รัสเซียกับยูเครนประสบความล้มเหลวในการผ่าทางตันเมื่อวันพฤหัสบดี (10 มี.ค.) ณ การเจรจาระดับรัฐมนตรีต่างประเทศครั้งแรกของพวกเขา นับตั้งแต่ที่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ขณะที่โลกตะวันตกประณามรัสเซีย “ป่าเถื่อน” และเคียฟสำทับถึงขั้นว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ กรณีการโจมตีโรงพยาบาลเด็กในเมืองมาริอูโปล ที่ถูกปิดล้อม ซึ่งยูเครนบอกว่ามีผู้ถูกสังหารไป 3 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 1 คน
ภายหลังการเจรจากับรัฐมนตรีต่างประเทศ เซียร์เก ลาฟรอฟ ของรัสเซีย ที่ตุรกีในวันพฤหัสบดี รัฐมนตรีตางประเทศ ดมีโตร คูเลบา ของยูเครน แถลงว่า “ไม่มีความก้าวหน้าใดๆ” ถึงแม้มีการประกาศหยุดยิงกันเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ส่วนลาฟรอฟ บอกว่า มอสโกจะยังคงเจรจากับยูเครนต่อไป
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ในวันพฤหัสฯ ทีมงานของตนเนกองทหารรัสเซียเคลื่อนขบวนยานยนต์หุ้มเกราะของพวกเขาเข้ามาประชิดชายขอบด้านตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ เป็นการขยับขึ้นอีกขั้นในความพยายามของพวกเขาที่จะปิดล้อมเมืองหลวงของยูเครน
วิตาลี คลิตช์โก อดีตนักมวยแชมป์โลกรุ่นเฮฟวีเวต ซึ่งปัจจุบันเป็นนายกเทศมนตรีเคียฟ กล่าวว่า ประชากรราวครึ่งหนึ่งหลบหนีไปแล้ว พร้อมกับบอกว่า เวลานี้เคียฟแปรโฉมกลายเป็นป้อมปราการ ทุกๆ ถนน ทุกๆ อาคาร ทุกๆ จุดตรวจ ต่างถูกทำให้เป็นป้อมปราการ
ด้านสหประชาชาติประมาณการว่า มีผู้ลี้ภัยมากกว่า 2.3 ล้านคนแล้วที่หลบหนีออกจากยูเครนตั้งแต่ที่รัสเซียบุกในวันที่ 24 กุมภาพันธ์
ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน บอกว่า มีพลเรือนอย่างน้อย 35,000 คนอพยพออกจากเมืองซูมี และเมืองอีเนอร์โฮดาร์ ตลอดจนพื้นที่รอบๆ กรุงเคียฟในวันพุธ (9) โดยที่มีการเปิดเส้นทางให้พลเรือนอพยพออกไปเพิ่มเติมขึ้นอีก 3 เส้นในวันพฤหัสฯ รวมถึงเส้นทางออกจากเมืองมาริอูโปล เมืองท่าสำคัญทางภาคใต้ของยูเครนด้วย
ทั้งนี้ โรงพยาบาลแม่และเด็กแห่งหนึ่งในมาริอูโปลถูกโจมตีเมื่อวันพุธ โดยที่เซเลนสกี ได้เผยแพร่คลิปการโจมตีของเครื่องบินรบรัสเซีย และบอกว่า นี่เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และเป็น “อาชญากรรมสงคราม” ของรัสเซีย ขณะที่พวกเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นแถลงในวันพฤหัสฯ ว่า มีผู้ถูกสังหารไปอย่างน้อย 3 คนจากการโจมตี ในจำนวนนี้คนหนึ่งเป็นเด็กหญิงอายุน้อย
ด้านทำเนียบขาวประณามรัสเซีย “ป่าเถื่อน” ขณะที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษวิจารณ์ว่า “ชั่วช้า”
ส่วนกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียไม่ได้ปฏิเสธเรื่องนี้ แต่กล่าวหากองกำลังชาตินิยมยูเครนได้อพยพเจ้าหน้าที่และผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลดังกล่าวไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้และใช้เป็นที่มั่นในการสู้รบ
รัฐมนตรีต่างประเทศลาฟรอฟ ได้ย้ำข้ออ้างนี้ในการแถลงข่าวภายหลังเจรจากับฝ่ายยูเครนที่ตุรกีเมื่อวันพฤหัสฯ โดยบอกว่า อาคารดังกล่าวถูกใช้เป็นฐานที่มั่นทางทหารสำหรับพวกสมาชิกของ “กองพันอาซอฟ” ซึ่งทางมอสโกพูดมานานแล้วว่า เป็นกองกำลังชาตินิยมนาซีใหม่
เมื่อถูกผู้สื่อข่าวตุรกีถามว่า รัสเซียวางแผนเข้าโจมตีประเทศอื่นๆ หรือไม่ ลาฟรอฟตอบว่า “เราไม่ได้มีแผนเข้าโจมตีประเทศอื่นๆ” พร้อมกับบอกด้วยว่า “เราไม่ได้โจมตียูเครน” ทั้งนี้ มอสโกเรียกการบุกยูเครนครั้งนี้ว่า เป็น “การปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร”
เขายืนยันด้วยว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เปิดการปฏิบัติการนี้ขึ้นมา เนื่องจากสถานการณ์ในยูเครนมีท่าทางเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อสหพันธรัฐรัสเซีย
นอกจากที่มาริอูโปล เจ้าหน้าที่ในเมืองซูมี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครนยังรายงานว่า ผู้หญิง 2 คน และเด็กชายวัย 13 ปีเสียชีวิตจากระเบิดในเขตเวไลกาไพซาริฟกา ขณะที่เสนาธิการทหารยูเครนเผยว่า กองทัพรัสเซียยังคงรุกปิดล้อมและกดดันเคียฟและเมืองอื่นๆ ทั่วประเทศ
สำหรับกระทรวงกลาโหมอังกฤษแถลงเมื่อวันพฤหัสฯ ว่า กำลังทหารของรัสเซียทางตะวันตกเฉียงเหนือของเคียฟมีความคืบหน้าน้อยมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อีกทั้งยังสูญเสียกำลังพล ซึ่งทำให้คาดว่า ปูตินจะส่งทหารชุดใหม่เข้าไปเสริมเร็วๆ นี้ ขณะที่ฝ่ายรัสเซียเองไม่มีการแถลงเรื่องแผนการปฏิบัติการทางทหารของตนในยูเครนแต่อย่างใด
ก่อนที่จะเจรจากับฝ่ายรัสเซียที่ตุรกี รัฐมนตรีต่างประเทสยูเครนบอกว่า คาดหวังต่อการเจรจานี้ “ต่ำ” ขณะที่ลีโอนิด สลัตสกี้ ผู้เจรจาของรัสเซีย ประกาศว่า จะไม่ยอมอ่อนข้อแม้แต่เรื่องเดียว
เคียฟนั้นต้องการข้อตกลงหยุดยิง การปลดปล่อยดินแดนของตน และแก้ปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนทั้งหมด ส่วนมอสโกเรียกร้องให้เคียฟหยุดยิง แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อแสดงความเป็นกลาง ยกเลิกแผนการเข้าเป็นสมาชิกนาโต้ ยอมรับอำนาจอธิปไตยของรัสเซียเหนือไครเมีย รวมทั้งยอมรับการประกาศเอกราชของสองรัฐที่แยกตัวมาจากยูเครนตะวันออก
ขณะเดียวกัน มาตรการแซงก์ชันที่นำโดยชาติตะวันตกเพื่อตัดเศรษฐกิจและรัฐบาลรัสเซียจากตลาดการเงินระหว่างประเทศเริ่มส่งผลชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยค่าเงินรูเบิลรูดต่อเนื่องและคนรัสเซียแห่ถอนเงินสด
เซเลนสกีย้ำข้อเรียกร้องให้ตะวันตกยกระดับมาตรการแซงก์ชันเพื่อบีบให้รัสเซียยอมเจรจาและยุติสงครามป่าเถื่อนนี้
วันพุธ ลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ เรียกร้องให้สมาชิกจี7 ทั้งหมดแบนการนำเข้าน้ำมันรัสเซียเพื่อลงโทษสำหรับการรุกรานยูเครน
อย่างไรก็ตาม บางประเทศยังกังวล โดยบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีเศรษฐกิจฝรั่งเศส เตือนว่า สถานการณ์ที่ราคาน้ำมันพุ่งกระฉูดในขณะนี้อาจส่งผลให้เกิดผลกระทบเทียบเท่าวิกฤตน้ำมันปี 2013 ที่ราคาพลังงานแพงขึ้นถึง 4 เท่า
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)