ศาลอาญาส่งหมายจ่าย 2 แสน เงินวางศาลของพิมรี่พายแก่หมอวรงค์ หลังชนะคดีฟ้องหมิ่นประมาท แล้วพิมรี่พายไม่อุทธรณ์ ถือว่าจบกัน เจ้าตัวเผยไม่อยากมีเรื่องกับใคร แต่เจอแม่ค้าออนไลน์ใช้ภาษารุนแรงทำให้เสียหาย ปรึกษาทนายแล้วปล่อยไม่ได้ ก็เลยฟ้องเงียบๆ เรียกค่าเสียหาย 1 ล้านแบบไม่อยากเป็นข่าว ย้ำเป็นคดีแรกคดีเดียวที่ฟ้องแล้วชนะ ศาลให้ 2 แสนถือว่าพอใจ
วันนี้ (4 พ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา ศาลอาญาได้ส่งหมายศาลมายังนายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ที่บ้านพักในตำบลวัดจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ในคดีที่นายแพทย์ วรงค์เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ หรือพิมรี่พาย แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง โดยศาลให้นายวรงค์มารับเงินที่จำเลยวางไว้เป็นค่าเสียหายจำนวน 223,615 บาท ตามคำร้องขอวางเงินคำพิพากษา ฉบับลงวันที่ 24 ต.ค. 2566
นายแพทย์ วรงค์โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก "วรงค์ เดชกิจวิกรม - Warong Dechgitvigrom" เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ระบุว่า "ข่าวดีครับ ผมชนะคดีที่พิมรี่พายหมิ่นประมาทผม เขาต้องจ่ายค่าเสียหายให้ผม ตามที่ศาลมีคำพิพากษาสองแสนบาทครับ ข้อความที่พิมรี่พายหมิ่นประมาทผม ท่านเป็นหมอจริงหรือเปล่าคะ หรือว่าท่านเรียนมาเป็นหมอ แต่แก่ไปเป็นหมาคะ ท่านเลียดิฉันเก่งมาก เขามีแต่ไม้ซีกงัดไม้ซุง ดิฉันไม้ซีก ของัดกาฝากค่ะ จะไม่งัดไม่ได้หรอกค่ะท่าน ถ้าดิฉันไม่ทำอะไรสักอย่างเนี่ย เดี๋ยวกาฝากมันจะมาขออาหารจนเคยตัว แต่ก็ไม่น่าจะทันนะคะ อายุปูนนี้แล้ว"
ต่อมานายแพทย์ วรงค์ได้เฟซบุ๊กไลฟ์ระบุว่า ไปรษณีย์เพิ่งจะมาส่งที่บ้านเมื่อสักครู่นี้ เป็นเอกสารจากศาลอาญารัชดาภิเษก ทีแรกตนแปลกใจเพราะคดีความในศาลอาญาหมดแล้ว เหลืออีกคดีหนึ่งที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าฟ้องตนที่จะพิพากษาในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งตนไม่แปลกใจ เมื่อเปิดอ่านแล้วน่าดีใจ ตนชนะคดีฟ้องหมิ่นประมาทไว้เมื่อเดือนพฤษภาคม 2564 หรือเมื่อ 2 ปีก่อน คดีที่พิมรี่พาย แม่ค้าออนไลน์ เคยด่านายทักษิณ ชินวัตร ตนกล่าวชื่นชมว่าเก่งแต่ก็ถูกด่ากลับมา ตนแปลกใจว่าตนไปเลียตอนไหน และถูกกล่าวหาว่าเป็นกาฝาก ตนไม่ถือสาเพราะเป็นผู้ใหญ่กว่า และชื่นชมที่ประสบความสำเร็จ ตอบกลับว่าถือเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ ตนไม่ว่ากัน และชื่นชมว่ามีจุดขายที่้เก่ง
แต่ประเด็นที่ฟ้องก็คือคำว่า ท่านเลียดิฉันเก่งมาก ท่านเรียนหมอแต่แก่ตัวไปเป็นหมา และท่านเป็นกาฝาก ซึ่งรู้สึกว่าทำให้เสียหาย จึงได้ปรึกษากับทนายความของพรรคไทยภักดี ทนายความเห็นว่าปล่อยไว้ไม่ได้ จะเสียหาย ก็เลยยื่นฟ้องพิมรี่พายเงียบๆ ตนไม่ชอบเอาความกับใคร แต่มีคนชอบเอาความกับตน เพราะตนตั้งใจทำงานการเมืองไม่คิดจะทะเลาะกับใคร ใครฟ้องก็สู้กลับ หลายคนเชียร์ให้ฟ้องกลับก็สองจิตสองใจ แต่พิมรี่พายใช้ภาษาที่รุนแรงมาก จึงตัดสินใจฟ้องเป็นคดีเดียว ตนไม่ชอบค้าความ ฟ้องเงียบๆ ไม่อยากเป็นประเด็นให้สังคมสนใจ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ตนชนะคดี ตนเรียกค่าเสียหาย ซึ่งก็เงียบไปเพราะคิดว่าจำเลยอุทธรณ์ ในที่สุดมีหนังสือหมายศาลเข้ามา นี่คือข่าวดี เท่ากับว่าชนะศาลชั้นต้นและไม่ยื่นอุทธรณ์ เป็นคดีแรก คดีเดียวที่ฟ้องและชนะ เพราะไม่ชอบมีคดีพร่ำเพรื่อ ส่วนค่าเสียหายเข้าใจว่ามีเงินวางศาลส่วนหนึ่ง เพราะตนเรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท ศาลให้มา 2 แสนบาทถือว่าพอใจ คำพิพากษาลงวันที่ 24 ต.ค. ไม่กี่วันที่ผ่านมา
