xs
xsm
sm
md
lg

ความน่าสะพรึงของพรรคก้าวไกล ที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หนึ่งความคิด
สุรวิชช์ วีรวรรณ

ผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาจบลงด้วยชัยชนะที่ไม่มีใครคาดคิดว่า พรรคก้าวไกลจะกวาดส.ส.มาเป็นอันดับ 1 แม้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะไม่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากในรัฐสภาได้ แต่ใครต่อใครก็คาดการณ์กันว่า เลือกตั้งครั้งต่อไป พรรคก้าวไกลจะกวาดที่นั่งอย่างถล่มทลาย

 มองจากปรากฎการณ์ครั้งที่ผ่านมา หากจะวิเคราะห์ถึงชัยชนะของพรรคก้าวไกล ต้องยอมรับว่าพวกเขาประสบความสำเร็จเพราะสามารถสร้างกระแสขึ้นในสังคม พวกเขาครอบครองข้อมูลข่าวสารในโซเชียลมีเดียที่ชี้นำคนรุ่นใหม่ไว้ได้อย่างเด็ดขาดพวกเขาประสบความสำเร็จในการสร้างห้องแห่งเสียงสะท้อน(Enco Chamber)ที่สามารถสร้างข้อมูลให้คนรุ่นใหม่จำนวนมากได้ข้อมูลเฉพาะแต่ที่พวกเขาอยากจะให้เชื่อ อยู่ในแวดล้อมของคนที่พูดเหมือนกันและคิดเหมือนกัน เหมือนโลกนี้มีข้อมูลด้านเดียวที่นำมากระทำซ้ำและตอกย้ำกันอยู่ตลอดเวลา

เราจึงเห็นคนรุ่นใหม่จำนวนมากเชื่อเหมือนกันคิดเหมือนกันเหมือนกับเด็กกาเหว่าที่บางเพลง ในนวนิยายของม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช คนเหล่านั้นเชื่อเหมือนกันว่า รัฐบาลชุดที่แล้วเป็นรัฐบาลที่ชั่วร้าย ทำให้บ้านเมืองไม่เจริญ แต่ล่าสุดมีรายงานว่า ไทยแซงมาเลเซียขึ้นอันดับ 2 ประเทศที่มีโครงสร้างพื้นฐานดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อันดับ 9 ของเอเชีย / อันดับ 25 ของโลก) จากรายงาน Logistics performance index 2023 ในหมวดโครงสร้างพื้นฐาน ที่จัดอันดับโดยธนาคารโลกนั้นพบว่าระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยได้รับการพัฒนาขึ้นจากการสำรวจครั้งล่าสุดในปี 2018 ที่อยู่อันดับ 41 ของโลก ได้ 3.14 คะแนน ปีนี้ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 25 ได้ 3.7 คะแนน จาก 139 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นการตอบคำถามว่า 9 ปี รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ทำอะไรบ้าง

การสามารถครอบงำคนรุ่นใหม่และสามารถสร้างกระแสในโซเชียลมีเดียของพรรคก้าวไกล ยังสามารถยึดครองหัวใจของชนชั้นกลางได้ด้วย พรรคก้าวไกลจึงชนะอย่างเด็ดขาดในกรุงเทพ ปริมณฑล และชุมชนเมืองในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคตะวันออก นอกจากนั้นคนรุ่นใหม่สามารถใช้ความเชื่อและความเข้าใจและทัศนคติของตัวเองต่อพรรคก้าวไกลกล่อมเกลาให้ผู้สูงวัยในครอบครัวจำนวนมากเชื่อตามลูกหลานด้วยว่า การเมืองวันนี้ถึงเวลาของคนรุ่นใหม่ที่จะเข้าไปเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองและล้างภาพของนักการเมืองเก่าที่แต่ความฉ้อฉลเน่าเฟะเกาะกินสังคมไทยมายาวนาน

และต้องยอมรับว่า ปัจจัยสำคัญก็คือการอยู่ในตำแหน่งมาอย่างยาวนานของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึง 9 ปีที่คนจำนวนมากเบื่อหน่ายและอยากเปลี่ยนแปลง จนมีคนพูดกันว่า ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ไม่ลงเลือกตั้งเพื่อเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีต่อแล้ววางมือทางการเมือง บางทีพรรคก้าวไกลอาจจะไม่ชนะถล่มทลายขนาดนี้ก็ได้ เมื่อคนส่วนหนึ่งเบื่อพล.อ.ประยุทธ์ ภาพของพรรคก้าวไกลซึ่งเป็นนักการเมืองที่ไม่เคยเปื้อนโคลน และสามารถสร้างความโดดเด่นในสภาได้ในสมัยที่ผ่านมา ก็กลายเป็นความหวังของสังคมขึ้นมา

เมื่อพรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ทั้งที่ชนะมาเป็นอันดับ 1 ก็มีคนจำนวนหนึ่งยิ่งมองว่า นี่เป็นกติกาที่ไม่เป็นธรรม ทั้งที่เป็นกติกาที่เกิดขึ้นจากการรับรองเสียงประชามติของประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ และพรรคก้าวไกลลงแข่งขันทางการเมืองและรับรู้กติกานั้นมาตั้งแต่ต้น ไม่มีกติกาข้อไหนที่เขียนว่า พรรคอันดับ 1 จะได้เป็นรัฐบาลเสมอไป และเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วกับประเทศในระบอบประชาธิปไตยหลายประเทศ แต่ก็ทำให้คนจำนวนหนึ่งเชื่อว่า ความพลาดหวังนี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนให้พรรคก้าวไกลเติบโตยิ่งกว่านี้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

และปัจจัยสำคัญที่จะทำให้พรรคก้าวไกลได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งหน้าก็คือ ส.ว.ไม่สามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ แต่อย่างไรก็ตามทางเดียวที่พรรคก้าวไกลจะได้จัดตั้งรัฐบาลก็คือ ต้องชนะเลือกตั้งด้วยพรรคเดียวได้เสียงเกินครึ่งของสภา เพราะถ้าพรรคก้าวไกลได้เสียงไม่ถึงครึ่งพรรคการเมืองอื่นก็จะจับมือกันสกัดไม่ให้พรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลอย่างแน่นอน เพราะปัจจัยสำคัญก็คือ รัฐพันลึก (Deep State)ที่ดูแลความมั่นคงของระบอบรัฐ รูปแบบรัฐ และโครงสร้างของสังคมไทยย่อมรู้ว่าพรรคก้าวไกลมีความคิดที่เป็นอันตรายต่อชาติบ้านเมือง

 นอกจากนั้นสิ่งที่อาจทำให้การเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคก้าวไกลอาจจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คาดหวังก็คือ การทำลายจากภายในของตัวพรรคก้าวไกลเอง และนักการเมืองของพรรคก้าวไกลหลายคนที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาจากกระแสในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความด้อยประสิทธิภาพ เพราะพรรคไม่ได้คัดกรองคนที่มีคุณภาพมาเป็นผู้แทน เราจึงเห็นนักการเมืองจากพรรคก้าวไกลที่มีเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้นหลายคน นอกจากนั้นยังเต็มไปด้วยคนที่มีคดีความต่างๆ มากมาย และเราเห็นได้ว่า มีส.ส.ของพรรคก้าวไกลคนหนึ่งเป็นอดีตนักวิ่งราวที่เคยถูกจำคุกมาแล้ว

ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบคุณภาพ เพราะคนจำนวนมากที่ออกไปเลือกพรรคก้าวไกลยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้สมัครชื่ออะไร เคยมีประวัติทำงานอะไรมาบ้าง เคยมีเกียรติประวัติอย่างไร มีความคิดสติปัญญาแค่ไหนที่จะนำพาสังคมและเป็นตัวแทนของประชาชนในสภา แต่ออกไปกาเพราะหวังเลือกพรรคก้าวไกลเท่านั้นเอง หลายคนจึงไม่เคยมีประสบการณ์การทำงานอะไรมาก่อน ไม่รู้หัวนอนปลายตีน หลายคนแม้แต่ภาษีก็ยังไม่เคยเสีย

เมื่อเรื่องเหล่านี้ค่อยๆ ปรากฏขึ้น เชื่อว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าที่ไม่มีกระแสเลือกเพื่อเบื่อรัฐบาลลุงแล้ว คนในสังคมจะใช้สติโดยการพิจารณาผู้แทนที่จะเลือกมาเป็นส.ส.มากขึ้น เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยกับที่เลือกส.ส.ของพรรคก้าวไกลหลายคนที่เมื่อรู้ตัวตนที่มาที่หลังหลังจากเลือกไปแล้วก็ตกใจตัวเองว่าเลือกมาเป็นผู้แทนได้อย่างไร

 ไม่เพียงแต่เท่านั้นหลายคนก็คงตกใจกับอุดมการณ์ความคิดของพรรคก้าวไกลที่แสดงตัวเป็นพรรคซ้ายจัด ที่เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่อยากจะให้สังคมไทยสวิงไปถึงขั้นนั้น พรรคก้าวไกลนอกจากมีแนวคิดที่ท้าทายต่อการดำรงอยู่ของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่พวกเขาต้องการปฏิรูป ลดทอนบทบาทและสถานะของพระมหากษัตริย์แล้ว พวกเขายังมีแนวคิดอย่างชัดเจนที่จะลดทอนบทบาทและสถานะของกองทัพและบั่นทอนความมั่นคงของชาติด้วย เช่น การต้องการตัดงบประมาณกองทัพ ลดการจัดซื้ออาวุธ ลดกำลังทหาร ยุบกอ.รมน. และศอบต.ที่ดูแลความมั่นคงในสามจังหวัดภาคใต้และสงขลาบางส่วน แล้วยังมีแนวคิดที่เอนเอียงไปตามเสียงเรียกร้องเอกราชของพวกแบ่งแยกดินแดนด้วย

นโยบายเอียงซ้ายของพรรคก้าวไกล ยังมุ่งเน้นที่จะสร้างรัฐสวัสดิการ ถ้ารวมเงินนโยบายประชานิยมต่างๆที่พวกเขาใช้ในการหาเสียง ตั้งแต่แจกเงินเด็กแรกเกิดไปจนถึงคนชราคนตาย นโยบายประชานิยมรวมๆกันหลายเรื่องของพรรคก้าวไกลต้องใช้เงินจำนวนมาก ว่าไปแล้วอาจจะใช้เงินมากกว่านโยบายแจกเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทยเสียอีก แน่นอนรัฐสวัสดิการถ้าเราฟังโดยความหมายก็จะเป็นเรื่องที่ดี แต่คำถามว่า เรามีเงินมากพอจากการเก็บภาษีเพื่อสร้างรัฐสวัสดิการให้เทียบเท่ากับหลายประเทศในยุโรปได้ไหม เมื่อคนไทยทั้งประเทศมีคนที่เสียภาษีเงินได้เพียง 4 ล้านคน แล้วรัฐจะเอาเงินจากไหน

ถ้าเราเห็นคนรุ่นใหม่ที่เคลื่อนไหวบนถนนเรียกร้องปฏิรูปกษัตริย์ โดยมีพรรคก้าวไกลให้ท้ายแล้ว เรายังได้ยินพวกเขาเรียกร้องรัฐสวัสดิการด้วย เพราะคนรุ่นใหม่เหล่านี้ถูกศาสดาของพวกเขาทำให้เชื่อว่า รัฐต้องอุดหนุนค้ำจุนไปตลอดตั้งแต่เกิดลืมตาดูโลกเติบโตเป็นหนุ่มสาวจนแก่แล้วตายจากโลกนี้ไป เราได้ยินคนรุ่นใหม่ตะโกนว่า ภาษีเรา ภาษีเราเพื่อเรียกร้องเอาจากรัฐ ซึ่งสวนทางกับความเป็นจริงที่พวกเขาได้ตอบแทนประเทศนี้

การเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคก้าวไกลจะชนะถล่มทลายได้เสียงข้างมากในสภาเพื่อปกครองประเทศนี้ และเปลี่ยนแปลงประเทศไปตามนโยบายเอียงซ้ายของพวกเขาหรือไม่ ก็อยู่คนไทยทุกคนจะตระหนักว่าต้องการให้ประเทศเป็นอย่างไร เราจะเลือกผู้แทนของเราจากความรู้ความสามารถ ศึกษาตัวตนของคนที่เราจะเลือกเสียก่อนว่า พวกเขามีความรู้ความสามารถที่จะนำพาประเทศของเราหรือไม่ หวังว่าคงจะมีสติในการเลือกกันมาขึ้นไม่เหมือนครั้งนี้ที่เข้าคูหาไปกาตามกระแสโดยไม่รู้เลยว่าคนที่ตัวเองเลือกเป็นใคร

 กระแสที่เกิดขึ้นและสร้างโดยพรรคก้าวไกลอาจจะชี้นำสังคมได้อย่างมากมายในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา แต่การเลือกตั้งครั้งต่อไปที่จะเดิมพันประเทศของเรา สิ่งที่เราต้องใช้ให้มากกว่าการทำตามกระแสก็คือ สติคิดไต่ตรองว่าเราจะให้ประเทศของเราเดินไปตามที่แนวทางที่พรรคก้าวไกลจะนำพาเราไปไหม

ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan


กำลังโหลดความคิดเห็น