xs
xsm
sm
md
lg

ผู้นำหมีขาวหยามสหรัฐฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์



ประธานาธิบดีรัสเซียวลาดิมีร์ ปูติน เดินทางเยือนสองประเทศ เกาหลีเหนือและเวียดนามเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์และเย้ยสหรัฐฯ ให้เห็นว่าแม้จะถูกคว่ำบาตรอย่างไรก็ตามก็ยังมีเพื่อนที่คบหากันอย่างรู้ใจเสมอ

การเยือนเกาหลีเหนือทำให้สหรัฐฯ เกรงว่ารัสเซียได้อาวุธเพิ่มเติมในการทำศึกในยูเครนเพราะเกาหลีเหนือมีอาวุธเหลือเฟือโดยเฉพาะอย่างยิ่งกระสุนปืนและกระสุนปืนใหญ่

นอกจากนั้นยังมีจรวดและขีปนาวุธที่มีการทำลายล้างสูงและสร้างความหวั่นไหวด้านแสนยานุภาพให้สหรัฐฯ หลังจากการทดลองยิงจรวดและขีปนาวุธต่อเนื่อง

นี่เป็นการเยือนเกาหลีเหนือครั้งแรกในรอบหลายปีของประธานาธิบดีรัสเซีย แต่ผู้นำเกาหลีเหนือ ได้ไปเยือนกรุงมอสโกก่อนหน้านี้

ผู้นำเกาหลีเหนือได้จัดกองทหารเกียรติยศต้อนรับปูตินอย่างสมเกียรติของความเป็นมิตร และแสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ ไม่อยู่ในสายตาแม้จะสร้างความขุ่นเคืองไม่พอใจอย่างไรก็ตาม แต่สหรัฐฯ ก็ไม่สามารถทำอะไรได้

การมีขีปนาวุธรบทำให้เกาหลีเหนืออยู่ในระดับที่สหรัฐฯ จะมาข่มขู่คุกคามตบหัวเล่นไม่ได้แม้จะพยายามสร้างความสัมพันธ์ในยุคของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ยังไม่สามารถสานต่อความเป็นมิตรได้

การเยือนเกาหลีเหนือจึงมีความหมายทั้งด้านความเป็นพันธมิตรในกรณีต้องมีปัญหาสงครามกับสหรัฐฯ และพวก โดยเกาหลีเหนือเป็นตัวกันเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และอาจจะรวมถึงออสเตรเลียอีกด้วย

หลังจากการเยือนเกาหลีเหนือสองวันปูตินก็จะได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติ เวียดนามซึ่งประธานาธิบดีคนใหม่ นายโต แลม ก็จะเน้นให้เห็นว่ารัสเซียคือมิตรเก่าแก่และช่วยส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ให้ช่วงที่เวียดนามทำสงครามกับสหรัฐอเมริกา

ถ้าไม่ได้ความช่วยเหลือด้านอาวุธจากรัสเซียและส่วนหนึ่งจากจีนคงเป็นการยากที่เวียดนามเหนือและขบวนการเวียดกง จะรับมือกับแสนยานุภาพของกองทัพสหรัฐฯ และพันธมิตรได้

ที่น่าสมเพชก็คือความโกรธของทูตสหรัฐฯ ประจำฮานอย ที่ประณามกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามที่ให้การต้อนรับประธานาธิบดีปูติน โดยอ้างว่าเป็นบุคคลที่ก่อสงคราม

สหรัฐฯ ลืมไปว่าสงครามเกือบ 20 ปีในเวียดนามทหารสหรัฐฯ ใช้อาวุธฆ่าชาวเวียดนามอย่างน้อย 3 ล้านคน และกว่า 100,000 คนยังพิการเพราะสารพิษฝนเหลืองจนทุกวันนี้ ทหารอเมริกันเสียชีวิต 58,000 นาย

สหรัฐฯ ได้พ่นฝนเหลืองในพื้นที่ตอนใต้ของเวียดนามเพื่อไม่ให้มีทหารเวียดนามเหนือและเวียดกง ซ่อนตัวอยู่ตามเส้นทางโฮจิมินห์ซึ่งผ่านลาวและลามเข้าไปในกัมพูชา

ความอำมหิตของสหรัฐฯ ใช้สารพิษและอาวุธต่างๆ ฆ่าชาวเวียดนามทั้งทหารและชาวบ้านถือเป็นอาชญากรรมสงครามร้ายแรงที่สุดหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง

แต่สหรัฐฯ พ่ายแพ้สงครามอย่างหน้าไม่อายและไปพ่ายแพ้สงครามในอิรัก อัฟกานิสถาน ลิเบีย และกำลังเสียท่าในศึกยูเครน ปาเลสไตน์ และกำลังโดนหยามน้ำหน้า โดยกบฏฮูตี ซึ่งปิดทะเลแดงนานหลายเดือนโดยที่สหรัฐฯ และพันธมิตรไม่สามารถทำอะไรได้

แสนยานุภาพและความน่ายำเกรงของสหรัฐฯ แทบไม่เหลือเมื่อมีอย่างน้อย 59 ประเทศ จะเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มบริกส์ และกลุ่มความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ ซึ่งทำให้อิทธิพลของสหรัฐฯ และเงินดอลลาร์ลดค่ามหาศาล

แต่สหรัฐฯ ยังคงเชื่อมั่นว่าตัวเองยังเป็นชาติมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลก ทั้งที่กำลังสิ้นสภาพของจักรวรรดินิยมอันดับหนึ่งที่เคยเป็นมาหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

ประชาคมโลกกำลังสอนบทเรียนราคาแพงให้สหรัฐฯ และพันธมิตรในยุโรปว่าไม่มีใครสามารถคงความยิ่งใหญ่เสมอไปด้วยพระเดชและความเหี้ยมโหดใช้ความแข็งแกร่งรังแกผู้อ่อนแอกว่า

การคว่ำบาตรหลาย 10 ชาติทำให้หลายประเทศเลิกคบกับสหรัฐฯ เลี่ยงการใช้เงินดอลลาร์และจับกลุ่มใหม่เพื่อใช้เงินสกุลของตัวเองในการทำมาค้าขายระหว่างกลุ่มประเทศอย่างเช่นอาเซียน

ความเจ็บปวดและความเสียหน้าของสหรัฐฯ จากการที่ปูตินกระชับความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือและเวียดนามเท่ากับเป็นการต่อยอดความเชื่อมโยงจากรัสเซียมาจีน มาเกาหลีเหนือ มาท่าเรือทวายในพม่าและลงมาถึงเวียดนามและไทย

สภาวะจนตรอกของสหรัฐฯ จากความพ่ายแพ้ในศึกยูเครนที่ทำให้ชาวยูเครนเสียชีวิตไปกว่าครึ่งล้านคน และสร้างความย่อยยับให้กับฉนวนกาซาในปาเลสไตน์ทำให้สหรัฐฯ และอิสราเอลถูกตัดจากโลกภายนอก

สหรัฐฯ จะแก้สถานการณ์อย่างไรในเมื่อมีศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีต้นเดือนพฤศจิกายน จะเร่งทำสงครามหรือจะหาทางทำอย่างอื่นเพราะอิสราเอลก็ต้องการเปิดแนวรบใหม่กับกองกำลังในเลบานอนและกบฏฮูตีในทะเลแดง

โลกอาจจะมีความสุขถ้าสหรัฐฯ มีคู่แข่งอย่างสมน้ำสมเนื้อและมีหลายขั้วของผู้นำทั้งจีน รัสเซีย และอินเดีย นอกเหนือจากประเทศหลักในแต่ละทวีป

เวรกรรมที่สหรัฐฯ ทำไว้น่าจะย้อนรอยไปเช็กบิลทางด้านการเมืองระดับโลก ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และพลังทางเศรษฐกิจถึงเวลาที่ยักษ์เท้าเป็นโคลนจะล้มก็เป็นได้


กำลังโหลดความคิดเห็น