ผู้นำโลกตะวันตกยังไม่ยอมแสดงปฏิกิริยาหลังจากประธานาธิบดีรัสเซียวลาดิมีร์ ปูติน ประกาศซ้อมรบโดยใช้นิวเคลียร์ยุทธวิธีเพื่อแสดงว่าพร้อมจะรบกับใครก็ได้
ผู้นำตะวันตกโดยเฉพาะยุโรปซึ่งมักแสดงความห้าวก้าวร้าว ยั่วยุรัสเซียต่างหุบปากเงียบไม่กล้าแสดงความฮึกเหิมอย่างที่เคยทำ
หลังจากประกาศซ้อมรบไม่ทันข้ามวันกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ได้เรียกทูตอังกฤษและฝรั่งเศสประจำกรุงมอสโกมาเตือนอย่างไม่ต้องเกรงใจ
อันที่จริงเป็นการยื่นคำขาด โดยเฉพาะอังกฤษ ว่าถ้าขีปนาวุธของอังกฤษที่ให้ยูเครนโจมตีเป้าหมายในดินแดนรัสเซียจะถูกตอบโต้โดยเป้าหมายที่จะเป็นอังกฤษ ไม่กำหนดว่าอยู่นอกหรือในประเทศอังกฤษ
ฝรั่งเศสก็ได้ฟังคำเตือนเช่นเดียวกันและรัสเซียแสดงท่าทีให้เห็นว่าไม่ได้ล้อเล่น คงเป็นเพราะรำคาญหรือเบื่อหน่ายกับการชอบเข้าไปยุ่งในยูเครนโดยสมาชิกนาโต
กว่าสองปีที่ผ่านมา หลังจากรัสเซียบุกเข้าไปในยูเครนสหรัฐฯ และสมาชิกนาโตได้ให้ความช่วยเหลือยูเครนทั้งอาวุธและงบประมาณไม่อั้นเพื่อต้องการตัดกำลังรัสเซียทั้งยังทำสงครามเศรษฐกิจด้วยมาตรการคว่ำบาตรสารพัดหวังว่าจะเล่นงานรัสเซียให้สิ้นสภาพของประเทศมหาอำนาจ
นอกจากรัสเซียไม่อ่อนแอลงแล้วยังแข็งแกร่งกว่าเดิม ขณะที่ยุโรปลำบากเพราะขาดแคลนพลังงานและปัญหาเงินเฟ้อรวมทั้งเศรษฐกิจถดถอย
ขณะเดียวกันสมาชิกนาโตได้ส่งอาวุธช่วยเหลือยูเครนจนไม่ได้ผลิตเพิ่มเติม และไม่อยู่ในสภาพพร้อมรบแต่อาศัยพวกมาก และเชื่อว่าสหรัฐฯ จะช่วยเต็มที่
สหรัฐฯ เองก็ย่ำแย่เพราะต้องช่วยทั้งยูเครนและอิสราเอล ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณและอาวุธมากมายแต่ผลที่ได้ไม่คุ้ม
สภาพที่เป็นอยู่ ยูเครนไม่มีทางชนะสงครามกับรัสเซียได้ และอิสราเอลไม่สามารถชนะกลุ่มติดอาวุธฮามาสในฉนวนกาซาได้แม้จะได้ถล่มบ้านเมืองจนพินาศย่อยยับ
จากการที่กองทัพอิสราเอลได้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์มากกว่า 35,000 คนและบาดเจ็บกว่า 78,000 คนไม่นับพวกสูญหายอยู่ใต้ซากอาคาร ทำให้สหรัฐฯ และอิสราเอลถูกประชาคมโลกประณามว่าได้ก่ออาชญากรรมสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ยูเครนอยู่ในสภาพสิ้นหวัง ความพยายามเกณฑ์ทหารก็ไม่สำเร็จเพราะคนยูเครนหนีทหาร รู้ดีว่าถ้าเข้าสู่สมรภูมิก็ไม่รอด มีตัวเลขแสดงให้เห็นว่าทหารยูเครนเสียชีวิตและบาดเจ็บมากกว่า 500,000 ราย
ประเทศยุโรปเห็นสภาพของยูเครนแล้วน่าจะคิดหน้าคิดหลังว่าควรจะเข้าไปช่วยยูเครนด้วยการส่งทหารเข้าไปหรือไม่ตามคำประกาศของผู้นำฝรั่งเศสและอังกฤษ
การถูกยื่นคำขาดน่าจะเป็นการกระชากสติของผู้นำทั้งสองประเทศเพราะอยู่ในช่วงขาลงด้านความนิยมและมีโอกาสพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
การซ้อมรถด้วยอาวุธนิวเคลียร์ยุทธวิธีและการยื่นคำขาดให้อังกฤษและฝรั่งเศสแสดงให้เห็นชัดเจนว่าผู้นำรัสเซียไม่มีอารมณ์จะเล่นสนุกกับสมาชิกนาโตต่อไป
มีข่าวว่าฝรั่งเศสได้ส่งกองกำลังรบที่อยู่นอกประเทศเข้าไป 1,500 นายเพื่อช่วยยูเครน ถ้าเป็นจริงโอกาสจะรอดคงจะยากเพราะรัสเซียเน้นการใช้อาวุธวิถีไกลโจมตีมากกว่า
สภาวะที่เป็นอยู่ถือว่าเป็นสัญญาณร้ายของสงครามทั้งสองสมรภูมิ รัสเซียพร้อมใช้อาวุธนิวเคลียร์ เพื่อความอยู่รอดอิสราเอลก็ถูกกดดันให้ชนะแม้จะดูไม่มีโอกาส
โลกเข้าใกล้การสู้รบด้วยสงครามนิวเคลียร์ถ้าไม่มีการยับยั้งชั่งใจ และฝ่ายสหรัฐฯ ยังคงต้องการเป็นชาติมหาอำนาจหนึ่งเดียวในโลก ทั้งพยายามยั่วยุคุกคามจีน รัสเซีย เกาหลีเหนือ และอิหร่าน
ประเทศในโลกที่สามทั้งละตินอเมริกา แอฟริกา ตะวันออกกลางและเอเชียรู้ดีว่าใครตัวดีและตัวร้ายในการเมืองประเทศ แต่สหรัฐฯ จะหน้ามืดเพราะวิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองภายในประเทศหรือไม่
นักศึกษาอเมริกันที่เรียกร้องให้มีการหยุดยิงในฉนวนกาซากำลังแสดงออกให้รัฐบาลสหรัฐฯ รู้ว่าแม้แต่คนในประเทศก็ไม่เอากับผู้นำกระหายสงครามแล้ว
คนอเมริกันต้องการให้รัฐบาลใช้งบประมาณสำหรับการอยู่ดีกินดีของคนในประเทศมากกว่าการสู้รบในแดนไกลและสูญเปล่าตลอดช่วงกว่า 60 ปีที่ผ่านมา