ก็แค่ฮีโร่ที่พาคนไปตาย

แม้ขณะนี้จะมีสัญญาณออกมาจากปธน.เซเลนสกีแห่งยูเครน ท่าทางหมดหวังที่จะได้เข้าเป็นสมาชิกองค์กรความมั่นคงทางทหาร (นาโต) อย่างที่ตนได้สร้างกระแสช่วงหาเสียงเลือกตั้งปธน. (เพื่อเอาใจคนยูเครนครึ่งประเทศที่ใฝ่ฝันอยากเข้าเป็นสมาชิกของอียู และจะได้เข้าเป็นสมาชิกนาโตเพื่อได้รับความคุ้มครองทางทหารจากนาโต และเอาใจออกห่างจากรัสเซีย...หรืออีกนัยหนึ่งตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับรัสเซีย)

โดยเซเลนสกีได้พูดตัดพ้อว่า เขาจะไม่คุกเข่าเพื่อขอเข้านาโต (เพราะท่าทีของนาโตออกมาชัดมากว่าไม่มีเสียงสนับสนุนพอที่จะรับยูเครนเข้านาโต ทั้งๆ ที่ได้เริ่มสมัครเข้าไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว หลังไครเมียผนวกเข้ารวมกับรัสเซีย) และเซเลนสกีก็ผิดหวังยิ่งที่นาโตแค่ส่งอาวุธมาให้สู้กับรัสเซีย หรืออย่างมากก็ส่งความช่วยเหลือเป็นเงินและข้าวของเครื่องใช้ด้านมนุษยธรรมเท่านั้น

แม้การปรากฏตัวของ 3 ผู้นำสมาชิกนาโตจากโปแลนด์, สาธารณรัฐเช็ก และสโลวีเนียก็เป็นแค่ moral support...แค่นั้นจริงๆ เพราะแต่ละคนก็กลัวจะตกเป็น “คู่สงคราม” กับรัสเซีย...เช่น โปแลนด์บอกว่า เรือบิน mic 29 ของโปแลนด์ที่จะส่งให้ยูเครน (ไปสู้กับรัสเซีย) นั้น ขอส่งผ่านฐานทัพอเมริกันที่เบอร์ลินได้มั้ย...ไม่กล้าให้บินตรงจากโปแลนด์ไปช่วยเซเลนสกี!!

หรือสหรัฐฯ ก็ได้ระงับการซ้อมยิงขีปนาวุธ ICBM ไปก่อน; เมื่อในยามหน้าสิ่วหน้าขวานมาซ้อมรบตอนนี้ ก็เท่ากับอวดบารมีอาวุธของตนเป็นการยั่วยุรัสเซียที่จะเหมาให้สหรัฐฯ เป็นคู่สงครามกับรัสเซียก็เป็นได้; รวมทั้งปฏิเสธสิ้นเชิงจะไม่ส่งทหารอเมริกันเข้ายูเครนเด็ดขาดเพื่อไปช่วยเซเลนสกีรบ (แต่ถ้าเป็นทหารรับจ้างนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง...เห็นได้จากทหารรับจ้างมารบให้ยูเครนจำนวนมากสุดมาจากสหรัฐฯ... เพราะผู้นำสหรัฐฯ ตระหนักดีเสมอมาว่า ถ้าเป็นทหารรับจ้าง ก็จะไม่ถูกกดดันทางการเมืองภายในสหรัฐฯ เองว่า “พาคนไปตาย” คือ ทำให้ลูกชายหญิงอเมริกันไปตายด้วยนโยบายสงครามของสหรัฐฯ!!)

รวมทั้งสหรัฐฯ ไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องของอดีตดาวตลกเซเลนสกี ที่ให้ใช้เรือบินรบของสหรัฐฯ และชาติสมาชิกนาโตอื่นๆ ตั้งเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้ายูเครน เพื่อป้องกันพวกขีปนาวุธ โดรน และเครื่องบินรบรัสเซียที่ส่งมาทำลายเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของยูเครน...เพราะสหรัฐฯ เกรงจะทำให้รัสเซียประกาศสหรัฐฯ และนาโตเป็นคู่สงคราม ซึ่งจะขยายขอบเขตสงครามไปทั่วยุโรป (และทั่วโลก...เพราะสหรัฐฯ มีกองทัพอยู่ในทุกมหาสมุทร!!)

เรื่องการขอเข้าเป็นสมาชิกอียูของเซเลนสกี ที่ขอให้พิจารณาโดยเร่งด่วนนั้น ก็ดูจะเลือนรางด้วย เพราะสมาชิกของอียูหลายประเทศไม่สนับสนุน...ถ้าดูตัวอย่างตุรกีจะเห็นได้ชัดว่า รอจนเหงือกแห้งถึง 20 ปีก็ยังไม่ได้เข้าอียู แม้จะเป็นสมาชิกอย่างเต็มภาคภูมิของนาโตมานานนมแล้วก็ตาม และ Croatia ก็รอถึง 20 ปีกว่าจะแปลงโฉมที่จะเป็นประชาธิปไตยและโปร่งใส ถึงจะได้เข้าเป็นสมาชิกอียู

จริงๆ แล้ว ปัญญาชนเด่นๆ ของสหรัฐฯ ได้ออกมาส่งสัญญาณเตือนการขยายตัวของนาโตไปทางตะวันออก จนประชาชิดรัสเซียเป็นเรื่องอันตรายต่อความมั่นคงของยุโรป และต่อโลกด้วย... ซึ่งการเตือนนี้เกิดขึ้นทันทีหลังการล่มสลายของโซเวียต จากการเปิดทางหรือกวักมือเชื้อเชิญเหล่าอดีตประเทศบริวารของโซเวียต (สตาลิน) ให้เข้ามาเป็นสมาชิกของนาโตและอียู...ซึ่งหลายประเทศก็เคยถูกอดีตผู้นำโซเวียตทำการรุกรานและยึดเข้ามาเป็นประเทศของโซเวียต...และเมื่อโซเวียตล่มสลายพวกเขาก็พร้อมเข้าอยู่ในอ้อมอกระบบเสรีของอียูเช่น โปแลนด์, ยูโกสลาเวีย, 3 ประเทศในทะเลบอลติกคือ ลัตเวีย, ลิทัวเนีย, เอสโตเนีย เป็นต้น

แต่สำหรับจอร์เจียและโดยเฉพาะยูเครนนั้นอยู่ร่วมหัวจมท้ายกับรัสเซียมาเป็นเวลาร้อยๆ ปี สำหรับยูเครนนั้นแนบแน่นเหมือนลูกในไส้ของรัสเซียทีเดียว ซึ่งปูตินขีดเส้นตายว่า ถ้ายูเครนเอาใจไปอยู่กับนาโตก็จะยอมไม่ได้เด็ดขาด เพราะเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัสเซียทีเดียว

คำเตือนนี้มาจากอดีตรมต.กลาโหมสมัยคลินตันชื่อ William Perry (1994-1997) ที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบาย “ขยายสมาชิกนาโต” หรือ NATO Expansion เพื่อปิดล้อมรัสเซีย จนมีท่าทีจะขอลาออกเพราะเห็นต่างในนโยบาย

มีคำเตือนจากอดีตทูตสหรัฐฯ ประจำโซเวียต (1989-91) Jack Matlock ซึ่งได้เตือนช่วงสิ้นสงครามเย็น, จนมาถึงไครเมียผนวกเข้ากับโซเวียต (2014) และเพิ่งออกมาย้ำเร็วๆ นี้ว่า “ผมได้เตือนเอาไว้แล้ว” และชี้ว่าสมัยปธน.บุช (2000-2008) นั้น ได้รุกฆาตโดยเจาะจงเชื้อเชิญจอร์เจียและยูเครนให้สมัครเข้านาโต ทำเอารัสเซียไม่พอใจมาก

ยังมีอดีตที่ปรึกษาความมั่นคง และรมต.ต่างประเทศคนสำคัญของสหรัฐฯ (สมัยปธน.นิกสัน) ก็ได้กล่าวเตือนถึงภัยอันตรายต่อยุโรปและต่อโลก เมื่อรัสเซียตัดสินใจผนวกไครเมียหลังจากมีการรัฐประหารโค่นรัฐบาลปธน.ยานูโควิช ของยูเครน ที่ฝักใฝ่รัสเซีย...โดยคิสซิงเจอร์มองทะลุมากว่า รัสเซียจะรู้สึกไม่ปลอดภัยและถูกคุกคาม เมื่อมีการขยายนาโตเข้าประชิดรัสเซีย

ศ.John Mearsheimer ผู้โด่งดังด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของ U.of Chicago ได้ออกมาและมองขาดถึงการขยายนาโตประชิดรัสเซียจะเกิดปัญหาใหญ่ตามมา เขาเตือนหลายครั้งมาก แต่ผู้นำสหรัฐฯ ดูจะมองไม่เห็นหรือมองว่า รัสเซียเป็นอำนาจกระจอก (ปธน.โอบามาเคยพูดว่า รัสเซียเป็นแค่ Regional Power ไม่ใช่ Global Power คือ เป็นแค่อำนาจใหญ่ของภูมิภาค ไม่ใช่มหาอำนาจโลก...แต่จีนคือภัยคุกคามสหรัฐฯ มากกว่ารัสเซียต่อสหรัฐฯ!!)

และ 3 อาทิตย์ก่อนการบุกยูเครนเมื่อ 24 กุมภาพันธ์นี้ ศ.เจฟฟรีย์ แซคส์ นักเศรษฐศาสตร์คนดังแห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (ซึ่งมีผลงานมากมายด้านความเหลื่อมล้ำ, การเติบโตอย่างยั่งยืนของโลก ฯลฯ) ได้เขียนบทความเชิงวิจารณ์เมื่อ 8 กุมภาฯ เป็นการเตือนถึงภัยอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้นในยุโรป เมื่อรัฐบาลของเซเลนสกีพยายามผลักดันหนักที่อยากเข้านาโต จนทำให้รัสเซียระดมทหารถึง 2 แสนคนมาอยู่ที่ชายแดนระหว่างรัสเซียและยูเครน

ศ.เจฟฟรีย์ แซคส์ พยายามหว่านล้อมว่า ยูเครนน่าจะเป็นประเทศเป็นกลาง (Neutral) และเป็นสะพานเชื่อมระหว่างยุโรป (อียู) กับรัสเซีย มากกว่าเป็นศัตรูกับรัสเซีย... โดยยกตัวอย่างประเทศสมาชิกอียู 3 ประเทศที่ไม่เข้าเป็นสมาชิกนาโต ซึ่งจะไม่คุกคามรัสเซียได้แก่ ออสเตรีย, ฟินแลนด์ และสวีเดน รวมทั้งประเทศสวิสที่ไม่เป็นทั้งสมาชิกอียูและนาโต ซึ่ง 4 ประเทศนี้เป็นประเทศเอกราชที่มีระดับประชาธิปไตยที่ดี และเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีมากด้วย

แต่ปธน.เซเลนสกีหูบอด และต้องการเป็นฮีโร่ โดยเทียบตัวเอง (ตามลูกยุของตะวันตก) เป็น Sir Winston Churchill ที่สู้กับฮิตเลอร์ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (แต่ลอนดอนไม่เคยเป็นเนื้อเดียวกับเยอรมนีของฮิตเลอร์...ต่างกับยูเครนและรัสเซีย)

ฝ่ายสหรัฐฯ ก็ยุให้เซเลนสกีสู้กับรัสเซีย เพื่อสร้างความชอบธรรมที่สหรัฐฯ จะทำสงครามเศรษฐกิจกับรัสเซีย เพื่อกระทืบเศรษฐกิจรัสเซียให้พังทลายจะได้ไม่คุกคามสหรัฐฯ ได้ทางด้านการทหาร

ล่าสุด ศ.เจฟฟรีย์ แซคส์ ได้ให้สัมภาษณ์ทางบีบีซี และมองว่า บางคนอยากเป็นฮีโร่ แต่นำพาประชาชนของตนเองไปตาย พร้อมๆ กับบ้านเมืองพินาศ ซึ่งหมายถึงเซเลนสกีนั่นเอง