xs
xsm
sm
md
lg

ปูตินปลื้ม! ชมทัพรัสเซียหลังยึดเมืองยูเครนสำเร็จ นาโต้นั่งไม่ติดรับปากจัดอาวุธหนักให้เคียฟ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เคียฟสามารถคาดหมายได้เลยว่าบรรดาชาติตะวันตกจะส่งมอบอาวุธหนักให้เพิ่มเติมเร็วๆ นี้ จากคำยืนยันของนาโต้ในวันอาทิตย์ (15 ม.ค.) ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ยกย่องกองกำลังมอสโก หลังกล่าวอ้างยึดเมืองแห่งหนึ่งของยูเครนได้สำเร็จแล้ว

ขณะเดียวกัน วอชิงตันประณามเหตุรัสเซียยิงขีปนาวุธเข้าใส่อาคารที่พักหลังหนึ่งในเมืองดนิโปร ทางภาคตะวันออกของยูเครน หนึ่งวันก่อนหน้านี้ ซึ่งเวลานี้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 30 รายแล้ว และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยกำลังเดินหน้าค้นหาผู้รอดชีวิตเพิ่มเติม

เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้บอกว่ายูเครนสามารถคาดหมายได้เลยเกี่ยวกับอาวุธหนักเพิ่มเติม หลังจากก่อนหน้านี้เคียฟได้ส่งเสียงวิงวอนร้องขอยานยนต์ ปืนใหญ่และขีปนาวุธจากพันธมิตรทั้งหลายของพวกเขา โดยบอกว่ายุทโธปกรณ์เหล่านี้มีความสำคัญสำหรับป้องกันตนเอง

"คำสัญญาเมื่อเร็วๆ นี้เกี่ยวกับอาวุธยุทโธปกรณ์หนักมีความสำคัญ และผมคาดหมายว่าจะมีการส่งมอบเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้นี้" สโตลเทนเบิร์ก กล่าวกับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งของเยอรมนี ก่อนการประชุมของกลุ่มประสานงานจัดหาอาวุธแก่ยูเครนในสัปดาห์นี้

ไม่กี่วันหลังจากรัสเซียกล่าวอ้างยึดครองโซเลดาร์ ในภาคตะวันออกของยูเครน เมืองเหมืองเกลือด่านหน้าซึ่งเป็นถิ่นฐานของประชาชนเกือบ 10,000 คนก่อนสงคราม ปูติน ได้ออกมายกย่องมันในฐานะความสำเร็จครั้งสำคัญ "นี่คือความเคลื่อนไหวทางในบวก ทุกอย่างกำลังคืบหน้าไปตามแผน" ผู้นำมอสโกกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์ในวันอาทิตย์ (15 ม.ค.) "ผมหวังว่านักรบของเราจะสร้างความพึงพอใจให้เราได้มากกว่านี้อีกครั้ง"

กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ว่า พวกเขาสามารถปลดปล่อยเมืองโซเลดาร์ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้ว ซึ่งมันถือเป็นการรุกคืบครั้งสำคัญ ในขณะที่กองกำลังมอสโกเดินหน้าผลักดันสู่เป้าหมายหลักที่พวกเขาวางเอาไว้ตั้งแต่เดือนตุลาคม นั่นคือคนเมืองบัคมุต ชุมทางการขนส่งที่อยู่ใกล้ๆ กัน

ยูเครนปฏิเสธคำกล่าวอ้างของรัสเซีย และยืนยันว่ายังคงมีการสู้รบกันอย่างดุเดือดในโซเลดาร์ อย่างไรก็ตาม ในวันอาทิตย์ (15 ม.ค.) สถาบันเพื่อการศึกษาสงครามที่มีสำนักงานในสหรัฐฯ มองว่า "มีความเป็นไปได้สูงมากที่กองกำลังยูเครนจะไม่สามารถรักษาไว้ซึ่งฐานที่มั่นต่างๆ ภายในถิ่นฐานโซเลดาร์"

ชัยชนะของรัสเซียในเมืองแห่งนี้ ซึ่งหากได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นความจริง เท่ากับว่ามันจะมีขึ้นตามหลังความพ่ายแพ้อันน่าอับอายของรัสเซียในหลายต่อหลายสมรภูมิในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับว่าประสบความสูญเสียอย่างหนักในการสู้รบแย่งชิงเมืองโซเลดาร์

ขณะเดียวกัน ทีมกู้ภัยในดนิโปร ยังคงเดินหน้าค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุรัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีอาคารที่พักหลังหนึ่งเมื่อวันเสาร์ (14 ม.ค.) ซึ่งจนถึงตอนนี้พบผู้เสียชีวิตแล้ว 30 ราย นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบคน

เด็กหญิงวัย 15 ปี เป็นหนึ่งในบรรดาผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่เผย หลังจากดึงผู้คนหลายสิบรายออกจากซากปรักหักพัง ในนั้นรวมถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่หน่วยฉุกเฉินพาตัวออกมาได้ในวันอาทิตย์ (15 ม.ค.) ขณะที่ผู้บริหารเมืองเปิดเผยว่า "ยังมีคนติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังอีกราว 30 ถึง 40 ราย"

กองกำลังยูเครนระบุว่า อาคารหลังนี้ถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ X-22 ลูกหนึ่งของรัสเซีย ในขณะที่พวกเขาไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะสอยอาวุธดังกล่าว "มีแค่ระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานเท่านั้น ซึ่งพันธมิตรตะวันตกอาจมอบให้ยูเครนในอนาคต ที่มีศักยภาพสกัดกั้นมันจากการพุ่งเข้าเล่นงานเป้าหมาย" ถ้อยแถลงระบุ

สหรัฐฯ ร่วมกับนานาชาติที่เรียงหน้าออกมาประณามการโจมตีดังกล่าว "การโจมตีเมื่อวานนี้ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของสงครามอันโหดร้ายและป่าเถื่อนที่รัสเซียกำลังก่อกับประชาชนชาวยูเครน" โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของอเมริการายหนึ่งกล่าว

โฆษกบอกต่อว่า "สหรัฐฯ จะเดินหน้ามอบสิ่งที่จำเป็นสำหรับป้องกันตนเองแก่ยูเครน และเราจะเดินหน้างานของเขา ในการหาทางให้กองกำลังรัสเซียต้องรับผิดชอบต่ออาชญากรรมสงครามและความโหดร้ายป่าเถื่อนที่พวกเขาก่อขึ้น"

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ในวันเสาร์ (14 ม.ค.) ร้องขออาวุธเพิ่มเติมจากตะวันตก โดยบอกว่าจะสามารถหยุดยั้งก่อการร้ายรัสเซียได้ในสมรภูมิรบเท่านั้น

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน ฝรั่งเศส เยอรมนีและสหรัฐฯ ให้สัญญาว่าจะมอบรถถังเบา AMX-10 RC ของฝรั่งเศส ยานยนต์ทหารราบ Marder ของเยอรมนี จำนวน 40 คัน และยานหุ้มเกราะแบรดลีย์ของสหรัฐฯ 50 คัน อย่างไรก็ตาม พันธมิตรตกอยู่ภายใต้แรงกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ ให้ยกระดับการจัดหาและยอมตกลงส่งมอบรถถังประจัญบานให้เคียฟ

ริชี ซูแน็ก นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ให้สัญญามอบรถถังชาลเลนเจอร์ 2 แก่ยูเครน ถือเป็นประเทศตะวันตกชาติแรกที่จัดหารถถังหนักแก่เคียฟ ตอบสนองในสิ่งที่ยูเครนร้องขอมาช้านาน

สถานทูตรัสเซียในอังกฤษออกถ้อยแถลงตอบโต้ทันควัน โดยบอกว่าการนำรถถังเข้าสู่โซนความขัดแย้ง ยิ่งทำให้ความเป็นปรปักษ์ห่างไกลจากจุดจบ และรังจะทำให้ปฏิบัติการการสู้รบหนักหน่วงขึ้น ก่อความสูญเสียมากยิ่งขึ้น ในนั้นรวมถึงในหมู่พลเรือน

(ที่มา : เอเอฟพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น