ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาจะต้องสังเวยชีวิตอีกมากเท่าไหร่เพื่อตอบสนองความโหดเหี้ยมอำมหิตโดยหัวหน้ารัฐบาลและกองทัพอิสราเอล ขณะที่ประชาคมโลกมองด้วยความสิ้นหวังในองค์กร หรือประเทศใดที่จะหยุดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ได้
มียอดผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์เกินกว่า 35,000 ราย กว่า 70% เป็นเด็กและผู้หญิง มีผู้บาดเจ็บพิการอีกกว่า 78,000 ราย แม้จะมีเสียงเรียกร้องจากกลุ่มผู้เดินขบวนทั่วโลก ผู้นำรัฐบาลและกองทัพอิสราเอลไม่สนใจ
สงครามไม่มีศีลธรรมนอกจากจะตัดสินว่าใครมีอาวุธในการเข่นฆ่าฝ่ายตรงข้ามมากกว่า ที่ผ่านมามีหลักฐานชัดเจนว่าความแตกต่างของขีดความสามารถในการสู้รบเทียบกันไม่ได้ระหว่างสองฝ่าย
กองทัพอิสราเอลใช้ทหารมากกว่า 300,000 นายปฏิบัติการในฉนวนกาซา กองกำลังติดอาวุธฮามาสมีกำลังพลระหว่าง 30,000 ถึง 40,000 คนเท่านั้น
ที่ผ่านมากองทัพอิสราเอลมุ่งเน้นการสังหารเด็ก สตรี และพลเรือนทั่วไปมากกว่าการต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธ และได้ทิ้งระเบิดทำลายบ้านเรือนอาคารต่างๆ ในฉนวนกาซาเสียหายมากกว่า 70% แม้แต่ค่ายผู้ลี้ภัย โรงพยาบาล โบสถ์ สุเหร่า ฯลฯ
ปัจจุบันกองทัพอิสราเอลได้ขับไล่ประชาชนปาเลสไตน์ออกจากที่มั่นสุดท้ายในพื้นที่ราฟาห์ ปิดกั้นเส้นทางเข้าออกระหว่างพื้นที่ติดกับอียิปต์ อ้างว่าจะกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธแท้ที่จริงแล้วคือการมุ่งสังหารประชาชนปาเลสไตน์
อิสราเอลไม่ยอมรับให้ปาเลสไตน์เป็นรัฐอิสระ ทั้งที่มาแย่งชิงแผ่นดินปาเลสไตน์ตั้งแต่ปี 1948 โดยการสนับสนุนของรัฐบาลสหรัฐฯ อังกฤษ และยุโรป
การไล่ฆ่า ยึดบ้านที่อยู่อาศัยในพื้นที่ของชาวปาเลสไตน์ทำอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันข้อกล่าวหาต่ออิสราเอลคือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อาชญากรรมสงคราม นโยบายเหยียดผิว เชื้อชาติ และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
ศาลโลกได้พิจารณามีข้อสรุปเบื้องต้นว่ามีหลักฐานน่าเชื่อถือได้ว่าอิสราเอลได้กระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ แต่ไม่มีผลต่ออิสราเอล ไม่ยอมรับศาลโลก
นอกจากใช้กองทัพติดอาวุธ ทหารอิสราเอลยังปิดกั้นเส้นทางขององค์กรบรรเทาทุกข์ไม่ให้เข้าไปช่วยเหลือส่งอาหารและสิ่งของจำเป็นให้ชาวปาเลสไตน์แสดงให้เห็นถึงความไร้มนุษยธรรม มีแต่ความอำมหิตเลือดเย็น
สัปดาห์ที่ผ่านมาชาวยิวทำพิธีรำลึกถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยกองทัพนาซีมีชาวยิวถูกสังหาร 6 ล้านคนที่เรียกว่า Holocaust ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
แต่พฤติกรรมที่กองทัพอิสราเอลกระทำต่อชาวปาเลสไตน์ก็ไม่ต่างจากความโหดร้ายที่กองทัพนาซีได้สังหารชาวยิว ครั้งนี้ได้รับการรู้เห็นเป็นใจสนับสนุนโดยสหรัฐฯ และชาติยุโรปอย่างเต็มที่ ในด้านอาวุธและเงินช่วยเหลือ
สหรัฐฯ ได้ส่งระเบิดประเภททำลายล้างขนาด 2,000 ปอนด์ มากกว่า 2,000 ลูกให้อิสราเอลทำลายอาคารบ้านเรือนและสังหารประชาชนในฉนวนกาซา
สหรัฐฯ ไม่เคยใช้ระเบิดขนาดนี้ในสงครามเวียดนาม อิรัก หรืออัฟกานิสถาน หรือที่ไหนในโลก ดังนั้นเป็นการแสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ มีความอำมหิตช่วยเหลืออิสราเอล ประกอบอาชญากรรมสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เต็มที่
นักศึกษาอเมริกันเดินขบวนประท้วงสงครามในฉนวนกาซาเรียกร้องให้รับรองอิสราเอลเป็นรัฐ แต่รัฐบาลสหรัฐฯ เห็นชอบกับการใช้กำลังตำรวจจัดการกับนักศึกษามหาวิทยาลัยกว่า 44แห่งในประเทศถูกจับกุมไปมากกว่า 2 พันคน
รัฐบาลสหรัฐฯ ยังได้วีโตมติของสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงไม่ให้ปาเลสไตน์เป็นรัฐสมบูรณ์และเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติ
นี่คือการตีสองหน้า มือถือสาก ปากถือศีล ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นปิศาจคาบคัมภีร์ ส่งเสริมให้มีสงครามและวิกฤตระหว่างประเทศหลายแห่งทั่วโลก
รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ให้เงินช่วยเหลืออิสราเอลรวมทั้งสิ้น 3 แสนล้านดอลลาร์ ให้อาวุธทันสมัยเพราะชาวยิวในสหรัฐฯ มีอิทธิพลเหนือนักการเมืองและรัฐบาล
นักการเมืองสหรัฐฯ ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจากสมาคมยิวและบริษัทผลิตอาวุธยังได้ประกาศว่าจะคว่ำบาตรศาลอาญาระหว่างประเทศถ้าออกหมายจับผู้นำรัฐบาลและกองทัพอิสราเอล แสดงความอหังการเพราะได้รับเงินช่วยเหลือในการหาเสียง
วุฒิสมาชิกกระหายสงครามหลายคน ทำตัวเป็นฝ่ายต่อต้านสหประชาชาติ และศาลอาญาระหว่างประเทศ ตัวแทนรัฐบาลอิสราเอลฉีกธรรมนูญองค์การสหประชาชาติ ทำตัวอยู่เหนือกฎหมายระหว่างประเทศ
หมายจับเน้นนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู รัฐมนตรีกลาโหม โยอัฟ กัลป์ลองต์ และผู้นำกองทัพ แต่ยังไม่ระบุชื่อและจำนวนว่ามีกี่ราย
ที่ผ่านมาหลายเดือน ชาวอิสราเอลก็เดินขบวนประท้วงต่อเนื่องขับไล่ผู้นำรัฐบาล นายเบนจามิน เนทันยาฮู และเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพราะมองว่าผู้นำอิสราเอลไม่มีเจตนาช่วยเหลือตัวประกันที่ถูกจับกุมโดยกลุ่มฮามาส
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวอิสราเอลชุมนุมประท้วงในหลายเมือง รวมทั้งเทลอาวีฟ ให้เนทันยาฮูหยุดยิง เอาตัวประกันคืนมาจากกลุ่มฮามาส และให้เลือกตั้งใหม่
แต่เนทันยาฮูต้องการให้สงครามยืดเยื้อเพราะต้องอยู่ในตำแหน่ง ไม่อยากติดคุกในคดีทุจริตที่คาอยู่ในศาลจึงต้องอ้างภารกิจในการทำสงคราม