xs
xsm
sm
md
lg

รัสเซียปรามมะกันแบนนำเข้า เตือนราคาน้ำมันจ่อ $300 UN คาดผู้อพยพหนียูเครนแตะ 2 ล้านคนใน 2 วัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเข็นรถเข็นให้หญิงชราผู้หนึ่ง ระหว่างการอพยพพลเรือนออกจากเมืองเออร์ปิน ที่อยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน เมื่อวันอังคาร (8 มี.ค.)  ทั้งนี้สหประชาชาติคาดการณ์ว่า จำนวนผู้ลี้ภัยจากยูเครนจะพุ่งเกิน 2 ล้านคนในวันสองวันนี้
อเมริกาลั่นพร้อมลุยเดี่ยวแบนนำเข้าน้ำมันรัสเซียถ้ายุโรปไม่เล่นด้วย ด้านมอสโกเตือนการตัดสินใจดังกล่าวอาจผลักดันให้ราคาน้ำมันพุ่งพรวดแตะ 300 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สถานการณ์ในยูเครนนั้น เคียฟบรรลุข้อตกลงเส้นทางอพยพกับมอสโก โดยประชาชนกลุ่มแรกเริ่มเดินทางออกจากเมืองซูมีเมื่อวันอังคาร (8 มี.ค.) ด้านยูเอ็นคาดจำนวนผู้อพยพหนีสงครามจะแตะ 2 ล้านคนในวันสองวันนี้

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประชุมทางไกลกับผู้นำฝรั่งเศส เยอรมนี และอังกฤษเมื่อวันจันทร์ (7) เพื่อผลักดันแผนการห้ามนำเข้าน้ำมันรัสเซีย โดยแหล่งข่าววงในเผยว่า อเมริกาพร้อมเดินหน้าแผนการนี้ตามลำพัง หากพันธมิตรไม่พร้อม ทั้งนี้ หลายประเทศในยุโรปพึ่งพิงพลังงานจากรัสเซียอย่างมาก

วันเดียวกันนั้น รองนายกรัฐมนตรีอเล็กซานเดอร์ โนวัค ของรัสเซีย เตือนว่า ราคาน้ำมันอาจพุ่งกว่า 2 เท่าตัวเป็น 300 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หากวอชิงตันและพันธมิตรแบนการนำเข้าน้ำมันรัสเซีย ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของแดนหมีขาวที่ถูกตัดขาดจากตลาดการเงินตะวันตกเพื่อลงโทษสำหรับการบุกยูเครน

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ของแบงก์ ออฟ อเมริกา แย้งว่า ถ้าการส่งออกน้ำมันส่วนใหญ่ของรัสเซียถูกระงับ ตลาดอาจขาดแคลนน้ำมัน 5 ล้านบาร์เรลต่อวัน (บีพีดี) และส่งผลให้ราคาน้ำมันขึ้นไปแค่ 200 ดอลลาร์

ทางด้านราคาน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ในวันอังคารยังคงเคลื่อนไหวใกล้สถิติสูงสุดในรอบ 14 ปี โดยขยับขึ้น 1.06 ดอลลาร์ อยู่ที่ 124.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 2.23 น. ตามเวลามาตรฐานเมืองกรีนิช (9.23 น. ตามเวลาไทย)

รองนายกฯ โนวัคของรัสเซียยังสำทับว่า มอสโกมีสิทธิยุติการส่งก๊าซผ่านท่อส่งนอร์ดสตรีม 1 ไปให้เยอรมนีเพื่อตอบโต้ที่เบอร์ลินระงับการเปิดท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 2 เมื่อเดือนที่แล้ว ทั้งนี้ รัสเซียจัดส่งก๊าซให้ยุโรป 40% ของซัปพลายที่ต้องการ

สำหรับสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนล่าสุดนั้น มีรายงานว่า ชาวยูเครนในเมืองซูมี เมืองสำคัญทางด้านตะวันออก กลายเป็นผู้อพยพกลุ่มแรกที่เดินทางออกจากเมืองดังกล่าวที่ถูกปูพรมโจมตีหนักหน่วงมาหลายวัน หลังจากยูเครนบรรลุข้อตกลงเส้นทางอพยพกับรัสเซีย โดยผู้อพยพกลุ่มแรกเป็นผู้พิการ สตรีมีครรภ์ เด็กกำพร้า ที่เดินทางด้วยขบวนรถบัส และจะตามด้วยรถส่วนตัวของประชาชน

สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซียรายงานว่า มอสโกตกลงเปิดเส้นทางอพยพในวันอังคารเพื่อให้ชาวยูเครนเดินทางออกจาก 5 เมือง ได้แก่ เชอร์ฮินิฟ คาร์คิฟ มาริโพล ซูมี และเคียฟ ขณะที่ทางยูเครนยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่รัสเซียและยูเครนเคยตกลงกันเกี่ยวกับเส้นทางอพยพจากเมืองมาริอูโปล เมืองท่าสำคัญทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน ที่ถูกปิดล้อมเมื่อวันเสาร์และอาทิตย์ (5-6) แต่สุดท้ายล้มเหลวโดยที่ต่างฝ่ายต่างโทษกันว่า ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

สำหรับสถานการณ์การสู้รบนั้น กระทรวงกลาโหมยูเครนเผยว่า การบุกของรัสเซียชะลอลงในวันอังคาร และพลเอกวิตาลี เจอราซิมอฟ รองผู้บัญชาการอันดับ 1 ของกองทัพที่ 41 ของรัสเซีย ถูกสังหารเมื่อวันจันทร์ ซึ่งถือเป็นนายพลคนที่ 2 ของรัสเซียที่เสียชีวิตนับจากการบุก อย่างไรก็ตาม กองทัพรัสเซียยังไม่ได้ยืนยันหรือแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้

เวลาเดียวกัน สื่อตะวันตกยังคงระบุว่า แผนการสู้รบเริ่มแรกของรัสเซียด้วยการบุกโจมตีอย่างรวดเร็วเพื่อล้มรัฐบาลเคียฟล้มเหลวตั้งแต่ช่วงวันแรกๆ และมอสโกได้ปรับยุทธศาสตร์ป็นการปิดล้อมเมืองต่างๆ ระยะยาว

ขณะที่บางสื่อ เช่น เอเชียไทมส์ เสนอรายงานข่าวตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ โดยอ้างแหล่งข่าวทางทหารชาวยุโรปหลายราย รวมทั้งรายงานวิเคราะห์ข่าวกรองของเยอรมนีว่า ตั้งแต่ต้นรัสเซียไม่ได้วางแผนบุกตะลุยเข้ายูเครน แต่มุ่งผลักดันกองทัพยูเครนให้ต้องเข้าไปอยู่ในพื้นที่หลายๆ หย่อมซึ่งตนเองโอบล้อมเอาไว้ โดยพื้นที่สำคัญคือบริเวณเมืองท่าริมทะเลดำทางภาคใต้ และเขตดอนบาสส์ทางภาคตะวันออก (ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://mgronline.com/around/detail/9650000022053 หรือในต้นฉบับภาษาอังกฤษ https://asiatimes.com/2022/02/russias-strategy-to-destroy-ukraine-army-going-to-plan/)

ทั้งนี้เวลานี้ รัสเซียสามารถรุกคืบตามแนวชายฝั่งตะวันดำและทะเลอาซอฟ ส่วนเมืองหลวงเคียฟนั้น มีรายงานว่าขบวนยานยนต์หุ้มเกราะขนาดใหญ่ที่เรียงต่อกันเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร และถูกฝ่ายตะวันตกระบุว่าเป็นกองกำลังโจมตีหลักซึ่งมุ่งหน้าสู่เมืองหลวงของยูเครนนั้น ยังคงอยู่ตรงถนนทางด้านเหนือของเคียฟ

การบุกยูเครนของรัสเซียที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ถือเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นในยุโรปนับจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และตะวันตกตอบโต้ด้วยการบังคับใช้มาตรการแซงก์ชันครั้งใหญ่ที่สุดเพื่อตัดรัสเซียออกจากระบบการค้าและตลาดการเงินโลก

ทางด้าน ฟิลิปโป กรันดี ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) กล่าวเมื่อวันอังคารว่า จำนวนผู้อพยพหนีสงครามในยูเครนจะเพิ่มเป็น 2 ล้านคนในวันสองวันนี้ จากเมื่อวันจันทร์ที่ยูเอ็นเอชซีอาร์เพิ่งระบุตัวเลขไว้ที่ 1.7 ล้านคน และเทียบกับผู้ลี้ภัยในสงครามบอลข่านในบอสเนีย และโคโซโวที่ 2-3 ล้านคน แต่เกิดขึ้นภายในเวลา 8 ปี

(ที่มา : เอเอฟพี, เอพี, รอยเตอร์)
กำลังโหลดความคิดเห็น