xs
xsm
sm
md
lg

การเมืองบีบหัวใจ พท.ก็ลุ้นอนาคตบิ๊กตู่ !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา - ทักษิณ ชินวัตร
เมืองไทย 360 องศา


เวลานี้บรรยากาศการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ “เอเปก” กำลังตลบอบอวลไปทั่ว มีความเคลื่อนไหวที่คึกคักเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งกำหนดการประชุมอย่างเป็นทางการกำลังจะเริ่มในวันที่ 18-19 พฤศจิกายนนี้ อย่างไรก็ดี เริ่มมีผู้นำหลายคนที่ทยอยเดินทางมาถึงและเริ่มพบปะเจรจาหารือกันแล้ว

ขณะที่การประชุมกำลังจะเริ่มอย่างเป็นทางการ แต่ก็ลองแวบเลี้ยวไปมองเรื่องการเมืองกันสักหน่อยว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง เพราะมันต้องเชื่อมโยงกันแบบ “คนละเรื่องเดียวกัน” เนื่องจากก่อนหน้านี้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เคยแสดงท่าทีออกมาแล้วว่า “จะชัดเจนหลังเอเปก” ทำให้หลายฝ่ายกำลังเฝ้ารอ ไม่เว้นแม้แต่ฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่เป็นฝ่ายตรงข้ามก็ลุ้นไม่แพ้กัน

ในความเป็นจริงต้องยอมรับกันว่า เวลานี้รวมไปถึงอนาคตข้างหน้า “สาม ป.” โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังถือว่าเป็นคู่แข่ง คู่ต่อสู้ รวมไปถึง “คู่แค้น” ทางการเมืองของเขา ซึ่งหากให้เข้าใจง่ายขึ้น ก็คือ เป็นคู่อาฆาตของ “เจ้าของคอก” โดยตรงอย่าง นายทักษิณ ชินวัตร และที่ผ่านมา ก็ได้เห็นอาการที่แสดงออกมาทุกทางทั้งการเคลื่อนไหวโจมตี ทั้งในและนอกสภา การยุแยง รวมไปถึงผสมโรงเสี้ยมให้ “สอง ป.” คือ ป.ประยุทธ์ กับ ป.ประวิตร แตกกัน แม้ว่าอย่างหลังทั้งสอง ป. จะแตกกันจริงหรือเปล่า นาทีนี้ก็ยังมองไม่ชัด แต่อย่างที่บอกก็คือ ทุกอย่างจะชัดขึ้นหลังเอเปก ทำให้บรรดาคอการเมืองทั้งหลายต้องใจจดจ่ออยากรู้ว่าจะออกมาแบบไหน

สำหรับพรรคเพื่อไทยที่เชื่อว่าต้องการอยากรู้ถึงอนาคตทางการเมืองของ “บิ๊กตู่” ว่าจะเอาอย่างไร เพราะพวกเขาก็ต้องอยากรู้ เนื่องจากอย่างที่รับรู้กันว่า “บิ๊กตู่” คือ คู่แข่งคนสำคัญ ดังนั้น ไม่ว่าจะไปต่อหรือไม่ไปต่อ ย่อมต้องมีผลทางการเมืองทางใดทางหนึ่งอย่างแน่นอน

ล่าสุด เมื่อสองสามวันก่อน นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงทิศทางการเมืองหลังการประชุมผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ว่า คิดว่าท่าทีของพรรคการเมืองต่างๆ จะชัดเจนเกี่ยวกับการกำหนดทิศทางของตัวเองเพื่อเตรียมคนลงสมัครรับเลือกตั้งมากขึ้น รายชื่อแคนดิเดตนายกฯของแต่ละพรรค เชื่อว่า จะชัดเจนภายในเดือน ธ.ค. ผู้สมัคร ส.ส.ของแต่ละพรรคก็จะมีความชัดเจนเกือบ 100% ส่วนการเลือกตั้ง คิดว่าคงเกิดขึ้นก่อนวันสงกรานต์ เชื่อว่าจะมีการยุบสภาไม่เกินกลางเดือน ก.พ. เพราะช่วงนั้น ส.ส.จะมีการลาออกเพื่อโยกย้ายพรรคกันจำนวนมากนำไปสู่การยุบสภา

เมื่อถามว่า ท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะมีผลต่อการเมืองไทยอย่างไร นายสมคิด กล่าวว่า กระแสของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงพอมีอยู่สำหรับประชาชนบางกลุ่ม ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศเดินหน้าต่อแล้วไปอยู่พรรคการเมืองไหน เชื่อว่า จะมี ส.ส.ย้ายตามไปจำนวนหนึ่ง แล้วปัจจัยนี้จะทำให้การเมืองในซีกรัฐบาลชัดเจนขึ้น

“ส่วนของฝ่ายค้านท่าที พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นอย่างไรไม่มีผล เพราะพรรคร่วมฝ่ายค้านแต่ละพรรคเตรียมผู้สมัครของตัวเองไว้แล้ว มั่นใจว่า จากการบริหารงานที่ผ่านมาของรัฐบาล จะทำให้เสียงพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมได้คะแนนมากขึ้นจนเป็นเสียงส่วนมากของสภา แต่จะผลักดันนายกฯได้หรือไม่นั้น คงต้องขึ้นกับ ส.ว.ว่าจะฟังเสียงประชาชนหรือไม่” นายสมคิด กล่าว

คำพูดหลักๆ ของฝ่ายค้านดังกล่าวมองว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ มีความชัดเจน และไปต่อในความหมายที่ว่าแยกตัวออกไปจากพรรคพลังประชารัฐ ก็จะมี ส.ส.จำนวนหนึ่งตามไปด้วย และเชื่อว่า จะมีการยุบสภาในช่วงต้นปีหน้าหรือราวเดือนกุมภาพันธ์ แต่หากจับอาการก็พอมองออกว่าพวกเขาก็หวั่นไหวและรอลุ้นกับการตัดสินใจของ “บิ๊กตู่” อยู่เหมือนกัน เนื่องจากต้องยอมรับความจริงกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ นี่แหละที่มีศักยภาพพอที่จะต่อกรกับ นายทักษิณ และเครือข่าย ได้แบบเป็นน้ำเป็นเนื้อ และการที่อยู่ในอำนาจมาอย่างต่อเนื่องมีการวางฐานไว้ไม่น้อย และที่สำคัญ ด้วยผลงาน และภาพลักษณ์ในเรื่อง “สถาบัน” รวมไปถึงผลงานก็ยังเป็นที่จดจำได้ ก็ยังเป็นคู่แข่งที่ฝ่ายตรงข้ามไม่อยากให้ไปต่อได้ง่ายๆ แน่นอน ดังนั้น ทุกฝ่ายจึงรอการขยับตัวหลังเอเปกนั่นแหละ

ขณะเดียวกัน ในทางการเมืองก็มีการคาดเดากันไว้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีแนวโน้มร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เวลานี้มี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯเป็นหัวหน้าพรรค โดยจะออกมาในลักษณะได้รับการเสนอชื่อเป็น “แคนดิเดตนายกฯ” ไม่ต้องมีสถานะเป็นหัวหน้าพรรค หรือเป็นสมาชิกพรรคก็ได้ เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ มีลักษณะลอยตัว ออกมาแบบ “กลางๆ” ในเวลาที่เหลืออยู่แค่สองปี หรือ “ครึ่งเทอม” อีกทั้งยังเปิดทางให้ทางพรรคพลังประชารัฐ โดย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เดินหน้าทางการเมืองได้อย่างเต็มที่ ทั้งในเรื่องการวางตัวผู้สมัคร หรือแม้แต่การลุ้นเป็น “แคนดิเดตเบอร์หนึ่ง” ของพรรคได้อย่างเต็มที่ ลักษณะเหมือนกับ “แยกกันเดินแล้วมารวมกัน” ในภายหลัง

เพราะเมื่อพิจารณาจากการเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐในช่วงเวลานี้ถือว่ากำลัง “เดินหน้าเต็มตัว” โดยเฉพาะ “บิ๊กป้อม” ที่แสดงออกมาให้เห็นว่า “พร้อมมาก” และเมื่อย้อนกลับไปทบทวนคำพูดก็พอเข้าใจได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ น่าจะไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือยอมรับการเสนอชื่อเป็นนายกฯจากพรรคดังกล่าวแล้ว

ขณะเดียวกัน ก็มีระดับแกนนำของพรรคพลังประชารัฐบางคนที่มีข่าวว่าจะย้ายพรรคไปร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ อย่าง นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ก็ไม่เข้าร่วมประชุมพรรคเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และล่าสุด ก็แย้มว่า จะเผยความชัดเจนหลังการประชุมเอเปก หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ มีความชัดเจนแล้ว

ถามว่า แนวโน้มจะยังอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสุชาติ กล่าวย้ำว่า ให้รอนิดหนึ่ง เวลานี้เอางานสำคัญก่อน เพราะตั้งใจและมองว่าการประชุมเอเปกเป็นงานสำคัญที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพและทั่วโลกเห็นศักยภาพ ซึ่งนายกฯ ตั้งใจและเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้ รวมถึงคนไทยทุกคนเฝ้ารอการประชุมวันนี้ จึงอยากให้การจัดการประชุมมีความสมบูรณ์แบบ และพัฒนาประเทศ สร้างก้าวหน้าให้กับประเทศและคนไทยทุกคน

เมื่อถามว่า การประชุมครั้งนี้จะเป็นผลดีกับรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ถ้ามองในมุมการเมืองก็คงมองแบบนั้น แต่ในฐานะรัฐบาลและนายกฯ ไม่ได้มองในมุมการเมือง เรามองในมุมของประชาชนคนไทย การบริหารประเทศ มองเรื่องข้อตกลง การหารือทางการค้า รวมถึงความร่วมมือของแต่ละประเทศ รัฐบาลและรัฐมนตรีมองเรื่องความก้าวหน้าของประเทศชาติบ้านเมืองเป็นหลัก ถ้ามองในมุมการเมืองก็จะพุ่งเป้าไปในทางการเมือง

ดังนั้น แม้ว่านาทีนี้ทุกสายกำลังจ้องมองไปที่การประชุมเขตเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปก เพราะมีผู้นำและแขกรับเชิญคนสำคัญที่ชวนให้ติดตาม แต่ในทางการเมืองสำหรับอนาคตทางการเมือง ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังจากนั้น ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะไม่ว่าจะตัดสินใจแบบไหน มันก็ย่อมเกิดแรงกระเพื่อมแน่นอน รวมไปถึงฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย ที่เชื่อว่า ต้องรอลุ้นจดจ่ออยู่เหมือนกัน นั่นคือ ภาวนาให้ “แตก” หรือไม่ไปต่อ จะได้หมดคู่แข่งขวางกลับบ้านเสียที !!


กำลังโหลดความคิดเห็น