คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ส่งความเห็นด้านกฎหมายและประเด็นอื่นๆ เกี่ยวกับแผนของรัฐบาลที่ขอกู้เงินประมาณ 5 แสนล้านบาท เอามาแจกให้ประชาชนในโครงการเงินดิจิทัล
ผลเป็นอย่างไร การชี้แนะของคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาลว่าอย่างไร ยังไม่มีรายละเอียด ผู้นำรัฐบาลเศรษฐาเศรษฐี บอกว่ายังต้องใช้เวลาศึกษาอีก 2-3 วัน และปรึกษาหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
จากนั้นก็จะแถลงให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่หวังจะได้เงินแจกฟรีหัวละ 10,000 บาทว่ามีความเป็นไปได้แค่ไหน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องลุ้นระหว่างรัฐบาลและชาวบ้าน
ดูแล้วรัฐบาลเศรษฐา น่าจะต้องเหนื่อยกับความพยายามที่จะหาแหล่งเงินกู้รวมถึงต้องให้มั่นใจว่าการจะกู้นั้นต้องไม่ผิดกฎหมาย ที่ผ่านมามีเปลี่ยนแปลงรูปแบบโครงการหลายครั้งตั้งแต่เริ่มต้นหาเสียงก่อนเลือกตั้ง
การจะสร้างหนี้ก้อนใหญ่ไม่ใช่เรื่องง่าย และในรูปแบบที่พยายามดัดแปลงเพื่อไม่ให้ผิดกฎหมาย ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน ที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทยรวมทั้งผู้รู้ นักเศรษฐศาสตร์หลายร้อยคนก็แสดงความไม่เห็นด้วย
เหตุผลหลักก็คือเป็นการสร้างหนี้สินมหาศาลและไม่เกิดผลประโยชน์ยั่งยืน เป็นการตำน้ำพริกครกใหญ่ละลายแม่น้ำโดยไม่มีผลตอบแทนคุ้มค่า
แต่รัฐบาลไม่สนใจคำท้วงติงเพราะเป็นนโยบายจากการหาเสียง ซึ่งการแจกเงินไม่จำเป็นต้องใช้สติปัญญาอะไรเพียงแต่ที่ผ่านมามีลับลมคมในเพราะต้องการทำหลายกระบวนการในระบบดิจิทัล ไม่น่าไว้วางใจ
ช่วงนี้รัฐบาลต้องเจอกับปัญหาหลายประการส่วนใหญ่มาจากความน่าเชื่อถือและศรัทธาของประชาชนรวมถึงภาคธุรกิจที่เห็นว่ารัฐบาลยังไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน มีแต่ความเลื่อนลอยและคำ
สิ่งที่จะพยายามปั่นกระแสก็คือโครงการซอฟต์พาวเวอร์จนเวอร์สุดๆ ทั้งที่ไม่มีอะไรพิสดาร เอาของที่อยู่แล้วมาจัดทำให้เป็นเรื่องเป็นราว ไม่ต่างจากเอาสินค้ามาห่อผูกโบติดริบบิ้นใหม่ ให้ดูดี เตะตาชาวบ้านคุยโอ่
ความล่าช้าในการใช้เงินงบประมาณปี 2567 ทำให้รัฐบาลขาดเงินที่จะสร้างผลงานในการทำโครงการใหม่ แต่ก็มีประเด็นไม่น่าไว้ใจเมื่องบกลางสูงมากถึง 6 แสนล้านบาท จึงดูเหมือนเป็นงบหวานคอแร้ง
ความไม่น่าเชื่อถือในบุคลากรทั้งรัฐมนตรีหน้าเก่าและหน้าใหม่ไร้ประสบการณ์ ทำให้ประชาชนไม่ได้ฝากความหวังอะไรด้านผลงาน เว้นแต่รอรับเงินแจกและโครงการประชานิยมถมไม่เต็มอื่นๆ
กว่า 4 เดือนที่รัฐบาลนี้อยู่ในอำนาจได้พยายามคุยว่ามีผลงานมากมายทั้งที่ในความเป็นจริงเป็นการตระเวนทั้งในและนอกประเทศตามจังหวะที่ให้เพื่อได้ใจชาวบ้าน และยังถูกมองว่ามีผลประโยชน์แฝงเร้น
ยังมีประเด็นที่คาดไม่ถึงคือความพยายามของวุฒิสภาที่จะมีการเปิดอภิปรายทั่วไป ในเวลาอีกไม่นาน เท่ากับว่ารัฐบาลนี้ไม่น่าไว้วางใจ ดังนั้นการซักฟอกโดยวุฒิสภาจึงเหมือนเป็นการส่งท้ายก่อนวุฒิสมาชิกจะสิ้นอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม
เหตุผลที่แท้จริงเป็นอย่างไรยังไม่มีใครรู้ชัดเพียงแต่มีเสียงร่ำลือว่ามีนักการเมืองในรัฐบาลแอบไปคุยกับวุฒิสมาชิกว่าถ้าช่วยผ่านกฎหมายแก้รัฐธรรมนูญแล้ว ก็จะมีการยกเลิกข้อจำกัดการเป็นวุฒิสมาชิกให้อยู่นานกว่าระยะเวลาที่จะสิ้นสุดนี้
ในช่วงการอภิปรายงบประมาณรัฐบาลบอบช้ำเพียงเล็กน้อย ฝ่ายค้านไม่มีพลังเพียงพอที่จะเปิดแผลใหญ่ด้วยเหตุที่รัฐบาลเพิ่งเข้ามาใหม่ยังไม่มีมีโอกาสได้ใช้เงิน
แต่เรื่องที่ฉาวโฉ่ต่อเนื่องเกี่ยวโยงถึงนักโทษชายเด็ดขาดที่กลับจากการหนีคุก 17 ปีจากดูไบ ปัจจุบันอยู่ภายใต้ข้ออ้างว่าป่วยและอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจชั้น 14 ห้องบุคคลวีไอพีโดยที่ไม่มีรายละเอียดอะไร
ประชาชนสงสัยว่าการเจ็บป่วยเป็นจริงหรือไม่ หรือเป็นเหตุข้ออ้างที่ไม่ต้องติดคุกตั้งแต่ถูกศาลส่งตัวเข้าคุกก็ได้ออกมาเข้าโรงพยาบาลในคืนเดียวกัน และอยู่นอกคุกมานานกว่า 120 วันแล้ว
ประเด็นนี้ส่งผลกระทบอย่างแรงต่อความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรม ระบบนิติรัฐนิติธรรม องค์กรต่างๆ เช่นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โรงพยาบาลตำรวจ และกรมราชทัณฑ์ รวมถึงกระทรวงยุติธรรม
ไม่มีใครอธิบายได้ว่าผู้ป่วยซึ่งเป็นนักโทษชายเด็ดขาดนั้นมีอาการเป็นอย่างไร จึงอยู่ยาวนานและเป็นเพราะมีฝีมือในการรักษาไม่เพียงพอหรือไม่ จึงไม่หายขาด
เงื่อนงำและความลับลมคมในไม่โปร่งใสในท่าทีขององค์กรเหล่านี้ทำให้เกิดความเสื่อมอย่างแรงต่อความน่าเชื่อถือของประเทศไทยและรัฐบาลไทยด้วยบุคคลผู้มีอำนาจตั้งแต่นายกรัฐมนตรีลงไป ไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยถึงอย่างจริงจัง
สภาพความเป็นรัฐบาลถูกมองว่าอยู่ภายใต้อำนาจของนักโทษชายเด็ดขาดซึ่งยังไม่ยอมติดคุกภายใต้เงื่อนไขการอภัยโทษ จนถูกมองว่าเป็นการหลู่พระเกียรติสถาบันกษัตริย์ ทำให้ถูกมองว่าหน่วยงานราชทัณฑ์มีอำนาจเหนือศาล
ความพยายามทำโครงการที่ยากเย็นแถมเน้นหาเสียงคือโครงการแก้ไขหนี้นอกระบบซึ่งเป็นเพียงกระแสฮือฮาชั่วครู่เท่านั้น ในทางปฏิบัติเป็นไปได้ยาก อย่างที่เคยเกิดขึ้นแล้ว
หัวหน้ารัฐบาลถูกมองว่าได้รับการกดดันจากลูกสาวเถ้าแก่นักโทษชายเด็ดขาดเพราะได้ทำเหมือนเป็นเงาตามตัวแย่งแสงสีและความสนใจจากนายกรัฐมนตรี หญิงผู้ไร้ประสบการณ์การบริหารบ้านเมืองได้แต่อ้างว่า ยังไม่ต้องการตำแหน่งรัฐมนตรีอะไรทั้งนั้น
ซึ่งเป็นเรื่องน่าขบขันในสังคมการเมืองพัฒนาแล้วเพราะจะต้องกลั่นกรองกวดขันด้านความรู้ความสามารถ ความซื่อสัตย์สุจริตของคนที่จะมาเป็นสมาชิกคณะรัฐมนตรี ไม่ใช่เป็นเพียงมะม่วงบ่มแก๊ส เร่งจนเสียสภาพ
ประเด็นเงินดิจิทัลจะเป็นตัวเร่งหรือตัวฉุดรัฐบาลเศรษฐาในการดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด และตัวผู้นำรัฐบาลเองก็ไม่ใช่เป็นดาวฤกษ์ ถูกมองว่าเป็นเพียงตัวแทนคั่นเวลา ก่อนลูกสาวเถ้าแก่ใหญ่จะพร้อมหรือมีโอกาส
ไม่ว่าใครจะอยู่ใครจะไป หรือใครจะมา ก็ไม่มีความหมายมาก ถ้าจะต้องอยู่ภายใต้การสั่งการของเครือข่ายนักโทษชายเด็ดขาด ซึ่งประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์ให้เห็นว่ามีปัญหาทุกครั้งเมื่อเป็นรัฐบาล
ประชาชนได้แต่ทำใจหวังอย่างลมๆ แล้งๆ ว่าบ้านเมืองน่าจะมีวันสิ้นเวรกรรมและเปิดช่องให้คนดีใจซื่อมือสะอาดมีความรู้ความสามารถเข้ามาบริหารบ้านเมืองให้ประชาชนมีความสุขกันถ้วนหน้า ไม่จำเป็นต้องยาวนานชั่วอายุคนก็ได้