราะมีโรงงานกำจัดขยะหลายแห่งทั่วประเทศที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กำจัดขยะไม่ถูกต้องตามหลักการ จึงต้องจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการประจำ หรือนักการเมือง ขณะที่ประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงโรงงานกำจัดขยะ คือผู้ที่ต้องรับกรรม จากผลกระทบด้านมลพิษ...
ก่อนหน้านี้ คนของพรรคก้าวไกล มีเรื่องอื้อฉาว ถูกวิพากษ์วิจารณ์ จากเรื่องเมาแล้วขับ เรื่องผู้สมัครส.ส.เคยต้องโทษจำคุก เรื่องคุกคามทางเพศ ยังมีเรื่องรับผลประโยชน์อย่างเช่น “ตั๋วปารีส” และวันนี้คนกันเองก็ออกมาแฉเรื่อง “ตั๋วโรงขยะ” ที่พัวพันไปถึงผู้ช่วยของส.ส.ที่เป็นกรรมการบริหารพรรค
พรรคคนรุ่นใหม่ มาตรฐานสูง แต่ทำไมอยู่ๆไปจึงเข้าอีหรอบว่า “ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา”
** "หมออั้ม" เล่นบทเดอะแบก สวน "ต้องเต" ดรามา "สัปเหร่อ" ซอฟต์พาวเวอร์..ยังไง? ไถลไปถึงเพื่อไทย vs ก้าวไกล
ดรามากันไม่พักจริงๆ สำหรับภาพยนตร์ "สัปเหร่อ" กับ "ซอฟต์พาวเวอร์" ที่ "ต้องเต" ธิติ ศรีนวล ผู้กำกับหนังดังปล่อยหมัด กัดคนใหญ่คนโตในรัฐบาลว่า "คุณอาจไม่เข้าใจหนังสัปเหร่อจริงๆ เลยก็ได้ แค่มาถ่ายรูปแล้วก็บอกว่าหนังสัปเหร่อเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ตัวผมเองยังไม่รู้ว่าซอฟต์พาวเวอร์ คืออะไร"
พ้นจากคำพูดนี้ของ "ต้องเต" กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในทำนองเห็นด้วยว่า รายการนี้ เป็นรายการโหนกระแสภาคหิวแสงของคนรัฐบาล ไม่มีอะไรในกอไผ่ที่จะต้องการผลักดันหนังไทยจากใจจริงๆ
ร้อนถึงบรรดา FC เพื่อไทย "ต้องสวน" ต้องเต
ในประดานี้ เห็นจะมี "หมออั้ม" นายแพทย์อิราวัต อารีกิจ อดีตศิลปินชื่อดัง ออกมาฟาดแทนคนในรัฐบาลจริงจัง โดยโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “อั้ม อิราวัต” พร้อมกับติดแท็ก “ก้อง ห้วยไร่” พี่ที่ “ต้องเต” รัก ระบุว่า
“ผมไม่รู้จักต้องเต เป็นการส่วนตัว
ที่ผมเชียร์หนังสัปเหร่อ ตั้งแต่แรก ตั้งแต่หนังยังไม่ทำเงิน ก็เพราะ‘ก้อง ห้วยไร่’
ตั้งแต่ช่วงแรกๆ เลย ที่ “ก้อง” แชร์จากเพจของเขา
ใครๆ ก็รู้ ว่าผมเชียร์พรรคเพื่อไทย
ใครๆ ก็รู้ว่า “ต้องเตกับก้อง” เชียร์พรรคก้าวไกล
แต่มันไม่ใช่ประเด็น และเราแยกแยะออก
เราไม่จำเป็นต้องเชียร์พรรคการเมืองเดียวกัน แต่เราก็สามารถเชียร์ผลงานกันและกันได้ เราก็ร่วมมือ ทำอะไรให้ดีๆ ด้วยกันได้
Soft Power ไม่ใช่แค่หนัง ละคร หรือภาพยนตร์ แต่หนัง ละคร ภาพยนตร์ คือ เครื่องมือส่ง Soft Power
สิ่งที่ซ่อนอยู่ข้างในนั้นต่างหาก คือ Soft Power
เวลาที่คนดูแล้วอิน อยากเดินทางไปเที่ยวฉากในหนัง ทำให้สถานที่จริง มีคนมาเที่ยว กินดื่ม เงินสะพัด : นี่คือ Soft Power
เวลาที่คนดูแล้วอิน อยากกินอาหาร ทำอาหาร ซื้อของ ซื้อสินค้า แบบในหนัง ละคร ภาพยนตร์ : นี่คือ Soft Power
Soft Power คือ กระแส คือ Passion ทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ แต่มัน Click พอดี มันต่อยอด จับต้องได้ทั้งด้านความรู้สึก ทัชใจ ทั้งด้านรูปธรรม สังคม ปากท้อง ชีวิตความเป็นจริง และเมื่อมันเป็นอัตลักษณ์ของชาติ เป็นวัฒนธรรมเฉพาะ มันก็จะยิ่งเป็นพลัง หนุนทุกมิติ ส่งต่อกันได้
งานนี้ก็ไม่รู้ “ต้องเต” จะออกมาสวนอีกหรือไม่ แต่ “หมออั้ม” ก็ได้ใจชาวเน็ต "ทีมสีแดง" ที่ส่งเสียงกริ๊ดๆ เชียร์ จนยกให้เป็น "หมอแบก" ของเพื่อไทยไปแล้ว
ขณะที่ชาวเน็ตสีส้มก็คงไม่ยอม เมื่อ"หมอแบก"แห่งเพื่อไทยแซะมาถึงก้าวไกล จาก "สัปเหร่อ" มาซอฟต์พาวเวอร์ จะไถลลุกลามถึงศึกสองพรรคสองสียังไงต่อ หรือไม่? งานนี้ดรามาไม่พัก หรือจะหักมุมจบแค่พอหอมปากหอมคอ ก็รอติดตามกันไป.