อย่าเอาชื่อของฉันไปอ้าง

สดๆ ร้อนๆ จากนายกฯ เศรษฐา ที่อ้างว่าเป็นตัวแทนประชาชน เพื่อไม่ให้มีการวิพากษ์วิจารณ์โครงการหลายอย่างที่น่าจะพังพาบ หลังมีเสียงดาหน้าคัดค้านจากปัญญาชนระดับหัวกะทิของไทย...นายกฯ เอาชื่อประชาชนมาอ้าง ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ใช่ สส.ที่มาจากการเลือกตั้ง แต่มาจากการยกมือพึ่บพั่บของ สว.ที่ก็ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเช่นกัน

ประชาชนมักถูกนำมาอ้างเสมอ ไม่ว่าจะเป็นจาก สส.หรือ สว.ทั้งในไทยและในหลายประเทศ ทั้งๆ ที่ประชาชนส่วนใหญ่จะนั่งเงียบ...ดังคำของปธน.นิกสัน ว่าเป็น Silent Majority ซึ่งมักเป็นกลางๆ ไม่สุดขั้วไปทางซ้ายและขวา

แต่เหตุการณ์สังหารหมู่พลเรือนจากการยิงขีปนาวุธและปืนใหญ่เข้าใส่บ้านเรือน, โรงพยาบาล, โรงเรียน รวมทั้งค่ายผู้อพยพ ทั้งในกาซา, รอมัลลอฮ์-ฝั่งตะวันตกแม่น้ำจอร์แดน จนถึงดินแดนเยรูซาเลมตะวันออก; ทำให้ยอดคนปาเลสไตน์ในกาซาสูงเกิน 1 หมื่นคน โดยมีเด็กตายถึงกว่า 40% คือกว่า 4,000 คน และมีคนบาดเจ็บเกิน 30,000 คนในกาซา; แต่ที่รอมัลฮอล์ก็เริ่มมีการถล่มค่ายผู้อพยพชาวปาเลสไตน์ และทำให้ยอดคนตายในค่ายกว่า 200 ราย ขณะที่ทหารและพลเรือนชาวอิสราเอลตายไป 1,400 คนในเช้าตรู่วันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม และมีทหารอิสราเอลตายเพียงไม่ถึง 50 คนหลังการพยายามบุกภาคพื้นดินเข้ากาซา

การตัดน้ำ, ตัดไฟ, ตัดทางเข้าของอาหาร และน้ำมันเตาปั่นไฟในโรงพยาบาล รวมทั้งล่าสุดโรงพยาบาลบางแห่งไม่เพียงถูกขีปนาวุธระเบิดจนคนไข้ตายจำนวนมาก แม้หลังคาที่เป็น Solar Panels เพื่อผลิตพลังงานให้โรงพยาบาลก็ถูกขีปนาวุธระเบิดเรียบหมด เพื่อให้คนปาเลสไตน์ต้องตายด้วยอดอยากขาดน้ำ ขาดอาหาร ขาดไฟมาต้มน้ำฆ่าเชื้อโรค (ตักน้ำบ่อขึ้นมาดื่ม…หรือไปเอาน้ำจาก Swimming Pool บางแห่งมาดื่มกันสดๆ!?)...กับคำสั่งจาก Bibi ให้คนปาเลสไตน์อพยพออกจากตอนเหนือให้หมด...ให้รีบเดินทางไปทางใต้ เพราะจะปฏิบัติการระเบิดกวาดบ้านเรือนให้พินาศหมด แต่คนแก่หลายคนเดินทางไม่ได้ ก็จะต้องตายในบริเวณตอนเหนือ ขณะที่ทหารอิสราเอลเปิดปฏิบัติการระเบิดค่ายผู้อพยพ และทางตอนกลางของกาซา รวมถึงภาคใต้ด้วย

จุดหมายของนายกฯ Bibi ซึ่งถูกประกาศจากสารพัดทิศว่าคือ ฆาตกรสงครามที่รอขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศที่กรุงเฮก ในการกระทำที่เป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์

ปธน.ไบเดน พยายามต่อโทรศัพท์ถึง Bibi เพื่อขอร้องให้ระวังการฆ่าพลเรือนในกาซา และขอให้หยุดยิงโดยเลี่ยงจะใช้คำว่า Humanitarian Ceasefire มาเป็น Humanitarian pauses ให้ฟังดูว่าจะเป็นแค่ “เว้นวรรคสั้นๆ” แทนจะเป็นหยุดยิงเป็นหลายๆ วัน

ถึงขนาดนั้น ฆาตกรสงครามอย่าง Bibi และรมต.กลาโหม Gallantz ก็บอกว่า ไม่ยอมแน่นอน ซึ่งรมต.กลาโหมฆาตกรเลือดเย็นบอกว่า ทหารอิสราเอลต้องฆ่ามันให้ตาย ไอ้พวก Human Animals หรือพวกสัตว์ (ในร่างมนุษย์)…สะท้อนคำพูดของกิตติพุทโธในช่วง 6 ต.ค. 2519 ที่ว่า “ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป” และทั้งๆ ที่บทบัญญัติข้อแรกใน 10 ข้อของศาสนายิวและคริสต์คือ “Thou Shall not Kill” คือ พระเป็นเจ้าพร่ำสอนว่า การฆ่าผู้อื่นเป็นบาปก็ตาม และอย่างที่เลขาฯยูเอ็นและผู้นำอีกหลายคนที่บอกว่า ถ้าฮามาสทำสิ่งที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมในเช้าวันที่ 7 ตุลาคม แต่ทหารอิสราเอลก็ต้องไม่ทำแบบเดียวหรือยิ่งกว่าที่ฮามาสได้กระทำต่อเพื่อนมนุษย์ (พลเรือน) ด้วยกัน!!

ขณะที่ในช่วงสุดสัปดาห์ในหลายๆ เมืองใหญ่ ทั้งในตะวันตกและในหลายประเทศในอาหรับ รวมทั้งในอาเซียนคือ ที่มาเลเซีย และอินโดนีเซีย จะมีปชช.หลายศาสนาออกมาเดินขบวนประท้วงการกระทำเหี้ยมโหดของกองทัพอิสราเอลภายใต้การนำของฆาตกร Bibi ที่ตั้งมั่นจะกวาดล้างชาวปาเลสไตน์ให้หมดสิ้นจากแผ่นดินของพวกเขาที่อยู่กันมาเป็นพันๆ ปี และได้ปฏิบัติการปล้นดินแดนบ้านเรือนของชาวปาเลสไตน์ทั้งในกาซา และรอมัลลอฮ์อย่างโหดร้ายป่าเถื่อนเกินมนุษย์

แม้แต่ชาวยิวส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความโหดร้ายกับชาวปาเลสไตน์ ได้ออกมาร่วมเดินขบวนประท้วงการกระทำของรัฐบาล Bibi โดยถือป้าย “Not in My Name” คือ นายBibi อย่านำชื่อและความเป็นคนยิวของฉัน-และอีกมากมายทั่วโลกไปแอบอ้างว่า เห็นชอบกับการกระทำอาชญากรรมต่อหญิงและเด็ก และคนชราในครั้งนี้

รวมทั้งเหล่าญาติของชาวยิวที่ถูกจับไปเป็นเชลยศึกหรือตัวประกันโดยฝ่ายฮามาสได้ส่งตัวแทนไปพบกับ Bibi และทั้งกดดันและขอร้องไม่ให้ Bibi ออกคำสั่งถล่มกวาดล้างกาซา เพราะตัวประกันจะได้รับอันตรายจากระเบิดเหล่านั้นด้วย

แต่ Bibi ไม่ฟังทั้งสิ้น จะบุกทำลายกาซาหรือฆ่าล้างให้สิ้นซากชาวปาเลสไตน์ โดยมีแผนจะเข้าปกครองกาซาทั้งหมด (แม้รมต.ต่างประเทศ Blinken จะพยายามเสนอให้องค์การปกครองปาเลสไตน์ที่รอมัลลอฮ์-ที่ไม่ติดอาวุธ-เข้ามาปกครองกาซาแทนฮามาสก็ตาม) ล่าสุดมีข่าวว่า...เมื่ออียิปต์และจอร์แดนไม่ยอมเปิดเขตแดนรับชาวกาซาเข้าลี้ภัยสงคราม นายBibi กำลังเจรจาจะผ่องถ่ายคนปาเลสไตน์ เจ้าของแผ่นดินที่น่าสงสารเหล่านี้ จะถูกส่งไปอยู่ที่แคนาดา!!

บรรดานักแสดงชายหญิงที่ฮอลลีวูดจำนวนหนึ่ง นำโดยซูซาน เซราดอน ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้หยุดยิงฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ทันที และให้มีการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมด้วย รวมทั้งแองเจลินา โจลี ก็ร่วมประท้วงการฆ่าชาวปาเลสไตน์ด้วย

เช่นเดียวกับปัญญาชนอเมริกันที่เป็นชาวยิวเด่นๆ เช่น ศาสตราจารย์เจฟฟรีย์ แซคส์ สอนที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย NY., NY. และเป็นที่ปรึกษาเลขาธิการยูเอ็น และโครงการการพัฒนาที่ยั่งยืนของยูเอ็น; ศาสตราจารย์นอม ชอมสกี้ นักวิชาการที่ MIT ต่อต้านสงครามไม่เป็นธรรมที่เวียดนาม และเขียนหนังสือหลายเล่ม เพื่อหยุดยั้งการปล้นดินแดนปาเลสไตน์ของชาวยิวที่ตั้งถิ่นฐานในดินแดนนั้น พร้อมกับ สว.คนดัง เบอร์นี แซนเดอร์ส ที่ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลอิสราเอลหยุดยิงทันที หรือหยุดฆ่าพลเรือนและช่วยเหลือด้านมนุษยชนแก่ชาวปาเลสไตน์ที่กาซา (และกำลังลามไปที่รอมัลลอฮ์); และต้องการให้นำข้อเสนอเมื่อ 30 ปีก่อน ให้มีการดำรงอยู่ทั้งสองรัฐแทนที่จะเป็นรัฐอิสราเอลรัฐเดียว