ป้อม-ตู่ แยกกันเดิน กอดคอกันเจ๊ง

สมการการเมือง


 ไม่ธรรมดาเสียแล้ว สำหรับอาณาจักรใหม่ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม อย่างพรรครวมไทยสร้างชาติ

จากที่ถูกค่อนแคะว่า ไม่น่ารอด เพราะกระแส “บิ๊กตู่” ตกเกินกู้กลับ ขณะที่หัวหอกหลักนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้เป็นนักการเมืองที่ช่ำชองสนามเลือกตั้ง ต่อให้ทำก็เป็นพรรคได้แค่พรรคต่ำสิบ

คนที่เข้ามาคงเป็นแค่ติ่ง กปปส.เก่า เป็นหลัก เป็นพวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ เคยออกไปทำพรรครวมพลังประชาชาติไทย แต่ไม่ประสบความสำเร็จในสนามเลือกตั้ง ได้ส.ส.เข้าสภามาแค่ 5 คน

องคาพยพเดิมๆ ตกยุค ตกขอบ หมดแล้ว!

ที่สำคัญ คนอย่าง “บิ๊กตู่” ขาด “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ ที่คอยปลุกปั้นผลักดันจากกลายเป็นผู้นำจากการเลือกตั้งไม่ได้

หลายคนฟันธงพรรครวมไทยสร้างชาติ อย่างไรก็ไปรอดแค่สนองความดันทุรังของ“บิ๊กตู่” เท่านั้น

แต่ไปๆ มาๆ ไม่ได้เป็นแบบนั้น พรรครวมไทยสร้างชาติดูมีชาติตระกูลกว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทย มือไม้ที่ได้มาร่วมงาน ไม่ได้เป็นแค่พวกตกยุค แต่เป็นนักการเมืองระดับเกรดเอ หลายคน

แม้ ส.ส.ส่วนใหญ่ที่ไหลมาอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติจะมาจากพรรคประชาธิปัตย์ คล้ายๆกับตอนพรรคพลังประชารัฐไปดูดมาเมื่อคราวก่อน แต่รอบนี้ได้ตัวดี พื้นที่แน่นมาหลายคน โดยเฉพาะบรรดาบ้านใหญ่ในภาคใต้

และปรากฏการณ์ที่ ส.ส.ระดับเกรดเอ พรรคประชาธิปัตย์ยอมทิ้งบ้านหลังเก่ามาอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ มันเป็นปรากฎการณ์ที่สะท้อนได้เหมือนกันว่า กระแส “บิ๊กตู่” อาจจะไม่มีดีในพื้นที่อื่น แต่สำหรับในพื้นที่ภาคใต้ชื่อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังขายได้อยู่

อย่าลืมว่า รอบนี้พื้นที่ภาคใต้กลายเป็นพื้นที่ที่หลายพรรคการเมืองอยากจะมาปักธง ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ที่หวังจะกู้ตั้งเสาไฟฟ้าที่ถูกโค่นขึ้นมาใหม่

พรรคพลังประชารัฐที่ได้ส.ส.มาเป็นอันดับสองในคราวก่อน พรรคภูมิใจไทยที่หวังจะยึดฝั่งอันดามัน หรือแม้แต่พรรคสร้างอนาคตไทย ของ “เฮียกวง” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรค ที่คิดว่าเป็นพื้นที่ที่มีโอกาสได้ส.ส.มากที่สุด

แต่ ส.ส.เกรดเอของพรรคประชาธิปัตย์กลับเลือกทิ้งพรรคเก่า มาอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ นั่นย่อมสะท้อนให้เห็นว่า คนในพื้นที่ยังเอา “บิ๊กตู่”อยู่ และยังดีกว่า “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกรัฐมนตรี รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

ไม่ใช่แค่พรรคประชาธิปัตย์ที่เลือดไหลจนตัวซีด แม้แต่พรรคพลังประชารัฐของ “บิ๊กป้อม” เองก็ออกอาการสั่นคลอนอย่างเห็นได้ชัด หลังจากมีกระแสข่าวว่า “บิ๊กตู่” จะหนีไปเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ

แม้จนถึงตอนนี้ บิ๊กตู่ แต่ยังไม่ยอมรับว่าจะไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่จากการเดินเกมข้างหลังม่าน หลายอย่างมันชัดว่า ไปแน่ๆ

จะเห็นว่า หลังมีข่าวปล่อยออกมาว่า “บิ๊กตู่” จะไปเปิดตัวกับพรรครวมไทยสร้างชาติหลังการประชุมเอเปก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และนักการเมืองหลายคนก็เปิดตัวว่า จะย้ายไปอยู่กับพรรคนี้ แบบไม่มีอิดออดเหนียมอาย

ส.ส.พรรคพลังประชารัฐหลายคน โดยเฉพาะส.ส.ภาคใต้หวั่นไหวมากที่สุด เพราะการเลือกตั้งคราวก่อนเกาะกระแส “บิ๊กตู่” เข้ามา งวดหน้าหากยังอยู่ที่เดิมแล้วต้องแข่งกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เสนอชื่อ“บิ๊กตู่”เป็นแคนดิเดตนายกฯ โอกาสสอบตกมีสูงเหมือนกัน

ตอนนี้หลายคนอยู่ในภาวะลังเล ไม่กล้าตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไร จะอยู่กับ “บิ๊กป้อม” ต่อหรือจะหอบผ้าตามไปเกาะกระแส “บิ๊กตู่” ที่พรรคใหม่

เงื่อนไขหลักๆ ที่ส.ส.ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐหลายคนยังไม่ตัดสินใจคือ ไปแล้วใครจะดูแล ใครจะเป็นคนตัดสินใจว่าจะส่งลงสมัครหรือไม่ ตอนนี้ตัวคีย์แมนเรื่องดีลยังไม่ชัด

เพราะต้องไม่ลืมว่า “เสี่ยตุ๋ย” พีระพันธุ์เองก็ใช้ทีมงานหลักจากพรรคประชาธิปัตย์ อาจจะมีคนรู้จักมักจีที่จะส่งลงสมัครอยู่แล้ว หากไปอยู่ด้วย สุดท้ายอาจไม่ถูกส่งลงก็ได้

ขณะนี้ต้องขอความชัดเจนแบบชัดๆ ว่า “บิ๊กตู่” เอาแน่ ไม่เทในตอนท้าย จึงจะตัดสินใจ

แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ปรากฏการณ์ของพรรครวมไทยสร้างชาติ มันสร้างแรงสั่นสะเทือนไปถึง “บิ๊กป้อม” ที่ดูแลพรรคพลังประชารัฐอยู่


พรรคพลังประชารัฐนั้นมีฐานการเมืองสำคัญคือ พื้นที่ภาคใต้ การเสีย บิ๊กตู่ ไป และอาจจะต้องเสีย ส.ส.ไปด้วย มันอาจทำให้คะแนนหายไปจำนวนมาก เป็นอุปสรรคในการทำพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า

เพราะพื้นที่ภาคเหนือ อีสาน ก็สู้กับพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ลำบาก แม้จะเหลือบ้านใหญ่อยู่ด้วยหลายคน แต่คงเป็นได้แค่พรรคขนาดเล็ก พรรคขนาดกลาง หากไม่ประสบความสำเร็จในพื้นที่ภาคใต้

แล้ว “บิ๊กตู่” ไม่ได้เอาไปแค่ ส.ส.ภาคใต้ แต่ยังมีภาคอื่นที่กำลังจ้องมองสถานการณ์เพื่อประเมินสถานการณ์ว่า ควรจะไปอยู่ด้วยหรือไม่อีก

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้มันคงทำให้ “บิ๊กป้อม” เข้าใจคำที่ว่า รวมกันเราอยู่ แยกหมู่เราตาย ได้เป็นอย่างดี การต่างคนต่างเดิน ไม่ได้เอื้อในสถานการณ์แบบนี้เลย

แม้แต่ “บิ๊กตู่” เองก็ตาม แม้จะมีส.ส.ไหลเข้าไปพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ก็คงไม่ถึงขนาดกวาดเข้าสภาเพียบได้เหมือนพรรคพลังประชารัฐเช่นกัน หลักๆ ก็มีแค่ภาคใต้เท่านั้น

ครั้งนี้คงแค่ต้องการทำให้พี่ใหญ่เห็นว่า ถ้าเอาจริงก็ทำได้เหมือนกันสำหรับพรรคการเมือง

จับตาดูให้ดี เรื่องนี้ยังไม่จบ สถานการณ์มันบีบให้สองพี่น้องต้องเร่งเคลียร์ใจว่า ใครจะยอมใคร เพราะมันเห็นอนาคตรำไรแล้วว่า แยกกันแล้วมันเป็นอย่างไร