ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงครอบคลุมพื้นที่อันกว้างขวางของตุรกีและทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียเมื่อวันจันทร์ (6 ก.พ.) เพิ่มเป็นมากกว่า 3,700 ราย และบาดเจ็บนับหมื่นคน ในขณะที่สภาพอากาศหนาวเหน็บซ้ำเติมความทุกข์ยากแก่ผู้ประสบภัยและคนไร้ที่อยู่อาศัย และบั่นทอนความพยายามค้นหาผู้รอดชีวิต
แผ่นดินไหวระดับ 7.8 สั่นคลอนอาคารอพาร์ตเมนต์หลายหลังพังถล่มลงมาตามเมืองต่างๆ ของตุรกี และซ้ำเติมความทุกข์ยากแก่ชาวซีเรียหลายล้านคน ที่ไร้ถิ่นฐานอยู่ก่อนแล้วจากสงครามที่ลากยาวมานานหลายปี
เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเหน็บ และจากนั้นก็ตามมาด้วยแผ่นดินไหวลูกใหญ่อีกลูกในช่วงบ่ายวันเดียวกัน
รายงานระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ถือเป็นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดในโลกที่ทางสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯวั ดได้ นับตั้งแต่เหตุแผ่นดินไหวในพื้นที่ห่างไกลทางใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติกในเดือนสิงหาคม 2021
ในตุรกี ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 2,316 คน จากข้อมูลของสำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติและสถานการณ์ฉุกเฉิน (AFAD) ส่งผลให้มันกลายเป็นแผ่นดินไหวที่เข่นฆ่าชีวิตผู้คนมากที่สุด นับตั้งแต่เหตุแผ่นดินไหวระดับเดียวกันในปี 1999 ซึ่งทำลายล้างภูมิภาคที่มีผู้คนพักอาศัยหนาแน่นทางตะวันออกของทะเลมาร์มารา ใกล้อิสตันบูล สังหารผู้คนไปมากกว่า 17,000 คน
หน่วยฉุกเฉินตุรกีรายงานด้วยว่าจนถึงตอนนี้สามารถช่วยเหลือผู้คนได้แล้วราวๆ 7,340 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 13,293 คน
ส่วนในซีเรีย พบผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวในวันจันทร์ (6 ก.พ.) แล้วอย่างน้อย 1,444 รายและราว 3,500 คนได้รับบาดเจ็บ จากข้อมูลของรัฐบาลดามัสกัส และหน่วยกู้ภัยทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกกบฏ
อย่างไรก็ตาม ด้วยที่การเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่ค่อยดีและท้องถนนที่เชื่อมระหว่างเมืองต่างๆ ทางใต้ของตุรกี พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดและมีประชาชนพำนักอยู่หลายล้านคน ได้รับความเสียหาย มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะประเมินความเสียหายและจัดการกับผลกระทบดังกล่าว
คาดหมายว่าอุณหภูมิในบางพื้นที่จะลดต่ำแตะระดับใกล้จุดเยือกแข็งในยามค่ำคืน ทำผู้รอดชีวิตที่ยังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังและคนไร้บ้านต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายกว่าเดิม นอกจากนี้ ยังมีฝนตกลงมาในวันจันทร์ (6 ก.พ.) หลังจากพายุหิมะเพิ่งซัดเล่นงานประเทศแห่งนี้ไปเมื่อช่วงสุดสัปดาห์
ที่เมืองอิสเคนเดอรุน ของตุรกี หน่วยกู้ภัยปีนขึ้นไปบนกองซากหักพังขนาดมหึมา ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นแผนกผู้ป่วยฉุกเฉินของโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ในความพยายามค้นหาผู้รอดชีวิต
ประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกี เรียกแผ่นดินไหวครั้งนี้ว่าเป็นหายนะครั้งประวัติศาสตร์และแผ่นดินไหวที่เลวร้ายที่สุดที่เล่นงานประเทศนับตั้งแต่ปี 1939 แต่บอกว่าพวกเจ้าหน้าที่กำลังทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ "ทุกคนกำลังทุ่มเททั้งแรงกาย จิตใจและจิตวิญญาณในความพยายามนี้ แม้ท่ามกลางฤดูหนาว สภาพอากาศหนาวเหน็บและแผ่นดินไหวเกิดขึ้นระหว่างค่ำคืน ทำให้สิ่งต่างๆ ยากลำบากกว่าเดิม"
แผ่นดินไหวลูกที่ 2 มีความรุนแรงเพียงพอที่ฉุดให้อาคารบ้านเรือนพังถล่มลงมาเพิ่มเติม และอย่างเช่นลูกแรก มันสามารถสัมผัสแรงสั่นสะเทือนได้ทั่วภูมิภาค ก่ออันตรายแก่ทีมกู้ภัยที่พยายามดึงร่างผู้เสียชีวิตออกจากซากปรักหักพัง
ในซีเรีย ซึ่งเหลือแต่ซากหักพังอยู่ก่อนแล้วจากสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อมานาน 11 ปี ทางกระทรวงสาธารณสุขเผยว่ามีผู้เสียชีวิต 711 ราย ส่วนในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกบฏ เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินรายงานมีผู้เสียชีวิต 733 คน
ที่เมืองอเลปโป ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล ภาพวิดีโอที่เผยแพร่บนทวิตเตอร์ พบเห็นอาคาร 2 หลังที่อยู่ติดกันพังพล่มลงมาติดๆ กัน ก่อฝุ่นมหึมาฟุ้งกระจายไปทั่วถนน
ชาวบ้านในเมืองแห่งนี้ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักจากสงคราม เผยว่าอาคารทั้ง 2 หลังพังถล่มลงมาหลายชั่วโมงหลังเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งสามารถสัมผัสแรงสั่นสะเทือนได้ไกลถึงไซปรัส และเลบานอนเลยทีเดียว
สถานีโทรทัศน์แห่งรัฐเผยแพร่ภาพทีมกู้ภัยกำลังค้นหาผู้รอดชีวิตท่ามกลางฝนตกหนักและลูกเห็บ ขณะที่ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัดซาด เรียกประชุมฉุกเฉินคณะรัฐมนตรี เพื่อประเมินความเสียหายและหารือเกี่ยวกับก้าวย่างถัดไปในการจัดการสถานการณ์ฉุกเฉิน
ในเมืองดียาร์บากีร์ ของตุรกี ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์พบเห็นหน่วยกู้ภัยหลายสิบคนกำลังค้นหาตามซากปรักหักพังที่กองเป็นภูเขา ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นเศษซากของอาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ค่อยๆ ดึงเศษซากต่างๆ ออกมาทีละชิ้น ในความพยายามค้นหาผู้รอดชีวิต บางครั้งชูมือขึ้นขอให้เงียบๆ เพื่อฟังเสียงสัญญาณจากผู้รอดชีวิต
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (6 ก.พ.) บอกว่าเขารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งและสัญญาว่าอเมริกาจะมอบความช่วยเหลือ หลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.8 สั่นสะเทือนตุรกีและซีเรีย เข่นฆ่าชีวิตผู้คนหลายพันราย
แผ่นดินไหวยังทำให้ต้องระงับปฏิบัติการต่างๆ ที่ศูนย์ส่งออกน้ำมันของตุรกีในเคย์ฮาน และหยุดกระแสน้ำมันดิบที่ป้อนมาจากอิรักและอาเซอร์ไบจาน
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)