ไม่เป็นไปตามแผนที่นายกฯ อิสราเอลสายเหยี่ยว เบนจามิน เนทันยาฮู หรือที่มีชื่อเรียกสั้นๆ ว่า “บีบี” ได้บรรจงผลักดันเพื่อหาทางที่เขาจะรอดพ้นจากการพิพากษาของศาล ในคดีฉ้อราษฎร์บังหลวงมากกว่า 1 คดีที่กำลังงวดเข้ามา
เขากลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้งแม้เสียงจะปริ่มน้ำมากสำหรับรัฐบาลผสมครั้งนี้ แต่พรรคร่วมรัฐบาลก็เป็นพรรคที่เคร่งศาสนาอย่างตกขอบ และมีความเป็นอนุรักษนิยมอย่างสูง
ด้วยเล่ห์กลที่แพรวพราวของบีบี เขารีบเสนอร่างกฎหมายเข้าสภา ที่เขามั่นใจว่าจะมีเสียงของพรรครัฐบาลผสมมากพอจะผ่านร่างกฎหมายนี้ โดยยกเอาฉากบังหน้าว่า เป็นกฎหมายเพื่อปฏิรูปขบวนการของรัฐธรรมนูญ
สาระสำคัญคือ ลดอำนาจของคำพิพากษาศาลที่จะตัดสินความผิดของนายกฯ (ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร)
นั่นคือ การจะปลดนายกฯ จะกระทำได้ก็จากการลงคะแนนในสภาเท่านั้น ไม่ใช่จากคำพิพากษาของศาล
ซึ่งบีบีรู้ตัวดีว่าศาลจะตัดสินให้เขามีความผิดเรื่องฉ้อราษฎร์บังหลวง และรับสินบนจากนักธุรกิจ ซึ่งจะทำให้เขาต้องหลุดจากการเป็นนายกรัฐมนตรี และจะหมดสิทธิทางการเมืองในการลงสมัครตำแหน่งทางการเมืองในอนาคต
นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่เขายังคงเดินหน้าสมัคร ส.ส.และพยายามจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ แม้จะต้องร่วมกับพรรคที่เคร่งศาสนาก็ตาม
ก็เพื่อหาทางเปลี่ยนกฎหมายสำคัญที่จะทำให้เขาต้องอยู่เหนือคำพิพากษานั่นเอง
ทำให้ประชาชนที่รู้ทันบีบีได้ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านร่างกฎหมายฉบับนี้ ตั้งแต่กลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา
เวลาผ่านมา 2 เดือนได้มีแนวร่วมต้านกฎหมายฉบับนี้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยสหภาพแรงงานในสาขาอาชีพต่างๆ ประกาศเข้าร่วมและประกาศนัดหยุดงานทั้งประเทศ จนทำให้ประเทศเป็นอัมพาตในปลายมีนานี้
ทั้งร้านค้าปลีกก็ร่วมปิดร้านเพื่อประท้วงกฎหมายของบีบี
รวมถึงธนาคารต่างๆ ก็ปิดทำการ และสถาบันการศึกษาก็หยุดเรียน
ทั้งหมอ, พยาบาล, บุคลากรทางการแพทย์เข้าร่วมอย่างคับคั่ง
แน่นอนสหภาพแรงงานใหญ่สุดด้านขนส่งคมนาคมก็เข้าร่วม
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีคนเข้าร่วมประท้วงถึงเกือบ 1 ล้านคน เฉพาะสมาชิกของสหภาพก็เกือบ 1 ล้านแล้ว
รวมทั้งทหารเกณฑ์ชุดใหม่ก็เข้าร่วมประท้วงด้วย โดยออกแถลงการณ์ไม่ยอมไปรายงานตัวเพื่อเข้ากรมกอง!
ที่ทั้งเมืองเป็นอัมพาตก็เพราะรมต.กลาโหม โยอาฟ กาแลนท์ ซึ่งเป็นนายทหารเก่าได้ออกมาร่วมกับผู้ประท้วง และประกาศขอให้นายกฯ บีบีหยุดการผลักดันนำร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านสภา เพราะทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ เมื่อประชาชนออกมาประท้วงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศขณะนี้
ประชากรของอิสราเอลมีแค่ 9 ล้านกว่าเท่านั้น แต่มีคนออกมาประท้วงถึง 10% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องสั่นสะเทือนครั้งแรกในประวัติศาสตร์
รมต.กลาโหมท่านนี้นับว่ากล้าหาญทางจริยธรรมมาก และมองเห็นว่า เมื่อประชาชนแตกแยกขนาดนี้ ย่อมกระทบต่อความมั่นคงของชาติอย่างยิ่ง ซึ่งจะส่งผลต่อตัวนายกฯ บีบีเองที่อาจถูกกดดันต้องลาออกในที่สุด
มีสมาชิกชั้นนำของพรรคลิคุดของนายกฯ บีบี หลายคนก็ได้ออกมาแสดงความห่วงใยถึงเสถียรภาพของรัฐบาล และความมั่นคงในตำแหน่งของนายกฯ บีบี
หลายคนเป็นห่วงอนาคตของพรรคลิคุดว่า อาจเสียคะแนนนิยมจากประชาชนในการเลือกตั้งครั้งหน้า
ไม่เพียงรมต.กลาโหม และสมาชิกพรรคลิคุดที่ออกมากดดันผ่านสื่อสาธารณะ ขอให้นายกฯ ถอนร่างกฎหมายนี้ออกจากสภา
ขนาด ปธน.ก็ถึงกับออกมาขอให้รัฐบาลหยุดเดินหน้านำกฎหมายนี้ให้ผ่านสภา...ท่านบอกว่า เพื่อหยุดยั้งไม่ให้บ้านเมืองแตกแยกเป็นฝักฝ่ายขนาดนี้ ท่านขอให้รัฐบาลหยุดดำเนินการผลักกฎหมายให้ผ่านสภาโดยทันที เพื่อหยุดไม่ให้ประเทศต้องแตกแยกไปกว่านี้!!
นายกฯ บีบีได้แถลงสดผ่านทีวีในค่ำวันจันทร์ว่า เขาจะ “เลื่อน” โดยชะลอการผลักดันร่างกฎหมายนี้ผ่านสภาในทันที
และจะเปิดรับฟังความคิดเห็นในรายละเอียดของร่างกฎหมายนี้ เพื่อหาทางแก้ไขก่อนที่จะเสนอเป็นร่างกฎหมายต่อสภา
ก็ถือว่า ยอม “ถอย” บ้าง แต่ก็มีชั้นเชิงว่า หลังการรับฟังข้อแก้ไขแล้ว ก็จะนำเข้าสภาอีกครั้ง
ปรากฏว่า ฝ่ายสหภาพฯ เกิดความไม่ไว้วางใจนายกฯ สายเหยี่ยว ที่แพรวพราวด้วยเล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองมากมาย ก็เกรงว่าพลังของผู้ประท้วง จะถูกหลอกให้สลายการชุมนุม และรัฐบาลก็จะใช้จังหวะทีเผลอ...รีบรวบรัดเอาร่าง (ที่อาจมีแก้ไขเล็กน้อยในสาระที่ไม่ใช่สลักสำคัญ) เข้าสภาเพื่อทำให้ร่างผ่านยามประชาชนเผลอ (คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังเทศกาลสำคัญของชาวยิวช่วงต้นเดือนเมษายนนี้) คือ ในช่วงปลายเมษายนนี้เอง
ผู้ประท้วงส่วนใหญ่ไม่วางใจที่จะเลิกชุมนุม และจะเดินหน้าประท้วงต่อไป
ขณะที่ฝ่ายสนับสนุนร่างกฎหมายนี้ ก็นัดชุมนุมใหญ่ให้ได้ถึง 1 แสนคน จะออกมาประชันแสดงพลังสู้กับผู้ประท้วงฝ่ายสหภาพฯ นั่นเอง
การถอยอย่างมีชั้นเชิง เพื่อซื้อเวลาของบีบี จะจบลงด้วยบีบีจะยอมตามแรงกดดันของประชาชนส่วนใหญ่ หรือเขาจะดื้อดึงยอมหักไม่ยอมงอ ดันกฎหมายที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เอาด้วย...คงจะได้เห็นกันต่อไป