xs
xsm
sm
md
lg

เงินตรา ยศถา และนารี : ปัจจัยเสี่ยงต่อชื่อเสียงของบุคคลสาธารณะ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สามารถ มังสัง


ปริญญ์ พานิชภักดิ์
บุคคลสาธารณะคือ บุคคลที่ประชาชนชื่นชอบ และถือเป็นตัวอย่างในการดำรงชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่มีอำนาจวาสนา และบารมี ควรจะหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่อการเสียชื่อเสียง 3 ประการคือ

1. เงินที่ได้มาโดยไม่ชอบธรรม เช่น เงินหรือผลประโยชน์อื่นใด ซึ่งสามารถเป็นเงินได้ที่ได้มาด้วยการทุจริต คอร์รัปชัน ทั้งในรูปแบบของการกินตามน้ำ และทวนน้ำ ซึ่งเข้าข่ายผิดศีล 5 ข้อ 2 คือ อทินนา

2. ยศถาบรรดาศักดิ์ที่ได้มาโดยไม่ชอบธรรม เช่น ด้วยการวิ่งเต้นโดยอาศัยพวกพ้องหรือซื้อมาด้วยเงินก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมแก่ผู้ที่ควรจะได้โดยชอบธรรม

3. อิตถีเพศที่ได้มาโดยวิธีการขู่เข็ญ บังคับ หรือล่อลวงก่อความทุกข์ ความเดือดร้อนแก่หญิงนั้น เนื่องจากต้องเดือดร้อนกับการที่ต้องอยู่รอดกับคนที่ตนเองไม่รัก เข้าข่ายผิดศีล 5 ข้อ 3 คือ กาเมสุมิจฉาจาร

นักการเมืองเป็นหนึ่งในบุคคลสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย หรือในระบอบเผด็จการ จะต้องระวังและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง 3 ประการนี้ให้มากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่มีตำแหน่งสูง เพราะบุคคลเช่นนี้เป็นที่สนใจ และจับตามองของประชาชน ทั้งยังเป็นเป้าทางการเมืองให้นักการเมืองฝ่ายตรงกันข้ามนำไปเป็นประเด็นโจมตีเพื่อผลทางการเมืองด้วย ดังเช่นที่กำลังเกิดขึ้นกับอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในขณะนี้

จากข่าวที่ปรากฏทางสื่อนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ได้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีข่มขืน ลวนลาม และทำอนาจารผู้หญิงหลายคน ต่างกรรมต่างวาระกัน และได้มีผู้เสียหายทยอยเข้าแจ้งความแล้วหลายราย ภายใต้การให้ความช่วยเหลือของทนายความชื่อดัง และทันทีที่ปรากฏเป็นข่าว นายปริญญ์ ได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ทุกตำแหน่ง และพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ส่วนผลทางคดีจะออกมาอย่างไรนั้น คงต้องรออีกระยะหนึ่ง

แต่ถึงกระนั้นในขณะนี้ทั้งนายปริญญ์ และพรรคประชาธิปัตย์ได้ตกเป็นจำเลยต่อสังคม และมีผลกระทบต่อการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ส.ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแน่นอน

ส่วนว่าจะมีผลกระทบมากหรือกระทบน้อยขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยดังต่อไปนี้

1. ผลของการตัดสินคดีนั้นตั้งแต่ขั้นต้นคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งความ ทำการสอบสวนเพื่อหาพยานหลักฐานไปจนถึงนำส่งอัยการเพื่อพิจารณาฟ้องหรือไม่ฟ้อง และถ้าอัยการส่งฟ้องแล้วศาลตัดสินว่าผิดจริงตามที่โจทก์ยื่นฟ้อง ผลกระทบทางสังคมจะเกิดกับพรรคประชาธิปัตย์ค่อนข้างมาก เพราะจะต้องไม่ลืมว่า พรรคประชาธิปัตย์เคยมีสโลแกนว่า พรรคเลือกคน ประชาชนเลือกพรรค และเมื่อคนที่พรรคเลือกเป็นผู้กระทำผิดในคดีที่เกี่ยวกับจริยธรรมเช่นนี้เสียเอง กรรมการบริหารพรรคในฐานะที่เลือกนายปริญญ์เข้ามาเป็นรองหัวหน้าพรรค จะตอบสังคมว่าอย่างไร

2. ถ้าผลของคดีจบลงด้วยผู้ต้องหาไม่ผิด ผลกระทบทางสังคมคงไม่มาก และอีกประการหนึ่งทางกรรมการบริหารพรรคจะต้องทำการชี้แจงให้ชัดเจนว่า ทางพรรคได้ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร

แต่ทางที่ดีในชั้นนี้ หัวหน้าพรรคควรจะแสดงสปิริตโดยการลาออก เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเลือกกรรมการชุดใหม่เป็นการลดแรงกดดันทางสังคม และส่งผลดีต่อการเลือกตั้งทั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ส.ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

นับจากนี้ไป พรรคประชาธิปัตย์จะต้องทำงานหนักเพื่อฟื้นฟูภาพลักษณ์ของพรรค โดยการทบทวนอุดมการณ์และแนวทางของพรรคว่า พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพรรคเก่าแก่ และเป็นสถาบันทางการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมืองเป็นที่ยอมรับของคนชั้นกลาง โดยเฉพาะในภาคใต้ และใน กทม.มาตลอด ได้มาถึงจุดตกต่ำเช่นในขณะนี้ได้อย่างไร และถ้าจะให้พรรคประชาธิปัตย์ไปเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับการยอมรับเช่นในอดีต จะต้องทำอย่างไร ถ้าไม่ตื่นตัวและทำอะไรใหม่ๆ จากที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน บอกได้คำเดียวว่ามีโอกาสเป็นพรรคขนาดเล็กได้แน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น