ผู้นำสหรัฐฯ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน น่าจะรู้สึกดีขึ้นด้านความนิยมในหมู่ประชาชนอเมริกันเมื่อได้สั่งยิงบอลลูนสอดแนมของจีนตกนอกฝั่งรัฐเซาท์ แคโรไลนา เมื่อวันพุธที่ผ่านมา แสดงให้เห็นความเป็นผู้นำเด็ดขาด กล้าตัดสินใจ
รัฐบาลจีนไม่พอใจอย่างแรง อ้างว่าเป็นเรือเหาะสำรวจอากาศที่หลุดจากวงโคจร โดยเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่ใช่เป็นบอลลูนจารกรรมหรือสอดแนม
สื่อหลักสหรัฐฯ ต่างประโคมข่าวให้เห็นว่ารัฐบาลสหรัฐฯ เอาจริง การใช้บอลลูนสอดแนมเป็นการละเมิดอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศ
ก่อนหน้านี้บอลลูนถูกตรวจพบลอยสูง 6 หมื่นฟุตเหนือรัฐมอนทานาซึ่งมีพรมแดนติดกับแคนาดา รัฐนั้นมีที่ตั้งจุดยุทธศาสตร์การทหารด้านอาวุธนิวเคลียร์ ฝ่ายกระทรวงกลาโหมได้เฝ้าติดตามเฝ้าดูและขอให้ไบเดนสั่งยิง
ช่วงหนึ่งบอลลูนได้ลอยเข้าไปในน่านฟ้าแคนาดาและหวนกลับมาอยู่ในน่านฟ้าสหรัฐฯ โจ ไบเดน อ้างว่าการตัดสินใจสั่งยิงล่าช้าเป็นเพราะต้องรอให้บอลลูนลอยออกนอกฝั่งเพื่อไม่ให้ซากตกลงมาเป็นอันตรายต่อประชาชน
ไบเดนสั่งให้ใช้เครื่องบิน เอฟ 22 ยิงด้วยจรวด ไซไวเดอร์ยิงเพียงลูกเดียวก็เข้าเป้าหลังจากเฝ้าดูบอลลูนให้แน่ใจว่าได้ลอยออกนอกฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก
บอลลูนมีขนาดใหญ่เท่ากับรถบัส 3 คัน ร่วงลงจากฟ้า ซากกระจายไปทั่วพื้นที่ 7 ตารางกิโลเมตร สหรัฐฯ ส่งทีมเข้าไปเพื่อเก็บซากบอลลูนมาตรวจสอบ
โดยปกติบอลลูนประเภทนี้จะมีกล้องถ่ายภาพ เรดาร์นำทิศ อุปกรณ์อื่นๆ รวมทั้งเครื่องประเมินสภาพอากาศ และอาจใช้เพื่อการสอดแนมจารกรรมก็ได้
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่ามีบอลลูนแบบเดียวกันถูกพบในน่านฟ้าละตินอเมริกา แต่ไม่มีประเทศไหนทำอะไร จนลอยไปนอกพื้นที่
การใช้เครื่องบินเอฟ 22 และจรวดมีราคาแพงเปรียบเสมือนการขี่ช้างจับตั๊กแตนโดยสหรัฐฯ เพราะเทียบไม่ได้กับมูลค่าของบอลลูนซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่า
แต่สหรัฐฯ ยอมใช้เงินในงานนี้เพื่อแสดงให้เห็นแสนยานุภาพของชาติมหาอำนาจ โดยเสียงชื่นชมจากนักการเมืองในสภาคองเกรส สื่อหลักอย่างซีเอ็นเอ็นก็เล่นข่าวซ้ำหลายรอบ มีการระดมนักวิเคราะห์มาแสดงความเห็น เหมือนเป็นเรื่องราวใหญ่โต
โจ ไบเดนต้องการคะแนนเสียงและความนิยมอย่างมากในช่วงที่เผชิญกับความตกต่ำต่อเนื่อง จนพ่ายแพ้เลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้พรรคเดโมแครตเสียที่นั่งเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร และถูกคุมโดยพรรครีพับลิกัน
การช่วยเหลือด้านอาวุธและเงินงบประมาณอย่างมากในสงครามยูเครนซึ่งรบกับรัสเซียมีแต่ความสูญเปล่า ไบเดนเริ่มโดนโจมตีว่าใช้งบมากเกินไปขณะที่คนอเมริกันเผชิญปัญหาเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ตกต่ำ เศรษฐกิจถดถอย
ไบเดน ต้องการคะแนนเสียง หาทางตีตื้นคะแนนนิยมเพราะตั้งใจว่าจะประกาศลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้นำทำเนียบขาวสมัยที่ 2
รัฐบาลจีนแสดงความไม่พอใจอย่างมาก อ้างว่าเป็นเรือเหาะสำรวจอากาศของพลเรือน เหนือการควบคุม การกระทำของสหรัฐฯ จะต้องถูกมาตรการตอบโต้อย่างสาสม แต่ไม่ได้ระบุว่าจะทำอย่างไร
เหตุการณ์นี้ได้สร้างความร้าวฉานหนักขึ้นด้านความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ เป็นข้ออ้างของสหรัฐฯ ว่ารัฐมนตรีต่างประเทศ แอนโทนี บลิงเคน ตัดสินใจยกเลิกการเดินทางไปเจรจากับจีนช่วงวันที่ 5-7 กุมภาพันธ์ อ้างว่าเป็นเวลาไม่เหมาะสม
รัฐบาลจีนสวนกลับว่าการเยือนของบลิงเคนไม่ได้อยู่ในกำหนดการ ไม่มีการเชิญเกิดขึ้น ดังนั้นเป็นข้ออ้างฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ
ถ้าบลิงเคนไปเยือนจีนจริง ก็จะเป็นตัวแทนสหรัฐฯ ที่มีตำแหน่งสูงสุด หลังจากเกิดความไม่ลงรอยกันอย่างแรงสืบเนื่องมาตั้งแต่ยุคประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเริ่มใช้มาตรการคว่ำบาตรสินค้าจีน และตั้งกำแพงภาษีจนกลายเป็นสงครามการค้า
สินค้าจีนหลายรายการถูกสกัดกั้นด้วยภาษีระดับสูง ทำให้คนอเมริกันต้องจ่ายแพง สินค้าเทเลคอม โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือของบริษัทหัวเว่ย และบริษัทอื่นๆ ถูกกีดกันจากตลาดสหรัฐฯ และพันธมิตร อ้างว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง
เทคโนโลยี 5จี ของหัวเว่ยถูกต่อต้านและห้ามใช้ในหลายประเทศ หน่วยงานราชการถูกสั่งให้เปลี่ยนระบบของหัวเว่ยเป็นของประเทศอื่นๆ ด้วยเป็นการปิดตลาด
ในยุคของโจ ไบเดน ก็มีมาตรการควบคุมการส่งออกสินค้าเทคโนโลยี เช่นเซมิคอนดักเตอร์และชิปต่างๆ ซึ่งถูกอ้างว่าเป็นสินค้ายุทธศาสตร์
สหรัฐฯ มีปัญหากับจีนเกี่ยวกับสถานการณ์ไต้หวันซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากผู้นำสหรัฐฯ และสมาชิกรัฐสภา จนสร้างปัญหาซึ่งยากจะคืนดีกันได้
ก่อนหน้านี้มีนายทหารระดับสูงของสหรัฐฯ คาดว่าสหรัฐฯ อาจทำสงครามกับจีนในอีก 2 ปีข้างหน้าไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่จีนอาจใช้กำลังบุกไต้หวัน หรือข้อพิพาทอย่างอื่นในทะเลจีนใต้ รวมทั้งปัญหาเกาหลีใต้และญี่ปุ่นซึ่งมีกับจีน
สหรัฐฯ ได้มองจีนว่าเป็นศัตรูหมายเลข 1 แทนรัสเซีย เพราะมีขีดความสามารถในด้านการค้า การทหาร และการแข่งขันด้านเขตการค้า 1 แถบ 1 เส้นทาง พยายามต่อต้านการขยายตัวของอิทธิพลของจีนในละตินอเมริกาและแอฟริกา
ความเป็นปฏิปักษ์ครั้งนี้จะยิ่งทำให้จีนกระชับมิตรภาพกับรัสเซียเพิ่มขึ้น สหรัฐฯ และพันธมิตรจะเผชิญศึก 2 ด้านซึ่งเป็นชาติมหาอำนาจนิวเคลียร์