ช่วงนี้หลายพรรคการเมืองเปิดตัวกระชับฐานอำนาจเพื่อสู้ศึกเลือกตั้ง มีทั้งพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันและฝ่ายค้านซึ่งหมายมั่นปั้นมือว่าจะให้ได้เสียงในสภาฯ มากกว่าเดิม พรรคเพื่อไทยหวังจะขอย้ำซ้ำโอกาสที่จะสร้างปรากฏการณ์แลนด์สไลด์อีกรอบ
แน่นอนทุกพรรคหวังจะได้เป็นรัฐบาลถึงแม้จะเป็นพรรคร่วม โดยมีเก้าอี้รัฐมนตรีเป็นผลตอบแทนในการลงทุนซึ่งทุกพรรคมองว่าย่อมจะดีกว่าเป็นฝ่ายค้านซึ่ง “อดอยากปากแห้ง” ตามสภาพบรรยายด้วยอดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย
ศึกครั้งนี้ยังไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่การเร่งเปิดตัวทั้งพรรคใหม่และพรรคเก่าเหมือนเป็นสัญญาณว่าการเลือกตั้งอาจจะเกิดขึ้นเร็วกว่ากำหนด เพราะอุบัติเหตุหรือเหตุอย่างอื่นที่ทำให้รัฐบาลของท่านห้าวเป้งต้องจบลงเร็วกว่าที่ควรจะเป็น
พรรคการเมืองที่มีแกนนำหน่วยก้านดีก็หวังมาก โดยเชื่อว่าท่านห้าวเป้งคงไม่มีโอกาสได้เข้ามากุมอำนาจหลังจากเลือกตั้งรอบใหม่ ความนิยมตกต่ำโดยตลอด ผลงานไม่เข้าตาประชาชน ไม่ฟังใคร สภาพปัจจุบันเหมือนยาหมดอายุนานแล้ว
ทุกฝ่ายยกเว้นทีมรัฐบาลต่างมองว่าถ้าสถานการณ์เป็นอย่างนี้ต่อไปโดยรัฐบาลผู้นำห้าวเป้งขาดความรู้ความสามารถ ขาดทางออกของปัญหาที่ทำให้ประชาชนต้องลำบากยากแค้นเลือดตาแทบกระเด็นด้วยหนี้ครัวเรือน และความยากในการหารายได้ บ้านเมืองก็จะจมปลักอยู่กับวิกฤตสารพัดยากที่จะฟื้นฟูได้ง่าย
เอาเฉพาะปัญหาหนี้ครัวเรือนซึ่งยังแก้ไขไม่ได้ ประชาชนขาดรายได้เนื่องจากเศรษฐกิจซบเซา และหนี้ภาครัฐซึ่งขยายตัวเพราะรัฐบาลยังไม่สามารถหยุดการกู้เงินมุ่งแต่สร้างหนี้สิน อุดงบประมาณขาดดุลเรื้อรัง ก็ยิ่งทำให้โอกาสที่จะเผชิญวิกฤตรุนแรงเพราะปัจจัยภายนอกประเทศเช่นราคาพลังงานที่เพิ่มไม่หยุด
ทั้งพรรคแจ้งเกิดใหม่และพรรคเดิมปรับรูปแบบทั้งชื่อและกระบวนท่าก็ยังไม่สามารถสร้างความมั่นใจว่าจะช่วยเหลือบ้านเมืองให้รอดจากวิกฤตได้ พรรคการเมืองที่อาจจะมีศักยภาพอยู่บ้างก็ขาดโอกาสที่จะชนะการเลือกตั้งซึ่งตัดสินด้วยเงินและเครือข่ายของหัวคะแนน คนกาเบอร์ยังต้องการสินจ้างแบบ “เงินไม่มา กาไม่เป็น”
หลายพรรคการเมืองอวดอ้างความพร้อมและตัวบุคลากรว่าจะแก้ปัญหาบ้านเมืองด้วยความรู้ความสามารถ แต่ถ้าประชาชนมองไปให้ถ้วนทั่วแล้วยังเห็นว่าความขาดแคนอย่างหนักคือคนการเมืองที่มีคุณธรรม จริยธรรม
ที่สำคัญ เป็นปัญหาด้านการยอมรับของสังคมในความซื่อสัตย์สุจริต ความตั้งใจในการทำงานเพื่อบ้านเมืองแท้จริงโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนตัว ของพรรค
คุณภาพด้านนี้ขาดแคลนอยู่ในขั้นวิกฤตรุนแรงทำให้การเมืองถูกมองว่าเป็นหนทางที่จะทำให้คนในวงการมีโอกาสสร้างความมั่งคั่งจากการทุจริตคอร์รัปชันซึ่งเรื้อรังเป็นวิกฤตในประเทศซึ่งประเมินกันว่าสูงถึง 30 - 40 เปอร์เซ็นต์
เป็นการสูญเปล่าของเงินงบประมาณและเงินกู้ เอามาใช้จ่ายอย่างสิ้นเปลืองผ่านโครงการประชานิยม ทั้งถ่ายโอนเข้ากระเป๋าผู้มีอำนาจและเครือข่ายบริวาร
วิกฤตด้านคุณธรรม จริยธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต จึงเป็นประเด็นที่ไม่สามารถแก้ไขได้ในการเมืองแบบไทยๆ ซึ่งพรรคการเมืองหลายพรรคมีพฤติกรรมไม่ต่างจากองค์กรอาชญากรรม สมาชิกระดับแกนนำลงเงินลงขันกันเพื่อให้ชนะ เป็นรัฐมนตรี ก้าวไปสู่อำนาจและใช้อำนาจนั้นแสวงหาผลประโยชน์
ประชาชนไม่เคยได้เห็นเสนาบดียากจนลงหลังจากพ้นตำแหน่งสำคัญ
การเมืองไทยจึงอยู่ในสภาวะเช่นนี้โดยตลอดทำให้การทุจริตคอร์รัปชันหยั่งรากลงลึกถึงการเมืองในระดับองค์กรปกครองท้องถิ่นจนถึงระดับชาติยากต่อการแก้ไข ถ้าผู้กุมอำนาจรัฐที่มาจากการรัฐประหารหรือเลือกตั้งขาดเจตนาดี ความซื่อสัตย์สุจริต
ถ้าเรามองไปบนเวทีซึ่งพรรคการเมืองนำเสนอตัวแทนแกนนำแล้วให้เลือกว่าใครคือบุคคลที่น่าไว้ใจในด้านความซื่อสัตย์สุจริตมีคุณธรรม จริยธรรมเปี่ยมพร้อมในการนำพาประเทศ ต้องยอมรับว่าหายากจนถึงขั้นไม่มี แม้จะรวมถึงกลุ่มก๊วนที่กุมอำนาจรัฐปัจจุบันนี้ก็ตาม ที่ผ่านมา ไม่ได้รับการชื่นชมด้านการซื่อสัตย์สุจริต
“รัฐประหารแล้วรวย” จึงไม่ใช่คำพูดที่เกินเลยไป เสียงร่ำลือเรื่องก๊วนนักรัฐประหารมุ่งแสวงหาผลประโยชน์สารพัด หอบเงินไปฝากไว้ในอังกฤษและสิงคโปร์ จึงมีมาโดยตลอด เรื่องพรรค์นี้จะไปเอาหลักฐานย่อมไม่มีทางเป็นไปได้
อังกฤษและสิงคโปร์เป็นแหล่งเงินฝากแบบร้อนๆ มาจากการทุจริต คอร์รัปชัน พฤติกรรมผิดกฎหมาย อังกฤษนั้นมีเกาะแหล่งหนีภาษีและฟอกเงินอยู่ในย่านแคริบเบียน เป็นที่ชื่นชอบของนักคอร์รัปชันและอาชญากรเสื้อนอก นักการเมือง
ในบรรดาพรรคที่หาจุดขายเพื่อให้ได้ใจประชาชน พรรคเก่าแก่อย่างพรรคประชาธิปัตย์กลับเผชิญวิกฤตรุนแรง มีกรรมการบริหารพรรค รองหัวหน้าพรรคลาออก ไปแสวงหาที่อยู่ใหม่ นั่นเป็นเพราะวิกฤตด้านจริยธรรมของแกนนำพรรค
เมื่อขาดจริยธรรมและความรับผิดชอบระดับแกนนำพรรคให้อยู่ในสภาพที่สังคมยอมรับได้ คนที่พอจะเคารพตัวเองหรือทนเห็นสภาพความตกต่ำของพรรคไม่ได้ ไม่เห็นอนาคต ย่อมต้องไปหาทาเลือกใหม่ เพราะถือว่าระบบการบริหารล้มเหลวแล้ว
เดิมพันในการสู้ศึกเลือกตั้งรอบใหม่จึงมีเดิมพันสูง น่าลุ้นเพราะตัวผู้นำห้าวเป้งยังเผชิญปัญหาของตัวเอง และยังไม่มีความแน่นอนว่าด้วยผลงานที่ไม่เข้าตาชาวบ้าน ยังจะมีพรรคใดส่งชื่อเข้าประกวด หลังอยู่ในอำนาจมาแล้ว 8 ปี บ้านเมืองไม่ดีขึ้น
ที่น่าสนใจ “มะม่วงจำบ่มแก๊ส” ของพรรคเพื่อไทยจะมีโอกาสได้ลุ้นแทนหรือไม่