ทำเนียบขาวนั่งไม่ติด! นักข่าวดังสหรัฐฯ แฉอเมริกาอยู่เบื้องหลังวินาศกรรมท่อลำเลียงนอร์ดสตรีม

ทำเนียบขาวปฏิเสธโดยสิ้นเชิงเมื่อวันพุธ (8 ก.พ.) ต่อรายงานข่าวหนึ่งของ ซีมัวร์ เฮิร์ช นักข่าวสืบสวนสอบสวนคนดังเจ้าของรางวัลพูลิตเซอร์ ที่ระบุว่าสหรัฐฯ อยู่เบื้องหลังเหตุลอบวินาศกรรมท่อลำเลียงนอร์ดสตรีทเมื่อปีที่แล้ว โดยมีจุดมุ่งหมายตัดแหล่งทุนของรัสเซีย

ในรายงานที่เผยแพร่ด้วยตนเอง เฮิร์ช วัย 85 ปี ระบุว่าทีมประดาน้ำทหารเรือของสหรัฐฯ ภายใต้ความช่วยเหลือของนอร์เวย์ เป็นคนวางระเบิดท่อลำเลียงที่ลอดใต้ทะเลบอลติก ระหว่างรัสเซียและเยอรมนี เมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อน และจุดชนวนระเบิดมันในอีก 3 เดือนหลังจากนั้น

เอเดรียน วัตสัน โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ให้จำกัดความรายงานของ เฮิร์ช ที่เขียนบนเพจในเว็บ Substack ว่าเป็น เรื่องโกหกโดยสิ้นเชิง

ส่วนโฆษกสำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) ก็ปฏิเสธในทิศทางเดียวกับทำเนียบขาว เรียกมันว่าเป็นรายงานข่าวที่เป็นเท็จโดยสิ้นเชิง ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศนอร์เวย์ เมื่อถูกถามเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างของ เฮิร์ช ที่ว่าออสโลให้การสนับสนุนปฏิบัติการดังกล่าวเช่นกัน ทางโฆษกตอบโต้ว่า "คำกล่าวอ้างเหล่านี้เป็นเท็จ"

เหตุระเบิดในเดือนกันยายน บรรดาประเทศตะวันตกต่างกล่าวโทษไปที่รัสเซีย โหมกระพือความโกรธแค้นที่มีต่อมอสโกให้หนักหนาสาหัสขึ้นไปอีก ไม่กี่เดือนหลังจากรัสเซียรุกรานประเทศเพื่อนบ้านอย่างยูเครน

อย่างไรก็ตาม จนกระทั่งบัดนี้ ทีมสืบสวนที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่สวีเดน เดนมาร์ก และเยอรมนี ยังไม่ปักธงกล่าวโทษประเทศไหนๆ หรือตัวแสดงตัวใด

เฮิร์ช บอกว่า การวางระเบิดท่อลำเลียง ซึ่งเวลานั้นอยู่ระหว่างระงับปฏิบัติการแต่ยังมีก๊าซค้างท่ออยู่ เป็นตัดการตัดสินใจอย่างลับๆ ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เพื่อตัดศักยภาพของมอสโก ในการทำเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์ จากการขายก๊าซธรรมชาติให้แก่ยุโรป

จากคำกล่าวอ้างของ เฮิร์ช ทางสหรัฐฯ เชื่อด้วยว่าท่อลำเลียงนี้ยังเป็นตัวช่วยให้รัสเซียมีอิทธิพลทางการเมืองเหนือเยอรมนีและยุโรปตะวันตก และมอสโกอาจใช้มันกัดกร่อนพันธสัญญาของเยอรมนีและยุโรปที่มีต่อยูเครน
ตามข้อมูลของ เฮิร์ช ระบุว่า 2 สัปดาห์ก่อนการรุกรานในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ตัวไบเดนเองบอกกับสาธารณชนว่าสหรัฐฯ จะไม่ยอมให้เปิดใช้งานทำลำเลียงใหม่ นอร์ดสตรีม 2 หากว่ารัสเซียโจมตียูเครน

เฮิร์ช อ้างแหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์เอ่ยนามรายหนึ่ง บอกว่าแนวคิดนี้ถูกหยิบยกขึ้นมาครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2021 ระหว่างการพูดคุยหารือกันของบรรดาที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติระดับสูงของไบเดน เกี่ยวกับแนวทางตอบโต้รัสเซีย หากว่ามอสโกเปิดฉากรุกรานยูเครนตามที่คาดหมาย

รายงานของ เฮิร์ช เขียนว่า ซีไอเอเป็นคนคิดแผนนี้ขึ้นมา และในการอำพรางตัวภายใต้ฉากการซ้อมรบของนาโต้ในเดือนมิถุนายน 2022 ทีมประดาน้ำของกองทัพเรือสหรัฐฯ ภายใต้ความช่วยเหลือจากนอร์เวย์ ได้นำระเบิดไปวางที่ท่อลำเลียงที่สามารถจุดชนวนระเบิดได้จากระยะไกล

ท่ามกลางการคาดเดาต่างๆ หลังจากท่อลำเลียงแตกจากแรงระเบิดในวันที่ 26 กันยายน ตะวันตกกล่าวโทษไปที่รัสเซีย ส่วนมอสโกกล่าวหาสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร อยู่เบื้อหลังการลอบก่อวินาศกรรมดังกล่าว

เครมลินในวันพฤหัสบดี (9 ก.พ.) รุดออกมาเห็นด้วยกับ เฮิร์ช นักข่าวสืบสวนสอบสวนชาวสหรัฐฯ ในทันที โดยบอกว่าพวกเขามีความจริงจังกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลินระบุว่ารายงานดังกล่าวเป็นบทความที่ร้ายแรงมากที่ต้องวิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง "มันคงไม่ยุติธรรมเท่าไหร่ หากไม่ให้ความสนใจกับรายงานดังกล่าว เคราะห์ร้ายที่รายงานนี้ไม่ได้ถูกเผยแพร่อย่างกว้างขวางในสื่อมวลชนตะวันตก ซึ่งเราไม่แปลกใจเท่าไหร่"

เปสคอฟ บอกว่ามอสโกมีข้อมูล "ความเกี่ยวข้องของพวกแองโกล-แซกซอน ในการบงการการลอบก่อวินาศกรรมนี้" อยู่แล้ว คำกล่าวหาที่ทางสำนักข่าวเอเอฟพีระบุว่าเป็นสิ่งที่รัสเซียพูดซ้ำๆ แต่ไม่เคยมอบหลักฐานใดๆ ต่อสาธารณะเลย

(ที่มา : เอเอฟพี)