“วุฒิพงศ์" เสียงสั่น ร่ายยาวภาค 2 เปิดหลักฐานคลิปเสียง-ข้อความ แฉปมถูกขับพ้นพรรค เหตุเจอตอทุจริตบ่อขยะปราจีนบุรี ชี้ กก.บห.มีเอี่ยว บอกผู้ช่วย ส.จูงมือผู้เสียหาย ร้องคุกคามทางเพศเอง-ชงเอง ฝากพรรค อะไรซุกไว้เอาออกมาคุยเยอะๆ จะได้ไม่เกิดปัญหา เมิน “เต้ มงคลกิตติ์” ชวนเข้า “ไทยศรีวิไลย์” ลั่น อยากทำงานเต็มที่กว่านี้
วันที่ 6 พ.ย.2566 ที่รัฐสภา นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา ส.ส.ปราจีนบุรี ที่ถูกพรรคก้าวไกลขับออก หลังพบพฤติกรรมคุกคามทางเพศ แถลงต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง ร่ายยาวนาน 40 นาที เพื่อบอกถึงความไม่ชอบมาพากลในการขับตัวเองออกจากพรรคก้าวไกล โดยได้นำภาพหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่า มีความพยายามทำให้ตนอยู่ในพื้นที่ไม่ได้ หลังจากไปเจอและสืบทราบว่า “ผู้ช่วย ส.” ท่านหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ช่วย ส.ส.กรรมการบริหารพรรค เกี่ยวพันกับการเอื้อรับผลประโยชน์จากโรงงานกำจัดขยะในพื้นที่ปราจีนบุรี หลายล้านบาท พร้อมโชว์แชตไลน์หลักฐานและคลิปเสียงการซื้อขายที่ดินดังกล่าว ก่อนที่จะนำหลักฐานส่วนนี้ให้กับพรรคก้าวไกล เพื่อตรวจสอบการทุจริต แต่กลับถูกเพิกเฉย เนื่องจากมีกรรมการบริหารพรรคท่านหนึ่ง เข้ามาชงเรื่องเอง ทำเองตรวจสอบเอง และสรุปเองว่า ไม่มีความผิด
ตนจึงมั่นใจว่า การถูกขับออกของตน เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่นอน พร้อมเปิดภาพให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างผู้เสียหายที่ร้องสอบพฤติกรรมของตนกับ “ผู้ช่วย ส.” ว่าความสนิทสนมกัน และ “ผู้ช่วย ส.” คนนี้ก็เป็นคนพาผู้เสียหายคนดังกล่าวเข้ามาร้องเรียนตนถึงพรรค รวมถึงเดินสายให้สัมภาษณ์สื่อ ที่อยู่ตรงข้ามพรรคก้าวไกล โดยอ้างว่า ตนเองเป็นชาวบ้าน เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุกคามทางเพศ ก่อนจะนำไปสู่การขับตนออกจากพรรค โดยใช้เวลาแค่ 22 วัน ตนจึงไม่แน่ใจว่า ไปเหยียบเท้ากรรมการบริหารพรรคคนไหนหรือไม่ เพราะกรรมการบริหารพรรคท่านนี้ ก็พยายามเข้ามามีบทบาทในการตรวจสอบเรื่องคุกคามทางเพศของตน
ทั้งนี้ นายวุฒิพงศ์ กล่าวว่า การออกมาแถลงต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง ตนไม่ได้ต้องการขอความเป็นธรรม หรืออุทธรณ์มติพรรคใดๆ เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความไม่ชอบมาพากล และสิ่งที่ตนถูกกระทำ เพราะวันนี้ หากผู้แทนไม่สามารถปกป้องตนเองได้ ประชาชนก็ไม่ต้องพูดถึง นอกจากนี้ ยังอยากจะชี้แจงให้เพื่อน ส.ส. ที่ลงมติขับตนออกเข้าใจข้อเท็จจริง เพราะบางคนไม่เคยคุยกับตนด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้อยู่ระหว่างพิจารณา ว่า จะยื่นขอความเป็นธรรมกับ กกต.หรือไม่
เมื่อถามว่า อยากจะฝากอะไรถึงกรรมการบริหารพรรคท่านนั้นหรือไม่ นายวุฒิพงศ์ กล่าวว่า ไม่มี แต่อยากพูดถึงพรรคก้าวไกลแบบกว้างๆ ว่า
“ผมไม่ได้มีองคาพยพอะไร เชื่อว่า พรรคก็ต้องแถลง อยากจะพูดในมุมที่ให้ยอมรับบ้าง อย่าปฏิเสธ อะไรที่ว่าไม่เคยคุยกันเลย อะไรที่เก็บไว้ซุกไว้ ก็เอาออกมาคุยกันเยอะๆ ปัญหาจะได้ไม่เกิด”
เมื่อถามว่า มีพยานหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเกิดการทุจริตขึ้นจริงหรือไม่ นายวุฒิพงศ์ กล่าวว่า มีพยานหลักฐานทุกอย่าง ขาดเพียงสลิปโอนเงิน แต่ไม่ขอลงในรายละเอียด และตอนนี้ยังไม่ได้มีการตัดสินใจแจ้งความดำเนินคดีกับ “ผู้ช่วย ส.” เพราะอยากให้เห็นกระบวนการของพรรคก้าวไกลมากกว่า
เมื่อถามว่า “ผู้ช่วย ส.” ได้มีการฟ้องหมิ่นประมาทตนเอง ความคืบหน้าเป็นอย่างไร นายวุฒิพงศ์ กล่าวว่า ตนไม่สนใจเรื่องนี้ เพราะเขาไปแจ้งความไว้ตามสถานีตำรวจ และข้อมูลไม่เป็นไปตามความเป็นจริง
เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการย้ายเข้าสังกัดพรรคใหม่ตามกรอบเวลา 30 วัน นายวุฒิพงศ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้คิด ขอลงพื้นที่พูดคุยกับชาวบ้านก่อน ว่า ชาวบ้านอยากจะให้เข้าสังกัดพรรคไหน ส่วนที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เอ่ยปากชวนเข้าสังกัดพรรคนั้น นายวุฒิพงศ์ กล่าวว่า นายมงคลกิตติ์ ถือเป็นรุ่นพี่พระจอมเกล้าพระนครเหนือ แต่ส่วนตัวอยากจะทำงานกับพรรคที่สามารถทำงานได้เต็มที่มากกว่านี้
เมื่อถามว่า นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน ออกมาขู่ว่า ถ้าพรรคไหนรับเข้าสังกัดพรรค จะร้องยุบพรรคดังกล่าวทันที นายวุฒิพงศ์ กล่าวว่า นายศรีสุวรรณ อาจจะยังไม่ได้เห็นข้อมูลจากฝั่งตน แต่ยืนยันว่า พร้อมชี้แจง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตลอดการสัมภาษณ์ของนายวุฒิพงศ์ บางช่วงบางตอนมีน้ำเสียงสั่นเครือ โดยเฉพาะช่วงที่พูดถึงพรรคก้าวไกล ตาเริ่มแดง