ยังลมพัดลมเพ ไร้ทิศทาง

รัฐบาลเศรษฐีเศรษฐา เข้ามากุมบังเหียนประเทศ 6 เดือนแล้ว ชาวบ้านยังสงสัยว่าทิศทางอนาคตของบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ยังไม่มีเป็นโล้เป็นพาย

ผู้นำรัฐบาลได้ฉายาว่าเป็นนายกฯ อีเวนท์ชีพจรลงเท้าถ้าไม่เดินทางไปต่างประเทศก็ไปต่างจังหวัดพบปะประชาชน ถ้ามีเรื่องไม่สู้ดีเกิดขึ้นก็วกมาคุยเรื่องโครงการเงินดิจิทัล สลับฉาก

นี่ก็เป็นโครงการที่ไม่มีใครทราบ แม้แต่ตัวผู้นำรัฐบาลเองว่าจะเป็นเพียงโครงการทิพย์ เพ้อเจ้อ เพ้อฝัน เสี่ยงคุกตะรางเพราะผิดกฎหมาย นอกเหนือจากการสร้างหนี้สินก้อนมหาศาลให้บ้านเมือง

ชาวบ้านที่อยากได้เงิน 10,000 บาทฟรีๆ และพวกรู้สึกเฉยๆ ไม่ยินดียินร้าย ก็ยังออกอาการเซ็งไปตามกัน ผ่านไปแต่ละวันโอกาสความเป็นไปได้น้อยลง

กลับมาจากเดินสายประเทศศรีลังกาหัวหน้ารัฐบาลและบริวารออกแนวฮึดอีกรอบ บอกว่าจะผลักดันให้โครงการนี้ผ่านให้ได้ไม่ต้องสนใจองค์กรอิสระหรือคำท้วงติงจากใคร เพราะชาวบ้านอยากได้เงิน

ก็อยากรู้เหมือนกันว่านอกจากชาวบ้านทั่วไปแล้วยังมีชาวบ้านระดับทุนใหญ่เจ้าสัวเจ้าของกิจการซึ่งจะเป็นปลายทางของเงินดิจิทัลที่จะไหลไปหาสร้างความมั่งคั่งแบบลาภลอย

ถ้าเป็นจริงตามนั้น เจ้าสัวจะมีสินน้ำใจแบ่งปันผลพลอยได้จากลาภลอยก้อนมหาศาล ให้ใครหรือไม่เพราะยอดเงิน 5 แสนล้านบาท ช่วยได้เยอะสำหรับพวกที่ต้องจ่ายไถ่ถอนหนี้หุ้นกู้

ปีนี้หนี้หุ้นกู้จะครบวาระการไถ่ถอนโดยบรรดาเจ้าสัวและผู้ประกอบการต่างๆ ซึ่งจะต้องหาเงิน 1.1 ล้านล้านบาท มาจ่ายให้ผู้ถือครองหุ้นกู้

แล้วจะเอาเงินจากไหนมาจ่ายคืนหรือแม้แต่จะต้องออกหุ้นกู้รุ่นใหม่เอาเงินไปใช้คืนรุ่นเก่า แต่สภาพคล่องในประเทศที่ล้นธนาคารก็ยังไม่โดนปล่อยออกมา

เป็นภาระหนักใจสำหรับผู้ออกหุ้นกู้และผู้ถือครองว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไรให้ราบรื่นไม่เป็นปัญหาเศรษฐกิจหรือผลกระทบอย่างแรง เพราะปีหน้าจำนวนหนี้หุ้นกู้ครบกำหนดก็มีจำนวนใกล้เคียงกัน

รัฐบาลเศรษฐาเศรษฐี ยังไม่มีโอกาสได้แตะเงินงบประมาณปี 2567 เนื่องจากความล่าช้ายังต้องผ่านการอนุมัติโดยรัฐสภา เมื่อไม่มีเงินก็ต้องเร่งเอาเงินจากโครงการดิจิทัลมาใช้ก่อนอ้างว่าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

การบริหารแบบไร้ทิศทางเน้นแต่โครงการชีพจรลงเท้าสัญจรไปต่างจังหวัด แม้จะดูเหมือนมีกิจกรรมมากมายผลที่ได้รับยังยากที่จะประเมินแม้แต่โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว

สัญญาณของความเสื่อมด้านความนิยมของรัฐบาลเริ่มปรากฏเพราะไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน ลูกสาวเถ้าแก่ใหญ่ซึ่งเป็นมะม่วงจำบ่ม พยายามหาโครงการ สร้างผลงานด้วยการปั่นเรื่องซอฟต์เพาเวอร์แบบเวอร์แล้วเวอร์อีก ผลสุดท้ายต้องสะดุดไม่เป็นท่า

ทีมงานในโครงการซอฟต์เพาเวอร์ คงระอากับความไม่ประสาของตัวแม่โครงการจึงรวมตัวถอนยวงอ้างมีภารกิจอื่น ผลที่เห็นคือมะม่วงบ่มแก๊ส โดนเทอย่างไม่ไว้หน้า

แม้จะมีลูกหาบบริวารออกมาแก้ว่าสามารถตั้งชุดใหม่ได้ก็ตาม ความหวังที่จะได้ทีมงานมีประสิทธิภาพน่าเชื่อถือและความสำเร็จคงจะยาก

ใครอยากจะเข้ามาร่วมโครงการที่ดูแล้วไม่เข้าท่า ทั้งตัวเจ้าแม่เองก็ขาดประสบการณ์ ความรู้ความสามารถของจริง ที่ผ่านมาเป็นเพียงการปั่นกระแสสร้างราคากันเอง แหกตาชาวบ้านเท่านั้น

จะให้ทองชุบเป็นทองแท้ด้วยการทาปิดแผ่นทองให้เหมือนของจริงก็คงจะหลอกได้สำหรับพวกบ้องตื้นเท่านั้น

การเมืองอย่างสะเปะสะปะเพราะเชื่อมโยงกับอนาคตของนักโทษชายเด็ดขาด ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะออกหัวออกก้อย ทุกวันนี้เหมือนเสือติดจั่นหาทางออกไม่ได้

เป็นความผิดพลาดอย่างแรงที่ไม่ยอมติดคุกหรือนอนโรงพยาบาลในคุก แต่ไปหลงเชื่อบริวารซึ่งสร้างความมั่นใจไร้พื้นฐานว่าทุกอย่างจะราบรื่น

ความหวังที่จะออกจากการถูกจำคุกเทียมๆ นานหลายเดือนดูแล้วคงไม่ง่ายเพราะยังมีคดีปากไวที่เกาหลีใต้กรณีสถาบัน ซึ่งอาจทำให้สำนักอัยการขออายัดตัวถ้าจะถูกปล่อยตัววันที่ 17 เดือนนี้

ถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะเป็นกับดักยากที่จะหลุด การหลวมตัวเข้ามาในประเทศหวังว่าจะได้ “ดีล” ระดับสูงรอดติดคุก เป็นการประเมินผิดพลาดร้ายแรง

เสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว ไม่ยอมทำตามราชกิจจานุเบกษาและคำสั่งศาลจึงเหมือนเป็นไฟลามทุ่งยากที่จะดับได้ง่าย มีมวลชนไปชุมนุมกดดันหน้าทำเนียบรัฐบาลหลายวัน

รัฐบาลภายใต้อำนาจนักโทษชายเด็ดขาดจะทำอะไรเป็นผลสำเร็จได้หรือไม่ยังเป็นคำถาม และยังมีเสียงร่ำลือว่าจะมีการโดนปรับออกก่อนที่วุฒิสมาชิกหมดอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีวันที่ 11 เดือนพฤษภาคม

ถ้านายกฯ ถุงเท้าแดงต้องไป คำถามมีอยู่ว่าใครจะมา ลูกสาวเถ้าแก่ใหญ่คงไม่มีโอกาสเพราะเรตติ้งความนิยมทรุดฮวบ ตกต่ำในการทำโพล แสดงให้เห็นว่ากระแสการปั่น การสร้างภาพไม่ติดตลาด

ชาวบ้านคงไม่รู้ว่าจะหวังอะไรได้ ต้องดำเนินชีวิตไปตามสภาพ นักธุรกิจก็หาทางออกดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด เมื่องบประมาณรัฐบาลไม่ได้ถูกนำออกมาใช้

ต้องคิดว่านี่เป็นเพียงรัฐบาลเปลี่ยนผ่านรอตัวจริงซึ่งก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นใครด้วยเหตุที่สถานการณ์พลิกผันแทบจะทุกชั่วโมง แม้แต่นักโทษชายเด็ดขาดก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะลงเอยอย่างไรเช่นกัน

ถ้ามีอะไรพอจะช่วยได้ก็คือความคึกคักจากการท่องเที่ยวเมื่อนักท่องเที่ยวยังเข้ามาไม่ขาดสายเพียงแต่ว่าไม่เป็นกลุ่มจ่ายหนักเท่านั้น แต่ก็ยังทำให้ดีกว่าช่วงการระบาดของโควิด-19

แหล่งท่องเที่ยวชายทะเลคึกคัก เงินสะพัดทำให้ชาวบ้านพอลืมตาอ้าปากได้ พวกที่ด้อยโอกาสหรือว่างงานก็ต้องดิ้นรนต่อไป เงิน 10,000 บาทดิจิทัล ยังคงเป็นความหวังที่เลื่อนลอยเหมือนเดิม

ที่ไม่ขาดคือ เรื่องราวเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชันซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนของเศรษฐกิจใต้ดิน เพียงแต่ว่าช่วงนี้ไม่มีเงินงบประมาณของรัฐบาลเข้ามาเต็มที่เท่านั้น

คนไทยต้องทนต่อไปอยู่กับสภาพที่เป็นอยู่ให้รอดจะหวังว่าการเมืองดีขึ้นนั้นยากยิ่งกว่าหาบันไดขึ้นสวรรค์อย่างที่เป็นมาโดยตลอด

ตัวใครตัวมัน แบ่งปันกันบ้างได้ก็จะดี ถ้ามีกำลังพอ เพราะที่อยู่กันทุกวันนี้คือคนร่วมแผ่นดินทั้งนั้น