ทีมกู้ภัยลดระดับการค้นหาผู้รอดชีวิตในวันจันทร์ (13 ก.พ.) ปรับแผนมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการรับมือกับหายนะด้านมนุษยธรรมเลวร้ายอันมีต้นตอจากแผ่นดินไหว ซึ่งยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดทั้งในตุรกีและซีเรีย อยู่ที่มากกว่า 37,000 คน
มีความกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ในซีเรีย ซึ่งถูกทำลายล้างอยู่ก่อนแล้วจากสงครามกลางเมืองที่ลากยาวมานานกว่า 12 ปี โดยทางสหประชาชาติต้องเรียกประชุมฉุกเฉินในวันจันทร์ (13 ก.พ.) เกี่ยวกับแนวทางยกระดับมอบความช่วยเหลือแก่พื้นที่ต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของฝ่ายกบฏ ท่ามความเสียงขุ่นเคืองหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ต่อการตอบสนองที่เฉื่อยชาของนานาชาติ สำหรับมอบความช่วยเหลือแก่ประเทศแห่งนี้
ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย ซึ่งถูกโดดเดี่ยวและอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของตะวันตก เรียกร้องความช่วยเหลือจากนานาชาติ สำหรับช่วยบูรณะโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ดินแดนที่ทางสหประชาชาติประเมินว่ามีประชาชนมากกว่า 5 ล้าน ต้องไร้ที่อยู่อาศัย
อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการแห่งสหประชาชาติ เผยว่า อัสซาด ตอบตกลงเปิดจุดผ่านแดนเพิ่ม 2 แห่ง จากตุรกีสู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย เพื่อเปิดทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้ามาในประเทศ
"การเปิดจุดผ่านแดนเหล่านี้ ประกอบกับการอำนวยความสะดวกแก่การเข้าถึงด้านมนุษยธรรม เช่น การเร่งอนุมัติวีซาและผ่อนปรนข้อจำกัดด้านการเดินทางระหว่างศูนย์กลางต่างๆ จะช่วยให้ความช่วยเหลือเข้าไปได้รวดเร็วขึ้น" กูเตอร์เรส กล่าว
7 วันหลังจากแผ่นดินไหวระดับ 7.8 เขย่าอาคารต่างๆ จนพังพินาศทั่วภูมิภาค เรื่องราวแห่งปาฏิหาริย์ยังคงปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับการพบผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง แต่พวกผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าความหวังพบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติมเลือนรางลงทุกขณะ
ในตุรกีในวันจันทร์ (13 ก.พ.) ฮารัน วัย 8 ขวบและอียูฟาน วัย 15 ปี 2 พี่น้อง ได้รับความช่วยเหลือออกมาหลังติดอยู่ใต้ซากปรักหังพังนานกว่า 181 ชั่วโมง ตามหลังแผ่นดินไหวครั้งเข่นฆ่าชีวิตผู้คนมากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของศตวรรษที่ 21 ตามรายงานของสำนักข่าวอันดาโดลู
จากข้อมูลของสำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติและสถานการณ์ฉุกเฉินของตุรกี พบว่าเวลานี้ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ในตุรกี แซงหน้าแผ่นดินไหวครั้งเลวร้ายในปี 1939 ที่คร่าชีวิต 31,643 คน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้มันกลายเป็นแผ่นดินไหวครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคสมัยใหม่ของตุรกี
ส่วนยอดผู้เสียชีวิตในซีเรีย แตะระดับ 5,714 ราย โดยเป็นการนับรวมผู้เสียชีวิตทั้งในดินแดนยึดครองของฝ่ายกบฏและพื้นที่ต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล
ผู้รอดชีวิตขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคและมีสุขาภิบาลที่ย่ำแย่ โดยที่เมืองอดิยามาน ทางภาคใต้ของตุรกี มีรายงานเกี่ยวกับการระบาดของโรคหิด ในประชากรวัยผู้ใหญ่ ส่วนเด็กๆ ต่างล้มป่วยด้วยอาการท้องเสีย
รองประธานาธิบดีตุรกีบอกว่ามีเด็ก 574 คนที่ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า หลังได้รับความช่วยเหลือดึงออกจากซากอาคารหักพัง โดยที่พ่อกับแม่ไม่มีชีวิตรอด และมีแค่ 76 คนเท่านั้นที่มีสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ รับไปเลี้ยงดู
ในเมืองอันตาคยา เครือข่ายโทรศัพท์มือถือเริ่มกลับมาใช้งานได้ในบางพื้นที่ ในขณะที่ตำรวจและทหารถูกส่งเข้าประจำการและคอยลาดตระเวนไปทั่วเมืองเพื่อป้องกันเหตุปล้นสะดม หลังจากก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์การปล้นสะดมหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
หีบห่อความช่วยเหลือ ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้า ถูกแกะออกและกระจัดกระจายอยู่ทั่วถนนในจังหวัดฮาเตย์ ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์เอ็นทีวี ส่วนคลิปวิดีโอหนึ่งเป็นภาพที่เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์รายหนึ่งกำลังโยนเสื้อผ้าแบบสุ่มๆ ไปให้ฝูงคน ในขณะที่ผู้คนพยายามคว้าทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่พวกเขาจะหยิบฉวยได้
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าความพยายามกู้ภัยได้ยุติลงใน 7 พื้นที่ของเมืองคาห์รามันมาราส
Turkonfed สมาคมนายจ้างของตุรกี เผยแพร่รายงานในวันจันทร์ (13 ก.พ.) ประเมินว่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจากภัยพิบัติร้ายแรงครั้งนี้น่าจะสูงถึง 84,100 ล้านดอลลาร์
ในซีเรีย ตัวเลขผู้เสียชีวิตไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมาหลายวันแล้ว แต่คาดหมายว่ายอดที่แท้จริงจะสูงกว่านี้
มาร์ติน กริฟฟิธส์ รองเลขาธิการสหประชาชาติ ฝ่ายกิจการมนุษยธรรมและผู้ประสานงานการบรรเทาทุกข์เหตุฉุกเฉิน นำเสนอรายงานต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในด้านสถานการณ์ในซีเรีย หลังเดินทางลงพื้นที่ประสบภัยเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
"จนถึงตอนนี้เราล้มเหลวช่วยเหลือผู้คนในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย" กริฟฟิธส์ เขียนบรทวิตเตอร์ "ถูกแล้วที่พวกเขารู้สึกเหมือนโดนทอดทิ้ง" เขากล่าว พร้อมระบุว่าหน้าที่ของประชาคมนานาชาติคือ "แก้ไขความล้มเหลวนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่เราจะทำได้"
ขบวนรถบรรทุกของสหประชาชาติ 10 คัน ข้ามชายแดนจากตุรกีเข้าสู่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ผ่านจุดข้ามแดนเพียงแห่งเดียวที่ปิดใช้งานอยู่ บรรทุกชุดที่พักพิงชั่วคราวไปมอบแก่ผู้ประสบภัย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สหประชาชาติบอกว่าพวกเขาต้องการในจำนวนที่มากกว่านี้มาก สำหรับประชาชนหลายล้านคน ซึ่งบ้านเรือนที่พักอาศัยถูกแผ่นดินไหวทำลายโดยสิ้นเชิง
ในวันจันทร์ (13 ก.พ.) ซูดานส่งเครื่องบินซึ่งบรรทุกความช่วยเหลือ 30 วัน บินไปมอบแก่ซีเรีย
ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก พบปะกับ อัสซาด ในวันอาทิตย์ (12 ก.พ.) พร้อมเผยว่าผู้นำซีเรียส่งเสียงถึงความพร้อมสำหรับเปิดจุดผ่านแดนเพิ่มเติม เพื่อช่วยนำความช่วยเหลือเข้าสู่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกบฏ
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ดามัสกัสเคลียร์ทุกอุปสรรคสำหรับขบวนบรรเทาทุกข์จะมุ่งหน้าสู่พื้นที่ต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล แต่ ทีโดรส ยอมรับว่าองค์การอนามัยโลกยังคงรอไฟเขียวของพื้นที่ต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายกบฏ ก่อนเคลื่อนขบวนเข้าไป
(ที่มา : เอเอฟพี/รอยเตอร์)