เดโมแครตเร่งหยุดความเสียหาย

เพื่อนบ้านที่เมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ ที่โตมาพร้อมกับปธน.ไบเดน และรักใคร่สนับสนุนไบเดนมาตลอด ถึงกับเขียนจดหมายเปิดผนึกทันทีหลังการดีเบตครั้งแรก (และอาจจะเป็นครั้งเดียว ระหว่างไบเดนและทรัมป์-เพราะทรัมป์อาจปฏิเสธไม่ยอมไปร่วมดีเบตครั้งที่สองในเดือนกันยาฯ เพราะเขาชนะขาดลอยในดีเบตแรกแล้ว) สารภาพว่าเขาถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เมื่อเห็นสภาพของเพื่อนบ้านที่เขารักใคร่มากคนนี้ ว่าอาการของความชราทำให้ไบเดนพูดตะกุกตะกักจนถึงขั้นติดอ่าง (ไบเดนเคยติดอ่างมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วเพิ่งมาแก้พฤติกรรมนี้ด้วยตัวเองได้สำเร็จในช่วงวัยรุ่น โดยฝึกพูดให้ช้าลง) เขาลงทุนพูดปลอบไบเดนว่า เป็นคนที่มีความสามารถและบริหารประเทศได้ดีมาตลอด เป็นคนซื่อสัตย์และเป็นนักการเมืองน้ำดี แต่เขาขอร้องว่า ขณะนี้น่าจะถึงเวลาที่ไบเดนจะต้องเบิกทางให้ผู้อื่นเข้ามาต่อกรกับนักการเมืองที่ตลบตะแลงปลิ้นปล้อนแบบทรัมป์ที่ถ้าชนะแล้วจะเป็นอันตรายต่ออเมริกาอย่างยิ่ง

นี่เป็นปฏิกิริยาของเหล่าผู้สนับสนุนไบเดนมาตลอดที่คล้ายๆ กันเช่น Van Jones พูดแบบสะอื้นหน้าจอซีเอ็นเอ็น (เขาเป็นผู้วิเคราะห์การเมืองของซีเอ็นเอ็น) ที่บอกว่า เขาเจ็บปวด มากขณะฟังการดีเบตครั้งนี้เพราะไบเดนไม่สามารถต่อกรตอกกลับกับทรัมป์ที่โกหกยกเมฆสารพัดหน้าจอแบบหน้าซื่อๆ โดยไม่อายฟ้าดิน...แต่ไบเดนกลับไม่สามารถยกคำพูดหรือนำประเด็นมาฟาดฟันการโกหกของทรัมป์ได้ทันควัน...ดูเขาหมดแรงที่จะตอบโต้ไปหมด

รองปธน.กมลา แฮร์ริส ออกมาพยายามอุ้มไบเดน โดยชี้ว่า ผู้ลงคะแนนเสียงต้องชั่งน้ำหนัก ระหว่างคนที่โกหกหมกเม็ดและคนที่พูดแต่ความจริง ว่าจะให้คะแนนใครเป็นปธน....เธอย้ำว่า แค่เวลา 1 ชม.ครึ่ง (ที่ดีเบต) จะเทียบกับผลงาน 3 ปีครึ่งได้อย่างไร...เธอเป็นพยานถึงความสามารถของปธน.ไบเดนที่เธอร่วมทำงานด้วย 3 ปีครึ่ง ที่ปธน.คนนี้สามารถทำงานสำเร็จด้วยกฎหมายประวัติศาสตร์ 3 ฉบับ (กฎหมายซ่อมสร้างสาธารณูปโภคครั้งใหญ่; กฎหมาย Chips and Sciences-ที่อเมริกาจะทุ่มผลิตชิปและวิทยาศาสตร์อย่างยิ่งใหญ่; กฎหมายลดเงินเฟ้อ Inflations Reduction Act) ซึ่งปธน.ฟันฝ่าจากการต่อรองกับฝ่ายขัดขวางในสภาฯ และกับกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ จนกฎหมายผ่านสภาฯ อย่างน่ามหัศจรรย์ รวมถึงการประชุม G7 (และกลุ่มความมั่นคงเช่น นาโต) ที่ไบเดนเป็นผู้นำต่อรองและคัดหางเสือเรือสำเร็จดีเยี่ยม

อดีตปธน.ฝ่ายเดโมแครตที่ประชาชนนิยมมากคือ โอบามาและคลินตัน ก็ออกมาอุ้มไบเดนว่า ไบเดนจะเป็นคนนำทัพในการสู้กับทรัมป์มนุษย์จอมโกหกครั้งนี้ โดยโอบามายังชี้ด้วยว่า เขาเองก็แพ้ในดีเบตแรกกับมิตต์ รอมนีย์ แต่ในที่สุดเขาก็กำชัยได้เป็นปธน.ในที่สุด และยังเน้นด้วยว่า เราชาวเดโมแครตทำงานเป็นทีม(ต่างกับของทรัมป์ที่ชอบโดดเดี่ยวอเมริกาออกจากเหล่าพันธมิตร) ซึ่งทีมเลือกตั้งครั้งนี้ มีไบเดนเป็นกัปตัน ซึ่งเราจะเคลื่อนไปด้วยกันกับกัปตันคนนี้

ทั้งโอบามาและคลินตันที่ได้แสดงการสนับสนุนไบเดนอย่างเต็มที่ครั้งนี้ น่าจะเกิดขึ้นหลังจากทั้งคู่ได้พูดโทรศัพท์หยั่งดูท่าทีของไบเดนหลังดีเบตแล้ว และเห็นท่าทีไบเดนขึงขังปักใจเดินหน้าสู้เต็มที่ อดีตปธน.ทั้งสองจึงได้ออกมาสนับสนุนเต็มที่

สำหรับโอบามา ถ้าสมมติว่าแนะให้ไบเดนถอนตัวจากการสมัคร อาจเกิดแรงต้านอย่างแรงจากไบเดน เพราะไบเดนเป็นนักสู้แบบกัดไม่ปล่อย และเขายังอาจมีอะไรติดใจกินใจกับโอบามา (แม้ตอนนี้จะมาช่วยเขาหาเสียงอย่างเต็มที่ก็ตาม) เพราะเมื่อหมดวาระที่ 2 ของโอบามา ปรากฏว่าไบเดนเสียใจมากที่โอบามาไม่เลือกเขาให้เป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครต แต่กลับไปเลือกฮิลลารี (ซึ่งในที่สุดฮิลลารีก็แพ้ทรัมป์) และไบเดนมั่นใจตลอดมาว่า เขาเป็นคนเดียวที่จะชนะทรัมป์ (ซึ่งเป็นความจริงเมื่อ 4 ปีที่แล้ว!!)

ทั้งโพลแทบทุกโพลก็ให้คะแนนทรัมป์ชนะดีเบตท่วมท้นไม่เห็นฝุ่น รวมทั้งคะแนนเชื่อมั่นว่าไบเดนจะสามารถนำประเทศต่อไปอีก 4 ปี หล่นหัวทิ่มลงมา; แม้ว่าผู้บริจาคส่วนใหญ่ยังใจแข็งให้เงินไบเดน (ในงานระดมทุนในวันศุกร์, เสาร์, อาทิตย์ หลังดีเบตทันที) แต่เสียงซุบซิบในทีมงานของไบเดน, สส.บางคนก็เริ่มกังวลถึงการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ว่าผู้สมัคร สส., สว., ผู้ว่าฯ และอีกหลายตำแหน่งของเดโมแครตจะถูกลูกหลงผลกระทบถ้าไบเดนยังยืนกรานสมัครในตำแหน่งนี้

พรรคเดโมแครตรีบออกแถลงว่า ตลอดเดือนมิถุนายนนี้ ไบเดนได้เงินบริจาคมากเป็นประวัติศาสตร์ถึง 127 ล้านเหรียญ...รวมทั้งการออกมาอุ้มโดยเหล่า สส., สว.เดโมแครตมากมาย ก็เพราะพวกเขาไม่อยากถูกเหมาให้เป็น “ผู้ทรยศ” ต่อพรรคหรือต่อไบเดน...เพราะเวลาที่เหลือแค่ 4 เดือนนี้ ถ้าจัดให้มีการคัดเลือกคนที่มาแทนไบเดน ก็น่าจะโกลาหล และทำให้พรรคเกิดการแตกแยกในเวลาใกล้ลงคะแนน จะเกิดหลายมุ้งที่ไม่สามัคคีกัน และก็เห็นลางการแพ้ต่อทรัมป์รออยู่

บทบรรณาธิการของสื่อที่เคยเชียร์เดโมแครต (โดยเฉพาะไบเดน; เมื่อ 4 ปีที่แล้ว) ออกมาขอร้องให้ไบเดนเห็นแก่ประเทศและความอยู่รอดของประชาธิปไตย ขอให้ถอนตัว (นิตยสารไทม์ถึงกับขึ้นหน้าปกเป็นภาพไบเดน...เดินออกมาจากกรอบของหน้าปกทีเดียว!!) มิฉะนั้น ผู้ทำลายประชาธิปไตยอย่างทรัมป์จะกลับมา(สร้างความโกลาหลให้แก่สหรัฐฯ และเหล่าประเทศทุนนิยมเสรี)

สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคู่ชีวิตไบเดน รวมทั้งลูกๆ และหลานๆ ก็ยืนยันให้ไบเดนเดินหน้าต่อ และโทษทีมที่ช่วยเขาฝึกซ้อมดีเบตว่าฝึกซ้อมเขามากเกินไป

และมีคำแถลงจากตัวไบเดนเองว่า เขาเดินทางไปประชุมนานาชาติติดๆ กันก่อนดีเบต จนเกิดอาการ Jet lag ที่ทำให้ดีเบตไม่ดี (รวมถึงที่เขาเป็นหวัดหนักมาก และมีอาการปวดหัวเข่าที่เขาเคยขาหักเมื่อ 2 ปีที่แล้ว!)

ไบเดนพยายามพลิกสถานการณ์โดยกลับมาปราศรัยอย่างกระฉับกระเฉงทันที และจะมีตารางปราศรัยให้ถี่ขึ้น (เพื่อแก้ข้อสงสัยว่าเขาแก่เกินไป) และจะนัดให้สัมภาษณ์กับสื่อตัวต่อตัวอย่างถี่ยิบเพื่อพิสูจน์ตัวเอง

โดยเฉพาะเขาโต้กลับไปว่า คนอเมริกันเป็นนักสู้ และเมื่อล้มแล้วก็ต้องลุกให้ได้ (ซึ่งเขาทำสำเร็จมาตลอดชีวิต โดยการต่อสู้ตั้งแต่เป็นติดอ่าง, จนเป็น สว. และเป็นปธน.ในที่สุด) และเขาพร้อมที่จะทำงานในตำแหน่งปธน. เพื่อนำผลสำเร็จมาสู่ประชาชนได้แน่นอน

พรรคเองกำลังจะรีบร่นการประกาศจากเหล่าตัวแทนพรรค (delegates และ Super delegates) ที่เดิมจะเป็นวันที่ 19 สิงหาคม (ที่ประชุมใหญ่ของพรรค จัดที่ชิคาโก) มาเป็นวันที่ 21 กรกฎาคมนี้โดยจะทำแบบออนไลน์ ในการลงคะแนนให้ไบเดน (ตามที่เขาได้ชนะในการหยั่งเสียงเบื้องต้นในช่วงต้นปี ซึ่งเขาได้คะแนนแล้วถึง 99%)

ก็เพื่อรีบหยุดยั้งการแตกแยกเป็นหลายมุ้ง (ที่จะเสนอให้มีการลงคะแนนใหม่) และแสดงว่า พรรคยังเป็นหนึ่งเดียวที่จะรวมพลังเลือกไบเดนอย่างแข็งขัน

คำถามคือ จะสามารถหยุดยั้งทันหรือไม่?