กก.โรงเรียนสนามบินฯ แถลง ยันรอง ผอ.ไม่ได้เรียกแป๊ะเจี๊ยะ ชี้เป็นเงินบริจาค ซัดผู้ปกครองแอบอัดคลิปสนทนาเผยแพร่ทำเสื่อมเสีย

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - กรรมการสถานศึกษาโรงเรียนสนามบินออกแถลงการณ์ตอบโต้ผู้ปกครองที่โร่แจ้ง ป.ป.ช.ซ้อนแผนจับรอง ผอ.กล่าวหาเรียกรับแป๊ะเจี๊ยะ 15,000 บาท แลกย้ายลูกชายและหลานสาวเข้าเรียนห้อง Gifted ป.3 กับ ป.5 ย้ำเป็นเงินบริจาคเพื่อพัฒนาโรงเรียน ซ้ำเป็นโรงเรียนที่เด็กเข้าเรียนน้อยกว่าที่รับอยู่แล้ว จะเรียกรับแป๊ะเจี๊ยะได้อย่างไร โรงเรียนดังๆ รับหลักแสนบาททำไมไม่พากันไปจับ ตำหนิพฤติกรรมแย่ แอบบันทึกเสียงพูดคุยกับกรรมการสถานศึกษาให้สื่อออนไลน์เผยแพร่ ลั่นถ้าทำอีกอาจเจอดี


จากกรณีเมื่อหลายวันก่อนผู้ปกครองรายหนึ่งในขอนแก่นร่วมกับ ป.ป.ช.จังหวัดขอนแก่นซ้อนแผนเข้าจับกุมรองผู้อำนวยการโรงเรียนสนามบิน อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวหาเรียกรับเงินแป๊ะเจี๊ยะ 15,000 บาท เพื่อแลกกับการรับลูกและหลานของผู้ปกครองรายดังกล่าวย้ายจากโรงเรียนอื่นมาเข้าเรียนชั้น ป.3 กับ ป.5 จนเป็นข่าวโด่งดังชั่วข้ามคืน ต่อมารอง ผอ.โรงเรียนรายนี้ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนเพราะผลการสอบสวนเบื้องต้นของทางโรงเรียนต้นสังกัดระบุว่ากระทำผิดจริง นั่นหมายความว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นคดีความที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าผู้ปกครองที่อ้างถูกเรียกรับแป๊ะเจี๊ยะ 15,000 บาทแลกกับการให้ลูกชายและหลานสาวย้ายเข้าเรียนโรงเรียนสนามบินทราบชื่อภายหลังคือนายทวีทรัพย์ สันเสนาะ ได้นำคลิปเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนสนามบินท่านหนึ่งกับตัวเขาไปให้สื่อออนไลน์บางสำนักโพสต์เผยแพร่ผ่านเพจข่าว โดยมี ส.ส.พรรคก้าวไกลเป็นตัวกลางส่งต่อคลิปเสียงดังกล่าว ซึ่งประเด็นการสนทนาพอจับใจความได้ว่า ทางกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนสนามบินต้องการเชิญฝ่ายผู้ปกครองไปพูดคุยหารือหาทางออกร่วมกันของปัญหานี้ที่โรงเรียน เพราะเชื่อว่าการแจ้งขอรับบริจาคร่วมพัฒนาโรงเรียนจากผู้ปกครองไม่ใช่การเรียกรับเงินแป๊ะเจี๊ยะ

เพราะโรงเรียนสนามบินไม่ใช่โรงเรียนที่มีการแข่งขันสูง ถึงขั้นต้องเรียกรับเงินใต้โต๊ะจากผู้ปกครองเพื่อแลกกับการรับเด็กเข้าเรียน จำนวนนักเรียนมีไม่ถึงกับจำนวนที่โรงเรียนสามารถเปิดรับได้ด้วยซ้ำ


ประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้น ล่าสุดสายวันนี้ (6 พ.ค.) ที่ห้องประชุมเจ้าคุณอลงกต โรงเรียนสนามบินขอนแก่น นายวรโชติ พัฒน์ดำรงจิตร ประธานกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนสนามบิน พร้อมกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนสนามบิน ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ตำหนิผู้ปกครองแอบอัดคลิปเสียงไปเผยแพร่ในสื่อโซเชียล ทำให้โรงเรียนสนามบินได้รับความเสียหาย

นายวรโชติ พัฒน์ดำรงจิตร ประธานกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนสนามบิน กล่าวว่า หลังจากที่ผู้ปกครองแอบบันทึกเสียงสนทนากับกรรมการสถานศึกษา เผยแพร่ในโลกโซเชียลแทนที่จะนำไปให้พนักงานสอบสวน หรือ ป.ป.ช.เท่านั้น ส่งผลให้โรงเรียนสนามบินได้รับความเสียหายเพิ่มมากขึ้น โรงเรียนสนามบินก่อตั้งมาเป็นเวลากว่า 104 ปี มีลูกศิษย์ลูกหาทั่วบ้านทั่วเมือง เมื่อเรื่องมันเดินไปถึงขนาดนี้แล้ว ก็ควรปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม

พฤติกรรมของผู้ปกครองรายนี้ พิเคราะห์แล้วมีเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ ถึงขั้นแอบบันทึกเสียงการพูดคุยทางโทรศัพท์ เหมือนว่าจะเอากันให้ถึงตาย ทำให้โรงเรียนเสียหาย สังคมภายนอกอาจเข้าใจผิดกล่าวหาว่าทางผู้บริหารและกรรมการสถานศึกษาสมรู้ร่วมคิดกันเรื่องการเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการรับเด็กย้ายเข้ามาเรียน โรงเรียนสนามบินตั้งมากว่าร้อยปีไม่เคยมีปัญหาเรื่องการรับเงินแลกรับเด็กเข้าเรียน แต่ละปีจำนวนนักเรียนสมัครเข้ามาเรียนน้อยกว่าที่ทางโรงเรียนรับได้อยู่แล้ว เด็กคนไหนสอบเข้าเรียนโรงเรียนดังๆ ไม่ได้ ผู้ปกครองก็พาเข้ามาสมัครเรียนที่นี่


ซึ่งทางโรงเรียนก็เปิดรับบริจาคเพื่อเก็บสะสมไว้เป็นทุนในการพัฒนาอาคารสถานที่ หรือจัดซื้ออุปกรณ์การเรียนการสอน เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ทุกโรงเรียนไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนดังหรือไม่ดังก็ทำกัน ไม่เห็นผิดแปลกตรงไหน แต่เมื่อมีการวางแผนจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาว่าเป็นการรับแป๊ะเจี๊ยะไปแล้ว ก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ต่อสู้กันไปตามข้อเท็จจริง

“หลายฝ่ายที่ทราบเรื่องนี้ต่างติดใจกันมากว่า ผู้ปกครองรายนี้มีเจตนา มีเป้าหมายอะไร ถึงจงใจทำลายชื่อเสียงโรงเรียนสนามบินขนาดนี้ ขอย้ายลูกย้ายหลานเข้ามาเรียนระหว่างชั้น ทางโรงเรียนก็พร้อมรับ ไม่ได้ติดขัดอันใดเลย แต่กลับตลบหลังแจ้ง ป.ป.ช.มาจับกล่าวหาว่ารองผู้อำนวยการโรงเรียนเรียกรับเงิน” นายวรโชติกล่าว และว่า

กรณีที่เกิดขึ้น กรรมการสถานศึกษาตลอดจนผู้บริหารสถานศึกษาสามารถเชิญผู้ปกครองมาไกล่เกลี่ยหาทางออกร่วมกันเพื่อให้เรื่องจบลงด้วยดีได้ ขอยืนยันว่าเป็นเจตนาที่บริสุทธิ์ใจโรงเรียนที่ต้องการให้เรื่องจบลงด้วยดี เป็นที่พอใจทั้งสองฝ่าย สนองความต้องการของผู้ปกครองรายนี้ที่ต้องการให้ลูกชายตัวเองย้ายจากโรงเรียนอื่นเข้ามาเรียนห้อง Gifted ชั้น ป.3 พร้อมกับย้ายหลานจากโรงเรียนเดียวกันนั้น เข้ามาเรียนในระดับชั้นประถมปีที่ 5 ซึ่งหลังจากนี้หากยังมีการปล่อยข้อมูลที่เป็นการให้ร้ายโรงเรียนให้ร้ายบุคลากรของโรงเรียนหรือแม้แต่กรรมการสถานศึกษาอีก ทางเราก็คงไม่ปล่อยให้ผ่านเลยไป ต้องปรึกษากับผู้รู้ด้านกฎหมายดำเนินการขั้นต่อไป เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของโรงเรียนสนามบิน




ด้าน ดร.ยิ่งลักษณ์ งามดี ข้าราชการบำนาญ ระดับ 9 กระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า ตนเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนสนามบิน เป็นครูสอนที่นี่จนเกษียณ โรงเรียนสนามบินเป็นโรงเรียนในเขตบริการ พ่อแม่ที่ไม่ค่อยมีเงิน อยู่แถวทางรถไฟเก่าก็จะพาลูกหลานมาเข้าเรียนที่โรงเรียนสนามบิน เงินบริจาคมีไม่มีก็ต้องรับ แต่ที่บอกว่าโรงเรียนรับแป๊ะเจี๊ยะ ก็เพิ่งเจอในข่าวในโซเชียล ตอนที่ตนเป็นครู ก็เคยได้รับมอบหมายจากผู้บริหารให้มานั่งรับบริจาคจากผู้ปกครอง มีบ้างไม่มีบ้าง ทางโรงเรียนก็รับเข้าเรียนหมด ส่วนเงินบริจาคได้มาเท่าไหร่ก็นำไปพัฒนาโรงเรียนหมด

ดังนั้นตามที่เป็นข่าวเป็นเท็จทั้งหมด น่าจะเป็นการกลั่นแกล้งกัน เห็นโรงเรียนสนามบินกำลังเด่น กำลังดัง และกำลังพัฒนา ขนาดตำรวจเขายังมองว่าคงจะเป็นการตกเบ็ดกัน อย่างกรณีโรงเรียนอื่นๆ มีการรับเงินตั้งเยอะแยะหลายหมื่นหลายแสน ทำไมไม่พากันไปจับ ทำไมต้องมาหาเรื่องโรงเรียนสนามบิน หรือว่าถึงคราวซวยของโรงเรียน