xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ จะถึงกับบุกโจมตีอิหร่านเชียวหรือ?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร



เหตุการณ์บุกโจมตีด้วยโดรนพิฆาตของฝ่ายกองกำลังติดอาวุธที่ต่อต้านการยึดครองของกองทัพสหรัฐฯ (และตะวันตก) ที่หอ (บังคับการ) ที่ 22 บริเวณชายแดนจอร์แดนต่อกับซีเรีย ในช่วงใกล้รุ่งสางของวันอาทิตย์ที่ 28 มกรา ทำให้ทหารอเมริกันเสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บเกือบ 40 คน นับเป็นการเสียชีวิตครั้งแรกของทหารอเมริกันที่เข้าไปคุมเชิงการสู้รบในสงครามที่อิสราเอลประกาศล้มล้างฮามาสให้สิ้นซากเมื่อ 8 ตุลาคม (เพื่อเข้ายึดครองฉนวนกาซา, รามาลาห์ และเยรูซาเลม)

ในการโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัวของฐานที่มั่นที่หอ 22 ของกองกำลังสหรัฐฯ เกิดขึ้นในเวลาที่มืดมิดก่อนฟ้าสาง ขณะที่ทหารอเมริกันยังนอนหลับอยู่ในหอนอน และเป็นเวลาเดียวกันกับโดรนตรวจการสืบข่าวของทหารอเมริกันที่ประจำหอ 22 ได้กำลังบินกลับมายังฐานที่มั่นหลังเสร็จภารกิจ และได้มีการปิดสวิตช์ระบบป้องกันตัวเองของฐานที่มั่นแห่งนี้ เพื่อเปิดทางให้โดรนลาดตระเวนของตนจะไม่ถูกระบบป้องกันตัวเองเข้าทำลายโดรนของตนเอง

น่าสันนิษฐานว่า ฝ่ายกลุ่มอิสลามต่อต้านฐานทัพอเมริกัน (Islamic Resistance-อย่าเอาไปปนกับ IS เพราะ IS มาจากคำเต็มว่า Islamic State ซึ่งเดิมคือ ISIS ซึ่งต้องการตั้งรัฐอิสลามที่มีกาลิบเป็นผู้ปกครอง และจะปกครองด้วยศาสนาอิสลามแบบเคร่ง) ได้ซ้อนแผนการบินกลับของโดรนของฐานที่มั่นแห่งนี้ โดยส่งโดรนพิฆาตบินในระดับต่ำเข้าโจมตีหอ 22 อย่างแม่นยำ ขณะที่โดรนของฐานอเมริกันกำลังบินกลับฐานพอดิบพอดี-ช่างเหมาะเจาะอะไรจะปานนั้น-น่าจะมีการคำนวณวางแผนมาอย่างดี

กองกำลังติดอาวุธอิสลามต่อต้านการยึดครองของอเมริกันและตะวันตกนี้ เรียกตัวเองว่า Kataib Hezbollah (เป็นหนึ่งในหลายกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนทั้งทางการเงิน, อาวุธ และการฝึกการวางแผนโจมตีและตั้งรับอย่างดีจากอิหร่าน) ซึ่งได้ออกมาประกาศว่าเป็นผลงานของพวกตน...และหลายกลุ่มติดอาวุธนี้มีปฏิบัติการอยู่ใน Axis of Resistance ซึ่งเป็นแกนนำรูปสร้อยไข่มุกที่อิหร่านได้ขีดเส้นเป็นวงล้อม และเป็นสายสร้อยที่ต่อต้านการยึดครองดินแดนของสหรัฐฯ ในอิรัก, เลบานอน, ซีเรีย ลงมาถึงจอร์แดน และปาเลสไตน์ที่ถูกอิสราเอล-มหามิตรของสหรัฐฯ-ยึดครองอยู่แทบทั้งหมด

สายๆ ของวันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม ปธน.ไบเดนออกมาพูดกับประชาชนอเมริกันถึงเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญคนอเมริกันครั้งนี้ เพราะเป็นการสูญเสียทหารอเมริกันครั้งแรกหลัง 7 ตุลาคม ซึ่งย่อมสะเทือนความรู้สึกถูกตีแสกหน้าในบทบาทอภิมหาอำนาจใหญ่สุดของโลก (ทั้งด้านแสนยานุภาพของกองทัพและด้านเศรษฐกิจ)-โดยเฉพาะฐานเสียงของประชาชน (และคู่แข่งอย่างทรัมป์) ที่ต้องรีบแจ้งต่อประชาชนอเมริกัน และต้องเสนอการตอบโต้ตามสไตล์อเมริกันที่ใครจะดูหมิ่นลองเชิงไม่ได้ เพราะเสียศักดิ์ศรีความยิ่งใหญ่!!

ไบเดนบอกว่า กำลังติดตามว่า กลุ่มที่ส่งโดรนพิฆาตมาฆ่าทหารอเมริกันนี้เป็นกลุ่มใด เขาย้ำว่า กองทัพอเมริกันจะตามผู้ปฏิบัติการเหล่านี้จนพบ และจะทำการตอบโต้อย่างสาสม (กับการมาฆ่าทหารอเมริกัน) ด้วยวิธีการ, เวลา, สถานที่ที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน…เขาบอกว่า แทบจะสรุปได้ว่า เป็นกลุ่มกองกำลังที่ได้รับการสนับสนุนและฝึกอบรมจากอิหร่าน เพราะโดรนพิฆาตที่โจมตีทำจากอิหร่าน

ไบเดนดูจะระวังคำพูดไม่เจาะจงลงไปว่าจะต้องถล่มอิหร่านเพื่อแก้แค้น เพราะตั้งแต่ 7 ตุลาคมเป็นต้นมา ทั้งปธน.ไบเดน, รมต.บลิงเคน, ที่ปรึกษาความมั่นคง เจค ซัลลิแวน ต่างพูดแบบแผ่นเสียงตกร่องว่า สหรัฐฯ รู้ตัวว่ากองกำลังของฮามาสได้รับการสนับสนุนและฝึกอบรมจากอิหร่าน และรวมถึงกองกำลังของเฮซบอลเลาะห์ของเลบานอนที่ยิงถล่มเข้าใส่เปิดศึกด้านเหนือของอิสราเอล รวมทั้งกองกำลังฮูตีที่เยเมน ต่างได้รับอาวุธและการฝึกจากอิหร่าน...คำพูดที่กล่าวย้ำๆ คือ ไม่ต้องการเปิดศึกตัวต่อตัวกับอิหร่าน...เพราะไม่ต้องการขยายขอบเขตของการทำสงครามเกินกว่าที่กำลังสู้กันอยู่ที่กาซาหรือที่ทะเลแดง

แต่เสียงดังมาจากทรัมป์ที่กล่าวดูถูกเหยียดหยามสบประมาทไบเดนว่า เป็นพวกขี้ขลาด...กลัวอิหร่าน!! ไม่กล้าโจมตีอิหร่าน...ไม่แน่จริงเท่าตัวทรัมป์ที่เคยจัดการกับนายพลกาเซ็ม สุไลมานี ผบ.กองกำลังผสมอิหร่าน-อิรักที่ถูกเขาสั่งลอบสังหาร และเขาสั่งกองทัพอเมริกันยิงขีปนาวุธโจมตีอิหร่าน (ปี’20) แต่ได้หยุดยิงแค่ 10 นาทีก่อนโจมตี หลังจากโดรนของกองทัพสหรัฐฯ ถูกโดรนอิหร่านโจมตี ซึ่งตอนนั้นรมต.กลาโหม เจมส์ แมตทิส ได้พูดปลอบทรัมป์ว่า คงไม่ต้องโจมตีอิหร่าน เพียงแค่โดรนสหรัฐฯ ถูกโจมตีพังพินาศ เพราะในโดรนไม่มีทหารอเมริกัน-ต้องเสียชีวิตเลย

พ้องกับคำพูดสบประมาทจาก สว.เหยี่ยวตัวเบ้อเริ่มจากรีพับลิกันคือ ลินซีย์ แกรมม์ จากรัฐเซาท์แคโรไลนา บอกว่า ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปธน.ไบเดน (ผู้ขี้ขลาดไม่กล้ารบ!! ในสายตาของแกรมม์และเหล่ารีพับลิกัน) ต้องส่งกองกำลังเข้าถล่มอิหร่าน เดี๋ยวนี้ ทันที กู้ศักดิ์ศรีการสูญเสียชีวิตทหารอเมริกัน 3 คน

ไบเดนจะเลือกปฏิบัติการตอบโต้อย่างใดเพื่อไม่ให้ดูว่า เขาอ่อนแอ, อ่อนข้อให้อิหร่าน (และรวมทั้งอ่อนแอต่อจีน ตามลูกยุเหยียดหยามของรีพับลิกันสายเหยี่ยวในสภา)

คงไม่ใช่การเข้าโจมตีโดยตรงยังอิหร่าน เพราะถ้าอิหร่านตอบโต้ด้วยการปิดช่องแคบฮอร์มุซ จะทำให้น้ำมันโลกวิ่งไปถึง 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแน่ จะกระทบเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีเลือกตั้งด้วย

หรือจะอยู่นิ่งๆ เพียงขู่จะตอบโต้แบบที่เขาได้ทำแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 หลังการถูกโจมตีทันที

แต่น่าจะเป็นการโจมตีโดยตรงเป้ากับบางจุดของกองกำลังติดอาวุธอิสลาม (Islamic Resistance) ที่มีอยู่หลายแห่งในวงกลมสร้อยไข่มุกเพื่อแสดงให้ฐานเสียงในสหรัฐฯ เห็นว่า ไบเดนเป็นเดือดเป็นแค้นต้องตอบโต้ให้สาสมนั่นเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น