xs
xsm
sm
md
lg

NATO ภัยคุกคามอันดับหนึ่งของโลก!!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทับทิม พญาไท


Herve Juvin สมาชิกรัฐสภายุโรป
ปิดฉากสัปดาห์นี้...ด้วยบรรยากาศที่ยังไม่ถึงกับต้องซีเรียส เคร่งเครียดมากมายสักเท่าไหร่ เพราะการลงมือ ลงตีน ระหว่างประเทศ “ดาวยั่ว-ลิทัวเนีย” กับ “หมีขาว-รัสเซีย” ที่ออกจะดุแสนดุ ชนิดเหยี่ยวข่าวชาวอังกฤษอย่าง “นายTim Marshall” ผู้เขียนหนังสือเรื่อง “Prisoners of Geography” ได้เคยเตือนๆ เอาไว้นานแล้วว่า “อย่าได้...แหย่หมีหลับ” เป็นอันขาด ก็ยังไม่ถึงกับเป็นเรื่อง-เป็นราว เกิดเรื่อง-เกิดราว อันเนื่องมาจากการตัดสินใจปิดเส้นทางคมนาคมทางบกระหว่างรัสเซียกับเมืองคาลินินกราด ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของรัสเซียในยุโรปเอาเลยก็ว่าได้...

หรืออย่างที่โฆษกหมีขาว “นายDmitry Peskov” ท่านได้สรุปกับผู้สื่อข่าว เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมานั่นแหละว่า แม้ว่าฉากสถานการณ์ในกรณีดังกล่าวจะร้ายแรงยิ่งกว่าความตึงเครียดโดยปกติธรรมดา แต่จำต้องเรียกร้องให้มีการวิเคราะห์โดยรอบคอบซะก่อน ก่อนที่จะกำหนดมาตรการตอบโต้ใดๆ กับประเทศเล็กๆ อย่างลิทัวเนีย ส่วนการ “โจมตีทางไซเบอร์” ต่อกิจการภาครัฐ ภาคเอกชน ไม่ว่าการขนส่ง พลังงานและการเงิน ฯลฯ ของลิทัวเนีย เมื่อช่วงวันจันทร์ (27 มิ.ย.) ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ไม่ประสงค์จะออกนามแต่ประสงค์ที่จะลงมือ ลงตีน ต่อลิทัวเนีย อย่างกลุ่ม “Killnet” นักแฮกเกอร์ชาวรัสเซีย เขาก็ได้ออกมารับสมอ้างไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ว่าเป็นความเปรี้ยวมือ-เปรี้ยวไม้ในทางส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับรัฐบาลรัสเซียแต่อย่างใด ส่วนอดีตประธานาธิบดีรัสเซียและรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติปัจจุบัน อย่าง “นายDmitry Medvedev” ท่านก็ได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์รัสเซียในช่วงวันเดียวกัน ว่ายังไงๆ หรือโดยธรรมชาติ รัสเซียคงต้องหาทางตอบโต้อยู่แล้วแน่ๆ แต่ท่านก็ได้ชี้แนะ ชี้นำ ให้หันไปใช้ “มาตรการทางเศรษฐกิจ” ในระดับที่หนักหน่วง รุนแรง ชนิดสามารถ “ถอดปลั๊ก” ประเทศเล็กๆ ประเทศนี้เอาเลยถึงขั้นนั้น...

คืออย่างน้อย...ก็พอได้เลี่ยงๆ การปะทะ การเผชิญหน้าทางทหารโดยตรง กับ “NATO” ภายใต้การนำของคุณพ่ออเมริกา ที่กำลังง้างไป-ง้างมา รอจังหวะที่จะรุมยำมือ ยำตีน ต่อประเทศคู่แข่งมหาอำนาจตัวเองให้จะจะจังๆ ให้จงได้ เพราะถ้าว่ากันถึงการประชุม “NATO Summit” ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน เมื่อช่วงวัน-สองวันที่ผ่านมา โดยกิริยาท่าทีของ “NATO” ตามคำแถลงของพลเอก “Jens Stoltenberg” ก็ค่อนข้างจะชัดเจน ว่ากำลังเตรียมรุมเหยียบ รุมกระทืบ หมีขาวตัวนี้อย่างกระเหี้ยนกระหือรือเอามากๆ ถึงขั้นคิดเพิ่มกำลังทหารเสริมเข้าไปจ่อหน้าปากประตูบ้าน ประชิดติดพันพรมแดนตะวันออกของรัสเซีย จากที่เคยมีอยู่ประมาณ 70,000-100,000 นาย ขึ้นไปถึง 300,000 นาย เอาเลยถึงขั้นนั้น หรือมุ่งที่จะก่อ “สงคราม” มากกว่าคิดจะแสวงหา “สันติภาพ” ใดๆ อีกต่อไป...

และโดยกิริยาท่าที ทำนองนี้นี่เอง...ที่ทำให้กระทั่งสมาชิกคณะอนุกรรมการความมั่นคงแห่งสภายุโรป อย่าง “นายHerve Juvin” ถึงกับอดรนทนไม่ไหว ต้องออกมา “ฟันธง” เอาไว้แบบเต็มผืน เต็มด้าม ว่าเอาไป-เอามาแล้ว...องค์กรพันธมิตรทางทหารอย่าง “NATO” นี่แหละ คือ “ภัยคุกคามต่อสันติภาพอันดับหนึ่งของโลก” โดยเหตุผล ข้ออ้าง ที่มี “น้ำหนัก” มิใช่น้อย เช่น การชี้ให้เห็นว่า ด้วยแนวคิดทางยุทธศาสตร์ขององค์กรแห่งนี้ ซึ่งอยู่ในภาวะ “สมองตาย” ถ้าว่ากันตามคำพูด คำอุปมา-อุปไมยของประธานาธิบดีฝรั่งเศสคนปัจจุบัน ทำให้ความพยายามที่จะกดดันและดึงดูดเอาบรรดาประเทศที่ไม่ได้เคยเป็นส่วนหนึ่ง ส่วนใดของ “ยุโรป” มาก่อนเลย แม้แต่ในทางภูมิรัฐศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นจอร์เจีย อาร์เมเนีย ยูเครน ไปจนถึงบอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนา มอนเตเนโกร มาซิโดเนียเหนือและโคโซโว ฯลฯ เข้ามาเป็นพวก หรือเป็นมือ เป็นตีน ให้กับ “NATO” ที่ถูกควบคุมโดยคุณพ่ออเมริกา อันไม่ต่างอะไรไปจากความพยายามทำลาย “รัฐกันชน” ที่เคยทำให้บรรดา “มหาอำนาจ” ทั้งหลาย พอที่จะ “อยู่ร่วมกันโดยสันติ” มาโดยตลอด...

แม้แต่ในยุค “สงครามเย็น” ที่โลกถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย 2 ซีก หรือ 3 ซีก แต่การที่มหาอำนาจฝ่ายสังคมนิยมอย่างโซเวียต รัสเซีย สามารถประนีประนอมยอมความกับมหาอำนาจฝ่ายทุนนิยมอย่างอเมริกาได้ โดยเฉพาะในกรณี “วิกฤตคิวบา” เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว ย่อมถือเป็นการชี้ให้เห็นถึง “การยอมรับ” ต่อความเป็นมหาอำนาจที่ผิดแผกแตกต่างไปจากตัวเอง แต่เมื่อมาถึงทุกวันนี้... “วิเทโศบายต่างประเทศของอเมริกาได้ตกไปอยู่ในมือของอเมริกันชนกลุ่มเล็กๆ ที่รู้จักกันในนามพวก Neo-conservative ผู้ที่ต้องการบดขยี้ฝ่ายตรงข้าม ตามความเพ้อฝันที่ถูกแปลความ ตีความผิดๆ จากพระคัมภีร์ไบเบิล อันเป็นสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงของโลก และกลายเป็นการเพิ่มอันตรายให้กับการกำหนดนโยบายต่างประเทศของแต่ละประเทศ ที่ต้องแบ่งแยกผู้คนออกเป็นคนเลว...กับ...คนดี” นี่...ถ้าว่ากันตามคำพูด ตามเหตุผลข้ออ้าง ของสมาชิกคณะอนุกรรมการความมั่นคงสภายุโรปรายนี้...

ด้วยเหตุนี้...จึงถือเป็นเรื่อง “ไม่แปลก” ที่ประเทศเล็กๆ ในแถบทะเลบอลติกอย่างลิทัวเนียที่มีเนื้อที่ใหญ่กว่าจังหวัดนครราชสีมาของบ้านเฮาแค่ประมาณ 3 เท่า เท่านั้นเอง เล็กกว่าประเทศรัสเซียที่มีเนื้อที่ถึง 17,100,000 ตารางกิโลเมตรเกือบ 100 เท่าเอาเลยถึงขั้นนั้น หรือมีเนื้อที่เพียงแค่ 65,300 ตารางกิโลเมตร มีประชากรแค่ 2.8 ล้านคน แถมอยู่ได้และอยู่รอดด้วยการพึ่งพาเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) โดยเฉพาะจากสวีเดนประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์และคุณพ่ออเมริกาเป็นอันดับสองประมาณ 24.59 เปอร์เซ็นต์เป็นหลัก อาศัย “ธุรกิจบริการ” สร้างรายได้ให้กับประเทศจำนวนถึง 68.3 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี ส่วนรายได้อุตสาหกรรมแค่ 28.5 เปอร์เซ็นต์ หรือเกษตรกรรมแค่ 3.3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เลยจำต้องรับบทเป็นมือ เป็นตีน เป็น “ดาวยั่ว” คอยนั่งร้องเพลง “อยากจะชิมส้นตีนนัก” อยู่บนหัวสะพาน เพื่อยั่วยวนหมีขาวรัสเซียกันโดยเฉพาะ หรืออย่างที่รัฐมนตรีต่างประเทศลิทัวเนีย “นายGabrielius Landsbergis” ออกมายอมรับแบบตรงไป-ตรงมานั่นแหละว่า การตัดสินใจปิดกั้นเส้นทางคมนาคมของรัสเซียมายังเมืองคาลินินกราด ไม่ใช่เป็นเพราะลิทัวเนียไปกินดีหมี-หัวใจเสือมาจากที่ไหน แต่เป็นเพราะได้รับ “คำแนะนำจากบรรดาคณะกรรมการสภายุโรป” นั่นเอง...

แต่ก็นั่นแหละ...ไม่ใช่แค่เฉพาะความพยายามปิดล้อม รื้อทิ้ง ทำลาย “รัฐกันชน” ของรัสเซียในยุโรปเท่านั้น โดยกิริยาท่าทีของ “NATO” ยุคปัจจุบันที่อยู่ภายใต้การควบคุมและบงการโดยพวก “Anglo-American” ตามที่ “นายHerve Juvin” ได้สรุปเอาไว้ ยังมุ่งขยายขอบเขต บทบาท อิทธิพล ภายใต้แนวคิดดังกล่าว มายังภูมิภาคเอเชียเพื่อปิดล้อม รื้อทิ้ง ทำลาย สิ่งใดๆ ก็ตามที่ถือเป็นความมั่นคงของคุณพี่จีน กันอย่างเอาจริง-เอาจัง ดังนั้น...การออกมาสรุปแบบฟันธงและฟันเฟิร์ม เอาไว้ประมาณว่า “NATO คือภัยคุกคามอันดับหนึ่งต่อสันติภาพของโลก” จึงเป็นอะไรที่ออกจะมี “น้ำหนัก” มิใช่น้อย และเป็นสิ่งที่เถียงลำบากเอามากๆ...

ด้วยเหตุนี้...ถ้าหากบรรดาประเทศในยุโรป ยัง “ยอมคุกเข่าต่อ NATO” หรือยัง “ยอมรับใช้ผลประโยชน์ของพวก Anglo-American” ดังที่ “นายHerve Juvin” ว่าไว้ โอกาสที่โลกทั้งโลกจะเกิด “สันติภาพ” จึงเป็นอะไรที่ออกจะยุ่งยาก ลำบาก พอสมควร ไม่ใช่แต่เฉพาะการเสริมกำลังทหารเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว หรือสองเท่า-สามเท่า เข้าไปประชิดพรมแดน หรือเข้าไป “เห่าอยู่หน้าบ้าน” รัสเซีย ตามสำนวนของพระสันตะปาปา “ฟรานซิส” แต่ยังพร้อมที่จะตามมา “หอน” อยู่แถวๆ ทะเลจีนใต้ อย่างเป็นระบบและเป็นกิจการซะอีกล่วย การเดินหมาก-เดินเกม เพื่อไม่เปิดโอกาสให้ “เครื่องจักรสังหาร” สามารถงัดศักยภาพแห่งการล้างผลาญ ทำลาย ออกมาใช้ได้อย่างที่หวังและต้องการ จึงต้องอาศัยความร่วมมือ-ร่วมไม้ และความเป็นอิสระในการตัดสินใจ ของบรรดาประเทศทั้งหลายที่ยังพอหลงเหลือ “อำนาจอธิปไตย” (Sovereign Decisions) เป็นของตัวเอง ยังไม่คิดจะเป็นแค่ “Colony” หรือเป็น “อาณานิคม” ให้ใครสามารถหันซ้าย-หันขวาได้ง่ายๆ...




กำลังโหลดความคิดเห็น