ตามคำขอ! สหรัฐฯ เรียกประชุมนาโต้และพันธมิตร เล็งมอบอาวุธหนักล้ำสมัยให้ยูเครนขยี้รัสเซีย

นาโต้จะประชุมฉุกเฉินในวันศุกร์ (20 ม.ค.) ท่ามกลางความคาดหมายว่าบรรดารัฐสมาชิกของพันธมิตรทหารแห่งนี้จะแถลงมอบ "อาวุธหนัก" รอบใหม่แก่ยูเครน ขานรับเสียงเรียกร้องของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ที่ขอให้เหล่าผู้สนับสนุนเร่งรัดการตัดสินใจ

ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ จะเรียกประชุมราวๆ 50 ประเทศในวันศุกร์ (20 ม.ค.) ณ ฐานทัพทหารรัมสไตน์ ของสหรัฐฯ ในเยอรมนี ในนั้นรวมถึงรัฐสมาชิกทั้ง 30 ชาติของนาโต้

เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้บอกกับเวทีสัมมนาเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม ในเมืองดาวอส ว่า "สารหลักจากรัมสไตน์ จะเป็นการสนับสนุนเพิ่มเติมและมอบการสนับสนุนที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้น เป็นอาวุธหนักกว่าเดิมและทันสมัยกว่าเดิม เพราะว่ามันคือการสู้รบเพื่อค่านิยมของเรา"

ในเดือนนี้ พันธมิตรของยูเครนหลายชาติได้แถลงแผนยกระดับแรงสนับสนุนทางทหารที่มอบแก่เคียฟ แม้มีความเสี่ยงผลักพวกเขากลายเป็นปรปักษ์กับรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหราชอาณาจักร ซึ่งกลายเป็นประเทศตะวันตกชาติแรกที่ประกาศมอบรถถังหนักแก่ยูเครนเมื่อวันเสาร์ (14 ม.ค.) ที่ผ่านมา

สหรัฐฯ รับปากว่าจะมอบยานยนต์หุ้มเกราะแบรดลีย์ทรงอานุภาพแก่เคียฟ ส่วนฝรั่งเศสสัญญาจะมอบรถถังเบาเคลื่อนที่เร็ว AMX-10 RC อาวุธที่ใช้สำหรับการโจมตีเชิงรุก ที่ก่อนหน้านี้บรรดาประเทศตะวันตกทั้งหลายลังเลมาช้านาน

ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจาก เซเลนสกี ส่งเสียงวิงสอนของรถถังหนักล้ำสมัยที่ออกแบบโดยตะวันตก ซึ่งพวกนักวิเคราะห์มองว่ามีความสำคัญยิ่งต่อการสู้รบที่กำลังดุเดือดทางภาคตะวันออกของยูเครน โดยที่ยานเกราะหนักนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับลุยฝ่าเจาะแนวป้องกันของฝ่ายศัตรู

เซเลนสกี เร่งรัดการส่งมอบ โดยพูดอ้อมๆ ถึงเยอรมนี ในขณะที่ โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเมืองเบียร์ กำลังชั่งใจว่าจะให้ไฟเขียวหรือไม่ในการส่งออกรถถังลีโอพาร์ด ที่ทางยูเครนกำลังต้องการเป็นอย่างมาก

"ในตอนที่โลกเสรีกำลังใช้เวลาคิดทบทวน พวกก่อการร้ายได้ใช้เวลานี้ในการเข่นฆ่า" เซเลนสกีกล่าวในดาวอส เขาอ้างถึงช่วงเวลา 3 นาทีของวันที่ 14 มกราคม อันเป็นเวลาที่ขีปนาวุธรัสเซียบินเป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร พุ่งชนอาคารที่พักอาศัยหลังหนึ่งในดนิโปร สังหารชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 45 ราย

ทีมกู้ภัยยกเลิกปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตในเมืองทางภาคตะวันออกแห่งนี้ในวันพุธ (18 ม.ค.) โดยที่ยังมีผู้สูญหายอีก 20 คน "โลกต้องไม่รีรอในวันนี้และตลอดไป" เซเลนสกีกล่าว

บรรดาผู้นำและรัฐมนตรีจากฟินแลนด์ ลิทัวเนีย โปแลนด์ และสหราชอาณาจักร เป็นบรรดาประเทศล่าสุดที่ส่งเสียงเพิ่มเติม เรียกร้องเบอร์ลิน ให้ไฟเขียวส่งออกรถถังลีโอพาร์ดที่ผลิตโดยเยอรมนีไปยังยูเครน ตามคำร้องขอของทางเคียฟ

หลังจากร่วมประชุมหลายคณะในดาวอส เวทีสัมมนาที่บรรดาคณะผู้แทนยูเครนพยายามล็อบบี้ตลอดทั้งสัปดาห์ วิตาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ เปิดเผยกับเอเอฟพีว่าเขาได้รับสัญญาณที่ดีและในแง่บวกอย่างมากว่าจะมีการแถลงส่งมอบอาวุธรอบใหม่แก่ยูเครนในวันศุกร์ (20 ม.ค.)

ในวันพุธ (18 ม.ค.) เช่นกัน โชลซ์ ปกป้องประวัติด้านการจัดหายุทโธปกรณ์ด้านการทหารสนับสนุนเคียฟของเบอร์ลิน โดยบอกกับคณะผู้แทนในดาวอส ว่าประเทศของเขามอบอาวุธแก่ยูเครนมากที่สุดเป็นอันดับ 3 น้อยกว่าแค่สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรเท่านั้น

ผู้นำวัย 64 ปีรายนี้ พูดอ้อมๆ เกี่ยวกับรถถังลีโอพาร์ด และเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับความล่าช้าของเขา "เราไม่เคยทำบางอย่างกับแค่ตัวเราเอง แต่เราร่วมมือทำกับชาติอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐฯ" เขากล่าว พร้อมเท้าความว่าอาวุธต่างๆ ของเยอรมนี อย่างเช่นระบบป้องกันภัยทางอากาศไอริส-ที กำลังมีบทบาทสำคัญในการปกป้องยูเครน

ต่อมา หนังสือพิมพ์ Sueddeutsche Zeitung รายงานว่า โชลซ์ เตรียมส่งมอบรถถังลีโอพาร์ด แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขหนึ่ง "ในการสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร โชลซ์ แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า เยอรมนีจะยอมอ่อนข้อต่อแรงกดดันส่งมอบก็ต่อเมื่อสหรัฐฯ ส่งมอบรถถังประจัญบานเอบรามส์ของตนเอง"

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานเช่นกันว่า เยอรมนี จะไม่ตกลงมอบรถถังลีโอพาร์ด โดยปราศจากคำสัญญาของสหรัฐฯ ว่าจะจัดหารถถังแก่เคียฟเช่นกัน

ประธานาธิบดีอันแชย์ ดูดา ของโปแลนด์ ประเทศที่รอเยอรมนีไฟเขียวส่งมอบรถถังลีโอพาร์ดราว 14 คันไปยูเครน บอกว่าการจัดหารถถังหนักเป็นแนวคิดที่ดีมากๆ ในขณะที่ ฟินแลนด์ ก็เป็นอีกชาติที่เสนอมอบรถถังลีโอพาร์ดบางส่วนแก่เคียฟ

(ที่มา : เอเอฟพี)