xs
xsm
sm
md
lg

รัสเซียเปิดฉากรบทุกแนว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์


วลาดิมีร์ ปูติน
รัสเซียซึ่งถูกรุมกินโต๊ะในสมรภูมิยูเครนโดยสหรัฐฯ และพันธมิตรกว่า 40 ประเทศทั้งในและนอกสมาชิกนาโต เริ่มเปิดฉากรุกตอบโต้ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ
และการสู้รบ และอยู่บนพื้นฐานของความแข็งแกร่ง

ในสมรภูมิยูเครนกองทัพรัสเซียใช้จรวด ปืนใหญ่ และโดรน ถล่มที่มั่นของทหารยูเครน เครือข่ายระบบสาธารณูปโภคทางไฟฟ้า ประปา โทรคมนาคมและการขนส่งเส้นทางรางรถไฟและถนน

เป็นการรุกก่อนวันครบรอบ 1 ปี วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ของสงครามระหว่าง 2 ประเทศ โดยรัสเซียไม่ยอมรอให้ยูเครนได้รับอาวุธ โดยเฉพาะรถถังจากสหรัฐฯ และพวก ครั้งนี้รัสเซียหวังปิดเกมให้เร็วที่สุด

ช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่หลายจุดที่เคยครอบครองเพื่อปรับยุทธศาสตร์ด้านแนวรบซึ่งฝ่ายยูเครนและพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ เชื่อว่าเป็นความพ่ายแพ้ของรัสเซีย

ในความเป็นจริงการปรับแนวยุทธศาสตร์เพื่อต้องการรักษาชีวิตไม่ให้สิ้นเปลืองกำลังพลในการสู้รบ โดยรัสเซียใช้อาวุธลูกยาวทั้งจรวดและปืนใหญ่ถล่มสร้างความเสียหายให้กองทัพยูเครนมากมาย

แต่สื่อหลักของโลกตะวันตกไม่ได้รายงานความเสียหายและความพินาศย่อยยับของเมืองต่างๆ ในยูเครน โดยสื่อหลักถูกมองว่าเป็นเพียงกระบอกเสียงของสหรัฐฯ และพันธมิตรตะวันตกเท่านั้น

นอกจากแนวรบในสมรภูมิซึ่งรัสเซียได้เตรียมกำลังทหารหลายแสนนาย พร้อมอาวุธใหม่จากโรงงานที่ผลิตยุทโธปกรณ์ 24 ชั่วโมงและทำงาน 7 วัน ขณะที่ฝ่ายตะวันตกอยู่ในสภาพที่คลังแสงร่อยหรอ

มีการประเมินว่าถ้ากองทัพฝ่ายนาโตทำสงครามกับรัสเซีย ฝ่ายตะวันตกจะมีกระสุนเพียงพอไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นเพราะไม่ได้มีการผลิตเพิ่มมากมายหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง

ในช่วงสงครามเย็นจบสิ้นพร้อมกับความล่มสลายของสหภาพโซเวียตฝ่ายสหรัฐฯ และโลกตะวันตกก็คิดว่าจะไม่มีสงครามก็ทำให้ไม่ได้เสริมอาวุธสำรองในคลัง และรัสเซียอยู่ในสภาพอ่อนแอหลายปี

นอกจากการสู้รบกับกองทัพยูเครนซึ่งรออาวุธทุกอย่างจากสหรัฐฯ และพันธมิตรรัสเซียได้แสดงให้เห็นความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจฟื้นตัวจากมาตรการคว่ำบาตรโดยโลกตะวันตก ล่าสุดได้ประกาศว่าเงินทุนสำรองระหว่างประเทศได้สูงถึง 6 แสนล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะทองคำซึ่งมีมูลค่ากว่า 4 แสนล้านดอลลาร์

รายได้เหล่านี้มาจากการขายน้ำมันและก๊าซให้จีน อินเดีย และอิหร่าน รวมทั้งประเทศอื่นๆ เช่นตุรกี เป็นรายได้ที่เติมจากที่รัสเซียโดนยึดเงิน 3 แสนล้านดอลลาร์ที่ฝากไว้ในสถาบันการเงินชาติตะวันตก และถูกยึดไว้ภายใต้มาตรการคว่ำบาตร

รัสเซียได้เพิ่มการค้าขายอย่างมากกับจีน อิหร่าน อินเดีย ซาอุดีอาระเบีย บราซิล และตูนิเซียรวมทั้งประเทศอื่นๆ ในตะวันออกกลางและละตินอเมริกา ซึ่งประเทศเหล่านี้ต่างไม่สนใจคำขู่ของสหรัฐฯ ว่าจะคว่ำบาตรถ้าค้าขายกับรัสเซีย

การค้ากับประเทศเหล่านี้ได้สร้างความแข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจและพลังในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศโดยเฉพาะอินเดียและจีน ทั้งยังสามารถกำหนดราคาน้ำมันดิบร่วมกับกลุ่มโอเปกนำโดยซาอุดีอาระเบีย

ยุโรปซึ่งทำตัวเป็นลูกไล่บริวารของสหรัฐฯ ต่างก็ประสบวิกฤตด้านเศรษฐกิจอย่างหนัก อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นตามราคาพลังงานที่ไม่ได้รับจากรัสเซีย คนยุโรปต้องลำบากกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นรวมถึงสภาพความเป็นชาติอุตสาหกรรมก็ไร้เสถียรภาพเพราะปัญหาพลังงาน

อังกฤษอยู่ในสภาวะย่ำแย่ที่สุดกว่ายุโรปเพราะไม่ได้อยู่ในประชาคมยุโรป และมีการเดินขบวนประท้วงเรียกค่าแรงเพิ่มขึ้นตลอดเวลาจากหลายองค์กร โดยรัฐบาลอังกฤษไม่สามารถเพิ่มเงินให้ได้และต้องกู้เงินเพื่อให้รัฐบาลอยู่รอดเช่นกัน

ด้านการทูตระหว่างประเทศรัสเซียได้ตีโต้สหรัฐฯ เมื่อสภาดูมาของรัสเซียได้มีมติเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติสอบสวนการระเบิดท่อก๊าซใต้ทะเลบอลติก ซึ่งถูกเปิดโปงโดยสื่อคนดังของสหรัฐฯ ว่าประธานาธิบดี โจ ไบเดนเป็นตัวการ

การระเบิดเกิดขึ้นในเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา หลังจากนักดำน้ำสหรัฐฯ ได้นำระเบิดซีโฟร์ไปวางไว้ช่วงการซ้อมรบ และใช้การจุดระเบิดผ่านระบบรีโมตคอนโทรลทำให้ท่อก๊าซ นอร์ดสตรีม 1 และ 2 เสียหาย เป็นแผนของสหรัฐฯ ที่ไม่ต้องการให้เยอรมนีและชาติในยุโรปได้รับก๊าซจากรัสเซียอีกต่อไป

การรุกบนเวทีสากลเช่นนี้จะเป็นการพิสูจน์ความมีน้ำยาของคณะมนตรีความมั่นคงซึ่งรัสเซียเป็นหนึ่งในสมาชิก โดยรัสเซียเรียกร้องว่าการกระทำก่อการร้ายเช่นนี้ต้องมีผู้รับผิดชอบซึ่งหลักฐานที่เปิดโปงด้วยสื่อว่าสหรัฐฯ และนอร์เวย์ร่วมมือกัน

องค์กรซีไอเอ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ รวมทั้งหน่วยงานอื่นต่างปฏิเสธ แต่ที่ผ่านมาการสอบสวนโดยสวีเดนและเดนมาร์กรวมทั้งเยอรมนีได้เปิดเผยว่าการระเบิด ไม่ใช่อุบัติเหตุแต่เป็นการก่อวินาศกรรม

หลังจากการระเบิดประธานาธิบดีโจ ไบเดน และทีมงานต่างรู้สึกดีใจเพราะจะเป็นการเปิดทางให้สหรัฐฯ ขายก๊าซให้ยุโรป และนอร์เวย์ซึ่งผลิตก๊าซ ก็จะได้ขายให้ยุโรปแทนรัสเซียเช่นกัน

สถานการณ์เริ่มเห็นชัดแล้วว่ายูเครนไม่มีวันที่จะชนะรัสเซียได้ ทั้งประเทศยังจะต้องประสบกับความพินาศย่อยยับในหลายเมืองที่เป็นสมรภูมิ ทหารยูเครนเสียชีวิตอาจจะถึง 2 แสนนาย ไม่รวมผู้บาดเจ็บ

ประชาชนยูเครนประมาณ 10 ล้านคน ได้อพยพออกนอกประเทศและพื้นที่ยูเครน 20% ถูกผนวกเข้ากับรัสเซียทำให้ยูเครนเหลือประชาชนเพียง 20 กว่าล้านคน ซึ่งไม่สามารถเป็นแนวหลังสนับสนุนสงครามได้

เมื่อสหรัฐฯ ไม่ยอมแพ้และสั่งให้ยูเครนสู้รบต่อไปคงจะเป็นไปอย่างที่คำประกาศว่าการสู้รบจะมีต่อไปจนเหลือคนยูเครนคนสุดท้าย แต่ประเทศยูเครนคงจะต้องอยู่ในสภาพสิ้นชาติเพราะแม้กระทั่งเพื่อนบ้าน อย่างโปแลนด์จ้องจะฮุบพื้นที่ด้านตะวันตกของยูเครนเช่นกัน

ยูเครนคงเป็นชาติที่ไม่มีอนาคต ตราบใดที่ยังเป็นเบี้ยของสหรัฐฯ ในการทำสงครามกับรัสเซีย ยุโรปจะต้องใช้เวลาหลายปีเพื่อฟื้นฟูความแข็งแกร่งขึ้นอยู่กับว่าจะหยุดสนับสนุนยูเครนเพื่อดูแลตัวเองเมื่อไหร่


กำลังโหลดความคิดเห็น