รัสเซีย-เบลารุสเริ่มซ้อมรบเมื่อวันจันทร์ (16 ม.ค.) จุดชนวนความกังวลในเคียฟและตะวันตกว่า มอสโกอาจใช้เบลารุสเปิดการบุกภาคพื้นดินระลอกใหม่เข้าสู่ยูเครน ขณะเดียวกัน มอสโกยืนยันว่าอาคารอพาร์ตเมนต์ในเมืองดนิโปร ที่ถูกโจมตีมีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 40 คน เป็นฝีมือการสกัดขีปนาวุธของกองทัพอากาศยูเครนเอง สอดคล้องกับการให้สัมภาษณ์ของที่ปรึกษาอาวุโสของเซเลนสกี ที่เรียกเสียงวิจารณ์เซ็งแซ่
กระทรวงกลาโหมเบลารุสแถลงว่า เบลารุสและรัสเซียจะร่วมซ้อมรบทางอากาศตั้งแต่วันจันทร์ (16) ถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ โดยใช้สนามบินทางทหารของเบลารุส และยืนยันว่า การซ้อมรบนี้มีจุดประสงค์เพื่อการป้องกันประเทศ ไม่ใช่เข้าสู่สงคราม
อย่างไรก็ดี พาเวล มูราเวโก รองเลขาธิการอันดับ 1 ของสภาความมั่นคงเบลารุส โพสต์บนแพลตฟอร์มสื่อสังคมเทเลแกรม ว่า เบลารุสอดกลั้นและอดทนมาโดยตลอดกับการยั่วยุของยูเครน และเสริมว่า สถานการณ์ชายแดนทางใต้ที่ติดกับยูเครนไม่ได้สงบอะไร
ด้านรัสเซียที่เคยใช้เบลารุสเป็นจุดเริ่มต้นการรุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้วนั้น ปฏิเสธว่า ไม่ได้กดดันให้ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ของเบลารุส มีบทบาทมากขึ้นในสงครามยูเครน
ทั้งนี้ เคียฟเตือนอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะเปิดการรุกใหญ่อีกระลอกหนึ่ง โดยบุกเข้ามาจากทางเบลารุสด้วย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี เร่งเร้าให้ยูเครนเตรียมพร้อมบริเวณชายแดนติดกับเบลารุส
นับจากสงครามยูเครนปะทุขึ้น เบลารุสจัดการซ้อมรบมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งรวมถึงการซ้อมรบร่วมกับรัสเซีย และช่องรายการติดตามสถานการณ์ทางการทหารอย่างไม่เป็นทางการในเทเลแกรม รายงานว่า นับจากต้นปีมีเครื่องบินขับไล่ เฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบินขนส่งทางทหารบินเข้าสู่เบลารุสหลายระลอก รวมถึงเครื่องบินขับไล่ 8 ลำและเครื่องบินลำเลียง 4 ลำในวันอาทิตย์ (15) ที่ผ่านมา
ทางด้านกระทรวงกลาโหมเบลารุสชี้แจงเพียงว่า เครื่องบินเหล่านั้นเป็นของกองทัพอากาศรัสเซีย
ขณะเดียวกัน ที่แคว้นดนิโปรเปตรอฟสก์ในยูเครน วาเลนทีน เรซนิเชนโก ผู้ว่าการแคว้น เผยเมื่อวันจันทร์ว่า มีผู้ได้รับการยืนยันเสียชีวิต 35 คน และยังไม่ทราบชะตากรรมอีก 35 คนจากเหตุการณ์ที่รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มอาคารอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองดนิโปร ทางภาคกลางของยูเครน เมื่อวันอาทิตย์ โดยที่ล่าสุด เกนนาดีย์ คอร์บัน เจ้าหน้าที่ของเมืองนี้อัปเดตว่ามีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 40 คน อีก 30 คนยังไม่ทราบชะตากรรม แล้วยังมีผู้บาดเจ็บอีก 75 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 14 คน
อย่างไรก็ตาม พวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนดูจะแถลงถึงเหตุการณ์นี้ไม่ตรงกัน โดยเฉพาะหลังจากที่อเล็กซี อาเรสโตวิช ที่ปรึกษาอาวุโสของเซเลนสกี ให้สัมภาษณ์ทางยูทูบว่า ขีปนาวุธของรัสเซียอาจถูกกองทัพยูเครนยิงและไปร่วงลงที่อาคารอพาร์ตเมนต์ดังกล่าว
การให้สัมภาษณ์ของอาเรสโตวิชทำให้เจ้าตัวถูกกล่าวหาว่า บ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของกองทัพยูเครน
บอริส ฟิลาตอฟ นายกเทศมนตรีดนิโปร เดือดหนักเรียกอาเรสโตวิชว่าเป็น “สัตว์หลงตัวเองปากเสีย” พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานความมั่นคงของยูเครน และหน่วยงานต่อต้านข่าวกรองตอบโต้
ร้อนถึงกองทัพยูเครนต้องออกมาชี้แจงโดยกองบัญชาการกองทัพอากาศระบุว่า ขีปนาวุธรัสเซียที่โจมตีอาคารอพาร์ตเมนต์คือ เคเอช-222 ซึ่งเป็นจรวดร่อนซูเปอร์โซนิกปล่อยจากอากาศ ซึ่งทางกองทัพยูเครนไม่มีอาวุธที่สามารถยิงขีปนาวุธนี้ได้
นอกจากนั้น พ.อ.ยูริ อิกแนต โฆษกกองทัพอากาศยูเครน ยังออกมายอมรับผ่านเฟซบุ๊กว่า รายงานก่อนหน้านี้ที่ว่า กองทัพยูเครนยิงขีปนาวุธเคเอช-22 ร่วงอาจเป็นรายงานที่ไม่ถูกต้อง
ด้านอาเรสโตวิชที่ ถูกถล่มหนักต้องออกมาขอโทษโดยเจ้าหน้าที่ระบุว่า ที่ปรึกษาอาวุโสของเซเลนสกีผู้นี้ได้ข้อมูลมาจากคนรู้จักที่เป็นอดีตนายทหารจากหน่วยต่อสู้อากาศยานที่อ้างว่าเห็นเหตุการณ์ อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นานเขากลับถอนคำขอโทษ โดยบอกว่า ได้กลับไปดูบทสัมภาษณ์อีกครั้งและพบว่า ตัวเองใช้ถ้อยคำอย่างระมัดระวังเพียงพอ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า กองทัพดูจะโกรธแค้นตนมากกว่าที่จะเน้นย้ำความผิดของรัสเซีย
ต่อมาในวันจันทร์ ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกเครมลิน แถลงว่า สถานการณ์ในดนิโปรเป็นผลจากการยิงขีปนาวุธตอบโต้ของกองทัพอากาศยูเครนเอง และยืนยันว่า รัสเซียไม่มีเป้าหมายโจมตีอาคารที่พักอาศัยของพลเรือน
ระหว่างการปราศรัยทางออนไลน์เมื่อคืนวันอาทิตย์ ภายหลังเหตุการณ์โจมตีในดนิโปร เซเลนสกีเรียกร้องให้ตะวันตกจัดหาอาวุธเพิ่มเพื่อยุติการก่อการร้ายและการโจมตีเป้าหมายพลเรือนของรัสเซีย
ทั้งนี้ ในวันเสาร์ที่ผ่านมา (14) อังกฤษเดินตามรอยฝรั่งเศสและโปแลนด์ด้วยการให้สัญญาจัดหาอาวุธเพิ่มให้ยูเครน โดยจะส่งรถถังขนาดหนักแบบ ชาเลนเจอร์ 2 จำนวน 14 คัน รวมถึงปืนใหญ่ล้ำสมัยอื่นๆ ในไม่กี่สัปดาห์นี้
ถัดมาอีกวัน เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) กล่าวว่า ยูเครนสามารถคาดหวังว่าจะได้รับอาวุธหนักจากตะวันตกเพิ่มเร็วๆ นี้
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เปสคอฟ โฆษกเครมลินประกาศว่า รถถังของอังกฤษที่ส่งไปยูเครนจะถูกเผาทำลายเหมือนรถถังอื่นๆ ในยูเครน และกล่าวหาว่า อังกฤษใช้ยูเครนเป็นเครื่องมือเพื่อบรรลุเป้าหมายในการต่อต้านรัสเซีย ก่อนสำทับว่า อาวุธใหม่ๆ จากประเทศต่างๆ จะไม่ทำให้สถานการณ์การสู้รบในยูเครนเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี, อาร์ที)
