xs
xsm
sm
md
lg

ระหว่างแพทองธารกับพิธา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ



สมการการเมืองที่เปลี่ยนไปหลังการเลือกตั้ง ทำให้พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลซึ่งเคยเป็นพันธมิตรกันและเรียกฝั่งตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตยต้องเดินแยกทางกัน แล้วจะเผชิญหน้าห้ำหั่นกันอย่างรุนแรงในการเลือกตั้งครั้งหน้า และจะวัดกันระหว่างพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และแพทองธาร ชินวัตรว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31

พรรคฝ่ายอนุรักษนิยมเดิมซึ่งมีพรรคหลักอย่างพรรคประชาธิปัตย์นั้นอยู่ในสถานการณ์ที่หนักหนาสาหัสยากจะพื้นคืนมาในเร็ววัน พรรครวมไทยสร้างชาติถ้าขาดแม่เหล็กอย่างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในเลือกตั้งครั้งหน้าก็หมดความหมาย เชื่อว่าครั้งหน้าหลายคนจะออกไปจากพรรคที่แปรสภาพเป็นพรรคของ กปปส.ไปแล้ว ส่วนพรรคพลังประชารัฐก็อาจจะรักษาเก้าอี้เอาไว้ได้ระดับที่เป็นอยู่ถ้าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังเล่นการเมือง แต่โอกาสที่จะแตกกระฉานซ่านเซ็นในการเลือกตั้งครั้งหน้านั้นมีมาก ในขณะที่พรรคภูมิใจไทยและพรรคชาติไทยพัฒนาไม่น่าจะโตไปมากกว่านี้

พรรคที่จะหยุดความแรงของพรรคก้าวไกลได้จึงมีเพียงพรรคเพื่อไทยพรรคเดียว โดยที่พรรคเพื่อไทยมีแต้มต่อคือ รักษาความเป็นพรรคอันดับ 1 ไว้ในขั้วรัฐบาลเวลานี้ และจับมือกันตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก ในขณะที่เงื่อนไขของพรรคก้าวไกลมีทางเดียวที่จะได้เป็นรัฐบาลก็คือ ต้องได้จำนวน สส.พรรคเดียวเกินครึ่งของสภาฯ เพราะหากไม่ได้ตามเป้าพรรคอื่นก็จับมือกันตั้งรัฐบาลเพื่อสกัดกั้นพรรคก้าวไกลที่ไม่มีพรรคไหนอยากร่วมสังฆกรรมด้วย

ความได้เปรียบของพรรคเพื่อไทยอีกอย่างก็คือ ขุมพลังทางอำนาจแฝงที่อยู่เบื้องหลังการเมืองไทยทั้งหมดจะจับมือกับพรรคของทักษิณเพื่อสกัดกั้นพรรคก้าวไกลที่เป็นอันตรายต่อระบอบและรูปแบบของรัฐไม่ให้เข้ามามีอำนาจเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ไม่ให้เหมือนเดิมอีกต่อไป แม้เราอาจจะเห็นเครือข่ายของฝ่ายอนุรักษนิยมและบรรดาอินฟลูเอนเซอร์ของฝ่ายอนุรักษ์หลายคนเลยที่ยังทำใจยอมรับพรรคเพื่อไทยและทักษิณไม่ได้ แต่ถามว่าพวกเขามีทางเลือกไปกว่านี้หรือ

เงื่อนไขสำคัญอีกอย่างก็คือ การเลือกตั้งครั้งหน้ารัฐธรรมนูญจะออกแบบอย่างไร พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลและเป็นเจ้าภาพสำคัญของการร่างรัฐธรรมนูญจะวางแบบแปลนทางการเมืองไว้อย่างไร เมื่อเห็นจากการเลือกตั้งครั้งนี้แล้วว่า ในหลายเขตแม้พรรคก้าวไกลจะไม่เข้าเป้าแต่คะแนนบัญชีรายชื่อนำมาเกือบทุกจังหวัด จนทำให้ได้ สส.บัญชีรายชื่อจำนวนมาก คำถามสำคัญว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะออกแบบให้มี สส.บัญชีรายชื่ออยู่อีกไหม หรือจะเหลือเพียง สส.เขตอย่างเดียวที่พรรคเพื่อไทยมีความจัดเจนมากกว่า

ส่วนพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้าทักษิณจะกลับมากุมบังเหียนพรรคเต็มตัวอยู่เบื้องหลังการขับเคลื่อนทางการเมือง และเดิมพันของทักษิณก็คือ ผลักดันอุ๊งอิ๊ง แพทองธารขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนพิธาเที่ยวหน้าก็อาจจะเป็นตัวชูโรงมีโอกาสร้องลิเกออกแขกฮูเลวันลาเป็นครั้งสุดท้าย เพราะรอบต่อไปเจ้าของโรงลิเกก้าวไกลคือธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จะพ้นโทษแบนทางการเมืองกลับมา

ถึงแม้พรรคเพื่อไทยแต่งตั้งคนรุ่นใหม่ทั้งหมดเข้ามาเป็นกรรมการบริหารพรรค แล้วถอยคนรุ่นเก่าทั้งหมดไปอยู่หลังฉาก แต่ก็คงจะช่วงชิงเสียงจากคนรุ่นใหม่ของพรรคก้าวไกลได้ยาก ทางเดียวที่ต้องทำให้ได้ก็คือช่วงชิงเสียงของคนชั้นกลางในชุมชนเมืองที่หันไปเลือกพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วกลับมา ซึ่งน่าจะฝากความหวังไว้กับรัฐบาลเศรษฐาว่าจะเรียกศรัทธาให้กลับมาได้แค่ไหน

ถึงตอนนี้คงต้องบอกว่าแต้มต่อของพรรคเพื่อไทยยังคงเหนือกว่าเพราะมีพันธมิตรการเมืองหลายพรรค ในขณะที่พรรคก้าวไกลนั้นโดดเดี่ยวพรรคเดียวไม่มีพรรคไหนเอาด้วย ส่วนพรรคเป็นธรรมเที่ยวนี้เป็นเพียง สส.ส้มหล่นได้ สส.เพราะมีดวงจับเบอร์พรรคได้อันดับต้นๆ แล้วคนลงคะแนนสับสนทำให้พรรคที่ได้เบอร์ 1 ถึง 6 ได้ สส.พรรคละ 1 คน

พรรคก้าวไกลนอกจากไม่มีพันธมิตรทางการเมืองและไม่มีใครอยากร่วมรัฐบาลด้วยแล้ว สถานการณ์ตอนนี้ของพรรคกำลังจะก่อเกิดวิกฤตศรัทธาในกลุ่มคน 14 ล้านเสียงที่ไปลงคะแนนเลือกพรรคก้าวไกลเพราะได้ สส.ด้อยคุณภาพจำนวนมาก ในบรรดา สส.ของพรรคก้าวไกลทั้งหมดตอนนี้สปอตไลต์ยังส่องไปไม่ทั่ว แต่ได้นักวิ่งราวมาเป็น สส.คนหนึ่ง และอีกสองคนต้องขับออกจากพรรคเพราะถูกร้องเรียนว่า ล่วงละเมิดทางเพศ

ขณะที่หลายคนที่ไปเลือกพรรคก้าวไกลเพราะเบื่อหน่ายการเมืองเก่าและอยากเปลี่ยนแปลงทางการเมือง แต่เลือกไปโดยไม่รู้ว่าประวัติของคนที่เลือกเป็นอย่างไร เคยทำอะไรที่ไหน ก็ต้องตกใจกับ สส.ที่ตัวเองเลือกมาเมื่อทราบผลเลือกตั้ง และเมื่อมีอำนาจแล้วก็ไม่ต่างกับพรรคอื่น เพราะมีข่าวออกมาว่า สส.ของก้าวไกลแย่งเก้าอี้สำคัญในกรรมาธิการกันเองจนอุตลุดไปหมด

ถ้าถามว่าพิธากับอุ๊งอิ๊งใครมีดีกว่ากัน พิธาในฐานะที่อายุมากกว่าเลือกตั้งครั้งหน้าก็จะ 40 ปลายๆ แล้วก็อาจจะผ่านโลกมามากกว่า ส่วนอุ๊งอิ๊งสมัยหน้าก็จะขึ้นเลข 4 พิธาอาจจะมีโปรไฟล์ทางการศึกษาที่ดีกว่า เพราะผ่านมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกมา ส่วนอุ๊งอิ๊งนั้นมีข้อครหาในเรื่องข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยรั่ว พิธาแม้จะเคยทำงานมาบ้าง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ และบริหารกิจการในครอบครัวล้มเหลว ส่วนอุ๊งอิ๊งนั้นเกิดมาคาบช้อนเงินช้อนทอง ไม่เคยมีประวัติว่าเคยทำงานที่ไหนมาก่อนหรือแม้แต่เข้าไปบริหารธุรกิจของครอบครัวก็ไม่เคยได้ยินมาเลย แต่อุ๊งอิ๊งมีข้อดีคือ ได้มอบหมายบทบาทจากเศรษฐาในฐานะนายกรัฐมนตรีฝึกงานผ่านคณะกรรมการชุดต่างๆ ที่ตั้งอุ๊งอิ๊งเข้าไปมีบทบาทในสมัยนี้

วันนี้พิธาไปไหนยังแนะนำตัวเองว่าเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย แม้โลกแห่งความจริงจะจบไปแล้ว แต่โลกแห่งความฝันของเขายังอยู่พิธาจึงมีความมุ่งหวังและทะเยอทะยานอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ส่วนอุ๊งอิ๊งนั้นเราเห็นแล้วว่าเธอเป็นสายเลือดของพ่อตัวจริงในบรรดาพี่น้องสามคน และทักษิณก็หมายมั่นปั้นมือว่าจะให้ลูกสาวคนนี้สืบสายเลือดทางการเมืองขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้

แต่ไม่ว่าทั้งสองคนจะมีประวัติและที่มาอย่างไรด้วยสภาพแวดล้อมทางการเมือง กติกาแบบสังคมไทย และการเมืองแบบสังคมไทยในการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีครั้งหน้าก็ไม่มีทางพ้นไปจากสองคนนี้ และมีคนใดคนหนึ่งจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศนี้อย่างแน่นอน

ถ้ารัฐบาลเศรษฐาอยู่ครบเทอมก็อีก 3 ปีกว่าจะเลือกตั้ง อาจจะมีคนบอกว่าถึงตอนนั้นสถานการณ์การเมืองอาจจะเปลี่ยนแปลงไป เกิดเงื่อนไขใหม่ขึ้นมา หรือมีดาวดวงใหม่จรัสแสงขึ้นมา แต่ผมคิดว่า คงไม่มีอะไรจะเปลี่ยนแปลงไปมากกว่านี้ สำหรับนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 นอกจากเสียว่า เศรษฐาจะประสบอุบัติเหตุทางการเมืองหรือไม่ทักษิณกดปุ่มเพื่อให้เศรษฐาถอยเพื่อผลักดันลูกสาวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่สมัยนี้

ด้วยเงื่อนไขต่างๆ ตามที่ว่ามาและการกลับสู่การเมืองของทักษิณหลังพ้นคุก นายกรัฐมนตรีคนต่อไปของประเทศนี้โอกาสของอุ๊งอิ๊งแพทองธารจึงมีมากกว่าพิธา
 
 ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan


กำลังโหลดความคิดเห็น