xs
xsm
sm
md
lg

จับโป๊ะราชทัณฑ์! อ้างโยกย้ายปกติ ที่แท้ย้ายนอกฤดู เอาคนมากองส่วนกลาง ส่อชัดช่วยคนหนึคุก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ชี้พิรุธราชทัณฑ์แถลงโต้ “สนธิ” ปัดย้ายข้าราชการเข้ามาส่วนกลางเพื่อเตรียมการช่วย “ทักษิณ” อ้างย้ายตามปกติ ทั้งที่ความเป็นจริง เป็นการย้ายนอกฤดู ขณะคนถูกย้ายบางคนเพิ่งอยู่ตำแหน่งเดิมไม่ถึง 6 เดือน ซ้ำยังเน้นข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับทัณฑปฏิบัติ-ชำนาญการพิเศษ จากเดิมที่มีแค่ 1 คน เอามากองรวมกัน 6 - 7 คน ขณะที่เรือนจำต่างจังหวัดหลายแห่งเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอดูแลนักโทษ จนเครียดต้องฆ่าตัวตาย แนะ “ทวี สอดส่อง” - อธิบดีราชทัณฑ์ลงไปดู อย่ามัวแต่เอาใจหาทางช่วยเหลือนักโทษชั้น 14 แถมยกระดับเรียก “อดีตนายกฯ” ไม่ใช่ “นช.” แล้ว



ในรายการ  “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก”เมื่อวันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการได้กล่าวถึงกรณีกรมราชทัณฑ์ได้ออกเอกสารแถลงข่าวตอบโต้เรื่องการโยกย้ายข้าราชการโดยปฏิเสธว่าไม่ใช่เป็นการย้ายเพื่อรองรับนายทักษิณ ชินวัตร นั้น เป็นการแถลงข่าวที่แสดงให้เห็นพิรุธหลายเรื่องของกรมราชทัณฑ์

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ได้พูดถึงเรื่อง “ขบวนการโกงคุก” ให้แก่ “นักโทษชาย ทักษิณ ชินวัตร” ซึ่งต้องโทษจำคุก 8 ปี และได้รับอภัยลดโทษเหลือ 1 ปี แต่เจ้าตัวไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว หาช่องทางต่าง ๆ ออกมานอนที่ห้อง VIP ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจกว่า 160 วันแล้วนั้น ภายใต้การช่วยเหลือขององคาพยพต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น นักการเมือง อย่าง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ข้าราชการการเมือง อย่างนายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอดีตที่ปรึกษากฎหมายของบีทีเอส

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง - นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ
รวมถึง ข้าราชการประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในกรมราชทัณฑ์ ที่ต้องชี้ให้เห็นชัด ๆ ไปเลยว่าหัวขบวนก็คือ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ กับ รองอธิบดีอีกบางคน ที่ตอนนี้เริ่มรู้ตัวแล้วว่ากำลังร่วมกันกระทำความผิด และอยากกระโดดหนี ด้วยการย้ายไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงแทนที่จะต้องมานั่งรับเผือกร้อน และร่วมหัวจมท้ายไปกับ รัฐมนตรี และอธิบดีกรมราชทัณฑ์

นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์
นายสนธิ กล่าวว่า หลายครั้งที่ผ่านมาได้เตือนไปแล้วหลายถึงนายทักษิณ, คนรอบตัวนายทักษิณ, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง, ข้าราชการทั้งหลาย โดยตอนล่าสุด ได้กล่าวด้วยความหวังดีไปถึงข้าราชการ-เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ทั้งหลาย ว่า อย่าเห็นแก่ลาภ เห็นแก่ยศ เห็นแก่สรรเสริญ มาร่วมขบวนการโกงคุกให้นายทักษิณเลย ให้เห็นแก่ประเทศชาติบ้าง เพราะเรื่องนี้คือการบิดเบือน ระเบียบ ข้อบังคับ กฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมของประเทศ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับคน ๆ เดียว ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปแล้ว จะต้องถูกเช็กบิลย้อนหลังอย่างแน่นอน


วันศุกร์ที่แล้ว ได้พูดถึงเรื่องหนังสือโยกย้ายข้าราชการกรมราชทัณฑ์ 2 ฉบับ โดยฉบับหนึ่งเป็นหนังสือโยกย้าย ข้าราชการผู้หญิงอายุยังน้อย 3 คน ซึ่งถูกย้ายเข้ามายังส่วนกลางเพื่อมาดำเนินเรื่องให้เอื้ออำนวยแก่การจัดการเรื่อง “นช.ทักษิณ” โดยได้พูดว่า “ผมฝากไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน ไม่ว่าจะเป็นอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ท่านผู้หญิง สุภาพสตรีทั้ง 3 ท่าน และคุณเกษม หมู่ข้าราชการประจำ ข้าราชการการเมือง ที่ร่วมขบวนการโกงการติดคุกให้ทักษิณ และกำลังวางแผนเผื่อไปถึงน้องสาว คือ ยิ่งลักษณ์ อีกครั้งหนึ่งว่าพวกคุณอย่าทำเรื่องโง่ๆ อย่างนี้ได้ไหม? คุณอย่าคิดว่าสิ่งที่พวกคุณทำอยู่นี้ คนอื่นหรือประชาชนเขารู้ไม่ทัน”

เป็นการพูดด้วยความหวังดี แต่ถัดมาเพียง 2 วัน กรมราชทัณฑ์ก็ออกแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนมาตอบโต้ ว่า “จากกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก “สนธิ ลิ้มทองกุล” เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2567 พูดพาดพิงถึงกรมราชทัณฑ์ ในกรณีที่ได้มีคำสั่งย้ายข้าราชการ ว่าเป็นการย้ายข้าราชการที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายสถานที่คุมขังอื่น และย้ายข้าราชการที่ตอบสนองนโยบายได้เข้ามาแทน เพื่อรองรับ “อดีตนายกทักษิณ ชินวัตร” นั้น”


กรมราชทัณฑ์อ้างต่อว่า การโยกย้ายครั้งนี้เป็นการดำเนินการเพื่อมอบหมายข้ราชการเพื่อสนับสนุนภารกิจในงานราชทัณฑ์ให้ครอบคลุมในทุกมิติอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้พิจารณาจากผู้มีความรู้ความสามารถ ทักษะ และความชำนาญในงานที่ได้รับมอบหมาย อันช่วยสนับสนุนและช่วยขับเคลื่อนภารกิจของกรมราชทัณฑ์ในภาพรวมได้อย่างมีประสิทธิผล เพื่อประโยชน์สูงสุดของทางราชการ และเป็นไปตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ... เป็นปกติวิสัยของการบริหารงานบุคคลของหน่วยราชการ มิได้เป็นไปตามที่นายสนธิ กล่าวอ้างแต่อย่างใด


“ประเด็นคุณทวี สอดส่อง, คุณสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กลับไปฟังคำพูดของผมอีกทีนะครับ“พวกคุณอย่าทำเรื่องโง่ ๆ อย่างนี้ได้ไหม? คุณอย่าคิดว่าสิ่งที่พวกคุณทำอยู่นี้ คนอื่นหรือประชาชนเขารู้ไม่ทัน”


“คุณลองเดินไปตามท้องถนนไปถามชาวบ้านที่ไหน ใคร ๆ เขาก็รู้กันว่า สิ่งที่ทักษิณกำลังทำอยู่นั้นคือการ“โกงการติดคุก” ใช่หรือไม่?เป็นสิ่งที่ไม่มีใครเขาทำกัน ไม่มีใครเขารับได้ แล้วผมจะชี้ให้เห็นพิรุธอะไรบางอย่างเกี่ยวกับแถลงการณ์ของกรมราชทัณฑ์”


นายสนธิ กล่าวถึงข้อพิรุธประการที่ 1 ว่าสังเกตในย่อหน้าแรกของแถลงการณ์ฉบับนี้เขียนว่า“จากกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก “สนธิ ลิ้มทองกุล” เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2567 พูดพาดพิงถึงกรมราชทัณฑ์ ในกรณีที่ได้มีคำสั่งย้ายข้าราชการ ว่าเป็นการย้ายข้าราชการที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายสถานที่คุมขังอื่น และย้ายข้าราชการที่ตอบสนองนโยบายได้เข้ามาแทน เพื่อรองรับอดีตนายกทักษิณ ชินวัตร ...

กรมราชทัณฑ์ใช้คำนำหน้า ทักษิณ ชินวัตรว่า “อดีตนายก” ไม่ใช้คำว่า “นาย” หรือ “นักโทษชาย” อีกแล้ว !?!

แตกต่างจาก ราชกิจจานุเบกษา ฉบับวันที่ 1 กันยายน เรื่องพระราชทานอภัยลดโทษที่เขียนไว้อย่างชัดเจนว่าเป็น “นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร”


ทั้งยังแตกต่างจากคำอธิบายของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เมื่อ วันที่ 17 มกราคม 2567 หลังจากที่มีคนออมาทักท้วงว่า กรมราชทัณฑ์ ไม่ยอมเรียก “ทักษิณ ชินวัตร” ว่า “นช.” หรือ “นักโทษชาย” แต่ใช้คำว่า “นาย” แทน โดยตอนนั้น พ.ต.อ.ทวีอ้างว่าใช้ “นาย” เพราะไม่ต้องการให้กระทบต่อเรื่องสิทธิมนุษยชน !?!

แล้ววันนี้ พ.ต.อ.ทวี ที่ยกระดับ “นช.ทักษิณ” ให้เป็น “นายทักษิณ” ก็เผยพิรุธอีกครั้งในแถลงการณ์ฉบับล่าสุด ด้วยการเรียก “นช.ทักษิณ” ว่าเป็น “อดีตนายกทักษิณ” เสียเลย !!!

ประการที่ 2 การเขียนแถลงการณ์ว่า “เหตุการณ์ปกติ”,“เป็นปกติวิสัยของการบริหารงานบุคคลของหน่วยราชการ”,“ไม่ได้มารองรับนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร” นั้น คนวงในกรมราชทัณฑ์นั้นเขาได้อ่านแล้ว หัวเราะฟันแทบร่วง เพราะคำสั่งกรมราชทัณฑ์ที่ 74/2567 และ 75/2567 ลงวันที่ 19 มกราคม 2567 นั้นมีพิรุธเนื่องจาก

1.เป็นการโยกย้ายนอกฤดูกาล เพราะโดยปกติแล้ว กรมราชทัณฑ์จะโยกย้ายข้าราชการกันปีละ 2 ครั้งปกติจะทำกันในช่วงปิดเทอม เพื่อมิให้ส่งผลกระทบกับการเล่าเรียนของลูกหลาน และความยุ่งยากของครอบครัว แต่นี่กลับโยกย้ายกันในเดือนมกราคม

2.นอกจากนี้ บางคนที่ถูกย้ายกลับมาส่วนกลางไม่ว่าจะสำนักเลขานุการกรม, สำนักผู้ตรวจราชการกรม หรือ กองกฎหมายนั้น เพิ่งย้ายไปดำรงตำแหน่งเดิมได้ไม่ถึง 6 เดือนด้วยซ้ำ

3.การโยกย้ายนอกฤดูกาลครั้งนี้ ท่านอธิบดี ยังเน้นข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง ทัณฑปฏิบัติ-ชำนาญการพิเศษ แล้วย้ายกันมากองรวมกัน จากเดิมที่มีแค่ 1 คน ตอนนี้เอามากองรวมกัน 6 - 7 คน เพื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษใช่หรือไม่ ?

4.ที่สำคัญที่สุดก็คือ ในเมื่อผู้ใหญ่ในกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ ไม่ได้กระทำการนี้ด้วยความสุจริต โปร่งใส และบริสุทธ์ใจแล้ว แต่ทำเพื่อช่วยเหลือ และเอื้อประโยชน์ให้คน ๆ เดียวนั้น ย่อมส่งผลกระทบต่อข้าราชการกรมราชทัณฑ์อย่างกว้างขวาง เป็นตราบาปในการบริหารงานของพวกท่านอย่างยิ่ง โดยผลกระทบที่เกิดขึ้นล่าสุด และถือว่าเป็นโศกนาฏกรรมก็คือ กรณีการฆ่าตัวตายของ ผู้คุมเรือนจำปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช โดยถือเป็นศพที่ 3 ในรอบ 30 วัน เมื่อวันจันทร์ที่ 29 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา


“คุณทวี สอดส่อง, คุณสหการณ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ การที่คุณโยกย้ายเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จากส่วนภูมิภาคกลับมาส่วนกลาง ก่อให้เกิดปัญหาอย่างร้ายแรงก็คือ “ตำแหน่งเต็ม แต่อัตรากำลังขาด” เพราะเจ้าหน้าที่ถูกดึงมาส่วนกลางเพื่อช่วยคน ๆ เดียว คือ ทำภารกิจช่วยคนหนีคุก อย่างคำสั่งที่ 74/2567 และ 75/2567 นั่นเอง


“ท่านอธิบดี คุณเคยลงไปดูสารทุกข์สุกดิบเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ตามท้องถิ่นต่างๆ บ้างไหม ว่า ลูกน้องคุณ หมื่นกว่าคน เขามีความเป็นอยู่อย่างไร? ทำงานหนักแค่ไหน? เป็นตายร้ายดียังไง?


“คุณรู้ไหมว่าบางเรือนจำเจ้าหน้าที่มีจำนวนมากเกินจำนวนผู้ต้องขัง บางเรือนจำเจ้าหน้าที่ขาดแคลน ตรากตรำ เครียด เป็นเหตุให้มีการฆ่าตัวตาย ขณะที่บางหน่วยงานในกรม ในส่วนกลาง กลับเอาข้าราชการระดับชำนาญการพิเศษ มานั่งขี่คอกัน แต่ไม่มีงานทำ


“ลงไปดูบ้างครับ ไม่ใช่เอาแต่จะมุ่งเป้าไปเอาใจ และหาทางที่จะช่วยเหลือนักโทษชายคนเดียวที่พยายามหนีคุกไปนอนอยู่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ให้พ้นจากคุกได้ไวๆนายสนธิ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น