ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ในวันพฤหัสบดี (5 ม.ค.) ออกคำสั่งให้ทหารรัสเซียหยุดยิง 36 ชั่วโมงในเทศกาลคริสต์มาสของชาวคริสต์ออร์ธอด็อกซ์ และเรียกร้องฝ่ายยูเครนดำเนินการเช่นกัน แต่ทางเคียฟปฏิเสธพร้อมบอกว่าพวกเขาจะไม่หยุดยิงจนกว่ามอสโกจะถอนทหารออกจากดินแดนยึดครอง ส่วนสหรัฐฯ เชื่อว่าคำสั่งดังกล่าวน่าจะเป็นความพยายามหยุดพักหายใจของฝ่ายรัสเซียมากกว่า
คำสั่งของปูติน มีขึ้นในขณะที่สหรัฐฯ และเยอรมนี ออกถ้อยแถลงร่วมกันในการจัดหายานหุ้มเกราะให้ยูเครนใช้ประจัญบานกับรัสเซีย เพิ่มกำลังใจแก่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ที่เรียกร้องพันธมิตรตะวันตกมานานหลายเดือน ขอให้มอบยานเกราะ และอาวุธหนักแก่กองกำลังของเขา
เครมลินเปิดเผยว่า ปูติน ออกคำสั่งให้ทหารรัสเซียหยุดยิงตั้งแต่เที่ยงวันของวันศุกร์ (6 ม.ค.) ตามแนวหน้าทั้งหมด ตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องขอหยุดหยิงในเทศกาลคริสต์มาส จากอัครบิดรคีริลล์ แห่งมอสโก ประมุขสูงสุดของคริสตจักรรัสเซียออร์ธอดอกซ์ พันธมิตรใกล้ชิดของปูติน
"จากข้อเท็จจริงที่ว่ามีพลเรือนจำนวนมากที่นับถือออร์ธอดอกซ์ พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ปรปักษ์ เราเรียกร้องฝ่ายยูเครนประกาศหยุดยิง และเปิดทางให้พวกเขาร่วมเข้าพิธีในวันคริสต์มาสอีฟ เช่นเดียวกับวันคริสต์มาส" ปูติน กล่าวในคำสั่ง
โบสถ์ออร์ธอดอกซ์ของรัสเซีย จะประกอบพิธีคริสต์มาสในวันที่ 7 มกราคม แต่โบสถ์ออร์ธอดอกซ์หลักของยูเครนปฏิเสธอำนาจของอัครบิดรคีริลล์แห่งมอสโก และผู้ศรัทธาชาวยูเครนจำนวนมากได้เปลี่ยนปฏิทินการฉลองคริสต์มาสไปเป็นวันที่ 25 ธันวาคม ตามอย่างตะวันตก
ถ้าการหยุดยิงในยูเครนนี้เกิดขึ้นจริง มันจะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน ครั้งที่ทั้ง 2 ฝ่ายระงับการสู้รบอันดุเดือดในเมืองท่ามาริอูโปล ที่ถูกทำลายล้าง เพื่อเปิดทางให้กองกำลังยูเครนในเมืองดังกล่าวยอมจำนน
ในวันพฤหัสบดี (5 ม.ค.) เซเลนสกี กล่าวหารัสเซีย ต้องการใช้ข้อตกลงหยุดยิงแอบเฝงหยุดยั้งการรุกคืบของยูเครน ในดินแดนอุตสาหกรรมทางภาคตะวันออกของประเทศ ที่เรียกว่า "ภูมิภาคดอนบาส" ซึ่งเป็นพื้นที่ทางยุทธศาสตร์
"ตอนนี้พวกเขาต้องการใช้คริสต์มาสแอบแฝง ถึงแม้ว่าจะช่วงสั้นๆ เพื่อหยุดการรุกคืบของเด็กๆ ของเราในดอนบาส เคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์ กระสุน และระดมทหารเข้าใกล้ฐานที่มั่นต่างๆ ของเรา" เซเลนสกี กล่าวในปราศรัยผ่านวิดีโอตอนกลางคืน
ในกรุงวอชิงตัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กระทรวงการต่างประเทศและกระทวงกลาโหม ขานรับคำสั่งของปูติน ด้วยความเคลือบแคลงสงสัย โดย ไบเดน เชื่อว่า ปูติน แค่กำลังพยายามหยุดพักหายใจ
ยูเครน ประสบชัยชนะในหลายสมรภูมิในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แม้ขณะเดียวกันรัสเซียยังคงเดินหน้ายิงขีปนาวุธและใช้โดรนโจมตีแหล่งที่ตั้งทางพลังงานของยูเครน ตัดไฟฟ้าที่จ่ายป้อนประชาชนหลายล้านคน ในช่วงเวลาที่ประเทศแห่งนี้กำลังอยู่ท่ามกลางฤดูหนาว รัสเซียปฏิเสธว่าไม่ได้เล็งเป้าหมายเล่นงานพลเรือน นับตั้งแต่เปิดฉากรุกรานในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ แต่เคียฟกล่าวหาว่าการโจมตีต่างๆ ในนั้นรวมถึงในวันคริสต์มาสและวันปีใหม่ เล็งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานทางพลเรือน
ข้อเสนอหยุดยิงของทางปูติน ดูเหมือนจะเจอเสียงคัดค้านจากฝ่ายรัสเซียเองเช่นกัน โดย เดนิส ปูชิลิ น ผู้นำที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียในแคว้นโดเนตสก์ของยูเครน พื้นที่ซึ่งมีการสู้รบหนักหน่วงที่สุด เขียนบนเทเลแกรมว่า "ไม่อาจพูดคุยใดๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อตกลงหยุดยิงไหนๆ" พร้อมเชื่อว่าคำสั่งของปูติน เกี่ยวข้องกับการระงับปฏิบัติการรุกคืบเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี (5 ม.ค.) เครมลินเปิดเผยว่า ปูติน บอกกับประธานาธิบดีเรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกี ว่ามอสโกพร้อมสำหรับเจรจาสันติภาพ แต่เฉพาะภายใต้เงื่อนไขที่ยูเครน "ต้องยอมรับความเป็นจริงของดินแดนใหม่" อ้างถึงความเคลื่อนไหวของมอสโกที่กล่าวอ้างผนวกแคว้นต่างๆ ของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน เงื่อนไขที่ทาง มิไคโล โพดอลยัค ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน เรียกว่า "ไม่อาจยอมรับได้โดยสิ้นเชิง"
10 เดือนหลังจากปูติน ออกคำสั่งในสิ่งที่เขาเรียกว่า "ปฏิบัติการพิเศษด้านการทหาร" เพื่อปกป้องความปลอดภัยของรัสเซีย มอสโกและเคียฟเข้าสู่ปีใหม่ด้วยท่าทีทางการทูตที่แข็งกร้าวกว่าเดิม โดย ปูติน ไม่ได้แสดงถึงเจตนาว่าจะยอมพูดคุยใดๆ เกี่ยวกับการถอนคำกล่าวอ้างของเขาเหนือดินแดนของยูเครน แม้ต้องสูญเสียกำลังพลมากขึ้นเรื่อยๆ
ระหว่างรายงานสถานการณ์การสู้รบประจำวันเช้าวันพฤหัสบดี (5 ม.ค.) กองทัพยูเครนอ้างว่า กองกำลังรัสเซียที่สมรภูมิเมืองบัคมุต ถูกสังหารราว 800 นายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา นอกจากนี้ การโจมตีของรัสเซียในเมืองอัฟดีอิฟกา และคูเปียนสก์ ซึ่งอยู่ในแคว้นโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครนเช่นเดียวกันก็ประสบความล้มเหลว
(ที่มา : รอยเตอร์)
